Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 227
ตอนที่ 227 รอบนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ
เมื่อ1นาทีก่อน หลิวเป่ายังวางแผนว่าจะเฉลิมฉลองยังไงดีอยู่เลย และเมื่อเขาได้กดโทรศัพท์จิ้มคํานวณเท่านั้นละ เขาก็เสียความมั่นใจทั้งหมดไปเลย ถึงแม้ว่าหลิวเป่ากังจะคํานวณได้ช้าแต่พอคํานวณเสร็จ ทีมเขาพึ่งจะคะแนนห่างจากทีมตํารวจแค่9คะแนนเท่านั้น เอาง่ายๆว่าห่างกันแค่9อันดับเท่านั้น
ในการแข่งมาราธอน ความต่างแค่9อันดับมันไม่ได้เยอะอะไรเลย โดยเฉพาะกับลําดับที่40-50พวกนี้อาจจะมีผู้เข้าแข่งมากกว่า10คนวิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมๆกันเลยก็ได้ อันดับในบรรดานักกีฬาทั้ง หมดนั้นมันสามารถเปลี่ยนไปได้ง่ายๆ และบ่อยมากๆด้วย
ฉันจะไม่แพ้วันนี้ใช่ไหมเนี่ย หลิวเป่าทั้งคิด ไม่มั่นใจในตัวเองอีกต่อไป
มันไม่มีคําว่าไร้เทียมทานในใต้หล้า และมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่โค้ชจะแพ้ แต่หลิวเป่ายังไม่อยากแพ้วันนี้จริงๆ เพราะทั้งหลิวเป่ากังและหลีใต้ต่างก็เป็นโค้ชของทีมชาติ แต่หลิวเป่ากังเป็นโค้ชวิ่งมาราธอนตั้งแต่แรก ถ้าเขาแพ้ให้กับหลีใต้ที่เป็นโค้ชวิ่งเร็วในวันนี้ เขาต้องอับอายไปชั่วชีวิตแน่ๆ
ขึ้นอยู่กับนายละนะคนสุดท้าย เร็วเข้า! หลิวเป่ากังภาวนาเงียบ
ในลู่วิ่งนั้นมักจะมีนักวิ่งโผล่มาตลอด ในตอนแรกพวกเขาก็จะมาเป็นเงาดําๆไกลๆ แล้วจากนั้นก็ปรากฏเป็นสีเสื้อกีฬา ทุกครั้งที่มีเงาดําๆใหม่ปรากฏ หลิวเป่ากังและหลีใต้ก็จะทําหน้าตื่นเต้นทุกครั้ง แล้วพอเห็นว่านักกีฬาคนนั้นไม่ใช่ของใคร พวกเขาก็จะถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที
และในชั่วพริบตาเดียว นักวิ่งมากกว่า60คนก็เข้าเส้นชัยไปเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ยิ่งเลขจํานวนคนมากเท่าไร ระยะห่างระหว่างผู้เข้าแข่งขันก็กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นคลื่นมนุษย์
พอนับถึงที่69 นักกีฬาคนที่5ของหลี่ไต้ก็มาถึง
มาแล้ว นักกีฬาของฉันมาถึงก่อน ถ้าได้ที่69 เราก็จะได้เพิ่มอีก432แต้ม หลีใต้คํานวณอย่างว่องไว
และถ้าไม่มีคนจากทีมผึ้งเทียนในอีก9อันดับ เราก็จะชนะ หลีใต้คิดอย่างลับๆก่อนที่จะหันไปมองหลิวเป่ากัง
หลิวเป่ากังตอนนี้รู้สึกสับสนไปมาสุดๆ ก่อนหน้านี้ นักวิ่งคนที่4ของผึ้งเทียนพึ่งมาถึงก่อน และหลิวเป่ากังก็รู้สึกได้ถึงชัยชนะไปแล้วด้วย แต่ภายในอีกอึดใจเดียว เขากลับต้องรอคอยนักแข่งคนที่5อย่างกับรอคอยปาฏิหาริย์ ในขณะที่นักกีฬาของทีมตํารวจวิ่งเข้าเส้นชัยครบ5คนแล้ว
มันยังมีโอกาสหน่า เรายังชนะได้อยู่ตราบใดที่เรายังมีนักวิ่งในทีมอีก9คน 9คนนั้นต้องมีซักคนที่จะเข้าเส้นชัยก่อนที่78 เราก็ยังชนะการแข่งได้อยู่
หลิวเป่าลังพยายามที่จะปลอบใจตัวเอง พอคิดแบบนี้แล้วหลิวเป่ากังก็มองไปที่เส้นปลายขอบฟ้า เขาเห็นคนใส่ชุดกีฬาสีน้ําเงินอีกครั้ง
อะไรเนี่ย จากทีมตํารวจอีกแล้วเหรอ พวกเขามีคนเข้าเส้นชัยไปแล้วคนนะ
หลิวเป่ากังกังวลขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าคนที่เป็นต้นไปจะไม่ยนับคะแนน แต่เขาก็มีความรู้สึกไม่ดีอยู่ดี
และต่อมา ที่71ก็ยังเป็นของทีมตํารวจ
ที่75 และ78ก็เป็นของทีมตํารวจ
มันจบละ ฉันแพ้แล้ว หลิวเป่ากังรู้ได้เลยว่ากลุ่มผึ้งเทียนไม่มีทางได้แชมป์
และผลก็ออกมา ผู้เข้าแข่งคนที่รของกลุ่มผึ้งเทียนมาถึงในที่85 ซึ่งทําให้คะแนนห่างถึง5คะแนนกับทีมตํารวจ ด้วยระห่างแบบนี้มันก็ดูเหมือนจะไม่เยอะแหละ แต่หลิวเป่ากังรู้ดีว่ารอบนี้เขาแพ้แบบราบคาบ
และในบรรดาคนที่เข้าเส้นชัย ตั้งแต่คนที่69 -85 มีคนจากทีมตํารวจถึง6คน ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว ผู้เข้าแข่งส่วนมากของทีมผึ้งเทียนนั้น จะเข้าเส้นชัยตอนช่วงที่ 85 -100
หลิวเป่ากังรู้ว่าด้วยช่องว่างที่มากแบบนั้น ถึงแม้ว่าจะนับแค่5คนแรกที่นับคะแนนกลุ่มติ้งเทียนไม่มีจะดูไม่ได้อ่อนกว่าทีมตํารวจก็จริง แต่นักวิ่งคนอื่นๆ หลังจากนั้น โดยรวมแล้ว อ่อนกว่าทีมตํารวจอย่างเห็นได้ชัด
ปรกติเราจะวัดกันตั้งแต่ตอนที่จุดเสบียงกิโลเมตรที่ 17.5แล้ว ช่องว่างแบบนั้นจะต้อง เกิดขึ้นในช่วง3กิโลเมตรสุดท้ายแน่ๆ หลิวเป่าลังเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
การแพ้นั้นมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากนักหรอก ถ้าคนเรารู้สาเหตุของมัน โค้ชทีมชาตินั้นเก่งในการหาต้นตอของความผิดพลาดของตัวเอง แล้วเรียนรู้มัน และหลิวเป่ากังก็เป็นตัวอย่างที่ดีในการเรียนรู้ความผิดพลาด
ฉันคิดว่าเจ้าหลีใต้นั้นจะเป็นแคโค้ชนักวิ่งซะอีก ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะฝึกนักวิ่งมาราธอนเป็นด้วย เขาทําท่าไม่รู้ไม่ชี้หลอกคู่แข่ง! หลิวเป่ากังสาปแช่งหลีไต้จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ไอ้เด็กนี้มันมีของจริงๆ ไม่แปลกเลยที่โค้ชซุหลี่จะให้ค่าเขาขนาดนี้
ในอีกด้านนึง หลีใต้ก็กําลังประเมินผลงานของวงแหวนเพิ่มความอึด
ถึงแม้ฉันจะชนะ แต่มันก็เกือบแบบเฉียดฉิวมาก ถ้าไม่ใช่เพราะวงแหวนเพิ่มอึดปานนี้คงแพ้ไปแล้ว ตอนแรกฉันคิดว่าฉันจะชนะได้ง่ายๆ แต่กลับกลายเป็นว่าชนะแบบฉิวเฉียดมาก ผลของวงแหวนเพิ่มความอึดมันไม่ได้ส่งผลกับการวิ่งระยะไกลมากๆแบบนี้ซินะ
เรื่องการจัดการกลยุทธก่อนสนามกับการสั่งการระหว่างการแข่งก็เป็นจุดอ่อนของฉันเหมือนกัน ก่อนการแข่ง ฉันแสกนผู้เข้าแข่งทุกคนแล้ว ทุกคนใกล้เคียงกันมาก ฉันชนะได้เพราะวงแหวนล้วนๆ หมายความว่าฉันยังต้องมีอีกเยอะที่ต้องเรียนรู้จากโค้ชหลิว เรื่องการจัดการกลยุทธต่างๆ
