Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 223
ตอนที่223 คู่แข่ง
“สวัสดีครับคุณหวาง!”
“สวัสดีครับคุณหวาง!”
ชายในชุดสูทอายุ50กว่าๆเข้ามาในพื้นที่ออฟฟิศสาธารณะ ทุกคนก็เข้ามาห้อมร้อมทักทายเขาทันที
คนๆนี้คือ หวางฉิงเหอ สมาชิกบอร์ดบริหารของติ้งเทียน และยังเป็นผู้จัดการฝ่ายทั่วไปของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉียดฟ้าอีกด้วย เขาได้รับความไว้วางใจจากประธานผู้บริหารในติ้งเทียน เพราะว่าเขาติดตามท่านประธานมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท
“คุณหวางไปหาผู้จัดการเฉียวที่ออฟฟิศอีกแล้ว คุณหวางเป็นหัวหน้าใหญ่ของที่นี้ ถ้าเขาอยากได้อะไรหรืออยากให้ใครมาพบก็เรียกได้นี้ ทําไมต้องไปหาเธอด้วยตัวเองด้วย หรือว่าผจก.เฉียวจะเป็นคนโปรดของคุณหวาง”
“ก็นะ ฉันเองก็คิดว่าคุณหวางอาจจะคิดกับผจก.เฉียวแบบนั้นเหมือนกัน คุณเฉียวเองก็ เป็นคนสวยที่ชายทุกคนต้องหลง คุณหวางเองก็คงอยากกินหญ้าอ่อนบ้างละนะ”
“เป็นไปได้! เฉียวหยูหนานเองก็อายุแค่24-25เองแต่เธอกลับได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการของแผนกวางแผนงาน เธอต้องมีเส้นสายบ้างหล่ะ หรือไม่ก็อาจจะมีสัมติงกับคุณหวางก็ได้นะ…”
“เห้ยหุบปากได้แล้ว!”ใกล้ๆกันนั้น มีคนเข้ามาขัดจังหวะบทสนทนานี้ “พวกนายไม่ควรจะพูดอะไรแบบนั้นออกมานะ นายไม่รู้เหรอว่านินทาชาวบ้านที่อยู่สูงกว่ามันจะโดนยังไง?”
“รู้แล้วหน่า ใครจะไปกล้านินทาคุณหวางละ เราไม่พูดแล้ว พี่ฮูก็ อย่าเครียดไปเลย เราไม่ทําให้พี่เดือดร้อนหรอก”
“พวกนายนั้นละตัวปัญหาเลย ทํางานก็ชุ่ย แถมยังนินทาชาวบ้านเขาไปทั่วเลย แย่ยิ่งกว่านั้นยังนินทาได้มั่วซั่วมากด้วย” พี่ฮูถอนหายใจ “พวกนายนินทากันทุกวันเนี่ย ไม่รู้เหรอว่าเฉียวหยูหนานเป็นใคร
“พี่ฮู พี่มีข่าววงในก็บอกมาเถอะ!” ชายคนหนึ่งพูดอย่างขี้เสือก
“หัดใช้สมองมั่งดิ นามสกุลของเฉียวหยูหนานคืออะไรละ!”พี่ฮูพูด
“เฉียวไง” 1ในนั้นพูดขึ้นมา
พี่ฮูตอบกลับอย่างรําคาญ”ไอ้พวกโง่เอ้ย แน่ซิว่านามสกุลเฉียว แต่ไม่คิดบ้างเหรอว่านามสกุลของท่านประธานก็เฉียวเหมือนกันหน่ะ!”
