Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1934 - 3 ปีผ่านไป เริ่มต้นการกลั่นรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

　　3ปีผ่านไปไวเหมือนกระพริบตา

　　ชิงสุ่ยในตอนนี้อยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะและเผชิญหน้ากับรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ตลอดช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ชิงสุ่ยฝึกฝนอย่างหนักจนเชื่อว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งพอจะรองรับพลังของรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้ ดังนั้นมันก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะตัดสินใจใช้มัน

　　ชายชราได้แนะนำให้ชิงสุ่ยหาสถานที่เงียบสงบปราศจากความวุ่นวายซึ่งสำหรับชิงสุ่ยแล้วดินแดนหยกยุพราชอมตะปลอดภัยซะยิ่งกว่าปลอดภัย นอกจากนี้หอคอยจักรพรรดิเองก็ถูกคุ้มครองบรรดาเพื่อนๆแล้วเหล่าหญิงสาวของชิงสุ่ย ทั้งยังมีรูปแบบค่ายกลที่ถูกจัดวางไว้ ซึ่งช่วยให้ทุกคนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระไม่มีทางถูกพันธนาการ

　　ชิงสุ่ยไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลเขาจะมุ่งเน้นจดจ่ออยู่กับการโคจรพลังภายในร่างกาย จากนั้นก็เริ่มขยับมืออย่างช้าๆ

　　ฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์!!

　　ฝ่ามือของชิงสุ่ยแปรสภาพเกือบจะโปร่งใสจากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปหยิบกล่องหยก ในวินาทีถัดมา มือของเขาก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยของเหลวกึ่งไอ

　　ชิงสุ่ยสูดลมหายใจเข้าเริ่มขยับนิ้ว

　　รากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในกล่องหยกพุ่งทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตกก่อนจะพลันสลายหายไปในช่วงพริบตา ในตอนนี้เถิงชิงซานรับรู้ได้ถึงพลังงานขนาดใหญ่ที่ถาโถมเข้าใส่ร่างกายของเขา มันคือพลังที่รุนแรง เคลื่อนไหวไปทั่วเส้นลมปราณ สร้างความเจ็บปวดให้กับชิงสุ่ยไปถึงสมอง

　　เมื่อรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์วนเวียนอยู่ในร่างกายพวกมันเคลื่อนไหวไปทั่วอย่างไม่เป็นระเบียบ ชิงสุ่ยรู้สึกได้เลยว่าเส้นลมปราณของเขากำลังซึมซับพลังงานอย่างต่อเนื่อง และเขาก็เริ่มรู้สึกว่าพวกมันเริ่มเสียหายจากการดูดซึมพลังที่รุนแรงเข้ามาในตัวพวกมันเอง

　　ไม่ว่าเขาจะพยายามทำสิ่งใดไม่ว่าจะใช้รูปภาพหยินหยางชำระล้าง จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แก่นแท้โลหิต รูปแบบดาราจักรภายในทะเลแห่งปัญญาก็ไม่สามารถหยุดยั้งพลังที่กำลังพุ่งพ่านเพิ่มทวีคูณเหล่านี้ได้

　　เขายังคงจดจ่ออยู่กับความเงียบใบหน้าของเขาซีดเผือด ร่างกายสั่นเครือ ดูไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง

　　ในไม่ช้า1 สัปดาห์ก็ผ่านไป

　　ร่างกายของชิงสุ่ยซีดเผือดเหมือนแผ่นกระดาษยิ่งไปกว่านั้นบนผิวกายของเขามันๆมีผิวหนังปูดโปนที่พร้อมจะระเบิดอยู่ตลอดเวลา

　　ชิงสุ่ยใช้แรงกดดันเตรียมตัวมาตลอดเวลา3 ปี แล้วตอนนี้เขากำลังสั่งอย่างรุนแรงเพราะความทรมาน

　　ทุกๆวันเขาต้องวนเวียนอยู่กับความเจ็บปวดเหมือนร่างกายจะระเบิด ชีวิตจะสูญสลาย

　　โชคดีที่ชิงสุ่ยมีร่างกายที่พิเศษเหนือผู้อื่นถ้าหากเขามีพลังต้านทานและผิวหนังที่ยืดหยุ่นไม่มากพอ ร่างกายของเขาคงจะระเบิดไปตั้งแต่วันแรก

　　เขาไม่กล้าคิดนอกเหนือจากสิ่งที่เขาต้องจดจ่อพลังปราณกายาบรรพกาลยังคงขับเคลื่อนไปทั่วร่างกาย

　　เคล็ดวิชากายาบรรพกาลถือเป็นรากฐานพลังทั้งหมดของชิงสุ่ยแม้ว่ามันจะบรรลุระดับที่ 9 มาตั้งนานแล้ว แล้วอยู่ที่ขั้นปลายสุดมาโดยตลอด แต่ชิงสุ่ยก็รู้สึกได้ว่าขั้นสูงสุดนี้มันกำลังดูดกลืนพลังเหมือนบ่อน้ำที่ไม่มีวันถูกเติมเต็ม เขาจะไม่เคยเห็นโอกาสที่จะทะลวงระดับชั้นสวรรค์ชั้นที่ 9 นี้ไปได้

　　ทำลายพันธนาการ!!

　　เพียงแค่พูดอาจจะดูง่ายแต่การทำมันยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์　　พลังบริสุทธิ์ในร่างกายของชิงสุ่ยเริ่มหลอมสลายประสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคลื่นพลังป่าเถื่อนของรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

　　แล้วเมื่อพลังประสานเติบโตเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งใหม่ชิงสุ่ยเหมือนมองเห็นความหวัง แต่มันก็ยังคงผันผวน สร้างความกังวลให้กับชิงสุ่ยไม่น้อย

　　พลังที่ผันผวนสร้างบาดแผลไปทั่วทั้งร่างกายเลือดสดๆไหลรินออกมาจากตัวของชิงสุ่ยจนรอบตัวกลายเป็นกองเลือด โชคดีที่มีพลังการรักษาตัวเองของชิงสุ่ยมีความรวดเร็วเหนือจินตนาการ มันจึงพยายามรักษาตัวเอง

　　อีก1 สัปดาห์ผ่านไป หนึ่งในห้าส่วนของรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มจางหายไปแล้ว ชิงสุ่ยรู้สึกได้เลยว่าพละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ร่างกายของเขาเองก็ชาจะไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น ไม่รับรู้แม้แต่ความเจ็บปวด สิ่งที่เขารับรู้คือเส้นลมปราณของเขากำลังอยู่ในสภาพวิกฤต　　ถึงแม้มันจะอยู่ในภาวะวิกฤตแต่ชิงสุ่ยก็ยังเชื่อมั่นในความยืดหยุ่นเส้นลมปราณของตน เขาจึงยังคงรักษาความสงบและเริ่มขับเคลื่อนพลังปราณแห่งการหวนคืน

　　ปราณแห่งการหวนคืนประสานเข้ากับพลังปราณแห่งกายาบรรพกาลเริ่มไหลวนไปทั่วร่างกาย ฟื้นฟูบรรดาเส้นลมปราณทั้งหมดที่ถูกทำให้เสียหาย ด้วยพลังปราณกายาบรรพกาลยิ่งเสริมสร้างส่วนที่เสียหายให้กลายเป็นส่วนที่ยืดหยุ่นมากกว่าเดิม

　　ชิงสุ่ยจำเป็นต้องใช้ปราณแห่งการหวนคืนอยู่ตลอดเวลาเพราะร่างกายของเขาถูกทำลายและต้องฟื้นฟู ตราบใดที่ชิงสุ่ยยังมีชีวิตรอด เขาจะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดรอดเงื้อมมือของเขาไปแม้แต่น้อย

　　2สัปดาห์ผ่านไป 3 สัปดาห์ผ่านไป

　　2เดือนต่อมา ชิงสุ่ยก็ลืมตาตื่นขึ้น เขาเหยียดแขนขาสร้างเสียงดังคล้ายกับเสียงกระดูกแตก

　　ในที่สุดทุกอย่างก็ซึมซับเข้าสู่ร่างกายของเขาจนหมดสิ้นและร่างกายของเขาก็ยังอยู่ดีปลอดภัย แต่เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดแห้งกรัง

　　ชิงสุ่ยรีบถอดเสื้อผ้าอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่

　　เวลา2 เดือนในดินแดนหยกยุพราชอมตะ หากคิดเป็นเวลาโลกภายนอกคงกินเวลาไปไม่ถึงครึ่งวัน ชิงสุ่ยจึงยังไม่รีบออกไป

　　รากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชิงสุ่ยอย่างก้าวกระโดด เขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆด้านโดยเฉพาะด้านพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่พลังป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย

　　ชิงสุ่ยพยายามรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่เขาครอบครองตอนนี้พลังโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200 ล้านเต๋า ส่วนพลังป้องกันจะอยู่ที่ระดับ 300 ล้านเต๋า

　　ด้วยพลังอำนาจทั้งหมดที่เขามีการโจมตีเพียงแค่ 1 ใน 10 ของพลังปัจจุบันก็สามารถก่อให้เกิดคลื่นแผ่นดินไหวที่รุนแรงพร้อมจะแบ่งแยกแผ่นดินได้

　　200ล้านเต๋าอาจจะยังไม่มากสำหรับคนอื่น โดยเฉพาะกับองค์จักรพรรดิคลั่ง หรือบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งและชายชราทั้งสองผู้ติดตาม แต่ด้วยการโจมตีของทักษะวชิระจู่โจม ต่อให้เป็นภูเขา 9 เทวาของชิงสุ่ยก็คงไม่อาจต้านทานแรงโจมตีนี้ได้ หรือต่อให้เป็นองค์จักรพรรดิคลั่ง หรือแม้แต่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งแห่งมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ก็ไม่อ่านป้องกันการโจมตีของมันได้เช่นกัน