Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1696 – สังหารปรมาจารย์ที่สอง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1696 – สังหารปรมาจารย์ที่สอง
บทที่1696 – สังหารปรมาจารย์ที่สอง
ในเวลานี่สายตาของปรมาจารย์สองเปลี่ยนไปจากที่เต็มด้วยจิตสังหารได้เปลี่ยนไปเป็นสงบนิ่งความเกลียดชังหรือความอาฆาตพยาบาทที่เคยปรากฏในดวงตาของเขาได้จางหายไป ตอนนี้เขานิ่งสงบราวกับยอมรับความตายที่ใกล้เข้ามา
ชิงสุ่ยเองรู้สึกตกใจในการเปลี่ยนไปของเขาอย่างมากมันผิดปกติอย่างบอกไม่ถูก ในตอนนี้สภาพแวดล้อมในตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นเงียบสงบอย่างฉับพลัน เสียงระเบิดที่เคยกึงก้องกังวานไปทั่วได้เงียบสงบลงในตอนนี้
เขาได้แต่จ้องมองไปที่ชายคนนั้นด้วยความแปลกใจและไม่เข้าใจทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เขาทำไปทำไมมันมีเหตุผลอะไร ทำไมเขาถึงสามารถสงบนิ่งได้ในเวลาที่ใกล้ตายเช่นนี้
ปรมาจารย์สองได้สูญเสียแขนไปข้างหนึ่งพร้อมกับกรงเล็บที่ถูกทำลายไป แล้ว มันทำให้เจตรมในการต่อสู้ของเขามอดดับไป
แม้ชิงสุ่ยจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้แต่ชิงสุ่ยก็พอที่จะคาดการณ์ได้ นั้นเพราะผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งจะรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่ควรถอยเมื่อไหร่ที่ควรยอมแพ้ เช่นเดียวกันในเวลานี้เขารู้แล้วว่าเขาไม่มีทางใดอีกต่อไปที่จะจัดการกับชิงสุ่ยได้
อย่างไรก็ตามในตอนนี้แม้เขาจะหมดหนทางแต่เขาก็ไม่ยอมถูกใครสังหารอย่างง่ายๆแน่นอน
เขาเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง!
ในจังหวะที่เขาพุ่งเขามาเงาสีดำขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นข้างหลังของเขามันคือเงาของสัตว์อสูรขนาดยักษ์ ที่มีร่างกายเป็นหมาป่าและมีหัวเป็นมังกร แม้ว่าชิงสุ่ยจะมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็สามารถยอกได้ว่ามันนั้นเป็นเพียงแค่เงาเท่านั้น
ในจังหวะนั้นเองเงาสีดำดังกล่าวได้พุ่งเข้าหาชิงสุ่ยในพริบตามันผสานกับกรงเล็บของปรมาจารย์ที่สองตรงขย้ำลงไปที่หน้าอกของชิงุส่ยอีกครั้ง
ตูม!
เสียงกระชากของสายลมแก่อให้เกิดการระเบิดของมิติออกมาสร้างหลุมดำขนาดใหญ่ออกมา ในเวลานี้กลิ่นอาจของเงาสีดำได้ขยายตัวออกมาเป็นวงกว้าง พร้อมกลับระเบิดรังสีฆ่าพันออกมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมองไปที่มันในตอนนี้ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่าเงาดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยพลังที่เกิดจากการรวบรวมของพลังแห่งฟ้าดิน ปราณ และรพลังวิญญาณเอาไว้ นี่เป็นเหตุผลทีมันทรงพลังอย่างมาก
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ร้อยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ได้ปรากฏตัวขึ้นที่มุมปากของชิงสุ่ยก่อนที่เขาจะควงง้าวทองมือของเขาอีกครั้ง
ตูมๆ!
การระเบิดได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องภูเขานับๆร้อยลูกถูกทำลายด้วยการประทะในครั้งนี้ !
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้แล้วว่านี้คือไพ่ตายของชายผู้นี้เขาคิดจะลากชิงสุ่ยไปด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าการจู่โจมขอเขาจะทรงพลัง แต่ชิงสุ่ยก็ยังสามารถต้านทานมันไว้ได้ ชิงสุ่ยไม่ได้หลบจากการจู่โจมในครั้งนี้เขาใช้พลังทั้งหมดในการผลักดันมันกลับไป เขารู้สึกว่ามันจะเป็นไรที่เสี่ยงกว่าหากเขาเกิดความผิดพลาดในการหลบนี้
อย่างไรก็ตามด้วยความแตกต่างในด้านพลังชิงสุ่ยสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลานี้
ร่างของปรมาจารย์ลำดับสองค่อยๆถูกผลักกลับไปหลังจากที่ชิงสุ่ยสามารถทำลายเงาดังกล่าวลงไปได้ ในจังหวะที่ชายปรมาจารย์ที่สองกระเด็นกลับหลังไป ชิงสุ่ยไม่ลังเลใจอีกต่อไป เขาพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ของเขาอย่างรวดเร็ว และฟาดง้าวทองในมืออกไป
ฉึก…..
ง้าวทองฟาดลงไปที่ลำตัวของเขาในตอนนี้มันทำให้พลังที่ปกคลุมร่างกายเขาอยู่สลายไปในพริบตา เวลานี้ร่างกายของเขาฉาบไปด้วยเลือดสีแดงสด ก่อนที่เขาจะหันไปมองที่ชิงสุ่ยด้วยสายตาที่อ้างว้าง ในตอนนี้แม้แต่ไพ่ตายที่ต้องแลกด้วยชีวิตของเขาก็ไม่สามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้ มันทำเขาได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าใจ นี่คือจุดจบขอชีวิตที่ยาวนานของเขา Aileen-novel
เดิมทีบาดแผลของเขาไม่ได้ร้ายแรงมากนักแต่เป็นเพราะผลกระทบของวิชาต้องห้าม มันทำให้เส้นลมปราณของเขาถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด ในเวลานี้เขาได้แต่รอความตายเท่านั้น
ในเวลานี้ชิงสุ่ยเหาะไปใกล้ๆเขาอย่างช้าๆก่อนที่จะยกง้าวทองขึ้นในจังหวะที่ชิงสุ่ยจะพันลงมา เขาได้กล่าวบางอย่างออกมาในตอนนี้
“ชิงห่านอี่เป็นของเจ้า ข้าจะไม่แย่งชิงนางกับเจ้าอีกต่อไป ข้าขอยอมแพ้”
ชิงสุ่ยเข้าใจคำพูดของเขาได้ดีนี่เป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ของเขา อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยรู้สึกแปลกใจที่ได้ยยินประโยคออกมาจากปากของเขา อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขายังคงกล่าวต่อ
“ข้าจะออกจากพระราชวังหมาป่ามังกร ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ!”เขากล่าวออกมาอย่างสงบ
การกระทำในครั้งน้ำให้ชิงสุ่ยผิดหวังในตัวของเขาอย่างมากท่าทางที่ดูไร้ซึ้งศักดิ์ศรีของเขามันทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกรังเกลียดอย่างบอกไม่ถูก เดิมทีเขาคิดว่าชายคนนี้คงยอมตายดีกว่ายอมอยูอย่างไร้ค่า แต่นี้มันกับตรงข้ามกับที่ชิงสุ่ยคิดเอาไว้ทั้งหมด มันทำให้เขารู้สึกผิดหวังอย่างแท้จริง
เมื่อเห็นท่าทางของเขาในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นรู้สึกสังเวชในตัวเขาอย่างบอกไม่ถูกตอนนี้เขาเริ่มรังเลที่จะไม่ลงมือกับชายผู้นี้
เดิมทีเขามาที่นี่ก็ไม่ได้มาสังหารใครอยู่แล้วมันเพียงแค่สถานการณ์ที่บังคับให้เขามาถึงจุดๆนี้เท่านั้นแม้จะรู้สึกสังเวชและอึดอัดใจที่ต้องลงมือกับคนเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตามเขานั้นอาจะมีปัญหาในอนาคตหากเขาตัดสินใจที่จะไม่ถอนรากถอนโคนปัญหาทั้งหมด
ในเวลาเขามองไปที่ชายผู้นั้นด้วยความรังเกลียดการสังหารเขาในตอนนี้มันง่ายดายเพียงแค่ขยับปลายนิ้วเท่านั้น
เมื่อตัดสินใจได้ชิงสุ่ยได้ขยับง้าวทองในมือและแทงไปที่หัวใจของเขาในทัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่ปรมาจารย์ที่สองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเขาไม่คิดว่าชิงสุ่ยจะสามารถตัดสินใจสังหารเขาได้ ภาพใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกใจอย่างมาก อย่างไรก็ตามในเวลานั้นก็สายเกินไปแล้ว เขาได้ตายลงไปแล้วก่อนที่จะได้กล่าวออะไรออกมา
แม้ว่าจะตายลงไปแล้วแต่ดวงตาของเขาก็ยังจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความสับสน เขาไม่คิดเลยว่าชิงสุ่ยจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมขนาดนี้ หากเขามีชีวิตรอดต่อไป เขายังมีผู้คนอื่นๆอีกมากมายที่จะช่วยเขาล้างแค้น แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีวันได้ทำเช่นนั้น…. ชิงสุ่ยไม่รู้สึกดีนักในการสังหารเขาในเวลานี้ถึงอย่างไรก็ตามมันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เวลานี้ชิงสุ่ยได้ทำลายหลักฐานทั้งหมด ก่อนที่จะมองไปที่ชิงห่านอี่ เธออยู่ที่นี่ตั้งแต่ต้น โดยไม่กล่าวอะไร ยังไงก็ตามเธอกู้สึกดีที่เห็นชิงสุ่ยได้รับชัยชนะ
หลังจากต่อสู้มาเป็นเวลานานชิงุส่ยก็กลับไปที่พระราชวังสุริยา เขาไม่ได้ตามชิงห่านอี่ไป เพราะในตอนนี้เขามั่นใจว่าเธอจะสามารถยึดครองพระราชวังหมาป่ามังกรได้อย่างแน่นอน การตายของปรมาจารย์ที่สองจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากให้กับพระราชวังหมาป่ามังกรในครั้งนี้
เมื่อเขากลับไปที่พระราชวังสุริยามันก็เป็นเวลาเย็นแล้วขณะที่เขาตรงไปยังห้องพักของเขาเขาได้เห็นเจี้ยนเก้อทั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆที่พักของพวกเขา เงาที่สวยงามและท่าทางที่ดูสง่าของเธอนั้นมากพอที่จะทำให้โลกใบนี้หยุดเคลื่อนไหว
เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของชิงสุ่ยใกล้เข้ามาเธอหันไปมองเขาและยิ้มออกมา ภาพลักษณ์ที่งดงามของเธอนั้นทำให้ชิงสุ่ยอยากจ้าตาย ในเวลานี้ชิงสุ่ยรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บของเขาได้รับการเยี่ยวยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
”เด็กดีวันนี้เจ้าแกล้งท่านแม่อีกหรือไม่?”ชิงสุ่ยคุกเขาลงและแนบหูของเขาไปที่ท้องของเธอ
“เจ้าไปสู้กับใครมารึ?” เธอถามเบาๆ แม้ว่าชิงสุ่ยจะเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขา และทำการรักษาในขั้นต้นแล้ว แต่เธอก็ยังสัมผัสมันได้ในทันที กลิ่นเลือดยังคงคะคุ้งอยู่รอบๆตัวของเขา
“ปรมาจารย์ที่สองของพระราชวังหมาป่ามังกร ตอนนี้ข้าได้จัดการเขาลงไปแล้ว” ชิงสุ่ยตอนอย่างสงบ
ในเวลานี้เธอได้ลูบลงที่ศีรษะของเขาและไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งสองฝ่ายต่างมีความสุขที่ได้จบอยู่ในความเงียบในตอนนี้
“เมื่อไหร่กันที่เราจะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการตลอดทั้งชีวิตของข้า แต่ดูเหมือนว่าการได้รับสันติสุขจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้บ่มเพาะเช่นเรา” เธอถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ
แม้เธอจะแข็งแกร่งขนาดไหนแต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี ดังนั้นความฝันของเธอก็ไม่ได้ต่างกับผู้หญิงๆทุกๆคนที่จะได้อยู่ร่วมกับครอบครัวของเธออย่างมากความสุข
”เชื่อข้าอีกไม่นาน จงอดทนไว้” ชิงสุ่ยเขาใจดี ในเวลานี้เธอกำลังตั้งท้องอยู่ มันจึงทำให้เธอเป็นกังวลอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ยังกลัวว่าลูกของเธอจะได้รับอันตราย ตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก
“ที่จริงข้าก็พอใจกับชีวิตในทุกๆนี่อยู่แล้ว ข้าไม่ได้ต้องการอะไรที่มากกว่านี้ สิ่งเดียวที่ข้ากลัว คือกลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะเป็นอันตราย” ในเวลานี้เธอยิ้มและส่ายหน้า