พระเจ้าช่วย หรือว่าเฉียวหยูหนานจะเป็นญาติกับบอสใหญ่”ใครบางคนอุทานขึ้นมา
พี่ฮูพยักหน้า “เธอเป็นลูกสาวของท่านประธานใหญ่ เธอกลับมาจากอเมริกาไม่นานมานี้นี่เอง
“โอ้พระเจ้า สาวสวยพันล้านอยู่ตรงหน้าฉันนี้เอง”
และแล้ววงนินทาก็เริ่มอีกครั้ง
ในสนามฝึกซ้อมของหน่วยสวาท หลี่ไต้มองดูไปที่เจ้าหน้าที่ตํารวจที่กําลังยืนเรียงแถวต่อหน้าเขา
คนพวกนี้เป็นหน่วยสวาทที่จะเข้าร่วมการแข่งมาราธอน พวกเขาอาจจะไม่ใช่นักกีฬาที่ดีที่สุดในทีม แต่พวกเขาเป็นนักวิ่งระยะไกลที่ดีแน่นอน ถึงแม้พวกเขาจะดีไม่เท่านักกีฬามืออาชีพ แต่พวกเขาก็ถือว่าดีมากถ้าเทียบกับมือสมัครเล่นด้วยกัน
และทันใดนั้นหลี่ไต้ก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์แปลกๆ
เพราะในความรู้สึกของหลี่ไต้นั้น เขาดวงซวยมาโดยตลอด ผู้ฝึกเกือบทุกคนของเขานั้นล้วนแต่จะมีปัญหา อย่างหยูเฟยเฟยก็อ้วน หลินเฟยเหลียงก็ยอมแพ้ต่อชีวิต ทีมทุ่มน้ําหนักก็แพ้มันซะทุกรอบ ทีมกระโดดไกลก็โดนแย่งตัวนักกีฬาไป หลินฉงเองก็มีปัญหาทางจิต หยางฉือจี้ก็อยากเป็นช่างภาพมากกว่านักกีฬา ส่วนฮาวหยูอี้ก็โดนตรวจผิดอีก
ทุกๆที่ที่หลี่ไต้ไป เขาไม่เคยเจอการได้โค้ชในสภาวะที่คงที่เลย แต่ตอนนี้ หลี่ไต้เริ่มรู้สึกว่าความโชคดีมาหาแล้ว เนื่องจากการฝึกนั้นมันระยาสั้นและกระบวนการฝึกนั้นเป็นไปด้วยดีและไม่มีปัญหาอะไร
ที่ดีไปกว่านั้นคือ ตํารวจหน่วยสวาททั้ง3คนที่มานั้น ปรกติวิ่ง10กิโลเป็นการฝึกรายวันอยู่แล้ว ดังนั้นฮาฟมาราธอนไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสําหรับพวกเขาเลย
นอกจากตํารวจทั้ง3คนนั้นแล้ว ยังมีตํารวจอีกคนนึงที่เคยเป็นทหารหน่วยรบพิเศษแล้วย้ายมาเป็นตํารวจเมื่อปีที่แล้ว เขามีศักยภาพทางร่างกายที่ยอดเยี่ยม แถมยังสามารถวิ่งข้ามเขตข้ามประเทศได้พร้อมกับแบกของไปเป็น10โล แค่วิ่งฮาฟมาราธอนเหรอ คงเป็นเรื่องหมูๆสําหรับเขา
มีทั้งหน่วยสวาท มีทั้งอดีตหน่วยรบพิเศษแล้วก็ยังมีตํารวจคนอื่นๆที่แกร่งกว่าคนธรรมดาอีกเยอะ นี้เป็นครั้งแรกที่หลี่ได้รู้สึกว่าทีมนี้มันเต็มไปด้วยของดีมีคุณภาพจริงๆ
วันแห่งการแข่งมาถึงอย่างรวดเร็ว
ความหนาแน่นของประชากรที่เข้าแข่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายๆปีมานี้ การแข่งฮาฟมาราธอนมีระยะ21.0975กิโลเมตร ซึ่งก็เท่ากับประมาณ10กิโล2รอบกว่าๆ
