Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1364
บทที่ 1364 – เผชิญหน้ากับตระกูลอี่หวง
เวลาได้ผ่านไป 1 สัปดาห์โดยไม่รู้ตัวนับตั้งแต่อี่หวง กู่หวู๋ได้มายังมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ นางไม่ได้ไปยังตระกูลอี่หวงในทันที นางกำลังรอคอยเวลาที่ดีที่สุดอยู่ อีก 3 วันหลังจากนี้จะเป็นวันที่อี่หวง ตูซินแต่งงานกับภรรยาใหม่ แน่นอนว่านี่ย่อมไม่ใช่ภรรยาคนแรกของเขาและไม่ใช่คนสุดท้ายด้วยเช่นกัน
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากที่คนของตระกูลใหญ่จะแต่งงาน แต่ครั้งนี้หญิงสาวที่อี่หวง ตูซินจะแต่งงานด้วยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา นางถือว่ามีสูงศักดิ์ที่สุดในหมู่หญิงสาวที่เขาเคยแต่งงานด้วย
นายหญิงน้อยแห่งตระกูลชือ!
ตระกูลชือเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังมากที่สุดในเมืองอี่หวง พวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลอี่หวงเลยและในตอนนี้เหตุผลที่พวกเขาแต่งงานทางการเมืองกับตระกูลอี่หวงก็เพราะดูเหมือนว่าพวกเขารู้สึกว่าตนเองโดนคุกคาม
การคุกคามที่มาจากชิงสุ่ยและตระกูลปู้หยาง เหล่าชนขั้นสูงในอาณาจักรอี่หวง ผู้อาวุโสปู้หยางได้ยกระดับขึ้นไปยังขั้นที่ 2 ระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ นี่ยังทำให้ตระกูลอี่หวงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเพราะพวกเขากำลังจะถูกแทนที่ด้วยตระกูลปู้หยาง
สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในโลกใบนี้ หลายปีที่ผ่านมาตระกูลอี่หวงนั้นสามารถต่อกรกับตระกูลปู้หยางได้อย่างราบรื่นและยังพยายามเชื่อมความสัมพันธ์กับขุมอำนาจอื่นๆเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของพวกเขา
ในช่วงเวลานี้ตระกูลอี่หวงนั้นพยายามสานความสัมพันธ์กับชิงสุ่ยด้วยเช่นกัน แต่ชิงสุ่ยย่อมเลือกที่จะไม่ข้องเกี่ยวกับตระกูลอี่หวง ตระกูลอี่หวงนั้นรู้ดีถึงความสำคัญของชิงสุ่ย ผู้อาวุโสของพวกเขายังต้องการความช่วยเหลือของชิงสุ่ยเพื่อช่วยยืดเวลาชีวิตของพวกเขา
ในช่วงเวลานี้ผู้คนของตระกูลอี่หวงนั้นต้องการความช่วยเหลือของชิงสุ่ยเพื่อช่วยยืดเวลาชีวิตของเหล่าผู้ที่อยู่ในระดับพลังปราณนักบุญพิโรธของพวกเขา ชิงสุ่ยไม่ได้ตกลงและใช้วิธีการอื่นๆในการปฏิเสธต่อพวกเขา แต่ตระกูลอี่หวงนั้นตระหนักถึงปู้หยาง ชิงและหญิงชราจากตระกูลปู้หยางที่ทั้ง 2 คนได้รับความช่วยเหลือจากชิงสุ่ยในการยืดเวลาชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้การที่ทั้งสองนั้นยกระดับขึ้นนั้นต้องขอบคุณชิงสุ่ย
หากปราศจากชิงสุ่ย ความสามารถของตระกูลปู้หยางย่อมไม่อาจเทียบกับตระกูลอี่หวงได้ เพราะตระกูลปู้หยางนั้นไม่มีผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณนักบุญพิโรธเลยเมื่อเทียบกับตระกูลอี่หวง แต่ในตอนนี้พวกเขามีขั้นที่ 2 ระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจหนึ่งคนซึ่งสามารถเทียบได้กับผู้ที่อยู่ในขั้นที่ 1 ระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ 10 คนหรือมากกว่านั้น
ชิงสุ่ยได้ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือตระกูลอี่หวงในทุกๆเรื่องๆ ตระกูลอี่หวงหวังว่าชิงสุ่ยจะช่วยเหลือพวกเขาสักคนหรือหลายๆคนให้ยกระดับไปยังขั้นที่ 2 ระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ หากเป็นเช่นนั้นรากฐานของพวกเขาย่อมมั่นคงมากยิ่งกว่าเดิม
เมื่อชิงสุ่ยช่วยเหลือทุกๆตระกูลแต่ไม่ช่วยเหลือตระกูลอี่หวง นี่หมายถึงเขาได้วางตัวเป็นศัตรูกับตระกูลอี่หวง ชิงสุ่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลายๆตระกูล ตระกูลอี่หวงไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลายๆตระกูลแต่ไม่ว่าพวกเขาจะร้องขอไปมากเพียงใดพวกเขาก็ไม่อาจได้รับการรักษาเหมือนตระกูลปู้หยางได้
ผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจของตระกูลอี่หวงนั้นได้ตัดสินใจแล้ว เพราะพวกเขาไม่อาจใช้ประโยชน์จากคนๆนี้ได้และคนๆนี้อาจเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาได้ในอนาคต เช่นนั้นพวกเขาก็ควรทำให้คนๆนี้หายไปตลอดกาล แต่พวกเขาต้องไม่ทำให้มันชัดเจนจนเกินไป
ตระกูลอี่หวงนั้นเป็นตระกูลที่มีประวัติอันยาวนานในอาณาจักรอี่หวงและมีรากฐานที่ฝังลึกในเมืองอี่หวง พวกเขายังมีความสัมพันธ์กับหลายๆตระกูลและในตอนนี้พวกเขาได้แต่งงานกับตระกูลชือเพื่ออิทธิพลที่เพิ่มขึ้น มีตระกูลมากมายที่ยอมแต่งงานเพื่ออิทธิพลกับตระกูลอี่หวงและตระกูลเหล่านี้สามารถรวมตัวกันเป็นเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่ ตระกูลอี่หวงยังคิดที่จะเชิญชวนให้ชิงสุ่ยมายังงานแต่งงานของอี่หวง ตูซิน
หากพวกเขายื่นคำเชิญชวนให้แก่ชิงสุ่ยพวกเขาย่อมไม่ต้องทำสิ่งใดเลยในตระกูลอี่หวง พวกเขาตั้งใจจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตระกูลอี่หวงและชิงสุ่ยรวมถึงหอคอยจักรพรรดินั้นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน
…
ในวันนี้เมืองอี่หวงนั้นยังคงมีชีวิตชีวาเหมือนดังปกติ การแต่งงานทางการเมืองระหว่างตระกูลอี่หวงและเมืองหลวงของมหาทวีปนั้นถือเป็นข่าวใหญ่ ตั้งแต่ชิงสุ่ยได้เอาชนะอี่หวง ตูซินในหลายปีที่ผ่านมา อี่หวง ตูซินไม่เพียงได้รับบาดเจ็บแต่เขายังสามารถยกระดับไปยังขั้นแรกเริ่มของระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจได้ ไม่รู้ว่าดขาจะถือเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าสู่ระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำหรือไม่แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจที่อายุน้อยที่สุดในอาณาจักรอี่หวง
การพบปะกับชิงสุ่ยนั้นคือการเผชิญหน้าสำหรับเขา ในตอนนี้เขาทรงพลังมากยิ่งกว่าในอดีต ตราบใดที่เขาสามารถกำจัดชิงสุ่ยไปได้ เมื่อถึงตอนนั้นอี่หวง ตูซินย่อมมีชื่อเสียงอย่างยิ่งในเมืองอี่หวง
แต่หากคนอื่นๆได้รับความช่วยเหลือของชิงสุ่ย เช่นนั้นความได้เปรียบของตระกูลอี่หวงย่อมไม่ได้มากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจกำจัดชิงสุ่ย ไม่ว่ายังไงชิงสุ่ยก็ไม่ได้เป้นประโยชน์ต่อตระกูลอี่หวง สำหรับผู้อาวุโสของตระกูลอี่หวงบางคนที่อยู่ในจุดสูงสุดของระดับพลังปราณจักรพรรดิพวกเขาต้องยอมแพ้ในเรื่องนี้ไป เพื่อประโยชน์ของวงศ์ตระกูลที่คือเรื่องที่พวกเขาไม่อาจขัดขวางได้
อี่หวง กู่หวู๋นั้นตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่และออกไปยังลานฝึกฝนด้วยความมึนงง หยวน สู่ก็ออกมาพร้อมกับนาง ในตอนนี้นางได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลอี่หวงและอี่หวง กู่หวู๋ เมื่อคิดว่าชายคนที่ทำให้นางเกือบจะเอาชีวิตรอดออกมาไม่ได้นั้นเป็นคนเดียวกับที่อี่หวง กู่หวู๋ได้บอกนาง คนผู้นี้ไม่ได้ดีไปกว่าสัตว์ป่าเลย…
ชิงสุ่ยเดินออกมา หยวน สู่ยิ้มให้กับเขาและพยักหน้า “พี่สาวหวู๋นั้นอารมณ์ไม่ค่อยจะดี เจ้าควรไปพูดคุยกับนาง”
จากนั้นหยวน สู่ก็จากไป
“เจ้าคงรอคอยวันนี้มาอย่างยาวนาน แต่ตอนนี้เจ้าไม่ได้รู้สึกยินดีงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยถามเบาๆ
“ข้ายินดีอย่างยิ่ง วันนี้คงจะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาแต่มันก็ผ่านมานานหลายปีแล้วที่ท่านแม่ของข้าต้องตายจากไป ข้าสงสัยว่าเขายังจดจำหญิงสาวที่ถูกเขาบีบบังคับจนต้องไปสู่ความตายได้หรือไม่” อี่หวง กู่หวู๋ก้มศีรษะลงเล็กน้อย มือของนางนั้นกำลังสั่น ในตอนนี้สภาพของนางนั้นดูน่าสงสารอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะพูดอะไรมากในเรื่องนี้ได้ นอกจากนี้อี่หวง กู่หวู๋นั้นยังเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่ง เรื่องของตระกูลอี่หวงนั้นได้รับการจัดการจนเสร็จสิ้น นางย่อมสามารถเดินออกจากเงาของตนเองและเผชิญหน้ากับโลกใบนี้ได้
“ชิงสุ่ย ไปกันเถอะ มันถึงเวลาแล้ว” อี่หวง กู่หวู๋มองขึ้นไปบนท้องฟ้าจากนั้นนางก็ยิ้มให้ชิงสุ่ยและกล่าวขึ้น
“ตกลง!” ชิงสุ่ยยิ้มและตอบนานก่อนที่จะตรงไปยังตระกูลอี่หวงพร้อมกับอี่หวง กู่หวู๋ด้วยมังกรไอยราเกล็ดทองคำ
ตอนนี้ใกล้จะถึงยามบ่ายแล้ว มีแขกมากมายอยู่ที่นี่และชิงสุ่ยก็ได้รับคำเชิญด้วยเช่นกัน แต่ในครั้งนี้ชิงสุ่ยนั้นเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงอีกครั้ง
ตระกูลอี่หวงย่อมรอคอยชิงสุ่ยอย่างแน่นอน เมื่อพวกเขาจะทำเช่นนี้ย่อมทำให้คนอื่นๆรู้สึกว่าตระกูลอี่หวงนั้นดูแลชิงสุ่ยด้วยความเคารพอย่างยิ่ง แต่มีเพียงคนของตระกูลอี่หวงที่รู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ก็มีบางคนที่ใจร้อนและบ่นด่าชิงสุ่ยออกมาเบาๆ เพราะคนมากมายต้องมารอคอยเขา หากเวลามงคลต้องคลาดเคลื่อนไปเพราะเขานั่นคงถือเป็นตราบาปครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา
“เขามาถึงแล้ว!”
