Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1571 – การพูดคุยและการเจรจาต่อรอง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1571 – การพูดคุยและการเจรจาต่อรอง
บทที่ 1571 – การพูดคุยและการเจรจาต่อรอง
“ข้ารู้ดีว่าเจ้าไม่มีปัญหาอะไรในการเอาชนะเขา ข้าเป็นผู้หญิงของเจ้าดังนั้นจึงรู็สึกอิจฉานัก จิน ลี่อวี้นั้นเป็นเพียงเด็กที่ยังไม่โตเต็มวัย” อีเย่ เจี้ยนเก้อกล่าวขึ้นอย่างเขินอาย
“หากข้ายังเป็นเด็กที่ยังโตเต็มวัย ข้าก็จะขอดื่มนมของเจ้า…”
ชิงสุ่ยและอีเย่ เจี้ยนเก้อต่างก็พูดคุยกันทางกระแสจิตทำให้ไม่มีผู้ใดได้ยินพวกเขาได้
แต่คำพูดของเขาทำให้นางต้องเขินอายจนต้องหันไปมองเขาด้วยความโกรธ ชิงสุ่ยเลียริมฝีปากของตนเองดวงตาของเขาจับจ้องไปที่หน้าอกของอีเย่ เจี้ยนเก้อ
อีเย่ เจี้ยนเก้อรู้สึกอับอายจนต้องก้มหน้าลงไป
“เมื่อพวกเจ้าเห็นด้วยเช่นนี้ ทำไมเราไม่ไปกันเลยละ?” จิน ลี่อวี้ดูเหมือนจะเป็นกังวลในตอนนี้
ท่าทีของจิน ลี่อวี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกไม่ค่อยดีเล็กน้อย หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงรู้สึกโกรธไปแล้วแต่ในตอนนี้เขาได้เข้าใจมนุษย์อสูรและเขาก็ได้รับรู้จากคำพูดของอีเย่ เจี้ยนเก้อว่าสมองของจิน ลี่อวี้นั้นเหมือนจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง
“ท่านจ้าววังที่ 3 รีบประลองกันให้เสร็จสิ้นเถิดไม่อย่างนั้นอาหารจะเย็นซะก่อน” คนที่พูดเช่นนี้ขึ้นมาคือหัวหน้าของมนุษย์เงือก
“ท่านจ้าววังที่ 3 ชิงสุ่ยนั้นเป็นสามีของท่านจ้าววังที่ 2 และถือเป็นแขกของพระราชวังทะเลราชันย์ นี่ค่อนที่ไม่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้น” มนุษย์เงือกเกล็ดดำ เหลียงเทงหลง กล่าวขึ้น
“เจ้ากลัวงั้นหรือ?” จิน ลี่อวี้มองไปยังชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยเกาศีรษะของเขาและเดินออกมาข้างนอก “มาประลองกันข้างนอกเถอะ ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้รับบทเรียน เจ้าอยากจะบ้าคลั่งด้วยพลังอันน้อยนิดของตนเอง?”
ด้วยธรรมชาติของจิน ลี่อวี้ คำพูดของชิงสุ่ยเป็นเหมือนไฟที่โหมกระหน่ำความโกรธของเขาให้เพิ่มมากขึ้น เขาตามชิงสุ่ยออกไปข้างนอก
“เจี้ยนเก้อ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?” มู่หยุน ชิงเฉิงยิ้มเจื่อนๆ เรื่องนี้ช่างรับมือได้ยากจริงๆ
“ข้าบอกชิงสุ่ยไปแล้วว่าห้ามสังหารเขา” อีเย่ เจี้ยนเก้อก็ไม่รู้จะทำเช่นไร
“เจ้าช่างมั่นใจยิ่งนักว่าชิงสุ่ยจะสามารถเอาชนะเขาได้” มู่หยุน ชิงเฉิงมองไปยังอีเย่ เจี้ยนเก้อด้วยความสงสัย บอกตามตรงนางรู้สึกว่าชิงสุ่ยนั้นลึกลับยิ่งนักและยังเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของนาง นางรู้เพียงว่าความสามารถทางด้านการแพทย์ของเขานั้นสูงยิ่งนักแต่ไม่ได้รู้ถึงระดับพลังของเขา
“ข้าเชื่อในตัวเขา ไปดูกันเถอะเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ตอนนี้ถือเป็นวิกฤตของพระราชวังทะเลราชันย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเราในตอนนี้คือต่อกรกับทั้งมังกรสมุทรและพระราชวังฉลามอสูร” อีเย่ เจี้ยนเก้อดึงมือของมู่หยุน ชิงเฉิงออกมาข้างนอก
“มาเริ่มกันเถอะ!”