และเนื่องจากการแข่งในครั้งนี้ทําเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยของประชาชน จึงทําให้ไม่มีกําหนดระบุจํากัดของผู้เข้าแข่ง จึงมีคนที่รักในการวิ่งระยะไกลสมัครเข้าแข่งเยอะ รวมถึงคนที่ไม่เคยวิ่งมาราธอนมาก่อนเลยด้วย คนพวกนี้ไม่ได้ต้องการคําสรรเสริญเยินยอ พวกเขาแค่มาลองดูว่าตัวเองนั้นสามารถวิ่งไปได้ถึงเส้นชัยรึเปล่าแค่นั้น หรือบางคนอาจจะแค่สมัครมาเอาบรรยากาศเล่นๆเฉยๆก็ได้
ในส่วนของการสมัครนั้นก็ง่ายมาก แค่เอาบัตรประชาชนมากรอกใบสมัคร แล้วก็แปะแผ่นหมายเลขบนอก ก็สามารถเข้าไปรออยู่ที่เส้นเริ่มต้นได้เลย มีหลายๆคนที่เข้ามาสมัครในวินาทีสุดท้าย ทําให้มีคนจํานวนเยอะมากๆอยู่รอบๆทะเลสาบ
ถ้าเทียบกับการสมัครแบบเดียวที่เข้ามาสมัครกันเองแล้ว การสมัครแบบเป็นทีมบริษัทหรือทีมโรงเรียนนั้นเมหือนเป็นกองทัพมากกว่า มีทั้งหัวหน้าทีมใส่เสื้อเหมือนๆกัน มีสโลแกน มีทีมขนส่ง มีทีมบริการน้ําดื่ม และบางทีอาจถึงขั้นมีกองเชียรด้วย
พวกบริษัทที่มีรากฐานที่ดีในเมืองฮั่วจิงนั้นส่วนมากจะล้วนเป็นบริษัทยักใญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เติบโตมาพร้อมประเทศนี้(SOE) คือบริษัท ที่ก่อนตั้งมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งประเทศ มีอายุขัยนาน เป็นผู้วางรากฐานระบบตลาดและเศรษฐกิจของกระเทศนี้ แถมยังเป็นเบื้องหลังจางการจัดกิจกรรมหลายๆอย่างเช่นโอลิมปิคอีกด้วย
และสําหรับสถาบันรัฐบาลก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ที่จะได้ร่วมกิจกรรมแบบนี้ เพราะเมืองฮั่วจิงเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศและจับกิจกรรมที่หลากหลายทุกปี มันเป็นธุรกิจและหน้าที่ไปแล้วที่จะต้องเข้าร่วมโครงการกิจกรรมแบบนี้
หลิวเป่ากังยืนอยู่ข้างถนนมองดูการจัดงานอย่างมั่นใจ
บนเสื้อแข่งของหลายทีมมีการตั้งชื่ตามแผนกหรือหน่วยงานอย่างเช่น “เอกสาร” “…การยา” “ธนาคาร” หรือบางที่ก็แปะสโลแกนไว้ทํานองว่า “รับใช้ประชาชน” อะไรทํานองนั้น
ในความคิดของหลิวเป่ากังนั้น พวกเขามาเพื่อแค่ให้งานมันมีคนเยอะขึ้นเฉยๆ
หลิวเป่ากังนั้นเป็นโค้ชที่คุมการฝึกวิ่งมาราธอนทีมชาติ แล้วก็ถูกกลุ่มบริษัทติ้งเทียนจ้างมาให้ฝึกคนที่บริษัท แล้วทางบริษัทก็จะจ่ายเงินให้อย่างงาม การที่จะได้เงินนี้มานั้นทําให้ต้องมีการออกจากงานฝึกทีมชาติก่อนเวลาเพื่อมาฝึกคนในบริษัท
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่โค้ชจะหาลําไพ่พิเศษบ้างในเวลาว่าง โค้ชทุกคนในทีมชาตินั้นจะมีทางไปของตัวเอง ทางทีมชาติไม่ได้เข้าไปยุ่งขัดขวางหรือสนับสนุนให้มีเรื่องแบบนี้ ตราบใดก็ตามที่มันไม่ส่งผลกับงานหลัก
ในฐานะโค้ชทีมชาติ เขาต้องมีคุณสมบัติแน่นอนอยู่แล้ว เขามีความสามารถมากเกินพอที่จะฝึกคนธรรมดา แทบทิ้งเทียนยังมอบทีมดีๆให้เขาด้วย แต่ละคนในทีมนั้นคือทหารผ่านศึกตัวเอ้ๆล้วนๆ
กลุ่มบริษัทยักใหญ่อย่างตั้งเทียนอาจจะไปเข้าตลาดแรงงานแล้วไปเอาพวกทหารผ่านฝึกมาในทุกๆปี ทหารเก่าพวกนี้มีวินัยดีเยี่ยม ควบคุมง่าย และทนมือทนเท้าทนงานหนักมากกว่าคนปรกติ นั้นทําให้พวกเขานั้นได้รับความไว้วางใจมากกว่าพนักงานที่รับมาด้วยวิธีอื่นๆ และในบรรดาทหารเก่าที่ตั้งเทียนเลือกมานั้น คือระดับตัวท็อปล้วนๆมีความสามารถเต็มเปี่ยม
กลุ่มบริษัทตั้งใจที่จะได้แชมป์ในครั้งนี้ หลิวเป่ายังไม่ได้มาเล่นๆ เขาใช้ทรัพยากรของบริษัทอย่างคุ้มค่า แล้วเมื่อผ่านไปหลายอาทิตย์เขาก็ได้สร้างทีมมาราธอนสุดแกร่งขึ้นมาในกลุ่มบริษัทติ้งเทียน
หลิวเป่ากังเองก็มีความมั่นใจในทีมนี้สูงมาก แต่เขาก็ยังต้องดูทีมอื่นๆด้วย นี้เป็นสิ่งที่ประสบการณ์การเป็นโค้ชมาหลายต่อหลายปีเข้ามามีส่วนร่วม
“ระบบการศึกษาโครงสร้างอาคาร” งั้นเหรอ พวกนั้นน่าจะมาจากกระทรวงศึกษาธิการแน่ๆ พวกเขามีผิวที่นุ่มและขาว น่าจะเป็นคนที่ไม่เท่าไรหรอกถ้าดูจากรูปลักษณ์
ส่วนทีมอื่นๆส่วนมากจะผิวสีคล้ํา คงเป็นเพราะแดดเผา พวกนั้นคงเป็นนักข่าวจากสํานักพิมฮั่วจิง ไม่แปลกเลย พวกนั้นออกไปสัมภาษณ์คนทุกวันก็ไม่แปลกที่จะคล้ํา
ทีมนี้มาจากมหาลัยฉิงสั่ว ทีมใหญ่น่าดู ดูเหมือนจะมีนักกีฬาด้วย แต่ส่วนมาพวกเขาก็เป็นแค่นักเรียนกับอาจารย์มหาลัย พวกนี้ค่อนข้างชอบวิ่งมาราธอนกันเหลือเกิน
โอ๊ะ กรมการกีฬาก็มทีมของตัวเองด้วยเว้ย แถมยังนําโดยคุณเฉียน ผู้จัดการทั่วไปด้วย นั้นหลี่ นั้นหวาง หลิวเป่ากังสายหัวเงียบๆ เขาเห็นคนจํานวนมากที่นี้ ส่วนมากล้วนแต่เคยเป็นนักกีฬามืออาชีพ
หวางเคยเป็นแชมป์ประเทศในด้านการวิ่ง10กิโลเมตร แต่นั้นมันก็10ปีผ่านมาแล้ว เขาเกษียรจากทีมชาติไปได้5-6ปีแล้ว เขาเคยเป็นนักกีฬาที่แข็งแกร่งมากเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เขาเริ่มบวมเบียร์แล้ว
หลิวเป่ากังรู้ว่ามันจําเป็นที่จะต้องฝึกทุกวัน เพื่อที่จะให้นักกีฬาคงสภาพของตัวเองไว้ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ในนักกีฬาตัวท็อปๆ ถึงแม้จะฝึกทุกวัน แต่สภาพของพวกเขาก็ลงน้อยลงไปตามเวลาและอายุอยู่ดี นักกีฬาไม่สามารถที่จะคงสภาพเดิมซัก30% ไม่ได้ด้วยซ้ําหลังจากเกษียรแล้ว5-6ปี
จากการสํารวจของฉันแล้ว ไม่ค่อยมีทีมที่แกร่งเลยนอกจากทีมผึ้งเทียน ซึ่งเป็นของฉันเอง ยังไงซะแชมป์ปีนี้ก็เป็นของเราแหงๆหลิวเป่ากังคิดกับตัวเองในใจ
“โค้ชหลิวเป็นไงบ้างคะ มีใครเก่งๆไหม?”เสียงหวานๆถามขึ้นมา
พอได้ยินอย่างนั้น หลิวเป่ากังรู้ทันทีว่าเฉียวหยูหนานเดินเข้ามาจากข้างหลังเขา
“สวัสดีครับผู้จัดการ!” เขาพูดแล้วรอยยิ้มบนหน้า แก่ปูนนี้แล้วยังสนใจสาวสวยอยู่อีก
“ผู้จัดการครับ ผมดูทั่วๆแล้วแต่ยังไม่เห็นคู่แข่งเก่งๆเลยครับ ผมเลยคิดว่าเราน่าจะชนะได้ง่ายๆนะครับ” ตอนที่เขาพูดอยู่นั้นเองเขาก็เห็นทีมใส่ชุดสีน้ําเงิน
โอ้ ทีมมืออาชีพเหรอมองแค่ตรงนี้ก็เห็นได้ถึงคุณภาพเลย
หลิวเปากังเริ่มที่จะสนใจพวกเขาทันที ช่างเป็นสัญชาตญาณของโค้ชอันดับต้นๆจริงๆ
หลิวเปากังเคยเห็นหลายๆทีมมาก่อนแล้ว แต่ทีมนี้มีออร่าที่ต่างออกไป มันเป็นออร่าของความเป็นมืออาชีพแฝงออกมา มันเป็นออร่าเดียวกันกับที่หลิวเป่ายังเห็นได้กับแค่ทีมที่เขาฝึกเองเท่านั้น
ข.แข็งแกร่ง! หลิวเป่ากังรู้ได้ถึงพลังจนทําให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ในการแข่งแบบนี้มันไม่ควรจะมีทีมมืออาชีพมาลงแข่ง แต่ไอ้คนพวกนี้ดันเหมือนกับตัวเต็งทีมชาติในการวิ่งมาราธอนซะงั้นเลย พวกนี้มันเป็นใครวะ?
หลิวเป่ากังดูอย่างระวังก่อนที่จะเห็นสโลแกนของทีม
ปกป้องประชาชน หลิวเป่ากังสโลแกนสั้นๆนั้นอีกรอบ มันมีอยู่ไม่กี่หน่วยหรอกที่ ใช้ชื่อแบบนั้น ตํารวจไง! มีแต่ตํารวจที่ใช้
หลิวเป่ากังหายใจเข้าลึกๆ เขารู้ว่าความสามารถของนายตํารวจที่มาแข่งนั้น ไม่น้อยหน้าของเขาเลย ตั้งเทียนสามารถหาทหารผ่านศึกมาได้ ตํารวจก็ทําได้เหมือนกัน แถมบางทียังหาได้เก่งกว่าอีกด้วย
พวกนั้นต้องได้โค้ชกีฬามืออาชีพไปแน่ๆ ไม่งั้นออร่าคงไม่พุ่งแบบนี้ หลิวเป่ายังคิด และวินาทีต่อมา เขาก็เห็นหลี่ไต้เดินออกมาท่ามกลางตํารวจ