Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1721 - เปิดเผยข้อบกพร่องของจ้าวแห่งถ้ำจันทราวารี

AST
บทที่1721 – เปิดเผยข้อบกพร่องของจ้าวแห่งถ้ำจันทราวารี
ในขณะเดียวกันชิงสุ่ยก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาเองก็ได้ยินข่าวลือมาว่าผู้ที่เป็นคู่หมั้นและต้องการแต่งงานกับชิงห่านอี่คือผู้ครองถ้ำวารีจันทรา จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง ผู้ที่แข็งแกร่งจะยืนอยู่เหนือสุดของผู้ที่อ่อนแอ คงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะครอบครองตำแหน่งผู้นำถ้ำวารีจันทราโดยที่ตัวเองไม่แข็งแกร่ง
จากสภาพแวดล้อมเป็นไปได้สูงมากว่าผู้ครองถ้ำวารีจันทราจะเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง
ในขณะที่ไต่ตรองสภาพแวดล้อมทั้งหมดชิงสุ่ยก็เดินเคียงข้างชิงห่านอี่ตรงเข้าสู่ห้องโถงหลักของพระราชวังหมาป่ามังกร ซึ่งระหว่างทางเขาก็ได้เห็นผู้คนมากมายแสดงความเคารพต่อชิงห่านอี้
ก่อนที่เขาจะเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากระอักกระอ่วนที่ไม่ได้แผ่ซานออกมาจากตัวทหารองครักษ์ทั้ง 4 คน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นกลิ่นอายที่ปลดปล่อยมาจากคนของถ้ำวารีจันทรา
”ท่านจ้าววัง!!”
ทหารองครักษ์ของพระราชวังหมาป่ามังกรโค้งคำนับอย่างสุภาพเมื่อยืนต่อหน้าชิงห่านอี้ซึ่งเธอเองก็ตอบสนองความเคารพนั้นด้วยการพยักหน้า จากนั้นเธอก็นำชิงสุ่ยเข้าไปภายในห้องโถงใหญ่
”คุณชายได้โปรดรออยู่ที่นี่เถิด ท่านผู้ปกครองถ้ำกำชับว่าห้ามมิให้ผู้อื่นเข้าไปภายในยกเว้นท่านจ้าววัง”ทหารองครักษ์ของถ้ำวารีจันทราที่อยู่ด้านหลังก้าวออกมาเพื่อหยุดยั้งชิงสุ่ย พวกมันกำลังแสดงรอยยิ้มแห่งความเย่อหยิ่ง ราวกับกำลังดูถูกผู้อื่น
ชิงสุ่ยอึ้งเล็กน้อยแต่ก็กลับสู่สภาวะปกติหลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย เขารู้ดีว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น การกระทำของพวกเขาทั้งหมด หากปราศจากคำแนะนำของผู้ครองถ้ำวารีจันทรา พวกมันก็คงไม่กล้าทำอะไรเช่นนี้
ที่สำคัญที่นี่คือพระราชวังหมาป่ามังกรหาใช่ถ้ำวารีจันทรา และดูเหมือนสิ่งที่พวกมันทำ แสดงให้เห็นว่าพวกมันไม่ได้เคารพสถานที่ที่พวกมันยืนอยู่เลย
ปังงงง!!
ก่อนที่ชิงสุ่ยจะได้ลงมือทำอะไรชิงห่านอี้ก็เอื้อมมือออกไปและตบหน้าทหารองครักษ์ของถ้ำวารีจันทรา จนพวกมันปลิวกระเด็นออกไปด้านข้างพร้อมกับถมเลือดกองโตออกมา
”ที่นี่คือพระราชวังหมาป่ามังกรพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งอะไรที่นี่!!”ชิงห่านอี้จ้องมองพวกมันด้วยสายตาที่เย็นชา
”อี้เอ๋อเจ้ากลับมาแล้ว มานี้สิ!!”
ในขณะเดียวกันเสียงของหญิงชราดังกังวานออกมาจากห้องโถงมันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นมิตร เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริง
”ท่านอาจารย์!!”
