Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1858 - ล่าถอย อบอุ่นเหมือนหยก
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1858 - ล่าถอย อบอุ่นเหมือนหยก
AST
บทที่1858 – ล่าถอย อบอุ่นเหมือนหยก
ชิงสุ่ยเหลือบมองพร้อมกับปลดปล่อยกระบวนท่าจากง้าวทองทะลวงศัตรูอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความคล่องแคล่วและเป็นจังหวะ
คลื่นพลังเทพธิดา!!
คลื่นพลังแห่งเทพธิดาทำให้ชิงสุ่ยเพิ่มพูนความแข็งแรงจนถึงระดับที่สามารถทำให้หนักกลายเป็นเบาฉะนั้นการโจมตีที่แสนนุ่มนวลของเขา ทันทีที่กระทบกับผู้อาวุโส ผู้อาวุโสก็จะรับรู้ได้ถึงพลังโจมตีอันหนักหน่วงและแสนน่าหวาดกลัวซึ่งเป็นผลกระทบที่ตามมา
พลังที่ชิงสุ่ยปลดปล่อยออกมาในครั้งนี้มากกว่าการโจมตีก่อนหน้าจึงทำให้ผู้อาวุโสเกิดความประมาท จนโดนโจมตีเข้าอย่างจัง แม้ภายนอกผู้อาวุโสจะดูไม่เป็นอะไร แต่อาการบาดเจ็บภายในเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว จากการปะทะกันชายชราเริ่มรู้ตัวนะว่าเขากำลังกายเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการฝึกฝนของชิงสุ่ย ในเมื่อชิงสุ่ยระเบิดพลังถึงขีดสุดพร้อมกับปลดปล่อยการโจมตีใส่เขาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่อาจทำอะไรได้เลย เพียงแค่ป้องกันการโจมตีทั้งหมดร่างกายก็เหนื่อยล้ามากพอแล้ว
ขณะเดียวกันชายชราเองก็ไม่สามารถพูดได้มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเกินกว่าจะแก้ไข
ความแข็งแกร่งที่เขากำลังต้านทานเปรียบเสมือนพลังของยักษ์การฟาดฟันแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความสมบูรณ์แบบและแม่นยำ แรงสั่นสะเทือนจากการป้องกันทะลุทะลวงเข้าสู่อวัยวะภายในจนทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดทีละเล็กทีละน้อย เหมือนว่าเกราะปราการป้องกันของเขากำลังจะแตกสลาย
เสียงโลหะกระทบกันดังอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาทั้งสองกำลังห้ามหั่นเป็นอย่างดุเดือดพร้อมกับคลื่นทะเลที่ถูกแหวกเป็นวงกว้าง
ครึ้นนนนนน!!
เสียงกรีดแทงดังขึ้นพร้อมกับง้าวทองทะลวงศัตรูที่กำลังปะทะเข้ากับไหล่ของชายชรา
พรวดดดด!!
แขนข้างหนึ่งของชายชราหายไปทันทีที่ปะทะเข้ากับง้าวทองทะลวงศัตรูสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่ชิงสุ่ยจะหยุดยังไม่ทัน มันเป็นเพราะศาสตราวุธที่ใช้ร่วมกันของชายชราเกิดการแตกหัก ง้าวทองทะลวงศัตรูจึงกดทะลวงผ่านไหล่ของชายชราไปในชั่วพริบตา
ระดับพลังของชายชราไม่สามารถรับมือกับแรงโจมตีของชิงสุ่ยได้แขนของชายชราตอนนี้ถูกบดจนละเอียด โชคดีที่การโจมตีไม่ได้หมายเอาชีวิต มิฉะนั้นวันนี้คือวันที่ชายชราต้องชะตาขาด
ปฏิกิริยาโต้ตอบของชายชราค่อนข้างรวดเร็วเขากระโดดออกจากพื้นที่การต่อสู้พร้อมกับมองดูแขนขวาที่เวอะหวะ เปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด อาวุธของเขาก็หัก ความเจ็บปวดทุกข์ระทมแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำให้ใบหน้าซีดเซียว
