Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1352
บทที่ 1352 – 3แสนสุริยา
“ยังไงรึท่านหมอชิงสุ่ย ข้าไม่มีสิทธิที่จะมาที่นี่อย่างนั้นรึ ที่นี่ไม่ได้เป็นสถานที่มีไว้ช่วยเหลือผู้คนอย่างนั้ยรึ?”
ในตอนนี้ถึงแม้อี่หวง ตูซินจะไม่พอใจแต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา นั้นเพราะเขาแสดงท่าทีหยาบคายกับหยวนสู่ในครั้งก่อนจึงทำให้เขานั้นได้รับการต่อรับไม่ดีเท่าไรในครั้งนี้ แต่ถึงอย่างไรนี่คือเรื่องที่เขาคิดเอาไว้แล้ว นอกจากนี้เรื่องที่เกิดยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและต้องการตัวหยวนสู่มากขึ้น อะไรที่มันได้มายากๆมันยิ่งทำให้เขารู้สึกภูมิใจ
“เกรงว่านายท่านอี่หวงจะเข้าใจผิดแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ร้านค้าหรือร้านค้าทั่วๆไป ที่แห่งนี้มีไว้ช่วยเหลือคนที่ป่วยและเดือดร้อนเท่านั้น และดูเหมือนว่านายท่านั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเช่นนั้นเลย หากท่านไม่มีอะไรแล้วก็เชิญท่านกลับไปเถอะ!”ชิงสุ่ยนั้นพยายามกล่าวอย่างสุภาพ แต่แฝงเอาไว้ด้วยความเย่อหยิ่งในน้ำเสียงของเขา
“ฮ่าๆนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล่าวกับข้าเช่นนี้ ประเสริฐจริงๆ”ในตอนนี้ท่าทางของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าจะขอพูดอะไรหน่อย หยวนสู่เป็นหมอของหอคอยจักรพรรดิ ได้โปรดอย่าสร้างความลำบากใจให้นางอีก เพราะท่านไม่มีข้าที่จะทำเช่นนั้น”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างสงบนิ่ง
“เจ้าเดียรฉาน คิดว่าข้ายอมให้หน่อยก็ได้ใจแล้วรึ เจ้ารู้ไหมข้าคือใคร ข้าอี่หวงตูซิน เจ้าเคยได้ยินรึไม่?”เขากล่าวออกมาด้วยความโกรธแค้นใจ
“เห้อ เข้ารู้สึกหดหูแทนตระกูลอี่หวงจริงๆ ที่มีคนเช่นเจ้าอยู่ในตระกูล เพราะคนเช่นเจ้านั้นจะเป็นตัวปัญหาที่นำภัยไปหาตระกูลของเจ้าเอง”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส
“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าข้าเจ้าเพราะเจ้าเป็นหมอที่เก่งกาจอย่างนั้นรึ?”ดวงตาของเขาปรากฏความกระหายเลือดออกมา ขณะที่เขาจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความโกรธแค้น
“เจ้ารู้รึไม่มีคนมากมายที่เรียกเจ้าว่าลูกเดียรฉาน นั้นเพราะเจ้านั้นเป็นเพียงเศษสวะในเศษวะอย่างไงละ!”ชิงสุ่ยยังคงกล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่สนใจใยดี
“จริงรึ แต่ข้าได้ยินมา มีแต่คนยกยอว่าข้าคือบุตรแห่งสวรรค์ นอกจากนี้อีกไม่นานข้าก็จะกล่าวเป็นผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะทำยังไงกับพวกสวะที่กล่าวเช่นนั้นกับข้ากัน! ”
ในตอนนี้อี่หวงตูซินนั้นเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง นั้นเพราะเขามีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งและมีขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่สนับสนุนอยู่ ยิ่งในตอนนี้เขาอยู่ในจุดสูงสุดของปราณจักรพรรดิ ที่มีพลังถึง3แสนสุริยา แทบไม่มีใครเลยในรุ่นเดียวกับเขาที่เทียบเขาได้
“ถ้าเช่นนั้นเรามาลองสู้กัน หากเจ้าชนะก็พาหยวนสู่กลับไป แต่ถ้าแพ้เจ้าก็อย่ามายุ่งกับนางอีก”ชิงสุ่ยนั้นไม่ต้องการเป็นอริกับตระกูลอี่หวงดังนั้นนี้คือทางออกที่ดีที่สุด นอกจากนี้อี่หวงกู่หวู๋ยังเป้นของตระกูลอี่หวงอีกด้วย และเธอก็เป็นคนสำคัญของเขา คงจะไม่เป็นเรื่องดีเท่าไรหากจะมีเรื่องกับตระกูลของเธอ
“แพ้ให้คนเช่นเจ้าอย่างนั้นรึ?”เขาได้แต่หัวเราะและมองไปที่ชิงสุ่ย
“ทำไมเจ้าไม่กล้ารึ?” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว
“ได้หากเจ้าแพ้ ข้าจะพานางไป แต่ถ้าเจ้าแพ้ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับนางอีกต่อไป แต่เจ้าคิดจริงๆรึว่าจะสามารถเอาชนะข้า?”เขามองไปที่ชิงสุ่ยและกล่าวอย่างจริงจัง
“ก็ลองดู!”
