Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1804 - แกนหลักของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เจ็ดผู้อาวุโส
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1804 - แกนหลักของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เจ็ดผู้อาวุโส
AST
บทที่1804 – แกนหลักของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เจ็ดผู้อาวุโส
ชิงสุ่ยเป็นไปด้วยความสงสัยว่าทำไมเฉินหวงถึงยกตำแหน่งของรองผู้นำให้กับอี่หวงกู่หวู๋หรือว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาตัวของเขานั้นมีโอกาสที่จะเข้าไปเป็นข้อเกี่ยวข้องมากที่สุด
เฉินหวงยอมประนีประนอมเพื่อดึงให้ชิงสุ่ยยอมรับการเข้าร่วมกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะแล้วตอนนี้เธอยังทำให้ผู้หญิงของเขากลายเป็นรองผู้นำของกลุ่ม
ชิงสุ่ยจ้องมองหญิงสาวผู้เขาไม่แน่ใจนักว่าหญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าเขากำลังพยายามผูกมัดโดยอาศัยช่องทางเช่นนี้ แต่เขาก็เชื่อว่าเธอคงไม่คิดลูกไม้ตื้นๆ
………………… ……………….
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จสิ้นทุกคนก็เริ่มพูดคุยเรื่องระยะทางและทิศทาง จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าตรงสู่หุบเขาวิหคร่ายรำโดยอาศัยทักษะย่างก้าว 9 เทวา และภายในเสี้ยววินาที ภูเขาขนาดใหญ่สูงตระหง่านก็ปรากฏขึ้นจากระยะไกล
ถ้าหากมองดูจากระยะไกลภูเขาผนวกกับอากาศที่อยู่รอบข้างจะมีลักษณะคล้ายกับวิหคเพลิงที่กำลังขยายปีกทะยานบิน เมฆและหมอกจำนวนมากรออยู่ในภูเขาด้วยความน่าตื่นตา
เฉินหวงชี้นิ้วออกไปในทิศทางนึงก่อนที่เธอจะบินนำไปชิงสุ่ยและอี่หวงกู่หวู๋ก็รีบบินตามเธออย่างรวดเร็ว
หลังจากบินไปได้ประมาณ1 ก้านธูป ยอดเขาแหลมก็ปรากฏให้เห็นเป็นแท่นแบนราบเหนือยอดเขา มันก็เป็นเรื่องปกติที่ยอดเขาส่วนใหญ่จะปรากฏเป็นศาลาที่พักซึ่งเกิดจากน้ำมือมนุษย์ เมื่อถึงยอดเขาชิงสุ่ยสังเกตเห็นชายหญิงจำนวนนึง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่แก่กว่าเขา และมีคนที่อยู่ในระดับชราอีกจำนวนหนึ่ง เขาแทบจะมองไม่เห็นชายหญิงหนุ่มสาวใดๆในกลุ่มคนเหล่านั้นเลย
”ท่านจ้าวสวรรค์!!”
ผู้อาวุโสที่มีลักษณะธรรมดาเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาผู้อาวุโสคนนี้สวมชุดคลุมสีเทายาว พร้อมกับมีผมหงอกประปราย เขาเดินตรงเข้ามาหาเฉินหวงอย่างรวดเร็ว
”ผู้อาวุโสอี่ได้โปรดรวบรวมผู้คนมาที่นี่ให้เร็วที่สุด ข้ามีเรื่องจะประกาศ”เฉินหวงกล่าวพร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง มันเป็นสีหน้าแสดงความมีศักดิ์ศรีของผู้เป็นหัวหน้า
”น้อมรับคำสั่ง!!”
ชายชราตอบกลับแล้วจากไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเฉินหวง ชิงสุ่ย และอี่ห่วงกู่หวู๋ ก็เดินตรงไปที่ห้องโถงใหญ่
ขณะที่พวกเขาก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ภายในห้องโถงมีผู้ชายประมาณ 10 คนรอคอยอยู่ภายใน แน่นอนว่าภายในนั้นก็มีผู้อาวุโสอี่รวมอยู่ด้วย ชิงสุ่ยประทับใจในความสามารถของเฉินหวง เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเธอมีอำนาจเบ็ดเสร็จภายในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ
ชิงสุ่ยเหลือบมองดูผู้คนที่อยู่ภายในห้องโถงใหญ่และไม่พบเจอผู้นำของคฤหาสน์ดาบสวรรค์บางทีเขาคงไม่มีคุณสมบัติมากพอจะอยู่ที่นี่ได้
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีพลังระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ชิงสุ่ยและอี่หวงกู่หวู๋ย่อมต้องรู้สึกกดดันจากสายตาจำนวนมากเป็นธรรมดา
ชิงสุ่ยจะออกไปข้างหน้าอย่างใจเย็นแรงกดดันของเขาเองก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าแรงกดดันที่เขาได้รับเลย ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจที่สัมผัสกับแรงกดดันจากตัวชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจะแสดงพลังของตัวเองตั้งแต่แรกเริ่มถ้าหากเขาไม่กดดันกลับ มันจะดูเหมือนกับว่าเขากำลังหวาดกลัว
และการโต้กลับของชิงสุ่ยทำให้พวกเขารับรู้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดา แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร เขาคือชายหนุ่มที่ผู้นำกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะต้องออกไปเชื้อเชิญด้วยตัวเองเป็นครั้งที่ 2
”ข้าขอแนะนำสมาชิกใหม่2 คน คนแรกคืออี่หวงกู่หวู่ เดิมทีนางอยู่ในตำแหน่งผู้อาวุโสของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ แต่ในตอนนี้นางคือผู้นำที่ 2 ของกลุ่ม ส่วนอีกคนหนึ่ง ชายผู้นี้มีนามว่าชิงสุ่ย เขาคือผู้อาวุโสรับเชิญของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ”
เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเชื่องช้า
”ท่านจ้าวสวรรค์มันไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือที่หญิงสาวผู้นี้จะกลายเป็นผู้นำที่ 2 ก่อนหน้านี้นางเองก็ไม่เคยได้เข้าร่วมกับห้องโถงแห่งนี้เลย”ผู้อาวุโสที่ดูอ่อนวัยกว่ากล่าว
ผู้คนเหล่านี้ที่ได้รับอนุญาตเข้ามาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีพลังระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ย่อมต้องถูกจัดลำดับความแข็งแกร่ง แม้จะมีช่องว่างเพียงแค่ไม้จิ้มฟันก็ตาม
”ผู้อาวุโสอู๋ไม่เชื่อคำพูดของข้าอย่างนั้นรึ?” เฉินหวงกล่าวอย่างนี้เงียบขณะที่เธอต้องมองผู้อาวุโสอู๋
ผู้อาวุโสถึงกับตัวสั่นก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูนุ่มนวลว่า”ข้ามั่นใจในคำพูดของท่าน!!”
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้ชิงสุ่ยถึงกับสับสน
เฉินหวงละสายตาจากเขาและมองไปรอบ”ข้าไม่สนใจถ้าหากพวกท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อสายตาของพวกท่าน แต่ข้าเชื่อในสายตาของข้า ข้าหวังว่าทุกท่านจะเชื่อมั่นในสายตาของข้าด้วย”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความสุภาพแต่สามารถสยบทุกคนได้ภายใน 1 คำพูด
”ชิงสุ่ยกู่หวู๋ ข้าขอแนะนำ ท่านจอมอาวุโสเหวินเซียง”เฉินหวงจ้องมองไปที่ชายชราที่ดูอ่อนน้อมถ่อมตน
ชิงสุ่ยกล่าวคำทักทายอย่างสุภาพ”ผู้น้อยขอคารวะท่านผู้อาวุโส!!”
