Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1897 - ความสามารถในการควบคุมกระแสการต่อสู้ที่น่ากลัว
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1897 - ความสามารถในการควบคุมกระแสการต่อสู้ที่น่ากลัว
เหลียนหลิงเฟิงและบรรดาหญิงสาวทั้งหมดรีบกินยาต้านพิษ ก่อนจะทะยานหนีออกไป เฝ้ามองดูการต่อสู้จากระยะไกล ชิงสุ่ยไม่ยอมให้คนที่เหลือเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ไปเด็ดขาด ตอนนี้ทุกคนยังไม่แข็งแรงพอ ถึงแม้จะรวมทุกคนเข้าด้วยกันก็ยังไม่เพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับผู้นำเทวะสูงสุด มันจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าแค่เพียงกระบวนท่าเดียวของผู้นำเทวะสูงสุดก็รุนแรงมากพอจะเอาชนะทุกคนที่ร่วมพลังกัน
ตัวของชิงสุ่ยไม่ได้บอกให้ทุกคนหนีไปเพราะรู้ดีว่าหากเขาตายในการต่อสู้ คนอื่นๆก็ไม่มีทางหนีรอดชะตากรรมความโกรธแค้นของผู้นำเทวะสูงสุดไปได้อย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาจะต้องทำคือต้องเอาชนะศึกในครั้งนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม
โชคดีที่ชิงสุ่ยยังมีผู้นำเทวะตงฟางคอยยืนอยู่เคียงข้าง พลังที่แท้จริงของหญิงสาวอาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่าพลังสูงสุดของเขา แต่ถ้าหากเขาไม่มีทักษะวชิระจู่โจม เขาก็คงจะอ่อนแอกว่าหญิงสาวคนนี้ อย่างไรก็ตาม ความน่ากลัวที่สุดในตัวของเขาคือความสามารถในการควบคุมสถานการณ์การต่อสู้
และสิ่งที่ชิงสุ่ยต้องทำคือการทำอย่างไรก็ได้ให้หญิงสาวคนนี้แข็งแกร่งขึ้นในขณะที่ศัตรูพลังต้องถดถอยลง ด้วยพลังที่เขาครอบครองเขาอาจจะพลิกกระแสการต่อสู้จากหน้ามือเป็นหลังมือได้
”เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าพวกเราจะฆ่าเขาได้?ตอนนี้พวกเราไม่เหลือหนทางให้ถอยอีกแล้ว เจ้าคิดวิธีสังหารชายคนนี้ได้แล้วหรือยัง?”ชิงสุ่ยกล่าวถามหญิงสาว โดยไม่ได้หันหน้ามอง
”ถ้าหากข้ามีโอกาสข้าจะฆ่าชายคนนี้ยังไม่ลังเล แต่ปัญหาเดียวขอพวกเราเจอคือพวกเรามีพลังมากพอจะจัดการเขาได้จริงๆหรือ?”
สิ่งที่ผู้นำเทวะสูงสุดได้กล่าวไปก่อนหน้านี้มันทำให้เธอโกรธจัด สำหรับคนอย่างเขา มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะทำให้ความเกลียดชังของเธอสงบลง แต่ปัญหาก็ยังคงเป็นปัญหา การสังหารชายคนนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ใช่ว่าเธอไม่มั่นใจในตนเอง แต่เพราะเธอรู้ในพลังของผู้นำเทวะสูงสุด
”ตราบใดที่เจ้ามั่นใจในการโจมตีของเจ้าเราก็ยังมีหวัง”
ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายในตัวยิงกาวมันน่าจะมีพลังประมาณ 6 ล้านเต๋า แน่นอนว่ามันคือพลังที่แข็งแรง แต่เนื่องจากในอดีตเธอจมอยู่กับยาพิษที่อยู่ในร่างกาย มันจึงทำให้ปัจจุบันทางของเธอน่าจะฟื้นตัวเพียงแค่ครึ่งเดียว
ตั้งแต่ที่เธอดื่มเลือดจากกายา9 หยางของชิงสุ่ย ไม่เพียงแค่เธอจะสำเร็จความสามารถในการต้านพิษ เธอยังทะลวงระดับพลังที่ติดขัดเพิ่มขึ้นไปเกือบ 2 เท่า แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก
ผู้นำเทวะสูงสุดยังคงยืนมองทุกคนด้วยสายตาที่น่าเกรงขามความแข็งแกร่งของเขามีค่ามากถึง 17 ล้านเต๋า ซึ่งเหนือกว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหญิงสาวเกือบ 10 ล้านเต๋า และความแตกต่างมันมีมากเกินกว่าที่หญิงสาวจะทำอะไรเขาได้
ส่วนความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยมีค่าเข้าใกล้4 ล้านเต๋า แต่เมื่อเขาปลดปล่อยการโจมตี พลังจะเพิ่มพูนทวีคูณ หากพิจารณาพลังแล้วชิงสุ่ยคงมีพลังอยู่ในระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 4 ส่วนของแม่นางตงฟางคงอยู่ที่ระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 5 แต่ 2 คนรวมกันก็ยังไม่ผู้นำเทวะสูงสุด
มันจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกไร้ค่าเมื่อรู้ถึงความแตกต่างที่มากเกินไป
มันไม่ใช่คำถามที่จะต้องถามว่าเธอมั่นใจแค่ไหนเพราะเมื่อเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่ง การแสดงออกด้วยความมั่นใจมันก็เป็นเรื่องยาก แต่ถึงเลือกที่จะหนี มันก็ไม่ต่างจากการหันหน้าพุ่งชนกำแพง
”เวลาพวกเจ้าใกล้หมดแล้วถ้าหากพวกเราพร้อม ข้าจะได้เริ่มโจมตี”ผู้นำเทวดาสูงสุดสนุกกับการมองดูสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามที่กำลังวุ่นวายทำอะไรไม่ถูก
”ข้ายังไม่พร้อมเลยเจ้าให้เวลาเขาสักหน่อยไม่ได้หรือไง”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวตอบ
รัศมีแห่งเทพสงคราม!!
ชิงสุ่ยนำเอาเครื่องรางสวรรค์ออกมาและแปะมันไว้ที่ตัวของเขาและตัวของหญิงสาวแน่นอนว่าเครื่องรางแห่งสวรรค์ คือสิ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไร
รูปแบบผสานสัตตะบริสุทธิ์!!
รูปแบบนี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ใช้2 คน จริงๆแล้วมันก็มาจากรูปแบบไทเก๊กแปลเป็นรูปแบบที่ใช้งานได้ง่ายสะดวกสบาย ตราบใดที่คนใดคนนึงรู้วิธีใช้ ทั้งสองคนก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นเกือบ 20 ส่วน แต่พลัง 20 ส่วนที่เพิ่มขึ้นจะไปเพิ่มขึ้นในส่วนที่เสียหายจากการโจมตีของศัตรูซึ่งสามารถเบี่ยงเบนใช้เป็นพลังโจมตีสวนกลับได้ นอกจากนี้มันยังเป็นรูปแบบที่ช่วยในการปกป้องกันการโจมตีจากทักษะพิษ เมื่อรวมพลังของทั้งหมดเข้าด้วยกันหญิงสาวและชิงสุ่ยต่างฝ่ายต่างมีพลังเพิ่มขึ้น 50 ส่วน ซึ่งความแข็งแกร่งของหญิงสาวพุ่งทะลุไปถึง 10 ล้านเต๋า แต่เนื่องจากประตูแห่งพลังเต๋า พลังที่เธอเลือกถึงจึงอยู่ในระดับ 9 ล้านเต๋าเท่านั้น
แม้พลังจะเพิ่มขึ้นยังคงอ่อนแอกว่าผู้นำเทวะสูงสุดแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมันทำให้เธอถึงกับมองชายปริศนาที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยสายตาตกตะลึง
เธอนึกย้อนกลับไปตอนที่เธอลองฝีมือกับเขาดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริง มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวในตัวของชายคนนี้
”หืมช่างน่าสนใจ ใครจะไปคาดคิดว่าเจ้าซ่อนความสามารถที่น่ากลัวแบบนี้เอาไว้อีก” ผู้นำเทวะสูงสุดพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูตกใจ เพราะเขาเองก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของพลังที่อยู่ในตัวของชิงสุ่ยและตงฟาง
ชิงสุ่ยเปิดเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดจากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปก่อนจะปลดปล่อยพลังปราณจักรพรรดิ
ในช่วงพริบตาร่างกายของผู้นำเทวะสูงสุดก็เริ่มสั่นสะเทือน เขาไม่อาจควบคุมพลังของตัวเองได้อีกต่อไป มันค่อยๆลดลงจนเหลือแค่ 14 ล้านเต๋า
ก่อนหน้านี้ผู้นำเทวะสูงสุดก็รู้สึกว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนที่แปลกประหลาดและสามารถทนต่อการโจมตีของเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่เนื่องด้วยความสามารถที่แท้จริงของผู้นำเทวะสูงสุด เขาจึงยังคงมั่นใจว่าเขาจะสามารถกำจัดชายหนุ่มคนนี้ได้ แต่แล้วพลังของเขาก็ลดลง
เขาไม่มีเวลาให้รออีกต่อไปแล้วชายหนุ่มคนนี้จะต้องถูกกำจัด มิฉะนั้นปัญหามันจะต้องลุกลามไปไกล
เคล็ดวิชาล่าสังหาร!!
ความรู้สึกหนักอึ้งเกิดบริเวณขาทั้งสองข้างของผู้นำเทวะสูงสุดมันทำให้ความเร็วของเขาลดลงทันที 30 ส่วน เมื่อรวมกับผลของพลังปราณจักรพรรดิ ความสามารถในการเคลื่อนที่ของผู้นำเทวะสูงสุดก็ลดลงไปกว่าครึ่ง แน่นอนว่าความเร็วคือสิ่งสำคัญ มันอาจนำไปสู่ความผิดพลาดระหว่างการต่อสู้
นี่ก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ชิงสุ่ยไม่ได้ปลดปล่อยพลังจำนวนมากพร้อมกันแต่ศัตรูที่เขากำลังเผชิญหน้าแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะรับไหว และด้วยความไม่มั่นใจ เขาจึงจำเป็นต้องปลดปล่อยพลังทุกอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
”ไปกันเถอะ!!”
ชิงสุ่ยตะโกนเสียงดังก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีผู้นำเทวะสูงสุด และแล้วการต่อสู้กลางอากาศก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ย๊ากกกก!!!
ฝ่ามือกระชากมังกร!!
ตัวของชิงสุ่ยไม่ได้บอกให้ทุกคนหนีไปเพราะรู้ดีว่าหากเขาตายในการต่อสู้ คนอื่นๆก็ไม่มีทางหนีรอดชะตากรรมความโกรธแค้นของผู้นำเทวะสูงสุดไปได้อย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาจะต้องทำคือต้องเอาชนะศึกในครั้งนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม
โชคดีที่ชิงสุ่ยยังมีผู้นำเทวะตงฟางคอยยืนอยู่เคียงข้าง พลังที่แท้จริงของหญิงสาวอาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่าพลังสูงสุดของเขา แต่ถ้าหากเขาไม่มีทักษะวชิระจู่โจม เขาก็คงจะอ่อนแอกว่าหญิงสาวคนนี้ อย่างไรก็ตาม ความน่ากลัวที่สุดในตัวของเขาคือความสามารถในการควบคุมสถานการณ์การต่อสู้
และสิ่งที่ชิงสุ่ยต้องทำคือการทำอย่างไรก็ได้ให้หญิงสาวคนนี้แข็งแกร่งขึ้นในขณะที่ศัตรูพลังต้องถดถอยลง ด้วยพลังที่เขาครอบครองเขาอาจจะพลิกกระแสการต่อสู้จากหน้ามือเป็นหลังมือได้
”เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าพวกเราจะฆ่าเขาได้?ตอนนี้พวกเราไม่เหลือหนทางให้ถอยอีกแล้ว เจ้าคิดวิธีสังหารชายคนนี้ได้แล้วหรือยัง?”ชิงสุ่ยกล่าวถามหญิงสาว โดยไม่ได้หันหน้ามอง
”ถ้าหากข้ามีโอกาสข้าจะฆ่าชายคนนี้ยังไม่ลังเล แต่ปัญหาเดียวขอพวกเราเจอคือพวกเรามีพลังมากพอจะจัดการเขาได้จริงๆหรือ?”
สิ่งที่ผู้นำเทวะสูงสุดได้กล่าวไปก่อนหน้านี้มันทำให้เธอโกรธจัด สำหรับคนอย่างเขา มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะทำให้ความเกลียดชังของเธอสงบลง แต่ปัญหาก็ยังคงเป็นปัญหา การสังหารชายคนนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ใช่ว่าเธอไม่มั่นใจในตนเอง แต่เพราะเธอรู้ในพลังของผู้นำเทวะสูงสุด
”ตราบใดที่เจ้ามั่นใจในการโจมตีของเจ้าเราก็ยังมีหวัง”
ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายในตัวยิงกาวมันน่าจะมีพลังประมาณ 6 ล้านเต๋า แน่นอนว่ามันคือพลังที่แข็งแรง แต่เนื่องจากในอดีตเธอจมอยู่กับยาพิษที่อยู่ในร่างกาย มันจึงทำให้ปัจจุบันทางของเธอน่าจะฟื้นตัวเพียงแค่ครึ่งเดียว
ตั้งแต่ที่เธอดื่มเลือดจากกายา9 หยางของชิงสุ่ย ไม่เพียงแค่เธอจะสำเร็จความสามารถในการต้านพิษ เธอยังทะลวงระดับพลังที่ติดขัดเพิ่มขึ้นไปเกือบ 2 เท่า แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก
ผู้นำเทวะสูงสุดยังคงยืนมองทุกคนด้วยสายตาที่น่าเกรงขามความแข็งแกร่งของเขามีค่ามากถึง 17 ล้านเต๋า ซึ่งเหนือกว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหญิงสาวเกือบ 10 ล้านเต๋า และความแตกต่างมันมีมากเกินกว่าที่หญิงสาวจะทำอะไรเขาได้
ส่วนความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยมีค่าเข้าใกล้4 ล้านเต๋า แต่เมื่อเขาปลดปล่อยการโจมตี พลังจะเพิ่มพูนทวีคูณ หากพิจารณาพลังแล้วชิงสุ่ยคงมีพลังอยู่ในระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 4 ส่วนของแม่นางตงฟางคงอยู่ที่ระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 5 แต่ 2 คนรวมกันก็ยังไม่ผู้นำเทวะสูงสุด
มันจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกไร้ค่าเมื่อรู้ถึงความแตกต่างที่มากเกินไป
มันไม่ใช่คำถามที่จะต้องถามว่าเธอมั่นใจแค่ไหนเพราะเมื่อเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่ง การแสดงออกด้วยความมั่นใจมันก็เป็นเรื่องยาก แต่ถึงเลือกที่จะหนี มันก็ไม่ต่างจากการหันหน้าพุ่งชนกำแพง
”เวลาพวกเจ้าใกล้หมดแล้วถ้าหากพวกเราพร้อม ข้าจะได้เริ่มโจมตี”ผู้นำเทวดาสูงสุดสนุกกับการมองดูสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามที่กำลังวุ่นวายทำอะไรไม่ถูก
”ข้ายังไม่พร้อมเลยเจ้าให้เวลาเขาสักหน่อยไม่ได้หรือไง”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวตอบ
รัศมีแห่งเทพสงคราม!!
ชิงสุ่ยนำเอาเครื่องรางสวรรค์ออกมาและแปะมันไว้ที่ตัวของเขาและตัวของหญิงสาวแน่นอนว่าเครื่องรางแห่งสวรรค์ คือสิ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไร
รูปแบบผสานสัตตะบริสุทธิ์!!
รูปแบบนี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ใช้2 คน จริงๆแล้วมันก็มาจากรูปแบบไทเก๊กแปลเป็นรูปแบบที่ใช้งานได้ง่ายสะดวกสบาย ตราบใดที่คนใดคนนึงรู้วิธีใช้ ทั้งสองคนก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นเกือบ 20 ส่วน แต่พลัง 20 ส่วนที่เพิ่มขึ้นจะไปเพิ่มขึ้นในส่วนที่เสียหายจากการโจมตีของศัตรูซึ่งสามารถเบี่ยงเบนใช้เป็นพลังโจมตีสวนกลับได้ นอกจากนี้มันยังเป็นรูปแบบที่ช่วยในการปกป้องกันการโจมตีจากทักษะพิษ เมื่อรวมพลังของทั้งหมดเข้าด้วยกันหญิงสาวและชิงสุ่ยต่างฝ่ายต่างมีพลังเพิ่มขึ้น 50 ส่วน ซึ่งความแข็งแกร่งของหญิงสาวพุ่งทะลุไปถึง 10 ล้านเต๋า แต่เนื่องจากประตูแห่งพลังเต๋า พลังที่เธอเลือกถึงจึงอยู่ในระดับ 9 ล้านเต๋าเท่านั้น
แม้พลังจะเพิ่มขึ้นยังคงอ่อนแอกว่าผู้นำเทวะสูงสุดแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมันทำให้เธอถึงกับมองชายปริศนาที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยสายตาตกตะลึง
เธอนึกย้อนกลับไปตอนที่เธอลองฝีมือกับเขาดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริง มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวในตัวของชายคนนี้
”หืมช่างน่าสนใจ ใครจะไปคาดคิดว่าเจ้าซ่อนความสามารถที่น่ากลัวแบบนี้เอาไว้อีก” ผู้นำเทวะสูงสุดพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูตกใจ เพราะเขาเองก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของพลังที่อยู่ในตัวของชิงสุ่ยและตงฟาง
ชิงสุ่ยเปิดเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดจากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปก่อนจะปลดปล่อยพลังปราณจักรพรรดิ
ในช่วงพริบตาร่างกายของผู้นำเทวะสูงสุดก็เริ่มสั่นสะเทือน เขาไม่อาจควบคุมพลังของตัวเองได้อีกต่อไป มันค่อยๆลดลงจนเหลือแค่ 14 ล้านเต๋า
ก่อนหน้านี้ผู้นำเทวะสูงสุดก็รู้สึกว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนที่แปลกประหลาดและสามารถทนต่อการโจมตีของเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่เนื่องด้วยความสามารถที่แท้จริงของผู้นำเทวะสูงสุด เขาจึงยังคงมั่นใจว่าเขาจะสามารถกำจัดชายหนุ่มคนนี้ได้ แต่แล้วพลังของเขาก็ลดลง
เขาไม่มีเวลาให้รออีกต่อไปแล้วชายหนุ่มคนนี้จะต้องถูกกำจัด มิฉะนั้นปัญหามันจะต้องลุกลามไปไกล
เคล็ดวิชาล่าสังหาร!!
ความรู้สึกหนักอึ้งเกิดบริเวณขาทั้งสองข้างของผู้นำเทวะสูงสุดมันทำให้ความเร็วของเขาลดลงทันที 30 ส่วน เมื่อรวมกับผลของพลังปราณจักรพรรดิ ความสามารถในการเคลื่อนที่ของผู้นำเทวะสูงสุดก็ลดลงไปกว่าครึ่ง แน่นอนว่าความเร็วคือสิ่งสำคัญ มันอาจนำไปสู่ความผิดพลาดระหว่างการต่อสู้
นี่ก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ชิงสุ่ยไม่ได้ปลดปล่อยพลังจำนวนมากพร้อมกันแต่ศัตรูที่เขากำลังเผชิญหน้าแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะรับไหว และด้วยความไม่มั่นใจ เขาจึงจำเป็นต้องปลดปล่อยพลังทุกอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
”ไปกันเถอะ!!”
ชิงสุ่ยตะโกนเสียงดังก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีผู้นำเทวะสูงสุด และแล้วการต่อสู้กลางอากาศก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ย๊ากกกก!!!
ฝ่ามือกระชากมังกร!!