ชิงห่านอี้โหร้องด้วยความดีใจเธอจับมือชิงสุ่ยและรีบเดินตรงเข้าไปในห้องโถงทันที
ชิงสุ่ยรู้สึกดีอย่างมากเมื่อชิงห่านอี้สัมผัสมือของเขาเพราะดูเหมือนตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ได้คืบหน้าแต่อย่างใด ไอรีนโนเวล
ทันทีที่ทั้งสองคนเข้าไปข้างในชิงสุ่ยก็ได้พบกับหญิงชราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งอยู่ด้านบน ตรงกันข้ามที่นั่งของหญิงชรา ปรากฏให้เห็นเป็นชายที่มีลักษณะคล้ายชายวัยกลางคน แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่ แต่ชิงสุ่ยก็มองเห็นรูปร่างที่ผอมเพียว พร้อมกับกลิ่นอายแห่งความสง่างามที่เปล่งประกายออกมาจากตัวเขา
เขาถือว่าเป็นคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาดูสดใสและดูมีเกียรติ ดวงตาเต็มไปด้วยความเป็นผู้ใหญ่ แม่ไปน่าจะแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร แต่มันก็มากพอที่จะตักเตือนให้ผู้คนรู้สถานะไม่กล้าข้องเกี่ยว
ชายคนนั้นแทบไม่ได้สนใจชิงสุ่ยเลยดวงตาของเขาจ้องมองแต่เพียงชิงห่านอี้ผู้เดียว แต่ทันทีที่เขาเห็นมือของเธอจับมือกับชิงสุ่ย คิ้วของเขาก็เริ่มขยับเล็กน้อย แต่มันก็เป็นเพียงเวลาแค่เสี้ยววินาทีก่อนจะกลับสู่สภาพปกติ แต่ในความคิดของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาต้องการจะตัดมือชายทุกคนที่บังอาจข้องเกี่ยวกับชิงห่านอี้
เป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่ชิงสุ่ยจะไม่รู้ว่าชายผู้นั้นกำลังคิดอะไรด้านหลังของชายคนนั้นมีคนยืนอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน พวกเขาดูมีอายุ และกำลังตรวจสอบชิงสุ่ย
”อี้เอ๋อมานี้สิ ชายผู้นี้คือจ้าวแห่งถ้ำวารีจันทรา คุณชายสุ่ยหยุนเฟิง”หญิงชรายิ้มขณะที่เธอกล่าวแนะนำตัวของผู้ครองถ้ำให้ชิงห่านอี้รู้จัก
แม้แต่ชิงสุ่ยก็ไม่อาจล่วงรู้ว่าหญิงชราผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่แต่จากที่เขาคาดเดา ดูเหมือนงานแต่งงานทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้โดยหญิงชราผู้นี้
แต่ทำไมเธอถึงมอบยาเม็ดธาราหยางแก่ชิงสุ่ยแล้วบอกให้เขาดูแลชิงห่านอี้
ด้วยเหตุทั้งหมดชิงสุ่ยจึงยังคงไม่เชื่อว่าหญิงชราผู้นี้จะเป็นผู้ผลักดันให้เกิดงานแต่งงานขึ้น
หรือว่าเธอกำลังใจให้คนอื่นมาทำงานสกปรกแทนตัวเอง!!
วลีดังกล่าวปรากฏขึ้นภายในใจของชิงสุ่ยแต่เขาก็ลบล้างความคิดเหล่านี้อย่างรวดเร็ว เขาดูเหมือนคนที่หวาดระแวงเกินไป มันคงจะดีกว่าถ้าเลิกสงสัยในตัวของหญิงชรา
”ยินดีที่ได้พบคุณชายสุ่ยหยุนเฟิง!!”ชิงห่านอี้ทักทายด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยแยแส
”อี้เอ๋อนับวันเจ้ายิ่งดูงดงาม เจ้าช่างงดงามจริงๆ”ชายผู้นั้นยิ้มแย้มสดใสขณะเดียวกันเขาก็ต้องมองชิงสุ่ย มันเป็นแววตาที่เหมือนจะกลืนกินคนไปทั้งตัว　　ชิงสุ่ยค่อนข้างประหลาดใจมันเป็นดวงตาที่เป็นไปด้วยแรงกดดัน หากไม่ใช่เพราะพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งและความสามารถในการขจัดพลังวิญญาณ 70 ส่วนที่เขาครอบครอง จิตใจของเขาก็อาจถูกโจมตีได้ มันคือกลลวงในการล่อลวงจิตใจและอาศัยช่องว่างเข้าโจมตีพลังวิญญาณ
ชายผู้นั้นก็ประหลาดใจไม่แพ้กันที่ชิงสุ่ยสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของเขาแต่เมื่อเขาคิดลึกๆแล้ว เขาย่อมรู้ดีว่าชิงห่านอี้คงไม่ยอมให้ตัวเองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนที่ไร้พลัง ดูเหมือนเรื่องต่างๆกำลังจะซับซ้อนยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกันอาจารย์ของชิงห่านอี้ก็เริ่มเปิดปากพูดคุยกับสุ่ยหยุนเฟิงอีกครั้ง “ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่าชิงสุ่ย เขาคือเพื่อนของอี้เอ๋อ!!”
หญิงชรากำลังรอเวลาเหมาะสมที่จะพูดเรื่องนี้ออกไปลึกๆแล้ว สุ่ยหยุนเฟิงเองก็รู้สึกแค้น เพื่อน? ต้องสนิทกันมากขนาดไหนถึงได้จับมือกัน จากนั้นเขาก็ต้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาเย็นชา “โปรดเอามือออกจากคู่หมั้นของข้า มิฉะนั้น ข้ารับประกันได้ว่าแขนของเจ้าอาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวของเจ้าต่อไป”
สุ่ยหยุนเฟิงยิ้มและจ้องมองชิงสุ่ยอย่างสงบ แม้ภายในจะเดือดพล่านโดยที่ไม่มีผู้ใดรู้
”คู่หมั้น?เจ้าอายุเท่าไหร่ แล้วอี้เอ๋ออายุเท่าไหร่เจ้ารู้หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถาม
”อายุไม่ใช่ปัญหา”
”งั้นก็แสดงว่าเจ้าชอบนางสินะ?”ชิงสุ่ยถามกลับด้วยรอยยิ้ม
”ก็เพราะว่าข้าชอบนางข้าจึงต้องการแต่งงานกับนาง”
เขายังคงแสดงท่าทีเย็นชาและตอบคำถามของชิงสุ่ยด้วยความอยากรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังคิดและวางแผนอะไรอยู่
”แต่ปัญหาคือนางไม่ได้ชอบเจ้าเจ้าเองก็แก่จวนเจียนจะใกล้ตายอยู่แล้ว ที่สำคัญตัวเจ้าเป็นหมันไม่ใช่หรือ!! ทำไมไม่เก็บอายุขัยที่เหลือไว้รักษาโรคหัวใจของตัวเอง?” 　　คำพูดของชิงสุ่ยทำให้สีหน้าการแสดงออกของชายผู้นั้นแปรเปลี่ยนไปอย่างมากเขาโกรธจนร่างกายสั่นเทา
ชิงสุ่ยสังเกตเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขาทั้งหมดได้ก็เพราะชิงสุ่ยใช้ทักษะเบิกเนตรสวรรค์จึงทำให้รู้ว่าชายผู้นั้นได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งอาการบาดเจ็บยังอยู่ใกล้กับเส้นลมปราณที่อยู่บริเวณไตและกระเพาะปัสสาวะ มันเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันหาย
หากเป็นคนธรรมดาพวกเขาอาจจะยอมรับอาการบาดเจ็บของตนเพราะอย่างไรซะคนธรรมดาเหล่านั้นส่วนใหญ่จะมีภรรยาเพียงแค่คนเดียว แต่ผิดกับชายหนุ่มสูงศักดิ์ผู้นี้ รอบตัวของเขาเองต้องมีสาวงามมากมายรอคอยอยู่ไม่ต่ำกว่า 20 คน ดวงตาของเขาเปรียบเสมือนหมาป่าที่หิวโหย แต่ลึกๆภายในก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากขันที