Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1324
บทที่ 1324 – แม้แต่หมอก็ทรงพลัง ตระกูลซื่อกง หมดอายุขัยก่อนวัยอันควร
ผู้อาวุโสปู้หยางหยุดเด็กหญิงน้อยไม่ให้กินเพิ่มอีกหลังจากที่นางกินไปกว่า 3 ลูกแล้ว เขาเก็บบางส่วนเอาไว้ให้นางและบอกนางว่าไว้ค่อยกินอีกหลังจากนี้ เขาจากไปหลังจากที่ขอบคุณชิงสุ่ยด้วยความเคารพ เขายังบอกชิงสุ่ยว่าเขาจะมาที่นี่ในทุกๆวัน ไม่เพียงแค่นั้นหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเขาบอกกับชิงสุ่ยว่าเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือด้วยความยินดี
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าผู้อาวุโสปู้หยางนั้นทราบหรือไม่ว่านั่นคือตระกูลผัง บางทีอาจเป็นเพราะเขาอายุมากแล้วจึงไม่สนใจเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ แต่เขาดูจริงจังอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาได้บอกกับชิงสุ่ยว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกเรื่องด้วยความยินดี
แต่เรื่องนี้นั้นสำคัญอย่างยิ่งชิงสุ่ยย่อมเลือกที่จะไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้ใด เพียงแต่ในตอนนี้เขายังรู้สึกว่าเขายังไม่อาจรักษาเด็กหญิงน้อยพรุ่งนี้ได้
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตอนนี้ตราบใดที่ชิงสุ่ยต้องการทำ เขาก็จะทำมันไม่ว่ามันจะอันตรายมากเพียงใด ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าตระกูลผังดันทรงพลังมากเพียงใด เขาอยากจะรู้ว่าเขาจะสามารถรับมือกับตระกูลผังได้หรือไม่ นี่เป็นเหมือนบททดสอบในชีวิตของเขา
ในตอนนี้หมอปีศาจเดินออกไปด้วยความยินดี ก่อนหน้านี้เขาได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสปู้หยางพูดอย่างชัดเจน ในตอนนี้เขาได้ตกตะลึงไปกลับความสามารถของชิงสุ่ย เพียงแค่ซาลาเปาไม่กี่ลูกก็สามารถทำให้ผู้อาวุโสปู้หยางต้องให้คำสัญญาได้ ตราบใดที่ชิงสุ่ยขอความช่วยเหลือไป ชายชราผู้นี้ย่อมต้องมาช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน
“น้องชาย เราควรทำเช่นไรกันดี? เราจะขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสปู้หยางหรือไม่?” หมอปีศาจยิ้มและถาม
“ไม่ต้องรีบร้อนไปในเรื่องนี้ ตอนนี้มันยังไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไร เราควรทำตามแผนการเดิมของเราไปก่อน เมื่อถึงตอนนั้นย่อมมีคนมากมายที่จะคอยช่วยเหลือเรา” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวขึ้น
ในตอนนี้หมอปีศาจย่อมเชื่อในทุกคำพูดของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยนั้นกลับไปยังห้องของเขาเพื่อเตรียมตัว หลังจากนั้นเขาก็เตรียมพร้อมที่จะให้หมอปีศาจพาเขาไปยังตระกูลต่างๆที่ต้องการเขา แน่นอนว่าหมอปีศาจได้ติดต่อพวกเขาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาได้โอ้อวดสรรพคุณของชิงสุ่ยออกไป อันที่จริงแล้วนี่ไม่สิ่งที่จำเป็นเลยเรื่องที่หมอปีศาจได้กลับมาเยาว์วัยอีกครั้งนั้นถือเป็นการสร้างชื่อเสียงที่ดีที่สุดให้แก่ชิงสุ่ย
เมื่อชิงสุ่ยก้าวเข้ามาภายในห้องของเขา เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆและรู้ได้ทันทีว่าอี่หวง กู่หวู๋นั้นอยู่ที่นี่
ในเวลาไม่ถึง 1 ช่วงลมหายใจอี่หวง กู่หวู๋ก็ได้มาปรากฏตัวข้างๆชิงสุ่ย กลิ่นหอมจางๆจากร่างกายของนางได้เข้ามายังจมูกของชิงสุ่ยทันที นางดูเหนื่อยล้ายิ่งนักทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บปวดภายในหัวใจของตนเอง “ทุกๆอย่างปกติดีหรือไม่?”