ชิงสุ่ยรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่แข็งแกร่งจากตัวของชายชราแม้เขาจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับตัวชิงสุ่ย แต่อย่างน้อยเขาจะต้องอยู่ในระดับพลังสูงสุดของพลังปราณสวรรค์ขั้นที่ 1 ซึ่งมีพลังประมาณ 100,000 เต๋า
”สวัสดีท่านผู้อาวุโสรับเชิญชิง!!”ชายชรายิ้มและกล่าวอย่างสงบ
หลังจากที่ได้กล่าวทักทายชิงสุ่ยรู้สึกทันทีว่าชายชราคนนี้ไม่ได้มองคนที่อายุ
เฉินหวงได้กล่าวแนะนําผู้อาวุโสทีละคนจนกระทั่งถึงผู้อาวุโสลำดับที่7
ผู้อาวุโสคนที่7 คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้ โดยที่ผู้อาวุโสสองก็คือผู้อาวุโสอี้ ส่วนผู้อาวุโส 3 ภายนอกอาจจะดูหยาบด้านแต่ก็เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์ เขามีนามว่าจางซาน
”ท่านผู้อาวุโสรับเชิญชิงไว้วันหลัง ข้าคงต้องฝากท่านช่วยปรับปรุงทักษะการต่อสู้ของข้า ข้ารู้สึกได้ว่าตัวของท่านนั้นเต็มไปด้วยพลังอันเอ่อล้น มันเต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่งกว่าข้า”จางซานกล่าวกับชิงสุ่ยด้วยความสุภาพแต่เป็นกันเอง
ชิงสุ่ยค่อนข้างชื่นชอบกับคนที่มีบุคลิกเช่นนี้เขาจึงยิ้มและตอบกลับว่า “ได้เลยไม่มีปัญหา”
ผู้อาวุโสลำดับที่4 คังหลง รูปร่างของเขาแสดงออกถึงความอ่อนวัย เห็นได้ชัดว่าเขาคือคนที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสทั้ง 7 หากมองดูคร่าวๆ ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงอายุประมาณ 40 ปี เขาเป็นคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมจึงโดดเด่น แต่ดวงตาแสดงออกถึงความจริงจังและรอบคอบ
บทที่1804 – แกนหลักของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เจ็ดผู้อาวุโส
ชิงสุ่ยเป็นไปด้วยความสงสัยว่าทำไมเฉินหวงถึงยกตำแหน่งของรองผู้นำให้กับอี่หวงกู่หวู๋หรือว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาตัวของเขานั้นมีโอกาสที่จะเข้าไปเป็นข้อเกี่ยวข้องมากที่สุด
เฉินหวงยอมประนีประนอมเพื่อดึงให้ชิงสุ่ยยอมรับการเข้าร่วมกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะแล้วตอนนี้เธอยังทำให้ผู้หญิงของเขากลายเป็นรองผู้นำของกลุ่ม
ชิงสุ่ยจ้องมองหญิงสาวผู้เขาไม่แน่ใจนักว่าหญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าเขากำลังพยายามผูกมัดโดยอาศัยช่องทางเช่นนี้ แต่เขาก็เชื่อว่าเธอคงไม่คิดลูกไม้ตื้นๆ
………………… ……………….
