Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1330
บทที่ 1330 – การตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ของกายาร้อยบุปผา ดวงดาวสีทองดวงที่ 2 รูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์
ถ้าเขาจะต้องตั้งสมมติฐานจากเส้นลมปราณสวรรค์ซึ่งเป็นตัวเชื่อมต่อของเรื่องนี้ เขาอาจจะต้องตามหาหญิงสาวที่อยู่ในภาพโฉมงามทั้ง 12 คน อย่างไรก็ตามเขายังคงมีความรู้สึกว่าทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายดายนัก แต่เขาก็หยุดคิดเรื่องนี้ไปหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาตัดสินใจปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แม้ว่าเขาอาจไม่ได้พบเจอหญิงสาวในภาพโฉมงามทั้ง 12 คน แต่อีก 2 คนสุดท้ายนั้นจะเป็นอวี้ซูหนี่และมู่ชิงได้หรือไม่?
ในตอนนี้เหวินเหรินอูซวงก็ได้รับผลประโยชน์เช่นกัน นางสามารถเป็นคนแรกนอกจากเขาที่จะไปถึงระดับผู้พิทักษ์เทวะธรรมได้ หากนางอยู่ที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตกอาจจะไม่ได้โดดเด่นเพราะแม้แต่ชิงซาก็ถือเป็นผู้พิทักษ์เทวะธรรม แต่ที่นี่คือมหาทวีปทั้ง 5 พลังในระดับผู้พิทักษ์เทวะธรรมหนังสามารถอยู่เหนือทุกคนในมหาทวีปทั้ง 5 นี้ได้เลย
เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันเป็นเพราะเธอเป็นหนึ่งในหญิงสาวจากภาพโฉมงาม? หรือมันอาจจะเป็นเพราะพลังของนางเอง? เหวินเหรินอูซวงไม่เพียงแต่สามารถไปถึงระดับผู้พิทักษ์เทวะธรรม ร่างกายของนางนั้นก็เต็มไปด้วยพลังอันลึกลับ พลังในร่างกายของนางนั้นมีสีแดงและสีน้ำเงินเล็กน้อย นี่น่าจะเป็นอะไรบางอย่างที่มีเพียงร่างกายของนางเท่านั้นที่มี ในตอนนี้ร่างกายของนางได้ถือว่าตื่นขึ้นแล้ว ในภายภาคหน้าพลังของเธอคงจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับที่น่ากลัว
ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่ได้ตั้งใจที่จะพยายามควบคุมน้ำเชื้อของเขา ในตอนนี้เขาไม่ได้กังวลกับการตั้งครรภ์ เขาเชื่อว่าในภายภาคหน้าด้วยรองเท้า 9เทวาและธงสวรรค์ปัญจธาตุ การเดินทางไปมาแต่ละมหาทวีปย่อมไม่ใช่เรื่องที่ยากอย่างแน่นอน
ในอดีตแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดคุยกับเหวินเหรินอูซวงมากนักแต่เขาก็บอกได้ว่านางเป็นคนที่ชอบเด็ก เหวินเหรินอูกั่วนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้วตัวเขาเองและผู้คนของตระกูลชิงต่างก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกับนางมากที่สุด มันน่าจะเป็นความคิดที่ดีที่นางจะได้มีลูกเป็นของตนเองเช่นกัน
……
“ท่านพ่อ ซาลาเปา ข้าต้องการกินซาลาเปาหยก” ชิงหยุนวิ่งเข้ามาที่นี่ทันทีเมื่อนางเห็นชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยอุ้มนางขึ้นมาทันที“เด็กน้อย อดใจรอก่อน แม่ของเจ้าและคนอื่นๆกำลังทำมันอยู่ในตอนนี้ อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว”
สิ่งที่เขาได้มอบให้กับตระกูลชิงนั้นมีมากมาย แม้แต่สระน้ำของตระกูลชิงก็เต็มไปด้วยปลา เต่า ปู กุ้ง และอื่นๆจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ ไม่ว่ายังไงการขยายพันธุ์ของมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไปเมื่ออยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะของเขา หากไม่ใช่เพราะว่าสระน้ำแห่งนี้ได้พัฒนาจนเทียบได้กับทะเลสาบขนาดเล็กแล้ว มันย่อมไม่พอที่จะใส่ทุกๆสิ่งลงไปได้