ขณะที่กล่าวนั้นชิงสุ่ยก็วางมือลงบนชีพจรของนาง
“สภาพของข้าเป็นอย่างไร?”
“โอ้ ยินดีด้วยหญิงสาวของข้า เป็นเด็กผู้หญิง” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง
“เจ้าบ้า เจ้าพยายามทำให้ข้าโกรธใช่หรือไม่?” หญิงสาวผู้นี้ดูเกรี้ยวกราดเล็กน้อยแต่ในเวลาเดียวกันนางกลับยิ้มออกมา อย่างไรก็ตามนางไม่อาจซ่อนเร้นความรู้สึกที่โดดเดี่ยวภายในสายตาของนางได้
“อย่ากังวลไปเลย ข้าเป็นหมอเทวดา ข้าจะรักษาท่านเอง หากข้าไม่อาจทำเช่นนั้นข้าจะมอบลูกให้แกท่านเอง” ชิงสุ่ยกล่าวเบาๆขณะที่กดลงไปบนร่างกายของนาง เมื่อเขาทำเช่นนี้พลังศักดิ์สิทธิ์ก้เริ่มแผ่กระจายออกมารอบๆตัวนาง
“เจ้าล้อข้าเล่นเสมอเลย!” หญิงสาวยิ้มอย่างยินดีเมื่อนางได้เห็นชิงสุ่ยเป็นแบบนี้
“แน่นอนว่าข้าไม่เคยโกหก ข้ารับประกันให้กับท่านได้เลย แต่ท่านก็ต้องหายดีด้วยเช่นกัน หากไม่มีท่านมันย่อมยากยิ่งนักสำหรับข้าที่จะกลับไปยังมหาทวีปอู่เซียตะวันตก”
“ข้าเป็นเพียงแค่เครื่องมืองั้นหรือ เจ้าช่างเย็นชายิ่งนัก เอาหละลืมเรื่องนี้ไปซะเถอะ ข้าจะไปแล้ว” อี่หวง กู่หวู๋ดูเหมือนจะดูดียิ่งขึ้นในตอนนี้
“อย่าเร่งรีบไปเลย เหตุใดท่านจึงไม่ลองกินซาลาเปานี้ดูก่อน? ท่านควรได้รับสารอาหารให้เพียงพอ” ชิงสุ่ยเหลือซาลาเปาอีกหลายลูกในดินแดนของเขา เขาใส่เข้าไปในดินแดนก่อนหน้านี้ตอนนี้มันยังอุ่นๆอยู่เลย
“มันสวยจัง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้เห็นซาลาเปาที่งดงามเช่นนี้”
อี่หวง กู่หวู๋กล่าวด้วยความยินดีขณะที่รับเอาซาลาเปานี้ไป ทันทีที่นางกล่าวจบนางก็กัดมันเข้าไปทันที นางตกตะลึงไปครู่หนึ่งขณะที่ดวงตาอันงดงามของนางนั้นเบิกกว้างขึ้น ขนตาของนางนั้นทำให้นางดูเย้ายวนอย่างยิ่ง นางกินซาลาเปานี้จนหมดไปอย่างรวดเร็ว
“ชิงสุ่ย เจ้าทำอะไรมาบ้างในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา?” หญิงสาวยิ้มและจับมือชิงสุ่ย แต่ในตอนนี้เองหมอปีศาจก็ได้เดินเข้ามา
“เอิ่ม น้องชาย โปรดอย่าสนใจข้าเลยจงสนใจธุระของเจ้าต่อไป” หมอปีศาจรู้สึกงุนงงอย่างยิ่งในตอนนี้ หญิงงามผู้นี้ปรากฏตัวมาจากที่ใดกัน? ในขณะที่เขาชื่นชมโชคทางด้านหญิงสาวของชิงสุ่ย เขาก็รีบเดินออกไปทันที
ชิงสุ่ยยิ้ม อี่หวง กู่หวู๋นั้นยังคงสงบนิ่ง นอกจากนี้นางยังยิ้มและพยักหน้าให้กับหมอปีศาจ
“ข้าได้เปิดโรงหมอที่นี่พร้อมกับใครบางคน นี่คือพี่ชายของข้าเอง หมอปีศาจ คนที่ข้าได้รู้จักเมื่อตอนที่ไปรักษาคนของตระกูลอี่หวง” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว
ร่างกายของอี่หวง กู่หวู๋สั่นไปในทันที หลังจากนั้นนางก็กล่าวขึ้นช้าๆ “ชิงสุ่ย เจ้าสัญญากับข้า 1 อย่างได้หรือไม่?”
“สัญญาอะไรกัน? ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่ข้าทำได้ข้าก็จะทำเพื่อเจ้า” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
“โปรดอย่ารักษาผู้ป่วยของตระกูลอี่หวง” อี่หวง กู่หวู๋มองไปยังชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าจะให้สัญญากับท่าน ไม่ว่ายังไงตระกูลอี่หวงก็คงจะไม่สนใจคนอย่างข้า อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ข้าให้สัญญาว่าตราบใดที่ท่านไม่เต็มใจข้าก็จะไม่รักษาผู้ป่วยของตระกูลนั้น”
“ขอบคุณ!” อี่หวง กู่หวู๋ยิ้มด้วยความยินดี
“ท่านปรมาจารย์ป้าพวกเราจะยังคงสุภาพต่อกันเช่นนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่?”
“เอาหละ เราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็ได้ ข้าต้องไปแล้ว เจ้ามอบซาลาเปานี้ให้ข้าอีกได้หรือไม่?” อี่หวง กู่หวู๋ถอนหายใจและขาวขึ้น
“ข้าได้เตรียมมันไว้ให้ท่านแล้ว” ชิงสุ่ยนำซาลาเปาออกมาจำนวนนึงและวางเอาไว้บนถาด ตั้งแต่วันแรกที่เขามาที่นี่เขาก็ได้เตรียมมันเอาไว้ให้แก่หญิงสาวผู้นี้แล้ว น่าเสียดายที่เขายังไม่อาจกลับไปที่มหาทวีปธรรมไตรได้ หรือมิฉะนั้นเขาก็ต้องปรุงซาลาเปานี้ทิ้งเอาไว้อีกเป็นจำนวนมาก
อี่หวง กู่หวู๋ยิ้มขณะที่นางหยิบซาลาเปาไป หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็รีบกอดนางในตอนนี้ในขณะที่นางยังไม่ทันระวังตัว “ข้าต้องไปแล้ว โปรดดูแลตัวเองด้วย”
ชิงสุ่ยกอดนางเอาไว้และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อื้ม ท่านก็ต้องดูแลตนเองด้วยเช่นกัน โปรดจำเอาไว้ว่าข้าสามารถรักษาท่านได้ทุกๆอย่าง ในภายภาคหน้าท่านคงต้องยุ่งวุ่นวายกับการให้กำเนิดเด็กๆอย่างแน่นอน”
……
เมื่อหญิงสาวจากไป ชิงสุ่ยก็ออกมาจากห้อง หมอปีศาจนั้นไม่ได้ถามชิงสุ่ยว่านางเป็นใคร กลับกันเขากล่าวว่า “ไปที่ตระกูลซื่อกงกันเถอะในวันนี้ มีคนมากมายที่มาหาพวกเราตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
หมอปีศาจได้เลือกตระกูลจากตระกูลที่เขาได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตัวอย่างเช่น ตระกูลซื่อกง ตระกูลซื่อกงนั้นเป็นหนึ่งในตระกูลที่เขาได้กระจายข้อมูลไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ไม่ว่าอาการเจ็บป่วยแบบใดพวกเขาก็สามารถรักษาจนหายได้
ปกติแล้วชิงสุ่ยนั้นมักจะออกความเห็นใดๆกับเรื่องแบบนี้ เขานั่งไปบนสัตว์อสูรของหมอปีศาจ กระเรียนเงาทมิฬ ตระกูลซื่อกงนั้นไม่ได้อยู่ไกลจากที่นี่มากนัก แน่นอนว่านั่นเป็นเพราะสัตว์อสูรของมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำที่ความเร็วที่มากจนน่ากลัว หากเป็นเขาเมื่อก่อนระยะทางเช่นนี้ย่อมห่างไกลอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยได้ให้สัญญากับผู้อาวุโสปู้หยางว่าจะช่วยเหลือเด็กหญิงน้อยในอีก 2-3 วัน แต่ในตอนนี้เขาต้องมุ่งหน้าไปรักษาคนอื่นๆที่เจ็บป่วยแทน บางครั้งมันก็เกิดความรู้สึกที่ไม่เหมาะสม แต่ก่อนหน้านี้เขาได้บอกกับชายชราว่าเขาต้องการเวลาเพื่อที่จะเตรียมพร้อม เพราะเขาอาจต้องใช้เวลานานในการรักษานาง
1 ชั่วโมงก็เพียงพอสำหรับการเดินทาง
ตระกูลซื่อกงตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างใหญ่มาก อาคารของพวกเขานั้นก็ยิ่งใหญ่และหรูหรา มีองครักษ์มากมายที่ยืนอยู่ ในตอนที่พวกเขาเห็นหมอปีศาจและชิงสุ่ย ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินออกมา
“ท่านหมอเทวดา พวกท่านได้มาถึงแล้ว ท่านผู้อาวุโสกำลังรอคอยพวกท่านอยู่นานแล้ว”
ชิงสุ่ยมองไปยังชายวัยกลางคนผู้นี้ ชายผู้นี้สวมชุดสีขาวและให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย รอยยิ้มของเขานั้นดูมีสเน่ห์แต่มันก็ดูน่ากลัวและยุติธรรม
“ขอโทษด้วยที่ต้องสร้างปัญญาให้ ท่านฟาง”
“ด้วยความยินดี”
ชิงสุ่ยและหมอปีศาจเดินตามชายสกุลฟางผู้นี้ไปขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปยังตระกูลซื่อกง ชิงสุ่ยมองดูรอบๆขณะที่เดินไป ทุกสัดส่วนของที่แห่งนี้นั้นดูเหมาะสมอย่างยิ่ง มันให้ความรู้สึกเหมือนภูเขาที่ตั้งอยู่ข้างแหล่งน้ำและสิ่งอื่น แน่นอนว่าทั้งหมดนั้นสร้างขึ้นจากมือของมนุษย์
ทันใดนั้นชายที่ดูมีอายุก็เดินออกมาจากประตูของห้องโถงใหญ่ ร่างกายของชายชราผู้นี้ตรงดิ่งดุจเข็ม กลิ่นอายที่ทรงพลังบางๆแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเขา แต่ละย่างก้าวของเขานั้นราวกับมังกรย่างกรายพยัคฆ์ย่างก้าว
อันที่จริงแล้วนี่เป็นกลิ่นอายที่มีสเน่ห์
สายตาของชายชรานั้นดูเฉลียวฉลาดและมองการณ์ไกล มันดูสดใสแต่ก็ดูหยิ่งผยองทำให้ดูขัดแย้งกันเล็กน้อย
“ท่านหมอเทวดาทั้ง 2 ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ท่านหมอเทวดา ท่านดูอ่อนเยาว์กว่าก่อนหน้านี้มาก” ชายชราก้าวออกมาหาและตบมือให้กับหมอปีศาจและชิงสุ่ยขณะที่ต้อนรับพวกเขา
“ผู้อาวุโสซื่อกง ท่านยังดูแข็งแรงเหมือนเช่นเคย นี่คือชิงสุ่ย เขาเหนือกว่าข้านับร้อยเท่าในด้านการแพทย์” หมอปีศาจแนะนำชิงสุ่ยให้แก่ชายชราด้วยความยินดี
“คารวะ ท่านผู้อาวุโสซื่อกง พี่ชายของข้าดูเหมือนจะยกยอข้าเกินไปหน่อย”
“เข้ามาก่อน เข้ามาก่อน!” ชายชราพูดอย่างมีความสุขในขณะที่เขาเชิญชวนหมอปีศาจและชิงสุ่ยพร้อมกับจับมือของพวกเขาให้เข้ามายังห้องโถงแห่งนี้
หากเป็นโลกก่อนหน้านี้ของเขาชิงสุ่ยคงรู้สึกสยิวหัวใจแปลกๆที่ได้เห็นผู้ชาย 3 คนเดินจับมือกัน แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้มีความรู้เช่นนั้นเลย เพราะชายชราผู้นี้นั้นก็ดูมีอายุมากแล้ว ทั้งตัวเขาเองและหมอปีศาจนั้นถือว่าเป็นลูกของชายชราผู้นี้ได้เลย
ห้องรับแขกแห่งนี้ใหญ่โตอย่างยิ่ง มันไม่มีฝุ่นละอองแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังมีเครื่องเรือนมากมายอยู่รอบ ๆ ชายชราเชิญชิงสุ่ยและหมอปีศาจให้นั่งลง จากนั้นก็มีคนมากมายที่เดินเข้ามาในห้องนี้พร้อมกับน้ำชาอย่างรวดเร็ว
“ท่านผู้อาวุโส ผู้ใดกันที่ท่านต้องการให้ข้ารักษา? ข้าคิดว่ามันจะเป็นการดีหากเราได้เห็นผู้ป่วยก่อน” ชิงสุ่ยไม่แตะต้องน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะเลย
“เช่นนั้นก็ดี!” ชายชรายิ้มขณะที่เขาตบมือหลายครั้ง
ชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้ก็ได้เดินเข้ามา
“ชางซู พาตงหลางมาที่นี่!”
“ขอรับ!”
ทันใดนั้น “ชายที่ดูชรา” ที่ดูอ่อนแอและเปราะบางก็เดินเข้ามา ชายชราผู้นี้นั้นดูผอมแห้ง ผมของเขาเป็นสีเทา ชุดที่สวมใส่ของเขานั้นดูสะอาด “ชายที่ดูชรา” กล่าวเบาๆเมื่อเขาได้เห็นผู้อาวุโสที่อยู่ในห้อง “ท่านปู่ทวด ลืมมันไปซะเถอะ!”
ชิงสุ่ยรู้สึกตกตะลึง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติ “ชายที่ดูชรา” ผู้นี้นั้นดูไม่ใช่ชายชราปกติ นี่เป็นโรคร้ายแบบหนึ่ง หมดอายุขัยก่อนวัยอันควร!
หมดอายุขัยก่อนวัยอันควร เป็นสภาพร่างกายที่ดำเนินไปเร็วกว่าปกติ 5 เท่าถึง 10 เท่า ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวจะมีลักษณะคล้ายกับชายชรา อวัยวะภายในของพวกเขาก็จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วและการทำงานร่างกายของพวกเขาก็จะด้อยลงไปเช่นกัน ชิงสุ่ยยังคงรู้บางสิ่งเกี่ยวกับหมดอายุขัยก่อนวัยอันควร
“ข้าแน่ใจว่าท่านทั้ง 2 ต้องรับรู้เรื่องนี้ได้เช่นกัน อายุขัยของเขานั้นรวดเร็วกว่าวัยอันควร พวกเราไม่รู้เลยว่าเขาเป็นโรคนี้ได้อย่างไร เขาได้รับยารักษาไปจำนวนมากแต่นั่นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย……”
“ร่างกายของเขาคงปฏิเสธยาส่วนใหญ่ แม้แต่ยาที่ดีที่สุดก็อาจจะไร้ค่าเมื่อนำมาใช้กับเขา เหตุผลนั่นก็เพราะร่างกายของเขานั้นไม่อาจดูดซึมยาพวกนี้ได้” ในตอนนี้ชิงสุ่ยก็ยืนและกล่าวขึ้น
หมอปีศาจก็ยืนขึ้นเช่นกัน
“เช่นนั้น ท่านหมอเทวดารักษาโรคนี้ได้หรือไม่?” ผู้อาวุโสซื่อกงถามด้วยความตื่นเต้น
ชิงสุ่ยรู้แล้วว่าเหตุใดตระกูลซื่อกงจึงได้เชิญเขามา หมอปีศาจนั้นได้กลับมาเยาว์วัยอีกครั้งและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญ
“ได้ แต่ข้าต้องการเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน” ชิงสุ่ยกล่าวขึ้นหลังจากคิดครู่หนึ่ง
“จริงหรือ? ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นเวลาครึ่งเดือนนานกว่านั้น ข้ารอได้หากชสามารถรักษาโรคนี้ได้จริงๆ!”
ร่างกายของชิงสุ่ยนั้นมีปราณแห่งการหวนคืน เขาสามารถกระตุ้นให้มันออกมาจากร่างกายของเขาได้ แต่เขาต้องเพิ่มฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตไปสักหน่อยเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จให้มากขึ้น
ชายชราไม่ค่อยตื่นเต้นเมื่อได้ยินที่ชิงสุ่ยได้กล่าวขึ้น เขาเพียงคิดว่าชายผู้นี้อาจจะกล่าวเพื่อยืดเวลา แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่การพูดเรื่องราวที่ไร้สาระ เหตุผลนั่นก็เพราะชายผู้นี้สามารถพูดถึงเรื่องเหตุผลที่ยาต่างๆนั้นไม่ได้ผลและสามารถอธิบายเรื่องนี้ออกมาได้
“เช่นนั้น ข้าจะช่วยฝังเข็มให้ก่อนในตอนนี้ มันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแต่ก็ไม่ใช่การรักษาให้หายขาด เขาจะสามารถรู้สึกได้อย่างแน่นอน”
เวลาสำหรับการรักษาทั้งหมดนั้นไม่ได้ยาวนานนัก กินเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อดำเนินการไปได้สักพักชิงสุ่ยก็ป้อนฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตให้เขาได้กิน ชิงสุ่ยยังใช้เข็มแห่งชีวิตและความตายและเมื่อเขารวมมันเข้ากับปราณแห่งการหวนคืน เขาก็เห็นได้ว่า “ชายที่ดูแก่ชรา” ผู้นี้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้เขาดูมีอายุประมาณ 100 ปีแต่ในตอนนี้เขาเริ่มดูมีอายุประมาณ 90 ปี แม้ว่ามันจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แต่มันก็พอให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะว่าจิตวิญญาณของผู้ป่วยนั้นได้รับการรักษาเช่นกัน ในเวลาเดียวกันชายผู้นี้ก็ดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ร่างกายของเขานั้นดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
“ตงหลาง เจ้ารู้สึกเช่นไรบ้าง?” ผู้อาวุโสซื่อกงถามด้วยความตื่นเต้น