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จสิ้นทุกคนก็เริ่มพูดคุยเรื่องระยะทางและทิศทาง จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าตรงสู่หุบเขาวิหคร่ายรำโดยอาศัยทักษะย่างก้าว 9 เทวา และภายในเสี้ยววินาที ภูเขาขนาดใหญ่สูงตระหง่านก็ปรากฏขึ้นจากระยะไกล
ถ้าหากมองดูจากระยะไกลภูเขาผนวกกับอากาศที่อยู่รอบข้างจะมีลักษณะคล้ายกับวิหคเพลิงที่กำลังขยายปีกทะยานบิน เมฆและหมอกจำนวนมากรออยู่ในภูเขาด้วยความน่าตื่นตา
เฉินหวงชี้นิ้วออกไปในทิศทางนึงก่อนที่เธอจะบินนำไปชิงสุ่ยและอี่หวงกู่หวู๋ก็รีบบินตามเธออย่างรวดเร็ว
หลังจากบินไปได้ประมาณ1 ก้านธูป ยอดเขาแหลมก็ปรากฏให้เห็นเป็นแท่นแบนราบเหนือยอดเขา มันก็เป็นเรื่องปกติที่ยอดเขาส่วนใหญ่จะปรากฏเป็นศาลาที่พักซึ่งเกิดจากน้ำมือมนุษย์ เมื่อถึงยอดเขาชิงสุ่ยสังเกตเห็นชายหญิงจำนวนนึง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่แก่กว่าเขา และมีคนที่อยู่ในระดับชราอีกจำนวนหนึ่ง เขาแทบจะมองไม่เห็นชายหญิงหนุ่มสาวใดๆในกลุ่มคนเหล่านั้นเลย
”ท่านจ้าวสวรรค์!!”
ผู้อาวุโสที่มีลักษณะธรรมดาเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาผู้อาวุโสคนนี้สวมชุดคลุมสีเทายาว พร้อมกับมีผมหงอกประปราย เขาเดินตรงเข้ามาหาเฉินหวงอย่างรวดเร็ว
”ผู้อาวุโสอี่ได้โปรดรวบรวมผู้คนมาที่นี่ให้เร็วที่สุด ข้ามีเรื่องจะประกาศ”เฉินหวงกล่าวพร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง มันเป็นสีหน้าแสดงความมีศักดิ์ศรีของผู้เป็นหัวหน้า
”น้อมรับคำสั่ง!!”
ชายชราตอบกลับแล้วจากไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเฉินหวง ชิงสุ่ย และอี่ห่วงกู่หวู๋ ก็เดินตรงไปที่ห้องโถงใหญ่
ขณะที่พวกเขาก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ภายในห้องโถงมีผู้ชายประมาณ 10 คนรอคอยอยู่ภายใน แน่นอนว่าภายในนั้นก็มีผู้อาวุโสอี่รวมอยู่ด้วย ชิงสุ่ยประทับใจในความสามารถของเฉินหวง เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเธอมีอำนาจเบ็ดเสร็จภายในกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ
ชิงสุ่ยเหลือบมองดูผู้คนที่อยู่ภายในห้องโถงใหญ่และไม่พบเจอผู้นำของคฤหาสน์ดาบสวรรค์บางทีเขาคงไม่มีคุณสมบัติมากพอจะอยู่ที่นี่ได้
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีพลังระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ชิงสุ่ยและอี่หวงกู่หวู๋ย่อมต้องรู้สึกกดดันจากสายตาจำนวนมากเป็นธรรมดา
ชิงสุ่ยจะออกไปข้างหน้าอย่างใจเย็นแรงกดดันของเขาเองก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าแรงกดดันที่เขาได้รับเลย ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจที่สัมผัสกับแรงกดดันจากตัวชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจะแสดงพลังของตัวเองตั้งแต่แรกเริ่มถ้าหากเขาไม่กดดันกลับ มันจะดูเหมือนกับว่าเขากำลังหวาดกลัว
และการโต้กลับของชิงสุ่ยทำให้พวกเขารับรู้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดา แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร เขาคือชายหนุ่มที่ผู้นำกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะต้องออกไปเชื้อเชิญด้วยตัวเองเป็นครั้งที่ 2
”ข้าขอแนะนำสมาชิกใหม่2 คน คนแรกคืออี่หวงกู่หวู่ เดิมทีนางอยู่ในตำแหน่งผู้อาวุโสของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ แต่ในตอนนี้นางคือผู้นำที่ 2 ของกลุ่ม ส่วนอีกคนหนึ่ง ชายผู้นี้มีนามว่าชิงสุ่ย เขาคือผู้อาวุโสรับเชิญของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ”
เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเชื่องช้า
”ท่านจ้าวสวรรค์มันไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือที่หญิงสาวผู้นี้จะกลายเป็นผู้นำที่ 2 ก่อนหน้านี้นางเองก็ไม่เคยได้เข้าร่วมกับห้องโถงแห่งนี้เลย”ผู้อาวุโสที่ดูอ่อนวัยกว่ากล่าว
ผู้คนเหล่านี้ที่ได้รับอนุญาตเข้ามาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีพลังระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ย่อมต้องถูกจัดลำดับความแข็งแกร่ง แม้จะมีช่องว่างเพียงแค่ไม้จิ้มฟันก็ตาม
”ผู้อาวุโสอู๋ไม่เชื่อคำพูดของข้าอย่างนั้นรึ?” เฉินหวงกล่าวอย่างนี้เงียบขณะที่เธอต้องมองผู้อาวุโสอู๋
ผู้อาวุโสถึงกับตัวสั่นก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูนุ่มนวลว่า”ข้ามั่นใจในคำพูดของท่าน!!”