ชิงสุ่ยหยุดการโจมตีและมองชายชราพร้อมความรู้สึกผิด ความผิดพลาดที่ไม่สามารถยับยั้งพลังของตนเองได้ทันเวลา
”พวกเราจะไม่ดื้อรั้นอีกแล้วข้าจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เปิดทางให้พวกเรากลับไปได้หรือไม่?”ชายชราที่มีใบหน้าซีดเซียว กล่าวถามชิงสุ่ยด้วยความสุภาพ
ชิงสุ่ยตอบกลับทันทีด้วยการพยักหน้า
เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาโต้ตอบของชิงสุ่ยชายชราก็รีบพาคนของเขากลับออกไปก่อนจะหายวับไปกับตา
ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าชายชราผู้นี้จะกลับมาอีกหรือไม่แน่นอนว่าวันนี้เขาได้พลาดพลั้งสร้างปัญหา ถ้าหากศัตรูที่ยืนอยู่ตรงหน้ารับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีภูมิหลังอันใดเลย โอกาสที่ศัตรูจะกลับมา ย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน ในไม่ช้าสถานที่แห่งนี้ก็กลับสู่ความเงียบสงัดเฉินเจินเดินตรงมาที่ด้านข้างของชิงสุ่ยพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนสุข “ข้าไม่คิดอะไรว่าเจ้าจะมีพลังมากมายขนาดนี้ ข้าชักสงสัยแล้วสิว่าเจ้ายังเก็บงำความลับอะไรเอาไว้อีก”
”ฮ่าฮ่า ฮ่า มันก็จริงอย่างเจ้าว่า ข้าไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย และข้าก็เหมือนกับเจ้าเพียงแค่เหนือกว่าอยู่เล็กน้อย”ชิงสุ่ยยิ้มขณะตอบกลับ
”แต่ส่วนที่แตกต่างคือความคิดเจ้ารู้จักหนทางแห่งนักฆ่าหรือไม่? วิธีการที่พวกเขาทำ คือการคิดหาวิธีสังหารนก 2 ตัวโดยอาศัยหินเพียงแค่ก้อนเดียว”
”เพื่อทำลายคู่ต่อสู้เจ้าอาศัยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เพื่อสร้างผลประโยชน์ 2 เท่า นั่นคือการโจมตีภายนอกให้ส่งผลไปถึงภายใน”เฉินเจินเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
”เมื่อเจ้าพยายามจะฆ่างูเจ้าจะต้องตีให้แน่ใจว่าส่วนที่ดีนั้นอยู่ห่างจากส่วนหัว 7 นิ้ว มิฉะนั้นมันจะไม่ตาย ต่อให้เจ้าตัดหางหรือตัดลำตัวมันก็ตาม มนุษย์เองก็มีจุดอ่อนมากมายบนร่างกาย บางคนแสดงผลลัพธ์ทันทีเมื่อถูกโจมตี ตัวอย่างเช่นสมอง ดวงตา ลำคอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดอ่อนที่เห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามมนุษย์ก็จะปกป้องอวัยวะอันตรายเหล่านั้นด้วยสัญชาตญาณ ดังนั้นพวกมันเป็นส่วนที่โจมตียากที่สุด หากเราโจมตีอย่างประมาท โอกาสที่เราจะกลายเป็นฝ่ายเสียท่าก็ย่อมมีมากขึ้น”
”แล้วยังมีจุดอ่อนใดที่อยู่นอกเหนือจากส่วนเหล่านี่หรือไม่?”เฉินเจินกล่าวถามด้วยความสงสัย
”ก็มีจุดชีพจรเส้นลมปราณ หรือข้อต่อที่บอบบางส่วนต่างๆ”
”จุดชีพจรอยู่ภายในร่างกายหากเจ้าไม่สามารถทะลวงผ่านร่างกายไปได้มันก็ไร้ประโยชน์ นอกจากนี้มันยังยากที่จะระบุตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเส้นลมปราณเองก็ไม่ต่างกัน ส่วนข้อต่อก็เป็นส่วนที่ไม่ง่ายต่อการทำลาย”เฉินเจินกล่าวด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
”หากฝึกฝนจนคุ้นชินเจ้าจะเรียนรู้วิธี วิธีที่จะทะลวงผ่านเข้าสู่เส้นลมปราณเพื่อตัดกระบวนการส่งพลังของศัตรูไปในช่วงสั้นๆ ในขณะเดียวกัน การฝึกฝนจะทำให้เรารู้ตำแหน่ง เมื่อโจมตีเข้าไปในจุดข้อต่ออันแสนบอบบางตามร่างกาย ขอเพียงแค่ครั้งเดียว ศัตรูก็จะเกิดอาการชา เมื่อมันเป็นเช่นนั้นชีวิตของศัตรูก็จะอยู่ในกำมือของเจ้า”ชิงสุ่ยกล่าวคำอธิบาย
เฉินเจินพยักหน้าชิงสุ่ยได้สอนความรู้ให้กับเธอเพิ่มเติม แน่นอนว่านักรบส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเส้นลมปราณหรือจุดลมปราณภายในร่างกาย กลุ่มคนที่ฝึกฝนเส้นลมปราณและจุดลมปราณส่วนใหญ่จะอยู่บนพื้นดิน และมีส่วนน้อยเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนที่ฝักใฝ่ทางด้านจุดลมปราณ จะต้องใช้ร่างกายเป็นตัวทดลอง ถ้าหากเกิดเหตุผิดพลาด เท่ากับไม่มีโอกาสแก้ไข ”เจ้าเคยใช้ทักษะความรู้ของเจ้าเหล่านี้ในการต่อสู้จริงหรือไม่?”เฉินเจินเงยหน้ากล่าวถามชิงสุ่ย
”ข้าจะใช้ทักษะเหล่านี้ก็ต่อเมื่อเข้าใกล้คู่ต่อสู้เท่านั้นและการที่เจ้าจะโจมตีเส้นลมปราณของคู่ต่อสู้ได้เจ้าจะต้องแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอาศัยการกระแทกของศาสตราวุธเพื่อส่งผลต่อเส้นลมปราณ ความเสี่ยงมันสูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้น่าพึงพอใจนัก”
”มานี่เถิดเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารับรู้ถึงพลังนี้เอง”
ชิงสุ่ยคว้าข้อมือของเธอจากนั้นก็เริ่มถ่ายเทพลังเข้าสู่ร่างกาย ในไม่ช้าเขาก็ใช้มือของเธอกระแทกบริเวณไหล่ของเธอเอง
ทันทีที่ฝ่ามือของเธอกระทบบริเวณจุดไหล่ร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นเครือพร้อมกับรู้สึกถึงพลังจากภายใน ชิงสุ่ยค่อยๆนำพามือของเธอสัมผัสไปตามจุดเส้นลมปราณส่วนอะไหล่ทั้งหมดด้วยกำลังที่เหมาะสม จุดลมปราณทั่วร่างกายมนุษย์มีมากมายเหลือคณาแต่ส่วนที่สัมผัสได้ง่ายมีจำนวนไม่มาก หลังจากผ่านจุดลมปราณบริเวณไหล่ ชิงสุ่ยก็นึกขึ้นได้ก่อนจะจับมือของเธอสัมผัสบริเวณจุดลมปราณชั่นจง(อก)
จุดลมปราณชั่นจงเป็นจุดลมปราณอีกจุดหนึ่งที่ส่งผลอันตรายต่อชีวิตแน่นอนว่าชิงสุ่ยไม่ได้ต้องการที่จะสังหารเธอ เขาจึงใช้กำลังพอเหมาะเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าจุดลมปราณชั่นจงนั้นอ่อนไหวมากเพียงใด จุดลมปราณชั่นจงไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายมันคือจุดลมปราณที่อยู่ตรงกลางหน้าอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ จุดลมปราณนี้คือจุดลมปราณที่อยู่ระหว่างรอยแยกของหน้าอกทั้งสอง แน่นอนว่าเฉินเจินก็เป็นอีกคนนึงที่มีหน้าอกใหญ่มาก ชิงสุ่ยจึงใช้กำลังเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เธอสัมผัสกับจุดลมปราณชั่นจง ในขณะเดียวกันตอนที่เขานำมือของเธอไปสัมผัสจุดลมปราณนั้น มือของเขาก็สัมผัสเข้ากับก่อนภูเขาอันแสนนุ่มนวล ให้ความรู้สึกเหมือนมือของเขากำลังสัมผัสกับผิวหยกอันแสนอบอุ่น 2 ก้อนขนาบข้าง
บทที่1858 – ล่าถอย อบอุ่นเหมือนหยก
ชิงสุ่ยเหลือบมองพร้อมกับปลดปล่อยกระบวนท่าจากง้าวทองทะลวงศัตรูอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความคล่องแคล่วและเป็นจังหวะ
คลื่นพลังเทพธิดา!!
คลื่นพลังแห่งเทพธิดาทำให้ชิงสุ่ยเพิ่มพูนความแข็งแรงจนถึงระดับที่สามารถทำให้หนักกลายเป็นเบาฉะนั้นการโจมตีที่แสนนุ่มนวลของเขา ทันทีที่กระทบกับผู้อาวุโส ผู้อาวุโสก็จะรับรู้ได้ถึงพลังโจมตีอันหนักหน่วงและแสนน่าหวาดกลัวซึ่งเป็นผลกระทบที่ตามมา
พลังที่ชิงสุ่ยปลดปล่อยออกมาในครั้งนี้มากกว่าการโจมตีก่อนหน้าจึงทำให้ผู้อาวุโสเกิดความประมาท จนโดนโจมตีเข้าอย่างจัง แม้ภายนอกผู้อาวุโสจะดูไม่เป็นอะไร แต่อาการบาดเจ็บภายในเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว จากการปะทะกันชายชราเริ่มรู้ตัวนะว่าเขากำลังกายเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการฝึกฝนของชิงสุ่ย ในเมื่อชิงสุ่ยระเบิดพลังถึงขีดสุดพร้อมกับปลดปล่อยการโจมตีใส่เขาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่อาจทำอะไรได้เลย เพียงแค่ป้องกันการโจมตีทั้งหมดร่างกายก็เหนื่อยล้ามากพอแล้ว
ขณะเดียวกันชายชราเองก็ไม่สามารถพูดได้มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเกินกว่าจะแก้ไข
ความแข็งแกร่งที่เขากำลังต้านทานเปรียบเสมือนพลังของยักษ์การฟาดฟันแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความสมบูรณ์แบบและแม่นยำ แรงสั่นสะเทือนจากการป้องกันทะลุทะลวงเข้าสู่อวัยวะภายในจนทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดทีละเล็กทีละน้อย เหมือนว่าเกราะปราการป้องกันของเขากำลังจะแตกสลาย
เสียงโลหะกระทบกันดังอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาทั้งสองกำลังห้ามหั่นเป็นอย่างดุเดือดพร้อมกับคลื่นทะเลที่ถูกแหวกเป็นวงกว้าง
ครึ้นนนนนน!!
เสียงกรีดแทงดังขึ้นพร้อมกับง้าวทองทะลวงศัตรูที่กำลังปะทะเข้ากับไหล่ของชายชรา
พรวดดดด!!
แขนข้างหนึ่งของชายชราหายไปทันทีที่ปะทะเข้ากับง้าวทองทะลวงศัตรูสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่ชิงสุ่ยจะหยุดยังไม่ทัน มันเป็นเพราะศาสตราวุธที่ใช้ร่วมกันของชายชราเกิดการแตกหัก ง้าวทองทะลวงศัตรูจึงกดทะลวงผ่านไหล่ของชายชราไปในชั่วพริบตา
ระดับพลังของชายชราไม่สามารถรับมือกับแรงโจมตีของชิงสุ่ยได้แขนของชายชราตอนนี้ถูกบดจนละเอียด โชคดีที่การโจมตีไม่ได้หมายเอาชีวิต มิฉะนั้นวันนี้คือวันที่ชายชราต้องชะตาขาด
ปฏิกิริยาโต้ตอบของชายชราค่อนข้างรวดเร็วเขากระโดดออกจากพื้นที่การต่อสู้พร้อมกับมองดูแขนขวาที่เวอะหวะ เปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด อาวุธของเขาก็หัก ความเจ็บปวดทุกข์ระทมแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำให้ใบหน้าซีดเซียว
ชิงสุ่ยหยุดการโจมตีและมองชายชราพร้อมความรู้สึกผิด ความผิดพลาดที่ไม่สามารถยับยั้งพลังของตนเองได้ทันเวลา
”พวกเราจะไม่ดื้อรั้นอีกแล้วข้าจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เปิดทางให้พวกเรากลับไปได้หรือไม่?”ชายชราที่มีใบหน้าซีดเซียว กล่าวถามชิงสุ่ยด้วยความสุภาพ
ชิงสุ่ยตอบกลับทันทีด้วยการพยักหน้า
เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาโต้ตอบของชิงสุ่ยชายชราก็รีบพาคนของเขากลับออกไปก่อนจะหายวับไปกับตา
ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าชายชราผู้นี้จะกลับมาอีกหรือไม่แน่นอนว่าวันนี้เขาได้พลาดพลั้งสร้างปัญหา ถ้าหากศัตรูที่ยืนอยู่ตรงหน้ารับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีภูมิหลังอันใดเลย โอกาสที่ศัตรูจะกลับมา ย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน ในไม่ช้าสถานที่แห่งนี้ก็กลับสู่ความเงียบสงัดเฉินเจินเดินตรงมาที่ด้านข้างของชิงสุ่ยพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนสุข “ข้าไม่คิดอะไรว่าเจ้าจะมีพลังมากมายขนาดนี้ ข้าชักสงสัยแล้วสิว่าเจ้ายังเก็บงำความลับอะไรเอาไว้อีก”
”ฮ่าฮ่า ฮ่า มันก็จริงอย่างเจ้าว่า ข้าไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย และข้าก็เหมือนกับเจ้าเพียงแค่เหนือกว่าอยู่เล็กน้อย”ชิงสุ่ยยิ้มขณะตอบกลับ
”แต่ส่วนที่แตกต่างคือความคิดเจ้ารู้จักหนทางแห่งนักฆ่าหรือไม่? วิธีการที่พวกเขาทำ คือการคิดหาวิธีสังหารนก 2 ตัวโดยอาศัยหินเพียงแค่ก้อนเดียว”
”เพื่อทำลายคู่ต่อสู้เจ้าอาศัยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เพื่อสร้างผลประโยชน์ 2 เท่า นั่นคือการโจมตีภายนอกให้ส่งผลไปถึงภายใน”เฉินเจินเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
”เมื่อเจ้าพยายามจะฆ่างูเจ้าจะต้องตีให้แน่ใจว่าส่วนที่ดีนั้นอยู่ห่างจากส่วนหัว 7 นิ้ว มิฉะนั้นมันจะไม่ตาย ต่อให้เจ้าตัดหางหรือตัดลำตัวมันก็ตาม มนุษย์เองก็มีจุดอ่อนมากมายบนร่างกาย บางคนแสดงผลลัพธ์ทันทีเมื่อถูกโจมตี ตัวอย่างเช่นสมอง ดวงตา ลำคอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดอ่อนที่เห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามมนุษย์ก็จะปกป้องอวัยวะอันตรายเหล่านั้นด้วยสัญชาตญาณ ดังนั้นพวกมันเป็นส่วนที่โจมตียากที่สุด หากเราโจมตีอย่างประมาท โอกาสที่เราจะกลายเป็นฝ่ายเสียท่าก็ย่อมมีมากขึ้น”
”แล้วยังมีจุดอ่อนใดที่อยู่นอกเหนือจากส่วนเหล่านี่หรือไม่?”เฉินเจินกล่าวถามด้วยความสงสัย
”ก็มีจุดชีพจรเส้นลมปราณ หรือข้อต่อที่บอบบางส่วนต่างๆ”
”จุดชีพจรอยู่ภายในร่างกายหากเจ้าไม่สามารถทะลวงผ่านร่างกายไปได้มันก็ไร้ประโยชน์ นอกจากนี้มันยังยากที่จะระบุตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเส้นลมปราณเองก็ไม่ต่างกัน ส่วนข้อต่อก็เป็นส่วนที่ไม่ง่ายต่อการทำลาย”เฉินเจินกล่าวด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
”หากฝึกฝนจนคุ้นชินเจ้าจะเรียนรู้วิธี วิธีที่จะทะลวงผ่านเข้าสู่เส้นลมปราณเพื่อตัดกระบวนการส่งพลังของศัตรูไปในช่วงสั้นๆ ในขณะเดียวกัน การฝึกฝนจะทำให้เรารู้ตำแหน่ง เมื่อโจมตีเข้าไปในจุดข้อต่ออันแสนบอบบางตามร่างกาย ขอเพียงแค่ครั้งเดียว ศัตรูก็จะเกิดอาการชา เมื่อมันเป็นเช่นนั้นชีวิตของศัตรูก็จะอยู่ในกำมือของเจ้า”ชิงสุ่ยกล่าวคำอธิบาย
เฉินเจินพยักหน้าชิงสุ่ยได้สอนความรู้ให้กับเธอเพิ่มเติม แน่นอนว่านักรบส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเส้นลมปราณหรือจุดลมปราณภายในร่างกาย กลุ่มคนที่ฝึกฝนเส้นลมปราณและจุดลมปราณส่วนใหญ่จะอยู่บนพื้นดิน และมีส่วนน้อยเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนที่ฝักใฝ่ทางด้านจุดลมปราณ จะต้องใช้ร่างกายเป็นตัวทดลอง ถ้าหากเกิดเหตุผิดพลาด เท่ากับไม่มีโอกาสแก้ไข ”เจ้าเคยใช้ทักษะความรู้ของเจ้าเหล่านี้ในการต่อสู้จริงหรือไม่?”เฉินเจินเงยหน้ากล่าวถามชิงสุ่ย
”ข้าจะใช้ทักษะเหล่านี้ก็ต่อเมื่อเข้าใกล้คู่ต่อสู้เท่านั้นและการที่เจ้าจะโจมตีเส้นลมปราณของคู่ต่อสู้ได้เจ้าจะต้องแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอาศัยการกระแทกของศาสตราวุธเพื่อส่งผลต่อเส้นลมปราณ ความเสี่ยงมันสูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้น่าพึงพอใจนัก”
”มานี่เถิดเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารับรู้ถึงพลังนี้เอง”
ชิงสุ่ยคว้าข้อมือของเธอจากนั้นก็เริ่มถ่ายเทพลังเข้าสู่ร่างกาย ในไม่ช้าเขาก็ใช้มือของเธอกระแทกบริเวณไหล่ของเธอเอง
ทันทีที่ฝ่ามือของเธอกระทบบริเวณจุดไหล่ร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นเครือพร้อมกับรู้สึกถึงพลังจากภายใน ชิงสุ่ยค่อยๆนำพามือของเธอสัมผัสไปตามจุดเส้นลมปราณส่วนอะไหล่ทั้งหมดด้วยกำลังที่เหมาะสม จุดลมปราณทั่วร่างกายมนุษย์มีมากมายเหลือคณาแต่ส่วนที่สัมผัสได้ง่ายมีจำนวนไม่มาก หลังจากผ่านจุดลมปราณบริเวณไหล่ ชิงสุ่ยก็นึกขึ้นได้ก่อนจะจับมือของเธอสัมผัสบริเวณจุดลมปราณชั่นจง(อก)
จุดลมปราณชั่นจงเป็นจุดลมปราณอีกจุดหนึ่งที่ส่งผลอันตรายต่อชีวิตแน่นอนว่าชิงสุ่ยไม่ได้ต้องการที่จะสังหารเธอ เขาจึงใช้กำลังพอเหมาะเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าจุดลมปราณชั่นจงนั้นอ่อนไหวมากเพียงใด จุดลมปราณชั่นจงไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายมันคือจุดลมปราณที่อยู่ตรงกลางหน้าอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ จุดลมปราณนี้คือจุดลมปราณที่อยู่ระหว่างรอยแยกของหน้าอกทั้งสอง แน่นอนว่าเฉินเจินก็เป็นอีกคนนึงที่มีหน้าอกใหญ่มาก ชิงสุ่ยจึงใช้กำลังเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เธอสัมผัสกับจุดลมปราณชั่นจง ในขณะเดียวกันตอนที่เขานำมือของเธอไปสัมผัสจุดลมปราณนั้น มือของเขาก็สัมผัสเข้ากับก่อนภูเขาอันแสนนุ่มนวล ให้ความรู้สึกเหมือนมือของเขากำลังสัมผัสกับผิวหยกอันแสนอบอุ่น 2 ก้อนขนาบข้าง