Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1707 –เพลิงวิญญาณ
บทที่1707 –เพลิงวิญญาณ
ตูม!
เสียงระเบิดได้ดังขึ้นอีกครั้งชิงสุ่ยและผู้หญิงคนอื่นๆรวมถึงอสูรสยบมังกรได้ลอยกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
แม้ว่าชิงสุ่ยในตอนนี้จะแข็งแกร่งอย่างมากแต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ชิงสุ่ยจะรับมือการจู่โจมแบบกะทันหันเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยยังเป็นห่วงความปลอดภัยของคนอื่นๆ ทำให้เขาจำใจรับการจู่โจมนี้เอาไว้
ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของพยัคฆ์ราชสีห์นรกได้อ่อนแอลงไปถึง20%ด้วยพลังของอสูรสยบมังกรหากไม่ได้ความสามารถนี้ของอสูรสยบมังกร ชิงสุ่ยก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถรับการจู่โจมในครั้งนี้ได้หรือไม่ นี่นับว่าเป็นโชคดีอย่างมากของเขา
ในเวลานี้ลูกไฟสีแดงเข้มได้ปรากฏที่ปากของมันก่อนที่มันจะระเบิดออกมา เปลวที่ร้อนระอุได้ตรงเข้าใส่ชิงสุ่ยในเวลานี้
เพลิงนรก!
เพลิงดังกล่าวเป็นเพลิงชนิดเดียวกับวิหกเพลิงแต่ก็มีความแตกต่างกันออกไปในด้านความรุนแรงของมัน ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่ได้กลัวมันเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเขานั้นมีร่างกายที่ด้านทานต่อเปลวไฟ ดังนั้นแม้ว่าพยัคฆ์ราชสีห์นรกจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ยังไม่สามารถทำอะไรเขาได้
”พวกเจ้าต้องระวังตัวให้มากหากไม่จำเป็นไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้” ชิงสุ่ยกล่าวและส่ายหน้า
ในบรรดาผู้หญิงสามคนชิงสุ่ยมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนอย่างมากห่านอี่ แต่สำหรับอีกสองคนมันก็ยังยากที่จะพูด ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงเป็นเรื่องซับซ้อนอยู่ แม้ว่ามู่หยุนชิงเฉิงจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ทุกๆคนก็รู้ว่าเธอนั้นชอบเขา
ไม่ใช่ว่าชิงสุ่ยไม่ต้องการพวกเธอแต่เขารู้สึกว่าในตอนนี้เขานั้นพอแล้ว แต่หากเขามีผู้หญิงเข้ามาเพิ่มในตอนนี้เขาคงจะรู้สึกไม่ดีอย่างมาก
นายหญิงนั้นเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ในผู้ใหญ่และมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่อย่างมากนับตั้งแต่ที่เธอบอกความรู้สึกของเธอกับชิงสุ่ย เธอไม่ได้เข้าหาเขามาเกินไป ในตอนนี้เธอยอมรับเส้นทางของเธอแล้ว และไม่ต้องการสร้างรำคาญให้กับชิงสุ่ยอีกต่อไป และพยายามทำตัวเป็นพี่สาวของเขาในตอนนี้ อย่างไรเธอก็ยังชอบเขาอยู่
”ระวัง!”ห่านอี่กล่าวออกมาขณะที่เธอค่อยระวังอยู่ด้านหลัง ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเธอนั้นอยู่ในระดับเดียวกับชิงสุ่ย ซึ่งมันมากกว่านายหญิงทั้งสองในตอนนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อคู่ต่อสู้ของเธอนั้นคือพยัคฆ์ราชสีห์นรก เธอก็ทำได้แค่ป้องกันเท่านั้น
ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้เรียกหุบเขาเก้าเทวาออกมาเพื่อป้องกันเพลิงของมันเอาไว้ ในเวลานี้ขนาดของมันยังคงเหมือนเดิมอยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปแม้แต้นอยู่ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน
กรงมังกรทองคำ!
ชิงสุ่ยได้ใช้กรงเล็บมังกรทองคำออกมาและผสานมันเข้าสู่ง้าวทองของเขา ด้วยการผสานของพวกมันจะทำให้ชิงสุ่ยสร้างการจู่โจมที่รุนแรงออกมาได้ ด้วยความแข็งแกร่งที่ง้าวทองปลดปล่อยออกมาในตอนนี้ แม้แต่พยัคฆ์ราชสีห์นรกก็ยังไม่กล้าที่จะประมาท นอกจากนี้มันยังสัมผัสได้ถึงพลังในการมองข้ามการป้องของง้าวทองในตอนนี้ ยิ่งทำให้มันรู้สึกว่าคู่ต่อสู้ของมันในครั้งนี้เป็นตัวตนที่รับมือได้ยากอย่างมาก
จากการปะทะครั้งก่อนมันได้ความเสียหายจำนวนหนึ่งให้กับร่างกายที่ใหญ่ของพยัคฆ์ราชสีห์นรกแม้ว่าจะไม่มากนักแต่อย่างน้อยมันก็สร้างความตกตะลึงให้กับพยัคฆ์ราชสีห์นรก อย่างไรก็ตามนี้ก็เป็นแค่แผลที่เล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับร่างกายที่ใหญ่โตของมัน
อย่างไรก็ตามการกระทำของชิงสุ่ยก็ได้สร้างความโกรธเคืองให้กับมันในตอนนี้ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเข็มอย่างมาก และจ้องมองมาที่ชิงสุ่ยหายที่จะเอาชีวิตเขา
เสียงคำรามโลหิต!
ในเวลานี้หมอกเลือดได้กระจายออกไปเป็นวงกว้างๆมันได้ย้อยบริเวณๆรอบๆจนเป็นสีแดงโลหิต แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อวิสัยทัศน์ของพวกชิงสุ่ย ในเวลานี้เงาของพยัคฆ์ราชสีห์นรกนั้นดูขยายใหญ่ขึ้นจากเก่า
ในเวลานี้ตัวของมันนั้นดูมีขนาดใหญ่ขึ้นสิบเมตรเท่าแม้ว่าจะถือว่าใหญ่มากเมื่อมันยืนต่อหน้าชิงสุ่ย แต่ในความเป็นจริงๆแล้ว มันนั้นมีขนาดเทียบเทียบเท่าภูเขาลูกใหญ่ๆเลยในเวลานี้ นอกจากนี้กลิ่นอายของมันก็ยังรุนแรงกว่าเก่ามากนัก
กลิ่นอายที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต็มไปด้วยความกระหายและดุดันอย่างบอกไม่ถูก!
ปราณจักรพรรดิ!
ทักษะล่าสังหาร! Aileen-novel
ชิงสุ่ยไม่รีรอต่อไปในที่สุดเขาก็ได้ใช้ทักษะที่แข็งแกร่งของเขาออกมา มันทำให้ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของพยัคฆ์ราชสีห์นรกนั้นถูกลดลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามในเวลานี้มันก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าอสูรสยบมังกรอยู่
ทุกอย่างเป็นไปตามที่ชิงสุ่ยวางแผนเอาไว้การมีอยู่ของทักษะทั้งสองของเขานั้นเป็นอะไรที่ต่อต้านสวรรค์อย่างมาก พวกมันเป็นทักษะที่พิเศษและมีคุณสมบัติเฉพาะตัว มันเป็นทักษะที่สามารถเปลี่ยนเรื่องราวที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
ปราณจักรพรรดิทักษะล่าสังหาร และทักษะจู่โจมวชิระนั้นเป็นทักษะที่ทรงพลังอย่างมากของเขาในตอนนี้ นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของพวกมันก็ยังขึ้นอยู่กับระดับความเข้าใจของตัวเขาเอง ในตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางที่โกรธเกรี้ยวของมันชิงสุ่ยเองก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยมนุษย์ทุกๆคนจะรู้สึกประหม่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่ไม่รู้จัก แม้แต่ชิงสุ่ยก็ไม่มีข้อยกเว้น
ไป!
ในเวลานี้ชิงสุ่ยได้ส่งหุบเขาเก้าเทวาออกไปมันได้ขาประทะกับพยัคฆ์ราชสีห์นรกอย่างรุนแรง!
ตูม!
เป้าหมายของเขานั้นก็เพื่อสร้างความวุ่นว่ายให้กับมันนั้นเพราะเขารู้ดีว่าเพียงแค่หุบเขาเก้าเทวานั้นยังไม่เพียงพอที่จะสามารถสังหารมันลงได้ในตอนนี้ ในขณะที่หุบเขาเก้าเทวาได้สัมผัสกับร่างกายของมัน เสียงคำรามก็ได้ดังออกมาอีกครั้งก่อนที่มันจะสะท้อนหุบเขาเก้าเทวาลอยขึ้นไปบนอากาศ
เมื่อเห็นหุบเขากระเด็นออกไปชิงสุ่ยไม่รีรออีกต่อไป เขารู้ว่าเหลือเวลาไม่มากแล้วในตอนนี้ เขาจึงได้ฟาดง้าวทองคำออกไปอย่างรุนแรง
เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!
ตูม!
เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดขนาดใหญ่ได้ตรงเข้าห่อหุบร่ายงกายของมันเอาไว้ในตอนนี้มันได้ห่อหุบร่างกายของพยัคฆ์ราชสีห์นรกเอาไว้คล้ายกับลูกบอลลูกใหญ่
ชิงสุ่ยได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในตอนนี้เขามีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดจะสามารถพันธนาการมันเอาไว้ได้ เพราะในอดีตแทบไม่มีใครเลยที่จะสามารถหีออกมาจากมัน
ตูม!
เสียงระเบิดได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้แต่ชิงสุ่ยเองก็ดูประหลาดใจใจอย่างมาก ในตอนนี้เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดของเขากำลังลุกไหม้อยู่ภายใต้กองเพลิงที่เขาไม่รู้จัก แม้เขาจะรู้ว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดจะแข็งแกร่งขนาดไหนแต่จุดอ่อนของมันก็คือเปลวเพลิงเขารู้สึกไม่ดีอย่างมากกับภาพตรงหน้า
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขาจะดูถูกเพลิงนรกของมันมากเกินไปชิงสุ่ยไม่รอช้า เขารีบกระหน่ำหุบเขาเก้าเทวาฟาดลงไปที่มันอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายไปแล้ว
เพื่อปกป้องเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดชิงสุ่ยจึงได้ปล่อยมันออกมาในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะโกรธยิ่งกว่าเก่า รัศมีสังหารในบริเวณรอบๆชัดเจนอย่างมาก
แผดเสียงคำราม!
ทันใดนั้นมันก็ได้แดเสียงคำรามออกมาอีกครั้งก่อนที่จะระเบิดพลังอกมารอบๆ
ก่อนที่มันจะกระโจนร่างกายที่ใหญ่โตดังภูเขาของมันเข้าใส่ชิงสุ่ยอย่างรวดเร็วขณะที่ตัวของมันอาบไปด้วยเพลิงสีดำทมิฬและกลิ่นอายที่แข็งแกร่งในเวลานี้
เพลิงวิญญาณ!
แม้แต่ชิงสุ่ยเองก็ยังหวดกลัวต่อมันแม้ร่างกายของเขาจะสามารถลดและทนต่อการจู่โจมทางพลังวิญญาณได้ถึง 70% แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีผลต่อเพลิงวิญญาณของมันในตอนนี้
เพลิงวิญญาณนั้นเป็นเปลวไฟแห่งจิตวิญญาณที่สามารถเผาจิตสำนึกและจิตใจของบุคคลให้แหลกละเอียดในพริบตาหากไม่สามารถต้านทานมันได้ จิตใจของพวกเขาจะถูกทำลายจนพินาศ อาจถึงขึ้นเสียสติไป แต่อย่างไรก็ตามคนที่โดนเปลวเพลิงนี้เข้าไปพวกเขาจะไม่ถูกสังหารด้วยเพลิงของมัน แต่ตัวตัวตน จิตใจวิญญาณ ความทรงจำ จิตใต้สำนึกของพวกเขาจะถูกทำลายจนหมดสิ้น หากเรียกอีกชื่อมันก็คือ เพลิงชำระจิตใจ