Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1518 – ระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจขั้นสูงสุด
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1518 – ระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจขั้นสูงสุด
บทที่ 1518 – ระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจขั้นสูงสุด
เมื่อชิงสุ่ยได้ยินคำพูดของฉินชิง เขารู้ได้ว่าเธอสบายดีและไม่เป็นไร แต่เขายังคงซักไซ้เธอต่อ “ให้ข้าดูหน่อยเถอะ หากข้าได้เห็นว่าเจ้าสบายดี ข้าจะไปจากที่นี่ ไม่เช่นนั้นข้าจะอยู่ตรงนี้คอยปกป้องเจ้าไปตลอด”
น้ำเสียงของชิงสุ่ยฟังดูแผ่วเบาและเต็มไปด้วยอารมณ์อันคลุมเครือ เขารู้ว่ามันไม่เหมาะ แต่เนื่องจากพูดมันออกไปแล้ว มันจึงไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
ฉินชิงนิ่งเงียบอยู่หลังประตู ชิงสุ่ยยืนอยู่ข้างนอกด้วยความกังวลในใจ เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มห่วงใยหญิงสาวคนนี้
ฉินชิงนั้นงดงามมาก ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอเป็นหนึ่งในหญิงบนภาพโฉมงาม เมื่อเขาไม่มีอะไรจะทำ เขามักจะมองดูภาพฉินชิงภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ด้านในดินแดนอัตราส่วนของเวลาจะแตกต่างจากโลกภายนอก เขาได้รับภาพโฉมงามของฉินชิงมานานนับสิบปีแล้ว ดังนั้นชิงสุ่ยจึงรู้สึกว่าเขาคุ้นเคยกับเธอมาป็นเวลานาน
ทันใดนั้นมีเสียงแง้มของประตูดังขึ้นขณะมันเปิดออก เรืองร่างอันสมบูรณ์แบบปรากฏต่อหน้าชิงสุ่ย เธอยิ้มให้เขา “ข้าไม่เป็นไร ตอนนี้เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ!”
ชิงสุ่ยยิ้ม เขาไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ระหว่างคนทั้งสอง มิตรภาพของพวกเขาอาจยังดูไม่ลึกซึ้ง แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ย่อมพูดได้ว่าสายสัมพันธ์ของพวกเขานั้นมีมากเกินกว่าเพื่อนทั่วๆไป
“ข้ามีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?” ฉินชิงรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นชิงสุ่ยจ้องเขม็งใส่เธอ เธอได้แต่ก้มหน้าต่ำลง
“อืมม ไม่มีอะไร นับว่าดีแล้วที่เจ้าสบายดี ไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะรอพบเจ้าในวันพรุ่งนี้” น้ำเสียงของชิงสุ่ยฟังดูประหม่า หลังจากนั้นเขาโบกมือลาและกลับไป
ชิงสุ่ยจากไป ฉินชิงยิ้มขณะจ้องมองเขาลับหายไปจากสายตา ในส่วนลึกของหัวใจเธอมันสั่นไหวราวกับจะระเบิดออกมา น่าเศร้าที่ชิงสุ่ยไม่สามารถเห็นมันได้
ตั้งแต่ต้นชิงสุ่ยมีท่าทีสงบนิ่งเสมอมา แต่ในวันนี้เขากลับรู้สึกสับสนวุ่นวาย เขาตระหนักว่าตัวเองได้ตกหลุมรักฉินชิงแล้ว แต่ทำไมเขาถึงตกหลุมรักเธอ เขาไม่สามารถหาเหตุผลของมันได้
ถ้าเป็นเพราะความแข็งแกร่งและความงดงามของเธอ ชิงสุ่ยไม่คิดว่าใช่ ถ้าเขาจะรักใครสักคน เขาไม่มีทางรักแค่เพียงหนึ่งหรือสองส่วนของคนผู้นั้น มันต้องเป็นทั้งหมดของเธอ
หลังจากกลับมาถึงห้อง ชิงสุ่ยเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่เพื่อสงบสติอารมณ์ลง ท้ายที่สุดเขาตัดสินใจที่จะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติและไม่พยายามหลบเลี่ยงเธอ
ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 6 ได้รับการปรุงเก็บไว้พอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 7 ยังคงต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อย นอกจากนี้ค่าประสบการณ์ของเขาเริ่มที่จะไม่เพียงพอและเขาไม่สามารถหาค่าประสบการณ์มาเพิ่มได้นัก อีกทั้งชิงสุ่ยยังขี้เกียจเกินกว่าที่จะหาคำตอบ
……
เช้าวันรุ่งขึ้นมีแขกมาเยือนหอคอยจักรพรรดิ คนผู้นั้นเป็นชายชราและมีกลิ่นอายที่ไม่แน่นอน ท่าทางของเขาดูทุกข์ใจและต้องการจะพบชิงสุ่ย
เป็นเรื่องบังเอิญที่ชิงสุ่ยเดินลงมาและสังเกตเห็นชายชราในทันที มันเป็นเพราะพลังของชายชรานั้นสูงมาก ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ด้วยการรับรู้ทางจิตวิญญาณ
ชายชราค่อนข้างมีอายุและผมสีขาวโผลน แต่ร่างกายของเขายังดูแข็งแรงและไม่ได้อ่อนแอไปตามอายุขับ ดวงตาของเขาส่องประกายความอาวุโส คิ้วที่หนาและปากที่ใหญ่แสดงให้เห็นว่าเขากล้าหาญ
“ผู้อาวุโส ท่านมีเหตุใดจึงมาพบข้า?” ชิงสุ่ยยิ้มเล็กน้อยขณะเดินเข้าไปหา
ชายชราศึกษา ชิงสุ่ย เป็นเวลานานถึงจุดที่ ชิงสุ่ย แทบสาปแช่งออกมาดัง ๆ และสงสัยว่าชายชราคนนี้เป็นเกย์หรือไม่
“ข้ามาจากตระกูลฮั่ว” คำพูดสั้นๆของชายชราทำให้ชิงสุ่ยเริ่มเข้าใจ
“2 วันก่อนมีคนในตระกูลของข้ามาที่นี่เพื่อเชิญเจ้า แต่เนื่องจากเจ้าค่อนข้างยุ่ง ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาด้วยตัวเอง” ชายชรากล่าวช้าๆและหัวเราะ
อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของชายชราฟังดูน่าขนลุก แต่เขาควบคุมตัวเองไม่ให้แสดงความไม่สบายใจออกมา
กลิ่นอายและการรับรู้ทางจิตวิญญาณของชายชราเริ่มมุ่งเป้ามาที่ชิงสุ่ย สำหรับคนในบริเวณนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กับชิงสุ่ยมันเป็นเรื่องที่ง่าย หากให้ความเคารพเขา เขาก็จะแสดงความเคารพตอบ กลับกันถ้าใครเจตนาไม่ดีกับเขา เขาก็จะไม่ยอมให้คนผู้นั้นอยู่อย่างสบายเช่นกัน
“ออกไปข้างนอกกันก่อนเถอะ แล้วพวกเราค่อยมาคุยกันต่อ” ชิงสุ่ยชี้ออกไป แม้ชายชราจะยังไม่ได้ตกลง เขาก็เดินตรงไปยังจุดที่ชี้
สีหน้าของชายชรายังไม่เปลี่ยนไป เขาเคลื่อนไหวออกมาจากหอคอยจักรพรรดิด้วยความรวดเร็ว
ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงการรับรู้ทางจิตวิญญาณของชายชราที่ติดตามตัวเขา นี่เป็นพลังที่รุนแรง ชายชราผู้นี้มาจากตระกูลฮั่วและไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา แต่ถึงกระนั้นชิงสุ่ยก็ไม่ใช่คนเดิมในอดีตและเขายังมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังอยู่
ชิงสุ่ยไม่ได้ชักช้า แต่ชายชราก็สามารถตามติดเขาได้อย่างง่ายดาย ชิงสุ่ยลอยขึ้นไปบนอากาศก่อนจะยิ้มให้กับชายชราที่ปรากฏเบื้องหน้าเขา
ตอนนี้ชายชราเปลี่ยนไปจากเดิม เขาปลดปล่อยสัมผัสที่คมกริบราบกับกระบี่ที่ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้
กลิ่นอายอันรุนแรงของชายชราพุ่งเข้าใส่ชิงสุ่ยครั้งแล้วครั้งเล่า
“ไม่จำเป็นต้องปลดปล่อยแรงกดดันมากมายเช่นนี้ ในมุมมองของข้า ข้าคิดว่ามันดูน่าอาย” ชิงสุ่ยยิ้มโดยไม่คำนึงว่าชายชราผู้นี้จะแข็งแกร่งเพียงใด การกระทำของเขาทำให้ชิงสุ่ยไม่พอใจ
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าทำให้ตระกูลฮั่วของข้าเสียหน้าและดูเป็นตัวตลกในเมืองหลินห่าย?” ชายชราแผ่รัศมีความโกรธเกรี้ยวขณะจ้องมองชิงสุ่ย
อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นทันที ชิงสุ่ยยังคงนิ่งสงบ การควบคุมดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋าของเขาไม่ได้น้อยหน้าชายชรา เขาสามารถลดแรงกดดันลงได้ “ท่านมาที่นี่ในวันนี้เพราะเรื่องนั้นงั้นหรือ?”
ชิงสุ่ยรู้สึกหดหู่เล็กน้อย แม้ว่าเขาจะทำให้ตระกูลฮั่วเสียหน้า แต่มันก็เป็นเพราะตระกูลฮั่วตั้งตังเป็นศัตรูกับเขาก่อน อันที่จริงตระกูลฮั่วและหอคอยจักรพรรดิไม่ได้มีความขัดแย้งกันมากมาย
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ คุณชายแห่งตระกูลฮั่วถูกทุบตีจนสูญเสียความเป็นผู้ชาย พวกเขารู้สึกทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก
แต่มันผิดอะไรสำหรับชิงสุ่ย? การไม่สังหารชายหนุ่มผู้นั้นถือว่าเขามีความเมตตามากแล้ว เหตุผลที่ชายชรามาในวันนี้ไม่ใช่เพราะชายหนุ่ม มันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของตระกูลฮั่ว
“เช่นนั้นก็หมายความว่าหากสหายและข้าถูกรังแก ข้าทำได้เพียงอดทนและห้ามตอบโต้หรือ?” ชิงสุ่ยยิ้มและมองไปที่ชายชรา
“มันง่ายสำหรับคนหนุ่มสาวที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง รักษาเขาและไปชดเชยความขายหน้าของพวกเราซะ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” ชายชรากล่าวอย่างจริงจังขณะมองชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยมองไปที่ชายชราอยู่นาน เขามั่นใจว่าชายชราไม่ได้ล้อเล่นกับเขา จากนั้นเขาก็ยิ้ม “ท่านมั่นใจมากหรือที่จะนำตัวข้าไป?”
ชายชรายิ้มเช่นกัน “ข้าไม่จำเป็นต้องบอกเจ้าเรื่องนี้ ข้าอยู่ในระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจขั้นสูงสุด เจ้ามีความสามารถอะไรที่จะมาต่อกรกับข้า?”