Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 179
“โค้ชหลี่ รายชื่อกลุ่มของรายการวิ่ง100เมตรออกมาแล้วนะครับ”ดร.เหมาเดินมาอย่างรวดเร็วก่อนยื่นกระดาษให้แล้วพูด “การแข่งน่าจะตึงน่าดูเลย 2การแข่งตอนเช้า 2การแข่งตอนกลางวัน ทุกกิจกรรมของการวิ่ง100เมตรต้องจบภายในวันเดียวกัน
ลี่ไต้มองกระดาษแล้วพูด “มันมีความต่างอยู่มากเลยระหว่างผู้เข้าแข่งขันรอบนี้ นักกีฬาชั้นสูงนั้นจะมองว่าการแข่ง2รอบแรกจะเป็นแค่การวอร์มร่างกาย พวกเขาแค่ทำให้ถึงเวลาที่วางไว้ก็พอ ส่วนรอบเที่ยงอีก2รอบนั้น พวกเขาจะเอาจริง”
“การแข่งอื่นๆก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน ถ้ามันสามารถจบการแข่งในวันเดียวได้ พวกเขาก็ไม่มีทางยืดเยื้อไปวันอื่นๆแน่ๆ สปอนเซอร์เขาก็อยากเซฟเงินอะเนอะ” เหมาพูดตำหนิ “สปอนเซอร์อยากใช้เงินน้อยที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้แหล่ พวกเขาหวังว่าจะให้นักกีฬาออกไปทันทีหลังจากเกมจบแล้ว
ตามกฏแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เข้าแข่ง โค้ช หรือสตาฟธรรมดา ก็ต้องจ่ายเงิน90หยวนทุกวันเป็นค่าอาหารและค่าที่พัก ถ้าเกิดที่จ่ายไปมันไม่พอ เราก็จะไม่ได้นอนดีๆกัน แต่ในทางกลับกัน เงินจำนวนนั้นมันก็ไม่ได้รองรับสำหรับทุกอย่าง ที่เหลือสปอนเซอร์จะเป็นคนจ่ายให้เอง
การแข่งกีฬามหาลัยแห่งชาติที่จัดในเมืองหวางซูนั้น เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวสนใจเป็นอย่างมาก ระดับการอุปโภคบริโภคของที่นี้ก็สูงกว่าที่อื่นด้วย เพราะงั้นการที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี้จึงเป็นเรื่องที่ใช้เงินเยอะเอาเรื่อง
เงินแค่90หยวนมันเพียงพอสำหรับค่าอาหารการกิน1วันในเมืองเล็กๆได้สบายๆ แต่สำหรับเมืองหวางซูแล้ว 90หยวนมันแทบจะไม่พอมื้อนึงเลยด้วยซ้ำ สปอนเซอร์เลยต้องจ่ายส่วนเกินที่เหลือ และเพื่อที่จะประหยัดงบ พวกเขาเลยอยากให้การแข่งจบเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
หลี่ไต้ยิ้ม เขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เหมาบ่ กลับกัน เขาก้มหน้าแล้วดูรายชื่อกลุ่ม
รอบแรกนั้นหนิวกั๋วหงอยู่กลุ่มC หยางฉือจี๋อยู่กลุ่มF และ ฉินเฉี่ยวเทียนอยู่กลุ่มH ก็ไม่เลว ไม่มีใครอยู่กลุ่มแรกแล้วก็ไม่มีใครอยู่กลุ่มเดียวกัน พวกเขาสามารถชนะรอบแรกครบทุกคนได้นะฉันว่า
หลังจากเช็กลูกทีมตัวเองแล้ว หลี่ไต้ก็เหลือบไปมองกลุ่มอื่นๆ เขาหาคนของทีมเจียงตง เขาสงสัยว่าใครเป็นคนที่บอกว่าเก่งพอๆกับหนิวกั๋วหง
และแล้ว เขาก็เจอ ชื่อของคนๆนั้นอยู่กลุ่มK ฮาวหยูอี้จากทีมเจียงตง
อะไรนะ ฮาวหยูอี้หรอ? นี้ฉันอ่านผิดหรือว่ามันเป็นชื่อโหลเนี่ย? ต้องเป็นคนแปลกหน้าที่บังเอิญชื่อเหมือนกันแน่ๆ ฮาวหยูอี้มาอยู่ที่นี้ไม่ได้ซิ หลี่ไต้รู้สึกกังวลเมื่อตอนที่เขาเห็นชื่อ
หวังว่าจะไม่ใช่ฮาวหยูอี้ที่ฉันรู้จักนะ ไม่งั้น หนิวกั๋วหง คงชนะยากจริงๆนั้นละ! หลี่ไต้ภาวนา
…
หลังจากนั้นซักพัก การแข่งรอบแรกของรายการวิ่ง100เมตรก็ได้เริ่มขึ้น หนิวกั๋วหงที่อยู่ในกลุ่มCเป็นนักกีฬาของมหาลัยชิงฮั่วคนแรกที่จะได้วิ่ง
หนิวกั๋วหงก็ถือว่าดังอยู่ในระดับปริญญาตรี การที่เขาโดนเรียกตัวไปอยู่ทีมชาตินั้นจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้ว หลายๆคนเลยคิดว่าเขาน่าจะได้แชมป์ของการแข่งนี้ไปแน่ๆ
หนิวกั๋วหงก็ไม่ทำให้หลี่ไต้ผิดหวังจริงๆ เขาเก่งกว่าระดับมาตรฐานตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเริ่มฝึก หลังจากที่ได้การแนะนำจากหลี่ไต้แล้ว เขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก เขาสามารถชนะในรอบแรกได้อย่างง่ายดาย แถมยังเป็นนักกีฬาที่วิ่งได้เร็วที่สุดในกลุ่มC แบบไม่เสียแรงมากอีกด้วย
ส่วนหยางฉือจี๋ที่อยู่ในกลุ่มFนั้น เขาอายุแค่19ซึ่งถือว่าเด็กมาในกีฬามหาลัย เขาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไรแต่ทุกคนก็ยังรู้ว่าเด็กจากมหาลัยชิงฮั่วนั้นเก่งทุกคน เพราะอย่างงี้พวกเขาเลยบอกได้เลยว่าหยางฉือจี๋ต้องเก่งตามไปด้วย
หลังจากที่ได้ฝึกไปซักพัก หยางฉือจี๋ก็เก่งพอๆกับหนิวกั๋วหงแล้ว บางครับ หลี่ไต้ก็คิดว่าหยางฉิอจี๋เก่งกว่าหนิวกั๋วหงแล้วด้วยซ้ำ
แต่หยางฉือจี๋นั้นดูค่อนข้างกังวล เพราะว่าสำหรับเขา นี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาแข่งในรายการใหญ่ๆ เขาทำไมได้ดีที่สุดในรอบแรก แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าคนอื่นๆในกลุ่มอยู่ดี เขาผ่านเข้ารอบสองไปอย่างง่ายดาย และชัยชนะนั้นก็ช่วยให้เขาผ่อนคลายขึ้น
ส่วนฉินเฉียวเทียนนั้นอยู่ในกลุ่มH เขาไม่ได้เก่งเท่าหัวหน้าทีมอย่างหนิวกั๋วหงก็จริง แต่เขาก็ถือว่าเป็น1ในตัวท๊อปของนักกีฬาในการแข่งนี้ ตอนนี้เขาน่าจะเก่งพอที่จะได้เข้าทีมชาติแล้วด้วยจากการช่วยเลหือของหลี่ไต้ ดังนั้น การแข่งนี้มันเลยเป็นเรื่องหมูตู้สำหรับเขา เขาเข้ารอบ2ได้โดยเข้าเส้นชัยเป็นที่1ตามคาด
หลี่ไต้ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเกี่ยวกับชัยชนะของนักกีฬาของเขาเท่าไร เพราะว่ามันเป็นเรื่องปรกติที่จะผ่านเข้ารอบสอง พวกเขาเก่งพอที่จะผ่านรอบแรกอยู่แล้ว ไม่แปลกเลยจริงๆ
เพราะว่าในการแข่งนี้หลี่ไต้ได้วางเป้าไว้ที่เข้ารอบสุดท้ายแล้วชิงเหรียญทองมาให้ได้ การผ่านรอบแรกนั้นเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น
กีฬานั้นจะวัดความสามารถที่แท้จริงออกมา และจะเห็นได้ชัดเลยในกีฬากรีฑา ไม่มีคำว่าชนะเพราะโชคช่วย กีฬาอย่างบาสเก็ตบอลหรือฟุตบอลนั้นบางทีมันก็จะมีจังหว่ะลูกฟลุคแบบเตะเข้าประตูไปเฉยๆในวินาทีสุดท้ายแล้วชนะไปแบบนั้น แต่กีฬากรีฑานั้นมันไม่ใช่แบบนั้นเลยซักนิด
หลี่ไต้จดจ่องไปที่สนามแข่ง เขารอกลุ่มKอยู่ เขาอยากจะเห็นว่าฮาวหยูอี้นั้นเป็นคนเดียวกันกับที่เขาคิดรึไม่
…
ผู้เข้าแข่งขันในกลุ่มJนั้นเข้าสู่ลู่วิ่งแล้วเตรียมตัวแล้ว สมาชิกกลุ่มLก็เริ่มออกมาที่รอวิ่งแล้วเริ่มวอร์มอัพกันแล้ว
หลี่ไต้มองไปที่ตรงนั้นแล้วดูผู้เข้าแข่งแต่ละคน สุดท้ายเขาก็เห็นฮาวหยูอี้
นั้นฮาวหยูอี้จริงๆด้วย! นั้นฮาวหยูอี้ตัวจริง! ทำไมเขามาอยู่ในการแข่งมหาวิทยาลัยได้เนี่ย เขาไม่น่าจะผ่านเกณฑ์การรับสมัครนี้
หลี่ไต้หน้าตึงขึ้นมา เขาเห็นนักกีฬาคนนี้ตอนที่เขาอยู่ในศูนย์ฝึกเป๋ยโข่ว ตอนนั้นเขาช่วยหลินเฟ่ยเหลียงฟื้นตัวอยู่ ฮาวหยูอี้เป็นนักวิ่งสังกัด100เมตรชายที่เก่ง
ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ไปฝึกในศูนย์ฝึกเป๋ยโข่วต้องเก่งกันทั้งนั้น เพราะอย่างนี้ ฮาวซูอี้ถึงเป็น1ในคนพวกนั้น เขาเก่งจนเข้าทีมชาติแล้วก็คงมีโอกาสในการแข่งระดับชาติอื่นๆอีกเยอะ
ตามกฎของการแข่งนี้ นักกีที่เคยแข่งในการแข่งระดับชาติอื่นๆจะไม่สามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งได้ ดังนั้น หลี่ไต้เลยคิดว่าหมอนั้นคงไม่มาที่นี้หรอกมั้ง
ทำไมเขามาอยู่นี้ได้วะ? เขาห้ามไม่ให้มาการแข่งนี้ไม่ใช่เหรอ นี้มันโกงกันรึเปล่าเนี่ย
แต่ ในวินาทีต่อมา หลี่ไต้ก็คิดได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฮาวหยูอี้จะโกง เขาเป็นคนที่ดังและเป็นที่รู้จักกันในหลายๆคนนี้ ถ้าเขาโกงจริง เขาต้องโดนจับได้ไปนานแล้ว ฉันรู้จักเขา แล้วฉันก็รู้ว่าเขาอยู่ทีมชาติ ทำไมคนอื่นจะไม่รู้
เขามาอยู่ที่นี้อย่างถูกต้องแน่ๆ ไม่งั้นก็คงมีคนฟ้องเรื่องนี้แล้ว หลี่ไต้ขมวดคิ้วตึง เขาต้องหาความจริงเรื่องนี้ให้ได้
พอคิดแบบนั้นแล้วหลี่ไต้ก็เดินตรงไปที่กรรมการ เขาอยากที่จะรู้ให้ได้ว่าทำไมฮาวซูอี้ถึงได้รับการอนุญาตให้มาแข่งรายการนี้