Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1824 - รับรู้ถึงพลังเทวะ ถานท่ายหลิงเยียน
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1824 - รับรู้ถึงพลังเทวะ ถานท่ายหลิงเยียน
AST
บทที่1824 – รับรู้ถึงพลังเทวะ ถานท่ายหลิงเยียน
ในช่วงพริบตาทุกคนก็มายืนอยู่นั่นหน้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในแดนทะเลน้ำเเข็งการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางครั้งแรกของหญิงสาว ฉะนั้นพวกเธอจึงไม่ประหลาดใจ
และวิธีที่ใช้ในการเดินทางก็เป็นวิธีที่ประหยัดเวลาอย่างมากถ้ำศักดิ์สิทธิ์ยังคงเหมือนเดิมไม่ต่างอะไรจากตอนที่พวกเขาจากไป ทุกอย่างยังคงดูสะอาดอุดมสมบูรณ์ ยังคงหลงเหลือความเป็นธรรมชาติ นี่คงเป็นจุดเด่นที่ชิงสุ่ยเลือกที่จะใช้ที่นี่เป็นที่ตั้งในการอยู่อาศัย
ถ้ำแห่งนี้อยู่ใกล้กับเมืองหลินห่ายซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลจากจักรวรรดิฉินมันคือทางเข้าสู่เมืองทะเลเหนือ แล้วยังมี พระราชวังอาทิตย์อัสดง พระราชวังหมาป่ามังกร เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่ามันก็ทำให้ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่าตัวของเขาเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับขุมกำลังต่างๆมากมายแทบจะทุกที่
ชิงสุ่ยมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อพักผ่อนแต่ยังพอมีเวลาเหลือเขาจึงเลือกที่จะไปยังพระราชวังอาทิตย์อัสดง เพื่อตรวจสอบหรือว่าทุกคนที่อยู่ที่นั่นยังสบายดีหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงพากลุ่มคนของเขาไปที่นั่นทันทีโดยอาศัยทักษะย่างก้าว 9 เทวา
เมื่อทุกคนมาถึงหญิงสาวจำนวนหนึ่งก็รีบออกมา แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นย่อมต้องมีชิงห่านอี้
ทุกอย่างยังคงสงบเรียบร้อยชิงสุ่ยจึงรู้สึกผ่อนคลาย
หลัวชิงเฉิงมีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น พวกเธอบอกเล่าเรื่องราวการเอาชีวิตซึ่งเป็นบททดสอบระหว่างโชคและความสามารถ
คนส่วนใหญ่ย่อมประสบพบเจอกับชีวิตที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายก่อนชีวิตจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เหมือนกับในโลกใบก่อนของชิงสุ่ย เมื่อผู้คนรอดจากอุบัติเหตุเกือบตายบนท้องถนน คนเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงวิถีความคิด เป็นคนที่มีสติมากยิ่งขึ้น หรือไม่ก็ปล่อยปละละเลยให้ตัวเองเสี่ยงตายและตายจากโลกของพวกเขาไป
ซึ่งมันก็เหมือนกับโลกใบนี้แม้การฝึกฝนจะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายใช้ชีวิตอยู่บนคมมีด แต่ผู้ฝึกฝนหลายคนก็ไม่เคยสัมผัสความเป็นความตายมาก่อน สุดท้ายจำนวนผู้ฝึกฝนจึงมีจำนวนมากเกินไป และมีเพียงแค่หยิบมือที่จะใช้ชีวิตเสี่ยงตาย
ตัวของหลัวชิงเฉิงเองก็ได้ผ่านประสบการณ์เสี่ยงชีวิตและความตาย นั่นจึงทำให้เธอคิดได้ถึงสิ่งต่างๆมากมาย แล้วมันก็ส่งผลถึงสัญญาณความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชิงสุ่ย
มูหยุนชิงเก้อและชิงห่านอี้เดินตรงเข้าหาชิงสุ่ยอีเย่เจี้ยนและฉินชิงด้วยท่าทางที่มีความสุข ตอนที่พวกเธอจะหันมาเล่นกับชิงซิ่ว
”ช่วงเวลาที่ข้าหายไปมีอะไรผิดแปลกๆเกิดขึ้นบ้าง?”ชิงสุ่ยรู้สึกยินดีที่เห็นทุกคนสบายดี แต่อย่างไรเขาก็ต้องถามเพื่อความแน่ใจ
”ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรให้น่ากังวลใจนัก”
บรรดาหญิงสาวค่อยๆทำความรู้จักกันและกันก่อนจะหันมาจ้องมองชิงสุ่ยเป็นสายตาเดียว มันคือสายตาที่เต็มไปด้วยความงุนงง ทำไมรอบตัวของชิงสุ่ยถึงเต็มไปด้วยหญิงสาวสวยงาม และความงามของเหล่าหญิงสาวทุกคนที่อยู่รอบกายชิงสุ่ย เป็นความงามที่ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้
…………………………….
ในช่วงเที่ยงชิงสุ่ยรับหน้าที่ในการทำอาหารโดยมีหญิงสาวคนอื่นเป็นเพียงลูกมือในการเข้าครัว ส่วนใหญ่พวกเธอจะทำหน้าที่ในการชิมรสชาติอันแสนหอมหวาน
”หลิงเยียนชิงเอ๋อ พวกเจ้ามีแผนการอะไรบ้าง? อยากจะพักที่นี่หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถามขณะบรรจงทำอาหาร ”ข้าคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าพวกเรากลับไปอยู่ที่หอคอยจักรพรรดิสักพักนึง!!”ฉินชิงคบคิดชั่วครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
แน่นอนว่านี่คือโลกใต้มหาสมุทรแม้มันจะไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับหญิงสาวทั้งสองคน แต่การอาศัยอยู่บนพื้นดินย่อมต้องเป็นสิ่งที่พวกเธอคุ้นเคยกว่า
ชิงสุ่ยเองก็เพิ่งคิดได้เขารู้ดีว่าโอกาสที่พวกเธอจะยอมอยู่ในโลกใต้น้ำมันไม่สูงนัก และเมื่อรู้ว่าทั้งสองคนอยากกลับไปที่หอคอยจักรพรรดิ ชิงสุ่ยจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้า ก่อนจะคิดเล็กน้อยและกล่าวว่า “พวกเราสองคนจะต้องคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้มาก หากมีปัญหาอะไรก็รีบส่งข่าวให้ข้าทราบทันที”
”ไม่ต้องกังวลเลยพวกเรารู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร”ฉินชิงกล่าวตอบ
”ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เดินทางปลอดภัยระวังตัวด้วย”อีเย่เจียนเก้อกล่าวอวยพร
…………………. ณเมืองหลินห่าย!!
พระราชวังอาทิตย์อัสดงอยู่ใกล้กับเมืองหลินห่ายมากจึงใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการเดินทางมาถึง
ทั้งเมืองหลินห่ายเต็มไปด้วยชั้นหิมะนี่ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเพราะส่วนใหญ่พื้นที่แห่งนี้ย่อมต้องเผชิญหน้ากับฤดูหนาวแทบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเมืองหลินห่ายที่อยู่ใกล้กับแดนทะเลน้ำเเข็ง จึงทำให้เมืองแห่งนี้หนาวเย็นเป็นพิเศษ
ชิงสุ่ยมองดูภาพเมืองเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยเกล็ดหิมะอย่างมีความสุขจากนั้นก็หันมองดูหญิงสาวสองคนที่อยู่ด้านข้าง โดยเฉพาะกับถานท่ายหลิงเยียน มันให้ความรู้สึกกลมกลืนกับภาพเบื้องหน้า เหมือนเธอคือภาพวาดที่กำลังหลอมรวมกับโลกทั้งใบ
คลื่นพลัง!!กลิ่นอาย!!
ชิงสุ่ยตื่นตระหนกก่อนจะรีบคว้าตัวฉินชิงหายวับไปและรีบสร้างค่ายกลเก้าเทวา ถานท่ายหลิงเยียนยืนงงอยู่ท่ามกลางหิมะมันเหมือนกับว่าเธอกำลังจะหมดสติ พลังในร่างกายของเธอก็ค่อยๆเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าแต่อัดแน่นไปด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ รัศมีน้ำแข็งบริสุทธิ์เยื่อค่อยๆไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอผ่านจุดป่ายฮุ่ย
พลังเทวะแห่งเต๋า
”ร่างกายของเธอกำลังดูดซับพลังเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด?”ฉินชิงจ้องมองชิงสุ่ยขณะกล่าวถาม
ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยคว้าตัวเธอมาอย่างรวดเร็วแต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่ตัวของถานท่ายหลิงเยียน
ชิงสุ่ยบอกเธอว่าไม่ต้องพูดอะไรหรือทำเสียงอะไรสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือการให้เวลาคอยเฝ้ามองถานท่ายหลิงเยียนอยู่ห่างห่าง
”ตอนนี้เธอกำลังรับรู้ถึงพลังเทวะแห่งเต๋าที่แสนแข็งแกร่งแต่ข้าก็ไม่รู้ว่านางจะทนมันได้อีกนานแค่ไหน ยิ่งนางทนได้นานเท่าไหร่ผลประโยชน์ที่นางจะได้รับก็ยิ่งมีมากเท่านั้น”
บทที่1824 – รับรู้ถึงพลังเทวะ ถานท่ายหลิงเยียน
ในช่วงพริบตาทุกคนก็มายืนอยู่นั่นหน้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในแดนทะเลน้ำเเข็งการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางครั้งแรกของหญิงสาว ฉะนั้นพวกเธอจึงไม่ประหลาดใจ
และวิธีที่ใช้ในการเดินทางก็เป็นวิธีที่ประหยัดเวลาอย่างมากถ้ำศักดิ์สิทธิ์ยังคงเหมือนเดิมไม่ต่างอะไรจากตอนที่พวกเขาจากไป ทุกอย่างยังคงดูสะอาดอุดมสมบูรณ์ ยังคงหลงเหลือความเป็นธรรมชาติ นี่คงเป็นจุดเด่นที่ชิงสุ่ยเลือกที่จะใช้ที่นี่เป็นที่ตั้งในการอยู่อาศัย
ถ้ำแห่งนี้อยู่ใกล้กับเมืองหลินห่ายซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลจากจักรวรรดิฉินมันคือทางเข้าสู่เมืองทะเลเหนือ แล้วยังมี พระราชวังอาทิตย์อัสดง พระราชวังหมาป่ามังกร เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่ามันก็ทำให้ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่าตัวของเขาเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับขุมกำลังต่างๆมากมายแทบจะทุกที่
ชิงสุ่ยมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อพักผ่อนแต่ยังพอมีเวลาเหลือเขาจึงเลือกที่จะไปยังพระราชวังอาทิตย์อัสดง เพื่อตรวจสอบหรือว่าทุกคนที่อยู่ที่นั่นยังสบายดีหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงพากลุ่มคนของเขาไปที่นั่นทันทีโดยอาศัยทักษะย่างก้าว 9 เทวา
เมื่อทุกคนมาถึงหญิงสาวจำนวนหนึ่งก็รีบออกมา แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นย่อมต้องมีชิงห่านอี้
ทุกอย่างยังคงสงบเรียบร้อยชิงสุ่ยจึงรู้สึกผ่อนคลาย
หลัวชิงเฉิงมีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น พวกเธอบอกเล่าเรื่องราวการเอาชีวิตซึ่งเป็นบททดสอบระหว่างโชคและความสามารถ
คนส่วนใหญ่ย่อมประสบพบเจอกับชีวิตที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายก่อนชีวิตจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เหมือนกับในโลกใบก่อนของชิงสุ่ย เมื่อผู้คนรอดจากอุบัติเหตุเกือบตายบนท้องถนน คนเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงวิถีความคิด เป็นคนที่มีสติมากยิ่งขึ้น หรือไม่ก็ปล่อยปละละเลยให้ตัวเองเสี่ยงตายและตายจากโลกของพวกเขาไป
ซึ่งมันก็เหมือนกับโลกใบนี้แม้การฝึกฝนจะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายใช้ชีวิตอยู่บนคมมีด แต่ผู้ฝึกฝนหลายคนก็ไม่เคยสัมผัสความเป็นความตายมาก่อน สุดท้ายจำนวนผู้ฝึกฝนจึงมีจำนวนมากเกินไป และมีเพียงแค่หยิบมือที่จะใช้ชีวิตเสี่ยงตาย
ตัวของหลัวชิงเฉิงเองก็ได้ผ่านประสบการณ์เสี่ยงชีวิตและความตาย นั่นจึงทำให้เธอคิดได้ถึงสิ่งต่างๆมากมาย แล้วมันก็ส่งผลถึงสัญญาณความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชิงสุ่ย
มูหยุนชิงเก้อและชิงห่านอี้เดินตรงเข้าหาชิงสุ่ยอีเย่เจี้ยนและฉินชิงด้วยท่าทางที่มีความสุข ตอนที่พวกเธอจะหันมาเล่นกับชิงซิ่ว
”ช่วงเวลาที่ข้าหายไปมีอะไรผิดแปลกๆเกิดขึ้นบ้าง?”ชิงสุ่ยรู้สึกยินดีที่เห็นทุกคนสบายดี แต่อย่างไรเขาก็ต้องถามเพื่อความแน่ใจ
”ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรให้น่ากังวลใจนัก”
บรรดาหญิงสาวค่อยๆทำความรู้จักกันและกันก่อนจะหันมาจ้องมองชิงสุ่ยเป็นสายตาเดียว มันคือสายตาที่เต็มไปด้วยความงุนงง ทำไมรอบตัวของชิงสุ่ยถึงเต็มไปด้วยหญิงสาวสวยงาม และความงามของเหล่าหญิงสาวทุกคนที่อยู่รอบกายชิงสุ่ย เป็นความงามที่ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้
…………………………….