เขายังใส่แม้แต่ปลาชีพนิรันดร์ลงไปในสระน้ำนี้เช่นกันเพื่อให้พวกนางสามารถปรุงบะหมี่ชีวิตยืนยาวเมื่อใดก็ตามที่ผู้อาวุโสในตระกูลถึงวันเกิดของพวกเขา สำหรับปลาอื่นๆ พวกเขาต่างใช้มันเป็นอาหารในทุกๆวัน สิ่งที่เขาได้ใส่ไว้ในอดีตก็หมดไปแล้ว เขาลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ดังนั้นเขาจำเป็นต้องกลับมาที่นี่ในทุกๆเดือน ในยามนี้ทุกๆสิ่งสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทุกๆครั้งที่เขาเติมสัตว์ต่างๆเข้าไปในสระน้ำแห่งนี้ปริมาณของมันก็เพียงพอที่จะให้ทุกๆคนในตระกูลกินได้เป็นเวลาครึ่งปี เพราะจำนวนที่เขาใส่ลงไปนั้นมากมายอย่างยิ่ง
ตลอดทั้งวันเขาช่วยเหลือคนอื่นๆด้วยการชำระล้างสิ่งสกปรกภายในร่างกาย บำรุงร่างกาย และยกระดับพื้นฐานร่างกายของพวกเขาด้วยการฝังเข็ม เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกเหนื่อยเขาจะกลับเข้าไปยังดินแดนของตนเองและพักผ่อนพร้อมกับปรุงยาขึ้นมา เขาทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปหลายวัน
ในตระกูลชิงไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่พวกเขาทั้งหมดต่างได้รับการบำรุงร่างกายด้วยเข็มแห่งชีวิตและความตาย พวกเขายังได้รับการชำระล้างสิ่งสกปรกภายในร่างกายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้พวกเขายังได้รับยาเม็ดเสริมสร้างลมปราณสวรรค์ ยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณตู ยาเม็ดอสรพิษทองคำ ยาเสริมกระดูก และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นถูกพัฒนาขึ้นด้วยฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตและหยกจากราชสีห์หยกที่ใส่เข้าไป ทำให้ผลของยาพวกนี้นั้นดีขึ้นไปอีก
ในยามค่ำคืนนอกเหนือจากคืนแรกชิงสุ่ยก็ได้เข้าห้องหนึ่งออกห้องหนึ่งตลอดทั้งคืน โดยทั่วไปแล้วเขาไม่ได้พักผ่อนตลอดทั้งคืน เขาต้องการที่จะหลับนอนกับหญิงสาวทั้งหมดพร้อมกับๆ แต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะทำเช่นนั้น เขาไม่อยากสร้างเรื่องที่ยุ่งยากให้แก่เหล่าหญิงสาว เขารู้ดีว่าพวกนางทั้งหมดต่างเป็นหญิงสาวที่ภาคภูมิใจในตนเอง และเขาเองก็รู้สึกพึงพอใจเช่นกันที่พวกนางเป็นเช่นนั้น
คืนนี้เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ชิงสุ่ยจะเปิดเข้าไปยังห้องของอวี้เหอ
อวี้เหอที่อยู่ในชุดนอนนั้นงดงามอย่างยิ่งจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เพียงแต่ดูเหมือนนางจะเหนื่อยล้าในตอนนี้ นางยิ้มขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นชิงสุ่ย “ที่นี่มีอะไรที่เจ้าต้องการงั้นหรือ สายเกินไปหรือเปล่าที่จะมาหาข้าในตอนนี้?”
“ใช่ มีบางอย่างที่ข้าต้องการพูดคุยกับเจ้า!” ชิงสุ่ยเข้าไปยังห้องของนางและลงกลอนประตูทันที
ในตอนนั้นชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าหัวใจของอวี้เหอเริ่มเต้นเร็วยิ่งขึ้น แต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ กลับกันเขามองตรงไปที่นาง
ชิงสุ่ยลูบจมูกของเขาพร้อมกับยิ้ม “มาคุยกันเถอะ!”
พรึ่บ!
“เหตุผลที่เจ้าลงกลอนประตูเพียงเพื่อต้องการพูดคุยกับข้างั้นหรือ?” อวี้เหอกล่าวติดตลกในตอนนี้เพราะนางรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง
“เหตุใดเราไม่ไปคุยเรื่องนี้กันบนเตียงล่ะ?” ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่จับมือของนาง
“ชิงสุ่ย ข้าอยู่ในตำแหน่งใดกันในใจของเจ้า?” อวี้เหอถามด้วยน้ำเสียงที่เศร้าซึม
ชิงสุ่ยตกตะลึง เขาจับมือของนางและนั่งลงพร้อมกันบนเก้าอี้นวมข้างๆ “อันที่จริงแล้ว ข้าเริ่มชื่นชอบเจ้าตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ด้วยกันในเมืองร้อยไมล์ เพียงแต่ในตอนนั้นเจ้าคงคิดว่าข้าเป็นเด็กคนหนึ่ง อันที่จริงแล้วข้าไม่อาจจะลืมเจ้าได้เลย ข้าคงรู้สึกโศกเศร้าอย่างแท้จริงหากรู้ว่าเจ้าได้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น แต่ข้าก็คงจะไม่แสดงท่าทีใดๆออกมาแม้ว่าข้าจะเจ็บปวดมากเพียงใด ในตอนนั้นเมื่อข้าได้พบกับเจ้าและรับรู้ในสิ่งที่เจ้าได้ทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ในตอนนั้นข้าก็รู้ทันทีว่าข้าต้องการโอบกอดเจ้าไว้ในอ้อมแขนของข้า”
“ข้ารักเจ้ามาโดยตลอด แต่บางครั้งข้าก็มีความรู้สึกว่าข้าไม่คู่ควรกับเจ้า แม้แต่ในตอนนี้ข้าก็ยังมีความรู้สึกเช่นนั้น ชิงสุ่ย บอกข้ามา ว่าข้าควรทำเช่นไร?”
“สิ่งใดกันที่เจ้าไม่คู่ควรกับข้า? เคล็ดวิชาของเจ้างั้นหรือ?” ชิงสุ่ยมองไปที่นาง
“ประมาณนั้น!”
“เจ้าคงมีความรู้สึกว่าเจ้าต้องเป็นศัตรูกับข้า เพียงแต่เมื่อเจ้าอยู่กับข้าย่อมสามารถรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เหตุผลที่เรามาอยู่ด้วยกันก็คือเพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถต่อสู้กันได้” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
“ข้าอยากจะช่วยเหลือเจ้า!” อวี้เหอพูดไม่ออกในตอนนี้ นางกลอกตาทันทีขณะที่มองไปยังชิงสุ่ย
“ความรักนั้นย่อมเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย เจ้าคิดว่าเราได้มาเป็นสามีภรรยากันเพียงเพราะเจ้าอยากช่วยเหลือข้างั้นหรือ?” ชิงสุ่ยมองไปยังหญิงสาวที่ปากแข็งผู้นี้
“ข้ารู้ดี อันที่จริงแล้ว ข้ายังคิดถึงสิ่งต่างๆตลอดเวลาเมื่อข้าตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่” อวี้เหอรู้ว่าชิงสุ่ยได้สำเร็จในสิ่งที่เขาปราถนาไปส่วนใหญ่แล้ว สำหรับสิ่งที่เขากำลังทำในตอนนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่อาจเร่งรีบได้
“พี่สาวอวี้ เจ้ายังจำวันที่เราพบกันที่เมืองร้อยไมล์ได้หรือไม่?”
“จำได้สิ เจ้าเป็นเด็กที่แปลกประปลาดในตอนนั้น เอาแต่คิดที่จะฉวยโอกาสจากข้า” เมื่ออวี้เหอคิดเรื่องวันวานในเมืองร้อยไมล์ นางก็รู้สึกคิดถึงมันยิ่งนัก
ชิงสุ่ยกอดนางให้อยู่ในอ้อมแขนของเขาทันที อวี้เหอร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นนางก็มองไปยังชิงสุ่ยด้วยสีหน้าที่เขินอาย
แม้ว่านางจะยังคงสวมเสื้อผ้าอยู่แต่เขาก็ดูดลงไปบนส่วนที่เว้าโค้งของนาง อวี้เหอรีบปิดปากของนางด้วยมืออย่างรวดเร็ว ร่างกายของนางกำลังสั่น อีกมือหนึ่งของนางนั้นโอบไปที่คอของชิงสุ่ยทันที
“อวี้เหอ เจ้าคือหญิงสาวของข้า โปรดมอบร่างกายของเจ้าให้แก่ข้า!” ชิงสุ่ยเงยหน้าขึ้นและมองไปยังหญิงสาวที่งดงามผู้นี้
อื้ม!
นางส่งเสียงออกมาเบาๆ
อวี้เหอนั้นราวกับหญิงสาววัยเยาว์ที่เพิ่งจะแต่งงาน เมื่อเทียบกันแล้วดูเหมือนร่างของนางจะมีเอวที่กลมกลึงมากกว่า แต่นางก็เป็นหญิงสาวที่ไม่เคยใกล้ชิดกับชายใดมาก่อน นางเคยแต่งงานครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้แต่น่าเสียดายที่ชายที่อายุสั้นคนนั้นไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะเฉลิมฉลองคืนแรกในเรือนหอของเขา
หญิงสาวทุกๆคนต่างก็มีสเน่ห์ตามแบบของตนเอง พวกนางมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อวี้เหอนั้นกล้าหาญอย่างยิ่งขณะที่นางจับจ้องไปยังชายที่กำลังเปลื้องผ้าของนางออก
กว่า 20 ปีมาแล้ว นางรู้จักกับเขามากว่า 20 แล้ว
“พี่สาวอวี้ เจ้าเคยหลงใหลในชายใดหรือไม่?” มือของชิงสุ่ยนั้นเคลื่อนไหวอยู่ตรงส่วนที่เปียกแฉะ เขาถามคำถามนี้ขณะที่จุมพิตเข้าไปที่หูของนาง
“นอกเหนือจากเจ้า ข้าก็ไม่เคยหลงใหลในชายใดมาก่อน ผู้ชายไม่ได้เป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับเจ้าแม้ว่าเจ้าจะเลวร้ายยิ่งกว่าข้าก็ยังคงหลงใหลในตัวเจ้า ข้าได้กล่าวออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ในชีวิตนี้ของข้านอกเหนือจากเจ้าข้าก็ไม่คิดจะลงเอยกับผู้ใดอีก” อวี้เหอกล่าวขณะที่นางโอบรอบคอของชิงสุ่ย น้ำเสียงของนางจริงจังอย่างยิ่งขณะที่นางกล่าวเช่นนี้
“ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานมาตลอดหลายปี” ไม่ว่าชายใดก็ต้องรู้สึกภูมิใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หญิงงามเช่นนางเป็นคนกล่าว
คำพูดเหล่านี้ช่างมีน้ำหนักอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น อาวุธสังหารของชิงสุ่ยที่แข็งราวกับเหล็กซึ่งไม่อาจควบคุมได้ในตอนนี้เมื่อมันถูกบีบรัดจากช่องแคบดอกไม้ที่นุ่มและเปียก
เคล็ดวิชาทวิไร้นามทำงานอีกครั้ง
ทะเลแห่งปัญญาของเขารู้สึกราวกับว่ามันถูกเปิดออก การเชื่อมต่อระหว่างเส้นลมปราณสวรรค์ยังไม่ได้ก่อตัวขึ้น แต่สิ่งที่ชิงสุ่ยรู้สีกตกตะลึงในตอนนี้เป็นดวงดาวสีทองอีกดวงปรากฏขึ้นในทะเลแห่งปัญญาของเขา ดวงดาวภายในทะเลแห่งปัญญาได้ขยายตัวออกไปกว่า 1 เท่าตัว
ในตอนนี้เขารู้สึกว่าประสาทสัมผัสของเขานั้นชัดเจนอย่างยิ่ง การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาสามารถรับรู้ถึงสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ นั่นหมายความว่าเปลวเพลิงแห่งชีวิตแต่ละจุดนั้นได้สว่างไสวมากยิ่งขึ้น ในอดีตมันมีเพียงสีดำและสีขาว แต่ในตอนนี้มันกลับมีหลากหลายสี นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาทรงพลังมากยิ่งขึ้น
พลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้น 1 เท่า พลังของรูปแบบดาราจักรกำลังจะได้รับการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ในตอนนี้เขาควรจะเริ่มฝึกฝนรูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์
แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เหตุผลนั่นก็เพราะว่าในตอนนี้อวี้เหอกำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าเขา ร่างกายของนางเปล่งแสงเรืองรองออกมา นอกจากนี้ดอกไม้จำนวนมากก็ปรากฏขึ้นในห้องนี้ ดอกไม้แต่ละดอกนั้นมีความแตกต่างกันออกไป นี่คือดอกไม้แห่งพลังวิญญาณ มันลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากนั้นมันก็รวมตัวกันจนเป็นรูปร่างของมังกรและพุ่งทะยานเข้ามายังร่างกายของอวี้เหอ ไม่นานหลังจากนั้นพลังอันบริสุทธิ์ก็โคจรไปมาระหว่างชิงสุ่ยและอวี้เหอ
กายาร้อยบุบผาได้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์!
เมื่อสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทั้งหมดมีได้หายไปอวี้เหอก็หันไปมองรอบๆและทับลงไปบนร่างกายของชิงสุ่ยด้วยร่างกายของนาง นางเขินอายอย่างยิ่งตอนที่มือทั้ง 2 ข้างของนางค้ำลงไปบนหน้าอกของชิงสุ่ย นางค่อยๆขยับเอวอย่างช้าๆ ในตอนนั้นเองมันก็รู็สึกราวกับว่าโลกใบนี้กำลังสั่นสะเทือน
……
ทั้งห้องเริ่มเงียบลง ในเวลาเดียวกันแสงของวันใหม่ก็ส่องเข้ามาจากภายนอก อีกไม่นานหลังจากนี้ท้องฟ้าก็คงจะสว่างขึ้นแล้ว ในทางกลับกันอวี้เหอนั้นรู้สึกดีไปจนถึงจิตวิญญาณ ชิงสุ่ยก็เช่นกัน ทั้งสองคนกำลังกอดกันอย่างแนบแน่นพูดคุยอย่างสนิทสนมกัน บางครั้งเสียงหัวเราะที่อ่อนโยนและเขินอายก็ดังขึ้น
“ชิงสุ่ย ข้าจะเริ่มเก็บตัวสู่ความสันโดษในวันพรุ่งนี้ ร่างกายของข้าได้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้ข้าสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ของของหุบเขาร้อยบุบผาได้แล้ว” อวี้เหอกล่าวอย่างเปิดเผย
“โอ้ เช่นนั้นก็ดี” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าร่างกายของข้าจะตื่นขึ้นด้วยวิธีการเช่นนี้ มันเป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยคิดถึงเลย” อวี้เหอทั้งตกตะลึงทั้งเขินอายในเวลาเดียวกัน
“เช่นนั้นเราค่อยทำกันอีกในอนาคต”
“เจ้าจอมวายร้าย!”
“ใครกันนะที่กดข้าให้อยู่ข้างล่าง”
“หยุดพูดเลย หากเจ้าพูดออกมาอีกก็อย่าหวังว่าจะได้ทำเรื่องนี้กับข้าอีกเลย” อวี้เหอตะโกนใส่ชิงสุ่ยด้วยความโกรธ
“พี่สาวอวี้อ เจ้ากำลังจะเข้าสู่ความสันโดษ เหตุใดจึงไม่ให้ข้าลองใส่มันดูอีกสักครั้ง” ชิงสุ่ยกระซิบที่ข้างหูของนาง
“อ๊า!” อวี้เหอรู้สึกตกตะลึงและเขินอายในเวลาเดียวกัน
“หืม? โปรดช่วยเติมเต็มความหวังเล็กๆน้อยๆนี้ของสามีเจ้าด้วย” ชิงสุ่ยกัดลงไปที่ใบหูของนาง
อวี้เหอค่อยๆคลานขึ้นมา นางค่อยๆยกสะโพกที่กลมสวยขึ้น ส่วนที่งดงามที่สุดบนร่างกายของนางปรากฏขึ้นตรงหน้าของชิงสุ่ยอย่างชัดเจน
……
เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้นอวี้เหอก็ได้เข้าสู่การเก็บตัว
ในทางกลับกันชิงสุ่ยยังคงฝึกฝนรูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ของเขา รูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ที่เขาไม่อาจบรรลุถึงแม้ว่าเขาจะฝึกฝนมันหนักเพียงใดในตอนนี้กำลังพัฒนาอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนหน้านี้เขามักจะขาดดาวดวงสุดท้ายไปเสมอ ในตอนนี้เขากำลังจัดวางดวงดาวสีทองดวงใหม่ซึ่งได้ปรากฏขึ้นไม่นานนี้
กลุ่มดาวในทะเลแห่งปัญญาของเขาได้ขยายออกไปอีกครั้ง นี่คือมหาสมุทรแห่งพลังวิญญาณของเขา ความสามารถในการกักเก็บของมันเพิ่มมากขึ้น ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ย่อมทำให้การโจมตีด้วยพลังวิญญาณของเขาทรงพลังขึ้นเช่นกัน ไม่เพียงแค่นี้รูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้
ด้วยรูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ ทั้งรูปแบบ7ดาราคล้อย 7 สวรรค์และรูปแบบ8ดาราคล้อย 8 สวรรค์นั้นต่างก็ไร้ประโยชน์ไปในเวลาเดียวกัน
รูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์นั้นช่วยเพิ่มการโจมตีด้วยพลังวิญญาณของเขาขึ้นอีก 3 เท่า นี่ทำให้มันมีพลังมากกว่าเดิมถึง 4 เท่า( 3เท่า ของเดิม1) มันยังสามารถช่วยเพิ่มพลังพื้นฐานของเขาอีก 1 เท่า การป้องกันของพลังวิญญาณนั้นเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า รูปแบบนี้หมุนเวียนด้วยตนเองจึงไม่ใช้พลังใดๆ การโจมตีจะใช้พลังเหมือนการโจมตีปกติ
ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายทางความคิดและความรู้สึกของเขาเป็นเวลานาน เขาไม่คาดคิดว่าพลังของเขาจะเพิ่มมากขึ้นขนาดนี้ในการเดินทางกลับมาครั้งนี้ เขายังได้รับการชำระล้างเส้นลมปราณสวรรค์ 8 เส้นจาก 12 เส้นอีกด้วย
ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถโจมตีออกไปได้มากถึง 50,000 สุริยาด้วยพลังวิญญาณของเขาเมื่อเขาใช้ตราประทับแห่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ หากเขาสำเร็จโอกาสที่จะเพิ่มพลังโจมตีขึ้นเป็น 2 เท่า พลังโจมตีของเขาจะพุ่งทะยานไปถึง 100,000 สุริยา
การโจมตีของหุบเขา 9 เทวาก็มีมากถึง 40,000 สุริยา การโจมตีปกติของเขานั้นมีพลังประมาณ 20,000 สุริยา หากเขาสำเร็จโอกาสที่จะเพิ่มพลังโจมตีขึ้นเป็น 2 เท่า มันย่อมเทียบได้กับพลังของหุบเขา 9 เทวา น่าเสียดายที่หุบเขา 9 เทวาไม่อาจเพิ่มพลังขึ้นเป็น 2 เท่าได้ อย่างไรก็ตามพลังโจมตีของมันนั้นก็มากกว่าเขาถึง 2 เท่า หุบเขา 9 เทวานั้นสามารถยกระดับขึ้นได้แต่น่าเสียดายที่มันนานมากแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่มันได้ยกระดับขึ้น