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้ชิงสุ่ยถึงกับสับสน
เฉินหวงละสายตาจากเขาและมองไปรอบ”ข้าไม่สนใจถ้าหากพวกท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อสายตาของพวกท่าน แต่ข้าเชื่อในสายตาของข้า ข้าหวังว่าทุกท่านจะเชื่อมั่นในสายตาของข้าด้วย”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความสุภาพแต่สามารถสยบทุกคนได้ภายใน 1 คำพูด
”ชิงสุ่ยกู่หวู๋ ข้าขอแนะนำ ท่านจอมอาวุโสเหวินเซียง”เฉินหวงจ้องมองไปที่ชายชราที่ดูอ่อนน้อมถ่อมตน
ชิงสุ่ยกล่าวคำทักทายอย่างสุภาพ”ผู้น้อยขอคารวะท่านผู้อาวุโส!!”
ชิงสุ่ยรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่แข็งแกร่งจากตัวของชายชราแม้เขาจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับตัวชิงสุ่ย แต่อย่างน้อยเขาจะต้องอยู่ในระดับพลังสูงสุดของพลังปราณสวรรค์ขั้นที่ 1 ซึ่งมีพลังประมาณ 100,000 เต๋า
”สวัสดีท่านผู้อาวุโสรับเชิญชิง!!”ชายชรายิ้มและกล่าวอย่างสงบ
หลังจากที่ได้กล่าวทักทายชิงสุ่ยรู้สึกทันทีว่าชายชราคนนี้ไม่ได้มองคนที่อายุ
เฉินหวงได้กล่าวแนะนําผู้อาวุโสทีละคนจนกระทั่งถึงผู้อาวุโสลำดับที่7
ผู้อาวุโสคนที่7 คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้ โดยที่ผู้อาวุโสสองก็คือผู้อาวุโสอี้ ส่วนผู้อาวุโส 3 ภายนอกอาจจะดูหยาบด้านแต่ก็เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์ เขามีนามว่าจางซาน
”ท่านผู้อาวุโสรับเชิญชิงไว้วันหลัง ข้าคงต้องฝากท่านช่วยปรับปรุงทักษะการต่อสู้ของข้า ข้ารู้สึกได้ว่าตัวของท่านนั้นเต็มไปด้วยพลังอันเอ่อล้น มันเต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่งกว่าข้า”จางซานกล่าวกับชิงสุ่ยด้วยความสุภาพแต่เป็นกันเอง
ชิงสุ่ยค่อนข้างชื่นชอบกับคนที่มีบุคลิกเช่นนี้เขาจึงยิ้มและตอบกลับว่า “ได้เลยไม่มีปัญหา”
ผู้อาวุโสลำดับที่4 คังหลง รูปร่างของเขาแสดงออกถึงความอ่อนวัย เห็นได้ชัดว่าเขาคือคนที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสทั้ง 7 หากมองดูคร่าวๆ ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงอายุประมาณ 40 ปี เขาเป็นคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมจึงโดดเด่น แต่ดวงตาแสดงออกถึงความจริงจังและรอบคอบ