ในช่วงเที่ยงชิงสุ่ยรับหน้าที่ในการทำอาหารโดยมีหญิงสาวคนอื่นเป็นเพียงลูกมือในการเข้าครัว ส่วนใหญ่พวกเธอจะทำหน้าที่ในการชิมรสชาติอันแสนหอมหวาน
”หลิงเยียนชิงเอ๋อ พวกเจ้ามีแผนการอะไรบ้าง? อยากจะพักที่นี่หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถามขณะบรรจงทำอาหาร ”ข้าคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าพวกเรากลับไปอยู่ที่หอคอยจักรพรรดิสักพักนึง!!”ฉินชิงคบคิดชั่วครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
แน่นอนว่านี่คือโลกใต้มหาสมุทรแม้มันจะไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับหญิงสาวทั้งสองคน แต่การอาศัยอยู่บนพื้นดินย่อมต้องเป็นสิ่งที่พวกเธอคุ้นเคยกว่า
ชิงสุ่ยเองก็เพิ่งคิดได้เขารู้ดีว่าโอกาสที่พวกเธอจะยอมอยู่ในโลกใต้น้ำมันไม่สูงนัก และเมื่อรู้ว่าทั้งสองคนอยากกลับไปที่หอคอยจักรพรรดิ ชิงสุ่ยจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้า ก่อนจะคิดเล็กน้อยและกล่าวว่า “พวกเราสองคนจะต้องคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้มาก หากมีปัญหาอะไรก็รีบส่งข่าวให้ข้าทราบทันที”
”ไม่ต้องกังวลเลยพวกเรารู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร”ฉินชิงกล่าวตอบ
”ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เดินทางปลอดภัยระวังตัวด้วย”อีเย่เจียนเก้อกล่าวอวยพร
…………………. ณเมืองหลินห่าย!!
พระราชวังอาทิตย์อัสดงอยู่ใกล้กับเมืองหลินห่ายมากจึงใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการเดินทางมาถึง
ทั้งเมืองหลินห่ายเต็มไปด้วยชั้นหิมะนี่ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเพราะส่วนใหญ่พื้นที่แห่งนี้ย่อมต้องเผชิญหน้ากับฤดูหนาวแทบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเมืองหลินห่ายที่อยู่ใกล้กับแดนทะเลน้ำเเข็ง จึงทำให้เมืองแห่งนี้หนาวเย็นเป็นพิเศษ
ชิงสุ่ยมองดูภาพเมืองเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยเกล็ดหิมะอย่างมีความสุขจากนั้นก็หันมองดูหญิงสาวสองคนที่อยู่ด้านข้าง โดยเฉพาะกับถานท่ายหลิงเยียน มันให้ความรู้สึกกลมกลืนกับภาพเบื้องหน้า เหมือนเธอคือภาพวาดที่กำลังหลอมรวมกับโลกทั้งใบ
คลื่นพลัง!!กลิ่นอาย!!
ชิงสุ่ยตื่นตระหนกก่อนจะรีบคว้าตัวฉินชิงหายวับไปและรีบสร้างค่ายกลเก้าเทวา ถานท่ายหลิงเยียนยืนงงอยู่ท่ามกลางหิมะมันเหมือนกับว่าเธอกำลังจะหมดสติ พลังในร่างกายของเธอก็ค่อยๆเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าแต่อัดแน่นไปด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ รัศมีน้ำแข็งบริสุทธิ์เยื่อค่อยๆไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอผ่านจุดป่ายฮุ่ย
พลังเทวะแห่งเต๋า
”ร่างกายของเธอกำลังดูดซับพลังเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด?”ฉินชิงจ้องมองชิงสุ่ยขณะกล่าวถาม
ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยคว้าตัวเธอมาอย่างรวดเร็วแต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่ตัวของถานท่ายหลิงเยียน
ชิงสุ่ยบอกเธอว่าไม่ต้องพูดอะไรหรือทำเสียงอะไรสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือการให้เวลาคอยเฝ้ามองถานท่ายหลิงเยียนอยู่ห่างห่าง
”ตอนนี้เธอกำลังรับรู้ถึงพลังเทวะแห่งเต๋าที่แสนแข็งแกร่งแต่ข้าก็ไม่รู้ว่านางจะทนมันได้อีกนานแค่ไหน ยิ่งนางทนได้นานเท่าไหร่ผลประโยชน์ที่นางจะได้รับก็ยิ่งมีมากเท่านั้น”