“ดี ถ้าเจ้าแพ้ข้าจะให้เจ้าเป็นลูกน้องของข้า และสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเจ้า!”อี่หวงตูซินกล่าวออกมาอย่างไม่ยำเกรง
“ได้ ข้าก็สัญญาว่าข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า ออกไปข้านอกกัน เราะจะตัดสินแพ้ชนะกันในครั้งเดียว” ด้วยเหตุนี้ชิงสุ่ยจึงเดินนำออกไปข้านอกอย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกันผู้คนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นต่างลุกขึ้นและออกมาดูการประลองในครั้งนี้ การประลองสำหรับผู้มีชื่อเสียงนั้นหาดูได้ยากอย่างมากในทวีปแห่งนี้ นั้นเพราะพวกเขานั้นต้องระวังถึงขุมกำลังที่สนับสนุนพวกเขาอยู่ แต่นั้นไม่สามารถใช่กับชิงสุ่ยผู้ไม่สนใจอะไร ไม่ว่าสวรรค์รึพิภพ
“นี่ๆ หมอลึกลับของหอคอยจักรพรรดิจะสู้กับอี่หวงตูซินของตระกูลอี่หวง เจ้าเห็นรึไม่?”
“ใช่ๆจริงด้วย ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะสู้กันจริงๆ แล้วเจ้าคิดว่าใครจะชนะ?”
“เมื่อสิบปีก่อน อี่หวงตูซินได้ทะลวงเข้าสู่จุดสูงสูดของปราณจักรพรรดิแล้ว ตอนนี้เขานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก และมีข่าวว่าอีกไม่นานเขาก็จะทะลวงเข้าสู่ขั้นบัญชาสวรรค์พินาศได้ แล้วเจ้าคิดว่าใครจะนะกันละ?”
“นั้นสิ พวกเขาห่างชั้นกันเกินไป แต่ถึงอย่างไรข้าก็อย่างให้ท่านหมอชิงชนะอยู่ดี เขานั้นมีทักษะการแพทย์ที่เก่งกาจอย่างมาก แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าการบ่มเพาะของเขาจะแข็งแกร่งงขนาดไหนกัน”
“ในตอนนี้ข้าคิดว่าคงมีหลายๆคนที่ยื่นมือเข้าไปช่วยท่านหมอแน่นอนหากมีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นจริงๆ ด้วยฝีมือการแพทย์ของเขาแล้วมีแต่ผู้คนที่อยากได้ตัวเขาไว้?”
“เช่นเดียวกับตระกูลอี่หวงข้าคิดว่าเจ้าผู้ชายเสเพลคนนั้นคงไม่กล้าลงมือกับท่านหมอจริงจังหรอก มิเช่นเขาอาจถูกตระกูลของเขาตำหนิได้”
“เห้อ อี่หวงตูซินนะอี่หวงตูซิน เขาเป็นคนที่เก่งอย่างมากแต่ไม่น่ามีนิสัยเสเพลเช่นนี้เลย ด้วยฐานะความสามารถ และหน้าตาเขานั้นสามารถหาผู้หญิงได้อีกมากมาย แต่ทำไมเขาต้องมายุ่งกับสหายของท่านหมอชิงด้วยละ เห้อ! !”
ในตอนนี้มีผู้คนมากมายกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วงชิงสุ่ย
…..
ภายในระยะเวลาอันสั้นๆ ความโกลาหลได้เกิดขึ้นไปทั่วบริเวณนั้น
ชิงสุ่ยยืนอยู่กลางอากาศ เช่นเดียวกับอี่หวงตูซินที่อยู่ไม่ไกลออกไป ในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นไม่ได้นพอาวุธออกมา เพราะกระบี่ดาราบุพฆาตได้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับดวงดาวในตันเถียนของเขาเรียบร้อยแล้ว
เช่นเดียวกันอี่หวงตูซินนั้นก็ไม่ได้นำอาวุธออกมา
“มาเริ่มกันเถอะ”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว
“มา ให้ข้าดูสิว่านอกจากฝีมือทางการแพทย์แล้วเจ้ามีดีอะไรอีกบ้าง?”เขายกมือขึ้นและกวักมือเรียกชิงสุ่ย
“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง!”
ในทันทีหุบเขาเก้าเทวาถูกเรียกออกมาและเข้าประทะกับอี่หวงตูซิน ถึงแม้จะไม่ได้ถูกเขากับตัวของเขาแต่มันก็ให้เขาต้องหลบออกมาอย่างทุลักทุเล
เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น ความเร็วของชิงสุ่ยเพิ่มขึ้นมาอีกสามเท่าในตอนนี้
เช่นเดียวกันในตอนนี้อี่หวงตูซินได้เรียกเราะอสูรสำแดงออกมา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการประทะโดยตรงจากหุบเขาเก้าเทวา แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่น้อยจะแรงประทะ เช่นเดียวกันในตอนนี้หุบเขาเก้าเทวาได้เข้าตรงไปที่ข้างหน้าของเขาอีกครั้งหนึ่ง
ในตอนแรกชิงสุ่ยนั้นไม่ได้สนใจใยดีเขา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายนั้นเรียกเกราะอสูรสำแดงออกมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดมัน นั้นเพราะเขาไม่สนว่าอีกผ่ายจะใช้ลูกไม้อะไรก็ตามที นอกจากนี้หากชิงสุ่ยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเรียกเกราะอสูรสำแดงออกมา เกรงว่าอี่หวงตูซินคงสินชื่อไปในการประทะเพียงครั้งเดียว
กระบี่!
ในเวลานี้เขาได้ดึงกระบี่ออกมา มันเป็นกระบี่ที่มีความยาวถึง3ฟุต ที่อัดแน่นไปด้วยพลัง ขณะที่เขามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความไม่เชื่อตัวเอง
ชิงสุ่ยนั้นไม่ได้ไล่กดดันเขา เพราะเขามันใจว่าอี่หวงตูซินนั้นไม่มีทางเลยที่จะรับมือเขาได้ นอกจากนี้หากเขารีบไล่ให้อี่หวงตูซินแพ้ไป ชายผู้นี้คงไม่มีทางรับได้ละคงไม่ยอมตัดใจจากหยวนสู่ง่ายๆ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงตัดใสใจให้เขาใช้ทุกๆอย่างออกมา
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีสมบัติเช่นนี้อยู่”ในตอนนี้กระบี่ในมือของเขาค่อยๆสันสะท้านและปล่อยกลิ่นอายที่รุนแรงออกมา
“เข้ามาด้วยทุกสิ่งที่เจ้ามีซะ มิเช่นนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน มิเช่นนั้นเจ้าจะได้เสียใจไปตลอดชีวิต!”
“นั้น เจ้าก็ลองรับกระบี่ของข้าดู”
ด้วยการเคลื่อนไหนที่อัดแน่นไปด้วยพลัง อี่หวงตูซินฟาดกระบี่ออกมา ในขณะนี่ห้วงอากาศแยกออกจากกันและตรงเข้าหาชิงสุ่ย ราวกับความมืดมิดได้ตรงเข้ามากลื่นกินชิงสุ่ย
“ทักษะกระบี่เหงาภูต!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นชิงสุ่ยเดาะลิ้นของเขาขึ้น “สมกับเป็นตระกูลอี่หวง ทักษะของเขาแข็งแกร่งจริงๆ หากเป็นคนอื่นๆคงยากที่จะรับมือกับห้วงมิติที่ฉีกขาดเช่นนี้ !”
อี่หวงตูซินคิดว่าความสามารถของชิงสุ่ยนั้นมาจากหุบเขาที่อยู่ข้างหน้าเขา หาไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเขาเอง ตราบเท่าที่เขาสามารถหลบมันไปได้และจู่โจมเขาใส่ชิงสุ่ยได้ ชัยชนะก็จะตกเป็นของเขา
ในตอนนี้ขณะที่คลื่นกระบี่ตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ความเร็วของชิงุส่ยก็ได้เพิ่มขึ้น และหลบมันไปได้อย่างง่ายดาย
ย่างก้าวเก้าเทวา!
กฎแรงโน้มถ่วง!
ในตอนนั้นเองร่างกายของอี่หวงตูซินกลับเปลี่ยนเป็นหนักอย่างมาก จนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ ขณะที่เงาของพระราชวังขนาดไหนได้ปรากฏขึ้นและกดทับเขาเอาไว้
กฎแห่งการกลืนกิน!
หุบเขาเก้าเทวา!
ตูม!
เสียงประทะดังสั่นขึ้น ถึงอย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ไม่ได้ซ้ำและจู่โจมลงไป
อย่างไรก็ตามการจู่โจมดังกล่าวนั้นก็ทำให้อี่หวงตูซินนั้นใช้พลังทั้งหมดออกมา ในตอนนั้นเองเขาได้กระอักเลือดกองโตออกมา ชิงสุ่ยได้บังคับหุบเขาเก้าเทวาจู่โจมลงไปอีกครั้งเพื่อจบเรื่อง
“ท่านหมอชิงโปรดยั้งมือก่อน!”
ทันใดนั้นเสียงที่ทรงพลังได้ดังขึ้นมาจากระยะไกลๆ
มุมปากของชิงสุ่ยยิ้มขึ้นเล็กน้อย ในตอนนี้ตระกูลอี่หวงได้ติดหนี้เขาหนึ่งครั้งแล้ว ในอนาคตจะไม่มีใครที่จะมากล่าวก่ายเขาได้อีก
ในเวลานี้อี่หวงตูซินไม่สามารถทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดได้ เขาทั้งสับสนและมึนงง เขาเป็นถึงคนที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นและเป็นความหวังของคนในตระกูล กลับมาแพ้ให้กับเด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเองมากๆ และแทบที่จะไม่สามารถรับมือเขาได้เลย มันทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างมาก ราวกับว่าสิ่งที่เขาเชื่อถือมาตลอดได้พังทลายลงไปในตอนนี้ คงเหลือไว้เพียงแค่ความอัปยศอดสูเท่านั้น