Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1316
บทที่ 1316 –การรักษา
หลังจากนั้นอี่หวง กู่หวู๋ก็จากไป
ชิงสุ่ยคาดเดาได้ว่าเธอนั้นต้องมีความสัมพันธ์อะไรบางหรือมีความลับอะไรบางอย่างเก็บเอาไว้ เช่นครอบครัวหรือ ตระกูลของเธออยู่ที่นี่ ดังนั้นเธอจึงรีบจากไปก่อนที่จะกับพวกเขา แต่สิ่งที่ชิงสุ่ยงสงสัยทำไม เธอถึงต้องไปยังทวีปอู่เซียกันละ ในเมื่อทวีปแห่งนี้นั้นดีกว่าทวีปอู่เซียมากนัก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามายังทวีปแห่งนี้ ตอกนแรกเขาแอบดีใจอยู่ไม่น้อยทีรู้ว่าอี่หวง กู่หวู๋ มาด้วยกับเขา แต่ตอนนี้เธอก็จากไปแล้ว
ชิงสุ่ยมองไปที่สิ่งรอบราวกับคนหลงทาง เขาไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนต่อและทำอะไร แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็มีเป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้
ตอนนี้เขาอาจจะใช้เวลาอยู่ที่แห่งนี้สักพักก่อนเพื่อขาข้อมูล ก่อนจะออกเดินทางตามหาอัจฉริยะทั้งสอง และเพราะทั้งอัจฉริยะสองทำให้เขานั้นยังไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทางครั้งนี้ ตอนนี้ชิงสุ่ยเริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ในขณะที่เขาจมอยู่กับความคิดของเขา มันทำให้เขานึกถึงประมุขอสูร แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเธอยู่ที่ทวีปแห่งนี้หรือไม่ บางทีเธออาจอยู่ที่ทวีปอื่นๆก็เป็นไปได้ ตอนนี้เขาควรไปหาเธอหรือไม่?
แต่ตอนี้ชิงสุ่ยคิดว่ามันคงไม่เป็นการดีที่เขาจะไม่พบเธอก่อนที่จะล่วงเข้าสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศเสียก่อน เพราะขืนเข้าไม่พบเจอเธอในตอนนี้ก็รั้งแต่จะเป็นภาระให้กับเธอเท่านั้น
ที่จริงชิงสุ่ยคิดว่ามันคงมีประโยชน์หากเขาอยู่กับเธอในตอนนี้ นั้นเพราะเขาสามารถใช้ปราณจักรพรรดิสนับสนุนเธอ มันเป็นทักษะที่มีประโยชน์อย่างมากเมื่อพบเจอคนที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รู้ว่าหากเขาออกไปยืนอยู่ในข้างเธอในตอนนี้ ตัวของเขาจะถูกสังหารลงในทันทีรึป่าว ความคิดมากมายได้ถาโถมเข้าใส่ชิงสุ่ยในตอนนี้
“ช่วยด้วย มีคนหมดสติตรงนี้!”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ชิงสุ่ยหลุดออกมาจากภวังค์ ขณะที่เขามองไปที่กลุ่มคนจำนวนมากยืนอยู่
ชิงสุ่ยเดินเข้าไปและพบว่ามีคนกำลังชีพจรของชายชราคนหนึ่งอยู่ในตอนนี้ ขณะที่เขามองลงไปที่ใบ้หน้าของชายชราที่เป็นลมอยู่ เขานั้นดูแก่อย่างมาก
ในขณะนั้นเองชายที่ดูเหมือนจะเป็นหมอก็ลุกขึ้นและส่ายหน้าของเขา เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่เขาใจสถานการณ์ได้ดี นั้นเพราะชายชราคนนี้นั้นมาถึงช่วงสุดท้ายของอายุไขแล้วคงไม่แปลกหากว่าหมอจะไม่สามารถรักษาเขาได้
แต่นั้นไม่ใช่สำหรับเขาด้วยทักษะของเขาแล้วแม้แต่ฟื้นคืนชีวิตคนเขาก็อาจจะพอทำมันได้ แต่ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากเขาไปวุ่นวายเท่าไร แต่ตอนนี้เขามีสิ่งที่สงสัยอยู่ก็คือทำไมชายชราที่มีสภาพเช่นนี้ถึงออกมาเดินอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง เพียงแค่การเคลื่อนไหวของเพียงเล็กน้อยก็นับว่ายากแล้วด้วยวัยขนาดนี้
ในขณะนั้นเอง
“ท่านพ่อ ”
“ท่านปู่!”
“ท่านบรรพบุรุษ!”
…
กลุ่มคนนับสิบๆคนไม่ว่าชายหรือหญิงต่างวิ่งตรงมาที่ชายชรา และร้องไห้ออกมา
ชายคนหนึ่งที่เรียกเขาว่าวิ่งตรงมาและคุกเขาลงก่อนที่จะร้องไห้ออกมา
“ท่านพ่อ เร็วเข้ารีบดูอาการของท่านปู่เร็ว”ชายอีกคนที่วิ่งตามารีบกล่าวอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นเองชายวัยกลางคนที่นั่งจับมือชายชราอยู่ ก็ได้หลีกทางให้กับชายชราที่พึ่งมาถึง และกล่าวว่า “ช่วยพ่อข้าด้วย!”
“ข้าเข้าใจแล้ว เชื่อมือข้าเถอะ!”ชายชราจบลงไปที่ไหล่ของชายวัยกลางคน
ก่อนที่มือของเขาจะขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ
ทักษะรักษาห่วงวิญญาณ!
ชิงสุ่ยไม่ได้คาดหวังมาก่อนว่าชายชราคนนั้นจะใช้ทักษะอันน่าอัศจรรย์ นี้เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ช่วยในการกระตุ้นชีพจรให้กับคนที่ใกล้ตายแล้ว ชิงสุ่ยนั้นจำได้ว่าทักษะนี่นั้นได้หายสาบสูญไปนับพันๆปีและไม่เคยมีใครเห็นมันมาก่อน แม้แต่เขายังเองก็หากไม่ได้อ่านหนังสือจำนวนมากมานก่อนก็คงจะไม่เคยพบเจอเรื่องราวของมัน
ทักษะดังกล่าวนั้นก็คล้ายกับชื่อของมัน นั้นก็คือรักษาชีวิต ชีพจรเอาไว้แม้แต่คนที่ใกล้ตายหรือตายไปแล้วช่วงเวลาหนึ่ง นั้นก็สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง แต่มันนั้นเป็นทักษะที่ต้องแลกด้วยอายุไขของผู้ใช้มัน นอกจากนี้คนที่ฟื้นขึ้นมาจะมีชีวิตอยู่ได้แค่สามวันเท่านั้น
ในไม่ช้าชายชราก็จะตื่นขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรก็ตามชายชราที่ดูคล้ายกับหมอก็ได้กล่าวออกมา “ที่เหลือก็ให้พวกท่านจัดการเองก็แล้วกัน!”
“อั๊กๆ นี่ทำไมข้าถึงยังไม่ตาย นี่เจ้า ๆ แลกชีวิตให้ข้าอีกสามวันอย่างนั้นรึ?” ชายชรากล่าวออกมาและยิ้มอย่างขื่นขมไปทางหมอคนนั้น
“ท่านหมอ โปรดช่วยท่านบรรพบุรุษของข้าด้วย”หญิงสาวที่อยู่ใกล้ร้องออกมา เมื่อได้ยินว่าบรรพบุรุษของเธอเหลือเวลาแค่ 3วันเท่านั้น
“หยานเอ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ข้ารู้สภาพข้าดีมากกว่าใครๆ ไม่มีใครสามารถช่วยข้าได้อีกแล้ว หากจะมีก็แต่ข้าต้องทะลวงผ่านเข้าสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศให้ได้เท่านั้น!” ชายชราส่ายหน้าเล็กน้อย เวลาสามวันนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถทำมันได้
“ถึงแม้ท่านจะไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศได้ แต่ก็ยังมีอีกทางหนึ่งที่จะเพิ่มอายุไขของท่าน”เสียงที่นุ่มลึกดังขึ้น ขณะที่ทุกๆคนหันไป มองไปที่ชายหนุ่มรูปงานที่เดินเข้ามา ชายคนนั้นคือชิงสุ่ยนั้นเอง
ในตอนนั้นทุกๆคนนั้นประหลาดในการปรากฏตัวของเขาอย่างมาก เช่นเดียวกับหมอคนเมื่อกี่ เขามองไปที่ชิงสุ่ยแล้วส่ายหน้าออกมา
“จริงรึท่านสามารถรักษาท่านบรรพบุรุษของข้าได้จริงรึ?”หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยความหวัง แต่เมื่อมองไปที่ชิงสุ่ยเธอเอาก็เริ่มไม่มั่นใจเล็กน้อย
“ขอบคุณในความหวังดีของท่าน แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก”ชายชรากว่าและมองไปที่ชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยยั่งเด็กเกินไปที่จะทำให้พวกเขานั้นเชื่อถือ
แม้แต่ชายชราเองก็ไม่คิดว่าชิงสุ่ยนั้นจะสามารถช่วยเขาได้
ในตอนนั้นเอง “เจ้ารู้มั้ย ว่านายท่านของข้าคือใคร แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำได้ แล้วเจ้าจะมีปัญญาอะไร”ชายคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่หน้ารังเกลียด
ชิงสุ่ยมองไปที่ต้นกำเนิดของเสียง เป็นชายหนุ่มรูปงามที่ได้กล่าวออกมา เขานั้นเป็นคนสนิทของหมอชราที่ทำการรักษาชายชราคนนั้นอยู่ ถึงแม้จะหล่อเหล่าสักแค่ไหน ตัวของเขาเองก็มีนิสัยที่น่ารังเกียจอย่างมาก
ในตอนนั้นเองหมอชราก็ได้กล่าวออกมา “ข้าขอโทษคุณชายจริงๆ อย่างได้โกรธเคืองเขาเลย เขายังเด็กเกินไป ว่าแต่ท่านมีวิธีอะไรที่สามารถรักษานายท่านลี่ได้อย่างนั้นรึ เขานั้นมาถึงช่วงสุดท้ายของอายุไขแล้วมันนั้นแทบจะไม่มีวิถีที่ช่วยเขาได้เลย?”
เสียงของหมอชรานั้นดูนุ่มลึกอย่างมาก เขานั้นไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย จิตใจของเขาดูนิ่งสงบดังสายน้ำที่ไหลริน และในตอนนี้ชิงสุ่ยก็ไม่ได้เห็นท่าทางที่ดูถูกจากเขาเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าเขานั้นจริงใจอย่างมากที่ถามออกมา
“ข้าไม่สนใจคำพูดของตัวตลกหรอก ข้าจะถือว่ามันเพียงแค่เสียงนกเสียงกาเท่านั้นมาเข้าเรื่องกันเถอะ ในตอนนี้ท่านอาวุโสนั้นได้ถูกจำกัดพลังชีวิตลงเพราะโรคและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้พลังชีวิตของท่านลดไปเป็นจำนวนมาก เพียงแค่กำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไปมันก็เพียงแล้วที่จะช่วยเพิ่มอายุไขของท่าน”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาและยิ้มอย่างใจเย็น
เมื่อหมอชราได้ยินคำพูดของชิงสุ่ยเขานั้นก็ยังคงนิ่งสงบอยู่ นั้นเป็นที่รู้ๆกันและเป็นหลักการง่ายๆของหมอทุกคนที่ต้องรู้
“แล้วคุณชายมีวิธีที่สามารถกำจัดสิ่งของสกปรกเหล่านั้นออกไปได้รึไม่? ”หมอชรากล่าวออกมา
“ข้าสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างไรข้านั้นก็ไม่สามารถกำจัดพวกมันทั้งหมดออกไปได้อยู่ดี มีเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นที่ข้าพอจะทำการชำระล้างได้”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความมั่นใจ
หมอชรามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความตกตะลึง ขณะที่สายตาของเขานั้นเปล่งประกายออกมา ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปและกล่าวว่า “นายท่านลี่ โปรดให้คุณชายท่านนี้ลองดูได้หรือไม่?”
“รบกวนคุณชายแล้ว!”ชายชรากล่าวขณะที่ยิ้มให้ชิงสุ่ย
“ท่านอาวุโสกล่าวหนักไปแล้ว!”
ถึงอย่างไรก็ตาม สายตาของชายหนุ่มทีมองต่อชิงสุ่ยก็ยังไม่เปลี่ยนไป นั้นเพราะเขานั้นเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใกล้เคียงกัน เขามิอาจยอมรับได้หากมีใครเหนือกว่าอาจารย์ของเขา นอกจากนี้เขายังไม่เชื่ออีกว่าชิงสุ่ยนั้นสามารถทำมันได้ อย่างไรก็ตามเขานั้นต่างกับหมอชราอย่างมาก หมอผู้นี้คือหมอที่แท้จริง เขานั้นเป็นคนที่ชอบการเรียนรู้และเป็นคนทีมีวิสัยที่กว่าไกลอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะตระกูลของชายหนุ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา เขาคงไม่รับชายหนุ่มผู้นี้เอาไว้
ตระกูลลี่!
ตระกูลลี่เป็นตระกูลหนึ่งที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองอี่หวง นอกจากนี้ที่แห่งนี้ยังเป็นสาขาหลักของตระกูลอีกด้วย
ในตอนนี้ทุกคนยังมองไปที่ชิงสุ่ยนั้นด้วยสายตาไม่เชื่อ ดังนั้นทุกๆคนจึงคิดว่าเขานั้นแค่ต้องการผลประโยชน์จากตระกูลลี่เท่านั้น จึงไม่มีใครพยายามพูดจาและสนใจเขาเลย
…
ในห้องขนาดใหญ่ ชิงสุ่ยได้บอกให้ชายชราถอดชุดออก เหลือไว้เพียงแค่กางเกงเท่านั้น ในขณะที่เขาได้หยิบเข็มทองออกมา แล้วถือมันไว้ในกำมือ ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่ต้องการรักษาชายชราให้หายดี เขาเพียงแค่ต้องการยืดอายุของชายชราออกไปอีกจำนวนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เกินร้อยปี เพราะเขานั้นไม่ต้องการแสดงตัวให้โดดเด่นเหนือใครๆ
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ใช้เข็มทองฝังลงไปที่จุด เทียนจิ๊ ฮวงเล่ง และจุดอื่นๆอีกสี่จุด ซึ่งมันเป็นจุดที่ไม่มีหมอคนใดกล้าแต่ต้องมันเลยแม้แต่น้อย ในตอนแรกหมอชราต้องการที่จะหยุดเขา แต่เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจของชิงสุ่ย เขาได้เพียงแต่นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น
การรักษาโรคทีแอบแซงอยู่ ชิงสุ่ยจพเป็นต้องกำจัดสิ่งสกปรกในร่างของชายชราออกมาเสียก่อน โดยที่เขาฝังเข็มทองลงไปที่จุด จือหยินเพื่อกระตุ้นสิ่งสกปรกออกมา
ในตอนนั้นเองกระแสปราณมหาศาลก็ได้ถาโถมออกมา
เข็มทองเก้าหยาง!
ทันที่ชิงสุ่ยใช้เข็มทองเก้าหยาง ของเหลวสีดำจำนวนมากได้ไหลออกมาจากรูขุมขนบนร่างชายชรา กลิ่นที่เหม็นเหมือนซากศพได้ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องในตอนนี้
ในตอนนี้เองสีหน้าของหมอชราเริ่มเปลี่ยนแปลงไป สายตาของเขามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความเชื่อ เขาผู้ได้รับขนานนามว่าหมอปิศาจนั้นก็ยังไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและเลื่อมใสในตัวของชิงุส่ยอย่างมาก