ในฐานะที่หลีใต้เป็นคนนําทีม เขาคิดว่าเขายังมีประสบการณ์น้อยกว่าหลิวเป่ากังอยู่มากแผนกลยุทธที่หลิวเป่ากังวางไว้ก่อนการแข่งนั้นดีกว่าของหลีใต้เห็นๆ และการสั่งการระหว่างการแข่งนั้น มันดูมีเหตุมีผลมากกว่าของหลี่ได้มาก
ตอนนี้ฉันเป็นขั้นกลางของโค้ชระดับ1แล้ว ด้วยผลแบบนี้ ตอนนี้ฉันเป็น1ในโค้ชที่เก่งที่สุดในทีมชาติแล้วในแง่ของผลการฝึก แต่ในแง่อื่นๆฉันก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ โดยเฉพาะการคุมทีมระหว่างแข่ง
ในหลายๆงานที่ฉันได้ทํา ไม่ว่าจะเป็นทุ่มน้ําหนัก กระโดดไกล วิ่งเร็ว ปรกติแล้วมันไม่จําเป็นที่จะต้องใช้กลยุทธอะไร ไม่จําเป็นที่จะต้องใส่ใจเรื่องนี้เลยด้วย และตอนนี้ดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันต้องเรียนรู้อย่างมากเลยด้วย ในฐานะโค้ช ฉันจะแคฝึกอย่างเดียวไม่ได้ แต่ฉันจะต้องนําทีมไปแข่งด้วย นั้นคือสิ่งที่ฉันควรทํา และต้องทําให้ดีขึ้น
ตลอดการแข่งมาราธอนนั้น หลีใต้ได้พบกับข้อบกพร่องที่ระบบโค้ชทําไม่ได้
ระบบโค้ชนั้นเพียงแต่จะช่วยให้ผลการฝึกทวีคูณขึ้นมา และเพิ่มความสามารถของนักกีฬาจากระดับที่พวกเขามี แล้วก็ยังช่วยให้นักกีฬาผ่อนคลายและทําให้หายจากอาการบาดเจ็บได้แต่มันไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์การโค้ชให้กับหลีใต้ และไม่สามารถช่วยให้หลีใต้ สั่งการในสนามแข่งได้ดีขึ้น
หลีใต้นับว่าแกร่งมากๆแล้วในขั้นกลางของโค้ชระดับ1 แต่ตอนนี้ หลีใต้พบว่า เขานั้นก็เก่งกว่ามือใหม่ที่โกงชาวบ้านเขาได้แค่นั้นเอง
หลีใต้ก้มหัวลงเพื่อสรุปข้อบกพร่องของเขา แล้วเขาก็ไม่ทันสังเกตว่าเฉียวหยูหนานกําลังดูเขาอยู่จากที่ๆไม่ห่างไกลมากนัก
โค้ชหนุ่มจากทีมชาติคนนี้น่าสนใจมากทีเดียว! หลิวเป่ากังเคยบอกไว้ว่าเขาเป็นโค้ชวิ่งเร็ว แต่เขากลับเอาชนะโค้ชมาราธอนมืออาชีพได้ในการแข่งมาราธอน เฉียวหยูหนานรู้สึกได้ว่าหลีใต้นั้นตอนนี้ดูลึกลับมากไปกว่าเดิมอีก
“ผู้จัดการเฉียวครับ เราแพ้การแข่งแล้ว จะเอาไงต่อดีครับ” ใครซักคนถาม
“ใช้แผนBเลย!”เฉียวหยูหนานพูดอย่างหมดหนทาง
ด้วยความที่โปรเจ็คใหญ่ยักระดับพันล้านแบบนี้มันต้องมีการเช่าซื้อที่ดินโครงการไว้แล้ว ดังนั้น จําเป็นที่จะต้องมีแผนBไว้เสมอ เอาจริงๆทางติ้งเทียนก็เตรียมไว้หลายแผน ถึงแม้มันจะดีไม่ เท่าแผนAก็ตาม
และที่สําคัญกว่านั้น คือความจริงที่ว่านี้เป็นโปรเจ็คแรกของเฉียวหยูหนานตั้งแต่ที่เธอกลับมาที่จีน เพราะงั้น การที่เธอแพ้ตั้งแต่งานแรกแบบนี้มันก็ทําให้เธอค่อนข้างหัวเสียพอสมควร
เธอมองไปที่หลีใต้ ที่ตอนนี้เธอกําลังโทษความผิดไปที่หลีใต้ เธอพึมพํา “แผนของเราต้องให้แผนกวางแผนจัดทํามาตั้งนาน แต่นายดันมาทํามันพังซะงั้นเลย!ฝากไว้ก่อนเถอะ”