…
ความวุ่นวายเกิดขึ้น มังกรไอยราเกล็ดทองคำขนาดยักษ์นี้โดดเด่นอย่างยิ่ง ในตอนนี้ชิงสุ่ยนั่งอยู่บนมังกรไอยราเกล็ดทองคำที่อยู่เหนือตระกูลอี่หวง นี่ถือเป็นการกระทำที่ไม่เคารพอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยนั้นนั่งอยู่บนมังกรไอยราเกล็ดทองคำและเมื่อทุกคนสังเกตเห็นว่ามีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆเขา หญิงสาวผู้นี้งดงามจนไม่มีใครเทียบได้ แต่เมื่อชิงสุ่ยหญิงสาวผู้นี้ลงมา ผู้คนก็มองพวกเขาด้วยสายตาที่ประหลาดใจทันที
นี่เพราะหลายๆคนบอกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้คล้ายคลึงกับอี่หวง ตูซินอย่างยิ่ง แต่มีเพียงคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของอี่หวง กู่หวู๋ ผู้คนที่มาในวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่สหายของตระกูลอี่หวง ยังมีผู้คนมากมายที่มีความสัมพันธ์กับตระกูลอี่หวง ตัวอย่างเช่น ตระกูลตู่กู๋ ตระกูลปู้หยาง ตระกูลหลัว และอื่นๆ
บางคนดูเหมือนจะมีความสุขในขณะที่บางคนกำลังขมวดคิ้ว นี่เป็นเพราะพวกเขากำลังคาดคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้และพวกเขากำลังคิดว่าพวกเขาควรจะทำตัวเช่นไรดีในตอนนี้
“ฮ่าฮ่า ท่านหมอเทวดาชิงได้มาที่นี่แล้ว” อี่หวง ตูซุยและคนอื่นๆของตระกูลอี่หวงก็ออกมาต้อนรับเขาด้วยความอบอุ่น
ผู้ที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ในตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นชายชราที่อยู่ในจุดสูงสุดของระดับพลังปราณจักรพรรดิ ผู้ที่อยู่ในระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจย่อมไม่เข้าข้องเกี่ยวกับเรื่องธรรมดาเช่นนี้ มันเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่ชายชราคนนี้เข้ามา ไม่นานหลังจากที่ชิงสุ่ยได้มาที่นี่ผู้ที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นชายชราผู้นี้
อี่หวง อู๋ฟู่!
ชายชราผู้นี้คือปู่ที่แท้จริงของอี่หวง ตูซินที่อยู่ในจุดสูงสุดของระดับพลังปราณจักรพรรดิ เหดตุผลที่ตระกูลได้ผลักดันชายชราผู้นี้ให้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ก็เป็นเพราะอี่หวง ตูซิน แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นเป็นเพราะชายชราผู้นี้ทรงพลังอย่างยิ่ง
ชายชราผู้นี้ย่อสามารถยกระดับไปยังระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจได้โดยปราศจากปัญหาใดๆ เขาต้องการเพียงเวลาเท่านั้น แต่เขาทำได้เพียงรอ ในตอนนี้เขายังเหลือเวลาชีวิตอีกมาก
“ข้าขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกๆคนต้องรอ ข้าต้องล่าช้าเพราะเรื่องบางอย่างและนี่คือคำขอโทษจากข้า”
ผู้ใดกันที่กล้าล่าช้าในเรื่องของตระกูลอี่หวงเพราะมีเรื่องราวบางอย่าง? มีเพียงชิงสุ่ยเท่านั้นที่สามารถกล่าวเช่นนี้ได้ หลังจากที่ทุกๆคนได้รับรู้ถึงลำดับความสำคัญของตระกูลอี่หวง ชิงสุ่ยก็สามารถใช้เหตุผลแก้ตัวว่าเขากำลังรักษาคนอื่นๆอยู่แต่หากเป็นหมอคนอื่นๆย่อมไม่มีผู้ใดกล้าล่าช้าเช่นนี้แม้ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม
ชิงสุ่ยมองตรงไปยังอี่หวง กู่หวู๋ ก็มีสายตาของคนๆหนึ่งจ้องมองมาที่เขาจากเบื้องบน
อี่หวง ตูซิน!
อี่หวง ตูซินมองตรงมายังพวกเขาด้วยสายตาที่กังวลเล็กน้อย เขาได้เห็นอี่หวง กู่หวู๋ คนอื่นๆอาจจะจำนางไม่ได้แต่เขาย่อมจำได้ ในตอนนี้เขารู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่ง
อี่หวง ตูซินและอี่หวง อู๋ฟู่นั้นนั่งอยู่ตรงกลางของโต๊ะ ขณะที่คนอื่นๆของตระกูลชือและนายหญิงน้อยของตระกูลชือก็นั่งอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน นายหญิงน้อยของตระกูลชือนั้นเป็นหญิงสาวที่อี่หวง ตูซินกำลังจะแต่งงานด้วยในวันนี้
ชิงสุ่ยก็ได้เห็นนายหญิงน้อยของตระกูลชือเช่นกัน นางเป็นหญิงสาวร่างสูงและสง่างาม เสื้อผ้าอันหรูหราของนางนั้นทำให้นางดูงดงามและเย้ายวนยิ่งขึ้น นี่เป็นหญิงสาวที่ดูงดงามอ่อนหวานและดวงตาที่งดงามของนางนั้นเหมือนเมฆหมอกบังอยู่
ชิงสุ่ยไม่ได้คาดคิดว่าหญิงสาวผู้นี้จะเป็นคนหนึ่งที่มีร่างกายที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ชายหนุ่มมากมายนั้นเปรียบเทียบหญิงสาวให้เป็นน้ำ ความต้องการด้านราคะของนางนั้นทรงพลังอย่างยิ่งแต่การฝึกยุทธของนางนั้นไม่ได้ทรงพลัง นางสามารถใช้เสน่ห์ของตนเองเพื่อเย้ายวนชายหนุ่มได้
“อี่หวง ตูซิน เจ้ายังจำข้าได้หรือไม่?”
เสียงของอี่หวง กู่หวู๋นั้นไม่ได้ดังมากนักแต่ทุกๆคนก็ได้ยินอย่างชัดเจน
ชิงสุ่ยตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าอี่หวง กู่หวู๋จะกล่าอย่างตรงไปตรงมากับอี่หวง ตูซินทันที
“เจ้าคือหวู๋น้อยงั้นหรือ ?” อี่หวง ตูซินถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่ได้พบเจอนางมานานหลายปี ครั้งสุดท้ายที่เขาได้พบนางนั้นนางยังเด็กยิ่งนัก อี่หวง กู่หวู๋นั้นดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างยิ่งขณะที่อี่หวง ตูซินไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แม้ว่าเขาจะได้พบนางครั้งสุดท้ายตั้งแต่นางยังมีอายุได้ไม่ถึง 10 ขวบแต่เขาก็ยังสามารถจดจำนางได้
“เจ้าเป็นคนหนึ่งที่บีบบังคับท่านพ่อของข้าและครอบครัวของเขารวมถึงท่านแม่ของข้าให้ไปสู่ความตาย เหตุผลที่เข้ามาในวันนี้เพื่อให้เจ้าตอบคำถามในเรื่องนี้” อี่หวง กู่หวู๋ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาขณะที่นางจ้องมองไปยังอี่หวง ตูซินอย่างใจเย็น
ตอนนี้หลายๆคนของตระกูลอี่หวงได้เข้าใจแล้วว่าเหตุใดชิงสุ่ยจึงไม่ต้องการช่วยเหลือตระกูลอี่หวง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของชิงสุ่ยกับหญิงสาวคนนี้ย่อมไม่ใช่ธรรมดา
พวกเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้ทรงพลังมากเพียงใด แต่เมื่อคิดว่าชิงสุ่ยอยู่ด้วยกันกับนางทุกๆอย่างก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ผู้คนจำนวนมากเบิกตากว้างขึ้น
ผู้ชายบกครองโลก ผู้หญิงปกครองผู้ชายและยังสามารถเหนือกว่าผู้ชายได้
“เจ้าทราบเรื่องนี้หรือไม่?”
“มันก็ผ่านไปนานหลายปีแล้ว ใครจะจำเรื่องนี้ได้กัน?”
“ข้ามีความรู้สึกที่คลุมเครือในเรื่อง นายน้อยอี่หวงได้ฉกชิงหญิงสาวผู้นั้นมาเพราะว่านางงดงามอย่างยิ่ง ผู้คนจำนวนมากก็ได้รับรู้ในเรื่องนี้ แต่หญิงสาวผู้นี้ก็ถูกทำให้เสียโฉมในเวลาต่อมาและนายน้อยอี่หวงก็ได้ทิ้งนางไป”
“เช่นนั้นเหตุใดอีกหญิงสาวผู้นี้จึงบอกว่านายน้อยอี่หวงบีบบังคับครอบครัวของนางให้ไปสู่ความตาย?”
“หญิงสาวที่งดงามราวกับปีศาจผู้นั้นจริงๆแล้วนางได้หลงรักอี่หวง ชิงเฟิง แต่นางถูกนายน้อยอี่หวงฉกชิงตัวมา ในท้ายที่สุดหลังจากนายน้อยอี่หวงได้ทิ้งหญิงสาวผู้นี้ไป อี่หวง ชิงเฟิงก็ยังคงรับนางมาเป็นภรรยาของเขาโดยไม่สนใจคำนินทาแต่อย่างใด เขายังได้ดูแลลูกของนางที่ไม่ใช่แม้แต่ลูกของตนเอง แต่เมื่อนายน้อยอี่หวงรับรู้เรื่องนี้ในภายหลัง มันอาจจะเป็นเพราะความอิจฉาที่ทำให้อี่หวง ชิงเฟิงและครอบครัวของเขาต้องไปสู่ความตาย”