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าการรับมือกับคนอย่างจิน ลี่อวี้นั้นไม่ง่ายนัก แม้ว่าคำพูดของเขานั้นก็ไม่ได้ผลมีเพียงต้องใช้กำลังเท่านั้น
“ตกลง!” จิน ลี่อวี้พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าทันที
เมื่อจิน ลี่อวี้ทำเช่นนั้น ชิงสุ่ยก็ตามเขาขึ้นไปทันที
พลังของจิน ลี่อวี้นั้นถือว่ามากพอจนชิงสุ่ยไม่กล้าที่จะประมาท หลังจากนั้นพวกเขาออกมาที่น้ำด้านนอกพระราชวังทะเลราชันย์
ชิงสุ่ยเหมือนปลาที่พุ่งทะยานไปในสายน้ำไม่ต้องพูดถึงจิน ลี่อวี้เลย ร่างกายของเขาค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นจนใหญ่โตเท่าภูเขา
สิ่งที่น่ากลัวมากยิ่งกว่าความสามารถในการเปลี่ยนแปลงร่างกายของมนุษย์อสูรคือความสามารถในการฟื้นฟูของเขา พร้อมกันนั้นน้ำวนขนาดใหญ่ราวกับพายุไต้ฝุ่นก็ปรากฏขึ้นข้างๆจิน ลี่อวี้
“เตรียมรับให้ดี ข้าจะไม่ออมมืออีกต่อไป” ปากที่ใหญ่โตของจิน ลี่อวี้กล่าวขึ้น
“โจมตีมาเลย แม้ว่าเจ้าจะตัวใหญ่ก็เป็นเพียงแค่ปลาตัวหนึ่ง” ชิงสุ่ยนำง้าวทองทะลวงศัตรูของเขาออกมา
พลังระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา พลังในตอนนี้ของชิงสุ่ยนั้นถือว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง เขาเพิ่มพลังของตนเองขึ้นมาถึงจุดสูงสุดเพื่อต้องการเอาชนะจิน ลี่อวี้โดยเร็วที่สุด
แม้ว่าร่างกายของจิน ลี่อวี้จะมีขนาดใหญ่แต่ก็เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วในน้ำ หางขนาดใหญ่ของเขาสะบัดไปมา น้ำไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของเขากลับกันมันช่วยให้หางของจิน ลี่อวี้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าเขาไม่สามารถหลบการโจมตีที่เข้าได้จึงเลือกที่จะไม่ขยับไปไหน เขาใช้ง้าวทองทะลวงศัตรูในมือของเขาพร้อมกับกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตรวมถึงทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึกเมื่อโจมตีสวนกลับไป
ชิงสุ่ยไม่ได้รับผลจากการอยู่ภายในน้ำเพราะเขาใช้โล่วารีวชิระ
ปัง!
ง้าวทองทะลวงศัตรูเปล่งประกายสีทองงดงามออกมาเมื่อเขาโจมตีไปที่หางขนาดใหญ่ของจิน ลี่อวี้ ง้าวทองทะลวงศัตรูมีโอกาส 1% ที่จะเจาะทะลุทะลวงและเมื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จอีก 3% จาทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึก แม้ว่าโอกาสสำเร็จมันจะน้อยแต่เมื่อโจมตีออกไปหลายร้อยครั้งโอกาสนี้ก็ถือว่ามากยิ่งนัก
เมื่อมันปรากฏขึ้นในตอนนี้จิน ลี่อวี้ก็ต้องร้องคร่ำครวญออกมา หากไม่ใช่เพราะโล่วารีวชิระ ชิงสุ่ยย่อมได้รับผลที่รุนแรงจากกระแสน้ำในตอนนี้แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้รับผลอะไรเลย
เส้นทางมังกรทะยาน!
ร่างของชิงสุ่ยพุ่งออกไปทันทีพร้อมโจมตีออกไปด้วยง้าวทองทะลวงศัตรูในมือของเขา ไม่มีปัญหาสำหรับชิงสุ่ยที่จะป้องกันการโจมตีของจิน ลี่อวี้ในตอนนี้ดังนั้นเขาจึงโจมตีจิน ลี่อวี้ออกไปตรงๆโดยปราศจากความกลัว
จิน ลี่อวี้รู้สึกเสียใจในตอนนี้นี่มันปีศาจที่อยู่ในร่างของมนุษย์ ร่างกายของมนุษย์อสูรนั้นทรงพลังมากกว่ามนุษย์ธรรมดา แต่ในตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาทั้ง 2 คนนั้นแทบไม่ต่างกันเลย
เขตแดนแห่งมังกรสมุทร!
ร่างกายอันใหญ่โตของจิน ลี่อวี้เริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกับเปร่งแสงกระจายไปทั่วบริเวณนี้ ชิงสุ่ยรู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะด้าน ความเร็ว ความคล่องตัวและพลังป้องกัน
แม้ว่ามันจะไม่รุนแรงนักแต่ก็ส่งผลต่อเขาเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ชิงสุ่ยเข้าใจความสามารถที่น่ากลัวของจิน ลี่อวี้แล้วเพราะเขาได้เผชิญมันด้วยตนเอง
อีเย่ เจี้ยนเก้อได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าจิน ลี่อวี้นั้นถือเเป็นคนสำคัญของพระราชวังทะเลราชันย์ ดูเหมือนว่าเขตแดนแห่งมังกรสมุทรจะทรงพลังและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
มันส่งผลต่อชิงสุ่ยในตอนนี้ สิ่งที่ชิงสุ่ยไม่รู้คือเคล็ดวิชานี้มันส่งผลรุนแรงมากเพียงใดต่อคนอื่นๆ
สิ่งที่จิน ลี่อวี้ใช้ออกมาในการต่อสู้มากที่สุดนั้นคือเขตแดนแห่งมังกรสมุทรและรูปแบบประตูมังกรสมุทร ด้วย 2 สิ่งนี้ทำให้พระราชวังทะเลราชันย์สามารถรับมือการโจมตีของพระราชวังมังกรสมุทรและพระราชวังฉลามอสูรแม้จะยากลำบาก
แต่น่าเสียดายที่จิน ลี่อวี้ต้องมาปะทะกับชิงสุ่ยในตอนนี้ ชิงสุ่ยมองไปรอบๆตัวและยิ้มออกมา การทำลายศรัทธาของคนอื่นนั้นเราต้องทำให้สิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่นที่สุดนั้นกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่า
เคล็ดวิชาล่าสังหาร!
วชิระคลั่งสังหาร!
ปราณจักรพรรดิ!
นี่ทำให้จิน ลี่อวี้รู้สึกราวกับเขาตกอยู่ในบ่อโคลนทันที เขามองตรงไปที่ชิงสุ่ยที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยท่าทีที่ดูโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องคำรามของจิน ลี่อวี้จนจิน ลี่อวี้กระเด็นกลับเข้าไปในเขตแดนของพระราชวังและกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์
“อย่าตีข้าเลย… ข้ายอมแพ้แล้ว…ข้ายอมแพ้แล้ว…”
จิน ลี่อวี้ร้องออกมาในตอนนี้ อารมณ์ที่ฉุนเฉียวของชิงสุ่ยหายไปทันทีหลังจากนั้นเขาก็หันมามองจิน ลี่อวี้ด้วยรอยยิ้ม
จิน ลี่อวี้ตัวสั่นเล็ฏน้อยจากการจ้องมองนี้ มู่หยุน ชิงเฉิงและอีเย่ เจี้ยนเก้อต่างก็อยากจะหัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นเช่นนี้ คนอื่นๆต่างมองมาที่ชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจด้วยพลังของชายหนุ่มผู้นี้
“เจ้ายอมแพ้จริงๆงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยยิ้ม
“จริงสิ เมื่อเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ข้าจะเชื่อฟังคุณและทำทุกอย่างที่เจ้าพูด” จิน ลี่อวี้ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่ได้แสดงท่าทีที่โหดเหี้ยมออกมาแต่ความรู้สึกที่เขาได้รับจากชิงสุ่ยก็ทำให้เขารู้สึกกลัวเล็กน้อย
มนุษย์อสูรนั้นเป็นเช่นนี้ พลังคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับพวกเขา เมื่อชิงสุ่ยสามารถเอาชนะจิน ลี่อวี้ได้ด้วยพลังของเขา เขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี
ชิงสุ่ยพยุงเขาขึ้นมา “เจ้าเป็นจ้าววังที่ 3 แห่งพระราชวังทะเลราชันย์และไม่ใช่คนนอกแต่อย่างใด เรามาเป็นพี่น้องกันเถอะ”
จิน ลี่อวี้สับสนไปในทันทีเมื่อเขากล่าวอออกมาว่า “เจ้าอยากเป็นพี่น้องกับข้าจริงๆหรือ? แต่เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้ามากเลยนะ”
“การเป็นพี่น้องเกี่ยวอะไรกับความแข็งแกร่ง? หากทุกๆคนทำแบบนั้นก็คงไม่มีความสัมพันธ์ที่จริงใจ การเป้นพี่น้องกันใช้เพียงจิตวิญญาณของความรักเท่านั้น” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง เขาไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับมนุษย์อสูร แต่ที่เขาพูดตอนนี้เป็นความจริง จิน ลี่อวี้ทรงพลังมากพอที่จะต่อสู้ร่วมกับเขาได้และยังสามารถเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันได้ ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยยังรู้สึกได้ว่าจิน ลี่อวี้นั้นสามารถเป็นสหายที่ดีได้
“ตกลง ดียิ่งนัก นับแต่นี้ไปท่านถือเป็นพี่ชายของข้า” จิน ลี่อวี้กล่าวอย่างมีความสุข
ชิงสุ่ยรู้สึกดีอย่างยิ่งกับเหล่ามนุษย์อสูร ชิงสุ่ยตบไหล่เขาด้วยรอยยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา
สิ่งที่คนอื่นๆเห็นในตอนนี้คือความสงบและความสุขที่เกิดขึ้นเพราะพวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพระราชวังทะเลราชันย์นั้นคือเรื่องของพระราชวังมังกรสมุทรและพระราชวังฉลามอสูร แม้ว่าพวกเขาจะชอบทำสงครามแต่พวกเขาก็ไม่อยากเห็นชิงสุ่ยหรือจิน ลี่อวี้ต้องล้มตายเพราะต่อสู้กัน
หลังจากกลับไปทานอาหารอารมณ์ของทุกๆคนก็ดียิ่งนัก ทุกๆคนรู้สึกอิจฉาเมื่อรู้ว่าชิงสุ่ยและอีเย่ เจี้ยนเก้อเป้นสามีภรรยากันแต่พวกเขาก็เพียงรู้สึกเท่านั้น
“ข้าได้รับข่าวมาใหม่ แม้ว่าจะผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้วพระราชวังมังกรสมุทรและพระราชวังฉลามอสูรก็ยังต้องการกลับมาต่อสู้กับพวกเราอีกครั้งเพื่อชัยชนะของพวกเขา” อีเย่ เจี้ยนเก้อมองไปรอบตัวและกล่าวขึ้น
“พวกเขาโจมตีพวกเรามาหลายครั้ง แม้ว่าพวกเราจะไม่ตอบโต้แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถทำอะไรพวกเราได้โดยง่าย” จิน ลี่อวี้ขมวดคิ้ว ความเสียใจบนใจหน้าของเขาหายไปแล้วในตอนนี้
“อย่าประมาทพวกเราอาจจะแพ้ได้” มู่หยุน ชิงเฉิงยิ้มพร้อมกับมองตรงไปที่ชิงสุ่ย
ดวงตาของจิน ลี่อวี้เปล่งประกายขึ้น “หากมีพี่ชายชิงอยู่ที่นี่ พวกเราย่อมชนะได้อย่างแน่นอน ความสามารถของท่านพี่ราวกับมีเวทมนตร์”
จิน ลี่อวี้รับรู้ได้ถึงความสามารถที่น่ากลัวของชิงสุ่ยและไม่ได้พูโออกทั้งหมดเพียงแค่ความสามารถที่ลดพลังของศัตรูได้ก็ถือว่าน่ากลัวมากแล้ว หากชิงสุ่ยโจมตีไปพร้อมกับมู่หยุน ชิงเฉิงและอีเย่ เจี้ยนเก้อพวกเขาย่อมสามารถเอาชนะประมุขของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว