Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 2058 – อาศรมเพลิง ฮัวเล่ย นี่คือสามีของข้า

บทที่ 2058 – อาศรมเพลิง ฮัวเล่ย นี่คือสามีของข้า
　　“นายหญิงใหญ่ ท่านรู้ว่าข้าครอบครองร่างกาย 9 หยาง แต่ท่านรู้เรื่องนี้มากเพียงใด?”ชิงสุ่ยถามอย่างไม่เป็นทางการ
　　เฉินหวงตกตะลึง หน้าแดงแล้วจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย “ไม่เลย ข้าไม่รู้เลย”
　　ใบหน้าของชิงสุ่ยก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดง นอกจากนี้จากการแสดงออกของเธอมันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ตัวของเธอนั้นมีความสามารถในการอ่านใจคน ดูเหมือนว่าเขาจะประมาทอีกแล้ว เธอคงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงแกล้งทำเป็นถูจมูกอย่างเชื่องช้า “ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะต้องตามหาหนอนผีเสื้อเพลิงให้ท่านให้ได้”
　　เฉินหวงร่างกายสั่นเทา เธอเริ่มรับรู้ถึงความเย็นอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะอยู่ในดินแดนเพลิงระอุอันแสนร้อน แต่ก็ไม่อาจยับยั้งความหนาวในร่างกายของเธอได้ ความหนาวที่เธอรู้สึกมันเหมือนกับการเอาร่างกายเปลือยเปล่าไปกลิ้งอยู่บนน้ำแข็งขั้วโลก
　　ในขณะที่ชิงสุ่ยก็เหมือนกองไฟที่ช่วยให้เธออบอุ่นได้เล็กน้อย เธอหันไปมองชิงสุ่ย “ข้ารู้สึกหนาวมาก…ข้าขอกอดท่าน…..”
　　ชิงสุ่ยดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว และเริ่มโคจรพลังร่างกาย 9 หยาง ดวงตาของเขาที่กำลังมองดูหญิงสาวมันเจ็บปวดทรมานจากความหนาวเหน็บ มันเต็มไปด้วยความสงสาร ใบหน้าอันแสนดึงดูดมันทำให้เขารู้สึกหดหู่
　　เฉินหวงเงยหน้าขึ้น หลังจากพิษน้ำแข็งถูกระงับ เธอค่อยๆถอยห่างออกจากอ้อมแขนของชิงสุ่ย “ขอบคุณนะ!!”เฉินหวงกล่าว
　　ชิงสุ่ยส่ายหน้า “ไม่เป็นไร พวกเรารีบเข้าไปไหนดินแดนเพลิงระอุให้เร็วที่สุดเถอะ ข้าหวังว่าพวกเราจะได้เจอหนอนผีเสื้อเพลิงโดยเร็วไว”
　　“ท่านอย่าตั้งความหวังไว้มาก การจะเจอมันได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา” 　　“คิดบวกเข้าไว้!! อย่างน้อยเราก็มีวิธีอื่นถ้าหากหาเจ้าหนอนผีเสื้อเพลิงไม่เจอ”ชิงสุ่ยแนะนำ
　　“ท่านอย่าได้คิดถึงเรื่องนั้นแม้แต่เศษเสี้ยว…..”เฉินหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงดูไม่พอใจ
　　ชิงสุ่ยไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น เขาไม่ได้พยายามจะบอกเธอว่าเขาจะใช้ร่างกาย 9 หยางกับเธอ แต่ใบหน้าที่แดงกลับมาทำให้เขาสติหลุดลอยไปชั่วขณะ
　　“ท่านจ้องมองข้าเสร็จหรือยัง?”เฉินหวงมองดูชิงสุ่ยที่กำลังมองดูเธอราวกับคนไม่รู้สึกตัว
　　“ท่านช่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีส่วนใดเลยที่ข้าจะสามารถละสายตาได้”ชิงสุ่ยดึงสติกลับมาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
　　“ท่านค่อยๆแทะโลมทีละทีละเล็กน้อย ดูเหมือนท่านจะก้าวล้ำเส้นแล้วล่ะ”เฉินหวงกล่าว
　　“ข้าหรือ? ท่านอยากให้ข้ากลายเป็นคนงี่เง่า ที่ไม่มีความคิดอยากจะมองท่านจริงๆหรือ?”ชิงสุ่ยกล่าว
　　แต่ในขณะที่ชิงสุ่ยกำลังกล่าวถามพูดคุยกับเธอ อสูรร้ายเป็นได้ก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา อสูรตัวนี้ก็คืออินทรีย์มังกรเพลิงระอุ ที่มีหัวขนาดใหญ่เป็นหัวมังกรตัวเป็นนก เพียงแค่มันกางปีก ความกว้างของปีก็ยาวไกลไปกว่า 100 เมตร หัวของมันเป็นสีดำ บ่งบอกว่ามันคือมังกรพิษ
　　บนหลังของมันมี 4 คนที่ยืนอยู่ ทั้ง 4 คนล้วนเป็นผู้ชาย ด้านหลังของมันมีอสูรขนาดใหญ่อีก 3 ตัวที่มีลักษณะคล้ายกับนกไฟ ชิงสุ่ยไม่ค่อยสนใจอะไรมาก และช่องว่างระหว่างสัตว์อสูรก็มีขนาดกว้างพอที่จะให้พวกเขาผ่านไปได้
　　ท่ามกลางนกไฟทั้ง 3 ตัว มีอยู่ตัวนึงผู้ที่ยืนอยู่บนหลังของมันเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างดี เธอสวมชุดเพลิงแดง ร่างกายของเธอดูดึงดูดสายตา แต่เมื่อพูดถึงภาพลักษณ์ของเธอ เธอสู้เฉินหวงไม่ได้เลย　　ชิงสุ่ยตั้งใจจะหลีกเลี่ยงคนเหล่านี้ แต่เขาไม่มั่นใจว่าผู้ที่มาถึงนั้นตั้งใจจะขวางทางเขาหรือไม่ฦ
　　ความแข็งแกร่งของอินทรีมังกรเพลิงระอุเกือบจะเทียบเท่ากับเจ้ากิเลนน้อย อสูรทั้ง 2 ตัวต่างเข้าเป็นอสูรประเภทไฟ ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังจ้องมองกัน ถ้าหากไม่ใช่เพราะชิงสุ่ยสั่งให้เจ้ากิเลนเพลิงหยุด มันเป็นไปได้สูงมากที่ทั้ง 2 ตัวจะเข้าห้ำหั่นกันเอง
　　ชิงสุ่ยมาที่นี่เพื่อตามหาหนอนผีเสื้อเพลิง เขาไม่ได้มาเพื่อสร้างปัญหาหรือต่อสู้กับใคร เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างหยุด ชิงสุ่ยจึงสั่งให้เจ้ากิเลนเพลิงเคลื่อนที่ไปทางเส้นทางอื่น แต่แล้วเจ้าอินทรีมังกรเพลิงระอุก็มาขวางทางเข้าอีกครั้ง
　　“สหาย สิ่งที่พวกท่านทำมันหมายความว่าอย่างไร?”ชิงสุ่ยมองดูชายทั้ง 4 คนที่อยู่ตรงข้าม
　　และตอนนี้ชิงสุ่ยก็ยืนยันได้แล้วว่าพวกเขาอยากจะสร้างปัญหา ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่เฉินหวงผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังชิงสุ่ย
　　สายตาที่พวกเขามองมามันทำให้ชิงสุ่ยไม่พอใจ เขาขมวดคิ้วโดยสัญชาตญาณ
　　“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเราทั้ง 4 คนมาจากอาศรมเพลิง ท่านสามารถเรียกข้าว่าฮัวเล่ย ข้าอยากจะเป็นเพื่อนกับพวกท่านทั้งสองคน แม่สาวน้อย ไม่ทราบว่าข้าควรเรียกท่านว่าอย่างไร? ความงดงามของท่านมาทำให้ค่าเกือบเข้าใจผิดว่าท่านเป็นนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์ ข้าหวังว่าท่านจะไม่รังเกียจที่จะได้เป็นเพื่อนกับข้า”ชายคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม
　　ชิงสุ่ยรู้ทันทีว่าชายคนนี้จะต้องชอบเฉินหวง สำหรับตัวของเขา อีกไม่นานก็คงโดนทิ้งไว้ข้างทาง ครั้งเดียวที่พวกเขาสบตากันคือครั้งแรกหลังจากนั้นเขาก็แทบจะไม่สนใจชิงสุ่ยเลย สายตาจับจ้องอยู่เพียงแค่เฉินหวง
　　“พวกเรามีเรื่องต้องทำ ชายคนนี้คือสามีของข้า”เฉินหวงไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง เขารีบจับมือของชิงสุ่ยทันที
　　สีหน้าการแสดงออกของฮัวเล่ยไม่สู้ดีนักด้วยประสบการณ์ความเจ้าชู้ของเขามันบอกได้ทันทีว่าเฉินหวงคือสาวบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นเธอจับมือกับชิงสุ่ย ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความอิจฉา อาศรมเพลิงคือกลุ่มคนที่ติดอันดับสูงสุดของดินแดนเพลิงระอุ ทุกคนจะต้องยอมจำนนแก่เขา หญิงสาวผู้ใดที่เขาชอบจะไม่มีทางนี้เขาไปได้
　　“แม่สาวน้อย ข้าคิดว่าพวกท่านคงไม่ได้มาจากที่แห่งนี้ จุดประสงค์ในการเดินทางมายังดินแดนเพลิงระอุของพวกท่านคืออะไร?”ชายหนุ่มจ้องมองชิงสุ่ยและเฉินหวงขณะกล่าวถาม
　　“ท่านเก็บความหวังดีของท่านไปเถอะ พวกเราไม่คิดว่าท่านสมควรที่จะรู้เรื่องนั้น”ชิงสุ่ยกล่าว
　　“ฮ่าฮ่าฮ่า ตราบใดที่พวกท่านยังอยู่ในดินแดนเพลิงระอุ ข้าก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยในดินแดนของเรา”ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
　　ชิงสุ่ยขมวดคิ้วไม่ได้ยินคำพูดดังกล่าวชายคนนี้กำลังพยายามสร้างปัญหา นอกจากนี้เขาเองก็คงจะเป็นคนที่มีสถานะสูงส่งในดินแดนเพลิงระอุ นั่นก็หมายความว่าถ้าหากเขาเป็นศัตรูกลับชิงสุ่ย ชิงสุ่ยก็ต้องเป็นศัตรูกับคนหมู่มาก
　　“เฮ้อ ท่านดูเหมือนจะไม่มีความเกรงใจเลย เราทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่ ข้าว่ามันไม่จำเป็นต้องมานั่งถกเถียงกัน เธอเป็นผู้หญิงของข้า ใครก็ตามที่กล้ารุกร้านเธอ ข้าไม่มีทางยอมเด็ดขาด”ชิงสุ่ยขมวดคิ้ว
　　“ไม่มีทางยอม? ฮ่าฮ่า พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? มันบอกว่ามันอยากจะทำร้ายข้า!! ข้าฮัวเล่ยต่างหากพี่จะเป็นคนทำร้ายเจ้า”ชายคนนั้นหัวเราะดังมาก
บทที่ 2059 – หญิงสาวที่งดงาม มักจะดึงเอาหายนะมาหาตัวเอง
　　ชิงสุ่ยยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ สิ่งที่เขาทำคือมองคู่ต่อสู้อยู่อย่างเงียบๆ เขาไม่มีปฏิกิริยาหุนหันพลันแล่นเหมือนแต่ก่อน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้เกิดจากหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขา ไม่ใช่เขาที่เข้าไปเป็นปัญหา แต่เป็นเพราะเธอโดดเด่นเกินไป จึงกลายเป็นการดึงดูดปัญหามาจากทุกที่แทน
　　ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ หญิงสาวโฉมงามล้วนเป็นศูนย์กลางที่ดึงความสนใจมาจากผู้คน หลายคนอยากจะพาเธอเข้าไปในห้องของพวกเขา ถ้าหากหญิงสาวโฉมงามเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ครอบครัวของเธอก็จะตกอยู่ในโศกนาฏกรรมทันที
　　ความงามจึงอาจกลายเป็นโชคร้ายที่นำความซวยมาสู่ตน
　　คนอื่นๆจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาสนุกสนาน ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนหลังอินทรี