Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 189
หลี่ไต้ได้คาดการว่าฮาวหยูอี้นั้นถนัดการวิ่งในระยะ200เมตรมากกว่า เเล้วหลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น ซูหลี่ก็ตกอยู่ในความเงียบ หลี่ไต้รู้ดีว่าซูหลี่กำลังเก็บเอาเรื่องนี้ไปคิดจริงจัง
นักวิ่งที่ถนัดการวิ่ง200เมตรนั้นหายาก ทั้งในเเละต่างประเทศ ส่วนมากพวกเขาจะถรัดการวิ่ง100เมตร เเล้วมองว่าการวิ่ง200เมตรให้ไวนั้นเป็นเรื่องยาก
เเน่นอนว่าถึงเเม้การวิ่ง200เมตรมันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนการวิ่ง100เมตร นักวิ่งเร็ว100เมตรที่เป็นคนครองสถิติโลกนั้นจะถูกมองว่าเป็น “คนที่เร็วที่สุดในโลก” เเต่คำเรียกหรือตำเเหน่งพวกนั้นมันไม่ได้มีในเเชมป์การวิ่ง200เมตร การวิ่ง200เมตรนั้นจะจัดถี่น้อยกว่าเยอะในช่วงการเเข่งกรังปรีย์ ซุปเปอร์กรังปรีย์ ไดม่อนลีคของIAAFถ้านับตามกฏของIAAFเเล้ว การเเข่งที่เหมือนๆกันจะมีเเค่การเเข่งเดียวเท่านั้นที่ได้จัด
ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างการกระโดดไกล วิ่งเขย่งกระโดด กระโดดสูง กระโดดค้ำถ่อ วิ่ง800เมตร วิง1500เมตร วิ่ง10000เมตร ทั้งหมดนี้มีกีฬาอยู่2ประเภท จะมีเเค่1ในเเต่ละประเภทเท่านั้นที่จะได้จัดเเข่งในรายการIAAFกรังปรีย์
ระหว่างการวิ่ง100เมตรกับการวิ่ง200เมตร คนส่วนมากหรือนักกีฬาเก่าก็ต้องเลือก100เมตรอยู่เเล้ว เพราะว่าอย่างนี้การเเข่งวิ่ง200เมตรจึงไม่ค่อยมีการจัดเเข่งเท่าไร ส่วนมากจะจัดเเบบรายการเเข่งใหญ่ๆเลยทีเดียวอย่างการเเข่งกรีฑาชิงเเชมป์โลก หรือโอลิมปิค
ด้วยความที่การเเข่งการวิ่ง200เมตรจัดน้อยขนาดนี้ทำให้โอกาสที่นักวิ่งระดับโลกเก่งในด้านนี้มีน้อยมาก เพราะว่ามันมีโอกาสมากกว่าเยอะเลยที่จะจัดเเข่งการวิ่ง100เมตรซะทากกว่า นักกีฒาสามารถเข้าเเข่งวิ่ง100เมตรได้มากกว่าถ้าพวกเขาถนัดการวิ่ง100เมตร เเล้วถึงเเม้ว้านักวิ่งมีพรสวรรค์ในด้านการวิ่ง200เมตรจริงๆ พวกเขาก็น่าจะทุ่มทั้งเวลาเเละพลังงานส่วนมากไปกับการวิ่ง100เมตรมากกว่า
หลายๆคนคิดว่าการวิ่ง100เเละ200เมตรนั้นเหมือนกัน หลายๆคนยังคิดว่านักวิ่งที่เก่งในการวิ่ง100เมตรก็ต้องเก่งในระยะ200เมตรเหมือนกัน เเละในทางกลับกัน ในความเป็นจริงเเล้ว ความคิดนั้นถูกเเค่ครึ่งเดียวเท่านั้น นักกีฬาที่เก่งในการวิ่ง200เมตรสามารถมีพรสวรรค์ในรุ่น100เมตรได้ เเต่นักวิ่งที่เก่งในรุ่น100เมตร อาจจะไม่ได้มีความสามารถในการเเข่ง200เมตรได้
ถ้าเทียบกับการวิ่งเร็ว100เมตรเเล้ว การวิ่งในระยะ200เมตรนั้นมันไกลกว่าเท่าตัวนึงเห็นๆเเต่ไอ้100เมตรที่เพิ่มเข้ามานั้น มันเป็นส่วนโค้งของสนามเเข่ง ซึ่งเป็นจุดที่ยากที่สุดของการเเข่ง200เมตร เพราะว่าการเลี้ยวโค้งนี้นักกีฬาเลยจำเป็นที่จะต้องฝึกอีก3อย่างเพิ่ม คือเทคนิคการเข้าโค้ง การวิ่งในทางโค้งเเละการเปลี่ยนท่าทางตรงกับทางโค้ง การเริ่มเข้าหัวโค้ชนั้นมันเเตกต่างจากการเริ่มในทางตรงที่นักกีฬาสามารถพุ่งตัวไปข้างหน้าในทางตรงได้อย่างรวดเร็ว เเต่กลับกันนักวิ่งต้องควบคุมการหมุนทิศทางการโค้ง อีกทั้งนักวิ่งยังต้องประคองตัวเองให้อยู่ในความเร็วที่สูงตลอดในณะที่ประคองมุมของร่างกาย หลังจากที่ผ่านช่วงเข้าโค้งไปเเล้วการสลับผสานทั้งทางตรงเเละทางโค้งนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนที่ยากจะสำเร็จวิชาได้
ความกว้างของเลนลู่วิ่งอยู่ที่1.22-1.25เมตร ถ้านักกีฬาควบคุมร่างกายตัวเองไว้ไม่ได้ เเรงระเบิดพลังของพวกเขาจะส่งให้พวกเขาไปอยู่เลนข้างๆได้อย่างง่ายดาย เเต่ถึงอย่างนั้นถ้านักกีฬาวิ่งช้าลงเพื่อรักษาสมดุล เขาก็จะโดนทิ้งไว้รั้งท้ายวิ่งตามใครไม่ทันทันทีที่เข้าโค้ง
การวิ่งนั้นเป็นกีฬาที่สามารถตัดสินเเพ้ชนะกันได้เพียงเสี้ยววินาที ถ้านักกีฬาวิ่งช้ากว่าคนอื่นเพียงเเค่เสี้ยววิเมื่อเข้าหัวโค้ง พวกเขาอาจจะเเพ้การเเข่งได้เลย
การเข้าโค้งที่ดีนั้นต้องผสมทั้งความเร็วที่ดีตั้งเเต่เเรก มุมร่างกายที่ดี การควบคุมที่ดี เเม้เเต่นักวิ่งยังต้องใช้อย่างน้อยหลายปีถึงจะฝึกวิ่งเข้าโค้งจนชำนาญได้ การวิ่งในโค้งนั้นก็ยังถือเป็นเทคนิคที่ยุ่งยาก ปัญหาจริงๆคือการเลี้ยวด้วยความเร็วสูงเเล้วก็ต้องสู้กับเเรงเหวี่ยง ดังนั้น การวิ่งในทางโค้งนั้นเลยต้องใช้การควบคุมร่างกายไปสู้กับเเรงเหวี่ยงที่เดือดดาล
นอกจากนี้นักกีฬายังต้องชำนาญในการฝึกฝนเทคนิคในการวิ่งให้อยู่วงในของทางโค้งให้มากที่สุด
ทางโค้งมีระยะ100เมตร ซึ่งทำให้ให้ระยะวิ่งของวงด้านในนั้นสั้นกว่าระยะวิ่งของวงส่วนนอกอยู่3.7เมตร ถ้านักกีฬาวิ่ง200เมตรจบในเวลาต่ำกว่า20วินาที 3.7เมตรก็หมายถึง0.037วินาทีที่เพิ่มเข้ามาเพราะเเบบนั้น เราเลยมักจะเห็นนักกีฬาวิ่งชิดเลนซ้ายตลอดทางโค้ง เพราะว่ามันทำให้ประหยัดเวลาไปได้มากถึง0.03วินาที หรือลดลงไปได้มากกว่านี้
ถ้าตามกฏสากลของการวิ่งเเล้ว การวิ่งเหยียบเส้นนั้นถือเป็นการฟาวน์ เเล้วนักกีฬาจะถูกตัดสิทธิ์จากการเเข่งทันที นักกีฬาจะไปวิ่งมองเส้นตลอดเวลาระหว่างการวิ่งเเข่งด้วยความเร็วสูงก็คงไม่ได้ นักกีฬาเลยต้องฝึกพิเศษเพื่อให้สามารถวิ่งซ้ำเเล้วซ้ำเล่าให้อยู่ในเส้นที่กำหนดได้ในขณะที่รักษาระยะก้าวกับความเร็วได้อย่างคงที่ ปรกติเเล้วนักกีฬาต้องใช้เวลามากกว่า6เดือนถึงจะชำนาญเเบบนั้นได้
นอกจากนั้น การเปลี่ยนผ่านระหว่างทางโค้งกับทางตรงนั้นก็เป็นอีกจุดนึงที่ยากในการวิ่ง200เมตร หลังจากผ่านการวิ่ง100เมตรเเรกไปเเล้วเริ่มเข้าโค้ง ร่างกายของนักกีฬาจะมีเส้นทางการเคลื่อนที่ที่เปลี่ยนไป อย่างเเรกที่พวกเขาต้องทำคือเปลี่ยนถ่ายเเรงส่งไปข้างหน้าเพื่อให้วิ่งตรงได้ ในขณะเดียวกัน นักกีฬาก็ห้ามเสียความเร็วไปโดยเด็ดขาดระหว่างการเปลี่ยนถ่ายนี้เช่นกัน นักกีฬาที่ยอดเยี่ยมบางคนก็ถึงขั้นสามารถเร่งความเร็วในช่วงนี้ได้ด้วย
การเปลี่ยนถ่านระหว่างทางโค้งกับทางตรงนั้น สามารถสร้างความห่าง0.1วินาทีขึ้นมา เพราะแบบนี้ นักกีฬาหลายๆคนเลยใช้เวลาหลายเดือนในการฝึกเทคนิคนั้น
และเพราะปัจจัยทั้งหลายอย่าง การวิ่ง200เมตรไม่ค่อยมีการแข่ง ใช้เทคนิคเยอะ แล้วก็ใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่าและอัตราเงินรางวีลสำหรับการวิ่ง200เมตรนั้นมันน้อยเกินไปสำหรับนักกีฬา
แต่ถึงอย่างนั้นหลี่ไต้ก็ยังคงคิดว่าฮาวหยูอี้เหมาะกับกีฬาวิ่ง200เมตรมากกว่าอยู่ดีในสภาพตอนนี้ ตอนที่ฮาวหยูอี้อยู่ทีมชาติ เขาก็สังกัดหลักอยู่ทีมวิ่งเร็ว100เมตรแล้วก็เอาวิ่งเร็ว200เมตรไปเป็นทีมสังกัดรอง เขาเลยพอจะมีเทคนิคจากการวิ่งระยะ200เมตรมาบ้าง แล้วก็ไม่ต้องใช้เวลานานในการฝึกเทคนิคเข้าโค้งมาก
ถ้าอายุขนาดฮาวหยูอี้ยังฝึกวิ่งเร็ว100เมตรอย่างนี้ต่อไปเลยๆ เขาก็คงไม่มีโอกาสที่จะเก่งขึ้นแน่ๆ มันมีคนเก่งคนมีพรสวรรค์ระดับเดียวกับหยางฉือจี๋อีกมากมาย ฮาวหยูอี้ไม่มีโอกาสได้แข่งด้วยซ้ำ
แต่ในรายการ200เมตรนั้นต่างไปอย่างสิ้นเชิง นักกีฬาหนุ่มๆนั้นต้องใช้เวลาฝึกเพิ่มอีก2-3ปีในการที่จะทำให้เชี่ยวชาญการตีโค้ง สำหรับนักกีฬาที่อายุเยอะนั้น ฮาวหยูอี้มีเทคนิคเตรียมไว้เป็นคลังแสงแล้ว เขาแค่ต้องการการปัดฝุ่นซะหน่อย แล้วเขาก็พร้อมแข่งแล้ว
ที่สำคัญกว่านั้นหลี่ไต้ยังพบอีกว่า พรสวรรค์ในด้านการวิ่ง200เมตรนั้นดีกว่าในด้านการวิ่ง100เมตรซะอีกจากการตรวจสอบของเครื่อง พรสวรรค์ของฮาวหยูอี้ในการวิ่ง100เมตรมันเป็นแค่B แต่ถ้าเป็นการวิ่ง200เมตรมันเป็นB+หมายความว่าฮาวหยูอี้ควบคุมร่างกายได้ดีกว่าแล้วนั้นหมายความว่าเขาควรจะไปวิ่งตีโค้งด้วย หลี่ไต้ยังไม่เคยเห็นนักกีฬาคนไหนในทีมชาติที่มีพรสวรรค์ในการวิ่ง200เมตรระดับB+มาก่อน
เพราะว่าแบบนั้น หลี่ไต้จึงแนะนำให้ซูหลี่พาฮาวหยูอี้ไปฝึกการวิ่ง200เมตร หลี่ไต้เชื่อว่าถ้าโอกาสนั้นมาอีกครั้ง เขาต้องคว้ามันแล้วกลับเข้าทีมชาติแน่ๆ
แต่ซูหลี่ไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้น ฮาวหยูอี้อายุ26ปีแล้วทำให้ซูหลี่ไม่เชื่อในฮาวหยูอี้
หลังจากคิดหลายนาที ซูหลี่ก็พูด “ใน2เดือนจะมีแคมป์ฝึกสำหรับกีฬาเอเชี่ยนเกมที่จะจัดขึ้น นักกีฬาหลายๆคนจะโดนเกณฑ์ไปเข้าร่วมการฝึกนี้ แล้วก็จะมีนักกีฬาเพียง5-6คนเท่านั้นที่จะเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งในตอนท้าย ถ้าฮาวหยูอี้รับโอกาสนี้ไปได้ ฉันก็จะลองให้โอกาสดูอีกซักครั้ง”
หลี่ไต้ถอนใจด้วยความโล่ง เขาดีใจมากๆที่ได้ช่วยฮาวหยูอี้กลับมามีโอกาสที่จะเข้าทีมชาติ
ซูหลี่พูดต่อ “ระหว่างค่ายฝึกของเอเชี่ยนเกมนี้ ไม่ใช่นักกีฬาที่เข้าสมัครได้อย่างเดียว โค้ชก็สมัครได้เหมือนกันนะ นายก็ไปลองดูซิ นายไม่ได้กลับบ้านนานแล้วนี้ใช่ไหม อีกไม่กี่วันฉันจะให้นายได้พัก นายจะได้กลับบ้านบ้าง แล้วพอนายกลับมา นายต้องช่วยฉันเตรียมงานเอเชี่ยนเกม เราเป็นเจ้าภาพในปีนี้ด้วย เพราะงั้น เราต้องได้อย่างน้อย1เหรียญกลับมาในกีฬาวิ่งเร็วให้ได้”