Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1317
บทที่ 1317 – ชีวิต
มีหมอมากมายในโลกใบนี้ ส่วนมากพวกเขานั้นเป็นหมอที่รู้แต่ทักษะการปรุงยาเท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้ระดับของหมอนั้นแตกต่างกันอย่างให้ได้ชัด
สำหรับหมอที่เก่งกาจ การฝังเข็มและทักษะเฉพาะนั้นเป็นอะไรที่สำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ยังไม่มีใครที่สามารถเรียนแบบได้ ด้วยทักษะเหล่านี้พวกเขานั้นสามารถดูดซับตัวยา ชำระล้างร่างกายของพวกเขาได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้หมอที่เก่งกาจนั้นจะเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน
ในตอนนี้หมอชรามองไปที่ชิงสุ่ย ด้วยความสามารถของเขา เขาสามารถรู้ได้ในทันว่าอายุไขของชายชราได้เพิ่มขึ้นแล้ว อย่างน้อยที่สุดมันก็เพิ่มขึ้นเกือบอีก100ปี
ในขณะที่ของเหลวได้ไหลรินออกมา ถึงหยดที่สิบชิงสุ่ยก็ได้ดึงเข็มทองของเขาออกมา
ในตอนนั้นเองเขาเดินไปที่หน้าต่างและเปิดให้อากาศที่บริสุทธิ์เข้ามา เพื่อระบายกลิ่นเหม็นเหล่านั้นออกไป เช่นเดียวกับนายท่านลี่ที่เริ่มตัวสอบร่างกายของเขา ตอนนี้พละกำลังของเขาพื้นคือมาแล้วเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ความชราภาพของเขาก็หยุดเอาไว้ มันถูกรักษาให้กลับมาอยู่ในสภาพที่เกือบสมบูรณ์ที่สุด
เขามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยสายตาชื่นชมอย่างมาก ด้วยความตกตะลึงเขาไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา นอกจาก “ข้าขอโทษจริงๆที่ไม่เชื่อเจ้า เจ้าเป็นหมอที่เก่งจริงๆ เป็นเกียรติจริงๆที่ ข้าได้มาพบกับเจ้า และมีหมอปิศาจอยู่ข้างกาย ทั้งคู่เป็นยอดหมอแห่งแผนดินจริงๆ!”ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายท่านกล่าวเกินไปแล้ว ข้าเองนั้นยังไม่สามารถเทียบกับคุณชายได้ จริง”หมอชรายิ้มออกมาก่อนที่จะจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความตื่นเต้น
“ท่านอาวุโสกล่าวเกินไปแล้ว ในตอนนี้ร่างกายของท่านได้ถูกชำระล้างเรียบร้อยแล้ว หากข้าคิดไม่ผิดตอนนี้อายุไขของท่านได้เพิ่มขึ้นมาอีก100ปีแล้ว แต่ถึงอย่างไรท่านก็ต้องดูแลสุขภาพมากนะ”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างสุภาพ
“จริงสิคุณชาย หากท่านไม่ว่าอะไรข้าอยากจะเชิญท่านไปยังหอคอยจักรพรรดิของเราสักหน่อย ที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยวิชาการความรู้ทางการแพทย์ที่หลากหลาย และข้านั้นก็จะได้ขอคำชี้แนะจากคุณชายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคุณชายบ้าง!”
“เช่นเดียวกัน ข้านั้นก็ต้องการแลกเปลี่ยนความรู้จากท่านเหมือนกัน!”ชิงสุ่ยกล่าวยิ้มออกมา
ในตอนนี้ชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่ข้างหลังหมอชรา ได้มองมาที่ชิงสุ่ยด้วยความเกลียดชัง ชิงสุ่ยนั้นสามารถสัมผัสได้ดีถึงทุกๆการกระทำของเขา แต่อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยเลือกที่จะไม่สนใจมัน
“ต้าหยวน นำเข็มพวกนั้นมาทีสิ”ชายชรากล่าวออกมากับชายที่อยู่ใกล้ๆเขา
“ครับ ท่านพ่อ!”
ดวงตาของหมอชราเปิดกว้างขึ้น ขณะที่มองไปยังนายท่านลี่ ก่อนที่จะยิ้มจางๆออกมา
“ขอบคุณท่านๆมากๆ!”หญิงสาวที่ชื่อเหยียนเอ๋อกล่าวออกมาขณะที่มองไปที่ชิงสุ่ย
เธอนั้นมีส่วนสูงที่ไม่มากนัก แต่เธอก็ยังมีรูปร่างที่ดีพอสมส่วน ดวงตาตาของเธอดูเชิดเล็กน้อย แลดูมีเสน่ห์อย่างมาก นอกจากนี้ฝีปากของเธอนั้นก็ดูเซ็กซี่อย่างมาก ถึงอย่างไรก็ตามเสน่ห์ของเธอนั้นก็อยู่หน้าทรงโตของเธอมากว่าสิ่งอื่นใด
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก ”ชิงสุ่ยมองไปที่หน้าของเธอ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมใบหน้าของเธอนั้นถึงดูคุ้นเคยกับคนในชาติก่อนของเขาอย่างมาก
ในขณะนั้นชายชราคนก่อนเดินเข้ามา พร้อมด้วยกล่องไม้โบราณกล่องหนึ่ง
ก่อนที่เขาจะส่งให้กับชายชราและมอบต่อให้นายท่านลี่
ขณะที่นายท่านได้เปิดกล่องออก ประกายแสงสีขาวนวลได้เปล่งปลั่งออกมา แม้แต่ชิงสุ่ยเอาก็มิอาจควบคุมจิตใจของเขาไว้ได้ ด้วยพลังวิญญาณที่อักแน่นอยู่ข้างในนั้นมันให้หัวใจของเขาเต้นถี่อย่างบ้าคลั่ง
เข็มแห่งชีวิตและความตาย!
ชิงสุ่ยมองไปที่เข็มทั้ง9เล่ม ที่มีความยาม 9นิ้ว ด้วยความตกตะลึงครึ่งหนึ่งของมันนั้นมีสีขาวน้ำนม อีกครึ่งนั้นเป็นสีเขียวมรกต พวกมันกำลังส่องสกาวอยูในกล้องไม้โบราณกล่องนั้น
เดิมเข็มชุดนี้นายท่านลี่นั้นเคยให้หมอปิศาจมาก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถใช้มันได้ดังใจ ดังนั้นเขาจึงนำมันคืนกลับให้นายท่านลี่ ถึงแม้มันจะเป็นเข็มที่ดีขนาดไหนถ้าผู้ใช้ไรความสามารถมันก็เท่านั้น
“มันคือเข็มแห่งชีวิตและความตาย เดิมทีมันเคยเป็นของหมอปิศาจมาก่อน แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่เหมาะกับเขา ดังนั้นเขาจึงคืนมันกลับมาให้กับข้า ดังนั้นข้าจึงอยากให้เจ้าลองใช้มัน บางทีมันอาจมีประโยชน์กับเจ้า”นายท่านลี่มองไปที่ชิงสุ่ย
ในตอนนั้นชิงสุ่ยได้มองไปที่มันด้วยเนตรสวรรค์ของเขา มันทำให้เขานั้นตื่นเต้นอย่างมาก ของเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุล้ำค่าอย่างมาก พวกมันนั้นเต็มไปด้วยพลังสวรรค์ที่อัดแน่อยู่ นอกจากนี้มันนั้นยังทรงพลังกว่าเข็มทองของเขาอีกด้วย
เมื่อมองลงไปที่ตัวอักษรปรากฏอยู่ ชิงสุ่ยกก็รู้ได้ในทันว่ามันมีอีกชื่อหนึ่ง คือเข็มหยิน และเข็มหยาง
เมื่อมองไปที่มันชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่าพวกมันนั้นสามารถเข้ากันได้ดีกับ “ปราณแห่งการหวนคืน”
“นายท่านลี่ นี่มันล้ำค่าเกินไป ข้ามิอาจรับมันไว้ได้!”ชิงสุ่ยรีบกล่าวออกมา
“เข็มเหล่านี้อยู่กับข้ามานานหลายร้อยปีแล้ว แต่น่าเสียดายไม่มีใครมีพรสวรรค์มากพอที่จะใช้พวกมันได้ นอกจากนี่ข้าก็อยากมอบมันให้กับเจ้า เพราะเจ้านั้นเป็นคนช่วยชีวิตของข้าเอาไว้อีกด้วย”เขากล่าวออกมาด้วยความจริงใจ
“ถ้าเจ้าใช้มันความสามารถในการรักษาของเจ้าก็จะทวีผลขึ้น รับมันไว้เถอะ”หมอปิศาจยิ้มออกมาและกล่าว
“งั้นข้าขอรับมันไว้ก็แล้วกัน!”
ชิงสุ่ยและเอื้อมมือออกไปรับเข็มแห่งชีวิตและความตาย ถึงแม้จะไม่เคยใช้มันมาก่อนแต่เขาสามารถรู้ได้ทันทีว่าเขาสามารถใช้มันได้อย่างแน่นอน
“ใครจะรู้ว่าเจ้าสามารถใช้มันได้รึไม่ ทำไมเจ้าไม่ลองทดสอบดูสักหน่อยละ?”เสียงที่ขุ่มเคืองดังออกมาข้างหลังหมอปิศาจ
ชิงสุ่ยนั้นรู้ดีว่าเขานั้นมีพื้นหลังที่ทรงพลังมิเช่นนั้นเขาคงมิกล่าวเช่นนี้ออกมา นอกจากนี้ชิงสุ่ยนั้นก็เห็นได้ชัดว่าหมอปิศาจก็ไม่ได้ชอบเขาเท่าไรนัก แต่ก็ยังรับเขาไว้ให้อยู่ข้างๆกาย
“งั้นเจ้ากล้าให้ข้าใช่มันกับเจ้าหรือไม่?”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวออกมา
“ชิ ข้ายังไม่อยากตายใครกันจะไปลอง!”ชายคนนั้นรีบกล่าวออกมา
“งั้นข้าจะลองมันเอง!” เสียงของคุณหนูเหยียนเอ๋อดังขึ้นในตอนนั้น
“ก็ได้งั้นข้าจะลองมันกับคุณหนู!”ชิงสุ่ยยิ้มและพูด
คำพูดของชิงสุ่ยทำให้คนอื่นนั้นตื่นตระหนก
“เจ้าแน่ใจรึ นี่เกี่ยวกับชีวิตของคนๆหนึ่งเลยเชียวนะ หากมีอะไรเกิดขึ้นเจ้าจะรับผิดชอบไหวรึ?”
คำพูดดังกล่าวของชายหนุ่มทำให้ตัวของหมอปิศาจเต็มไปด้วยความรังเกลียด ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
“ข้าเชื่อในตัวของเขา!”ลี่ เหลียนกล่าวออกมาถึงแม้เสียงของเธอจะเบาแต่ก็ยังคงความแนวแน่เอาไว้
ชิงสุ่ยหยิบเข็มแห่งชีวิตและความตายขึ้นมา ก่อนที่เขาจะรวบรวมปราณของเขาเข้าไปในเข็มเหล่านั้น
ชิงสุ่ยปิดตาลงและสัมผัสได้ถึงปลายที่อันแน่นอยู่ในเข็มแต่ละแท่ง ก่อนที่จะอัดปราณลงมากกว่าเก่า
หลังจากผ่านไปไม่นานนัก แสงสีเขียวที่อยุ่ในส่วนเข็มแห่งความตายก็ได้คลายออกมา เช่นเดียวกับเข็มแห่งชีวิตสีน้ำนม ขณะทีปลายของพวกมันเริ่มส่องสว่างแสงออ่อนๆที่เห็นได้ชัดออกมา
ขณะนี่ปราณแห่งความตายนั้นไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป แต่กลับเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการบ่มเพาะ มันนั้นสามารถกำจัดของเสียและดูดพาที่แทรกซึมอยู่ในร่างกายออกมาได้ นอกจากนี้พาเหล่านั้นยังเก็บสะสมอยู่ข้างในตัวเข็มและสามารถนำมาใช้ในการจู่โจมได้ในภายหลัง
หลังจากนั้นชิงสุ่ยได้ถ่ายถอดปราณหวนคืนเข้าไปในตัวเข็มอย่างช้า ไม่นานตัวเข็มทั้งเก้าก็ได้เรืองแสงออกมายิ่งมากกว่าเก่า ขณะนี้เข็มแห่งชีวิตและความตายได้ส่องสว่างออกมา มันนั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งชีวิตอย่างมาก แม้แต่หมอปิศาจก็ยังต้องตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้
ชิงสุ่ยค่อยเปิดตาขึ้นขณะที่เห็นลี่เหยี่ยนที่นั่งอยู่ใกล้กับเขา ก่อนที่เขาจะยิ้มมือออกไปและฝังเข็มลงที่หน้าอกของเธอ
จากนั้นเขาก็ได้ใช้เข็มเล่มที่สอง หยุนเมิน เข็มที่สามที่ เทียนฟู่
เมื่อมาถึงเข็มที่เจ็ด!
ชิงสุ่ยใช้นิ้วของเขากดลงไปที่หน้าท้องของเธอเบาๆ ก่อนที่จะปล่อยปราณเข้าไป
เปล่ง!
แสงสว่างได้ปรากฏขึ้นมา จากร่างกายของลี่เหยียน กลิ่นอายที่ทรงพลังได้ได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของเธอ
ในตอนนี้แม้แต่ชิงสุ่ยเองก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน ในตอนนี้เพียงแค่เขานั้นช่วยปรับโครงสร้างเส้นลมปราณและตันเถียนของเธอให้เข้าที่เท่านั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจะเป็นเช่นนี้
ระดับพลังของเธอกำลังยกระดับขึ้นอีก!
แม้ว่าลี่เหยียนจะไม่ใช่คนที่แข้งแกร่งอะไรมากนัก แต่เธอก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ระดับหนึ่ง ดังนั้นเมื่อเธอได้รับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้มันทำให้เธอนั้นได้ก้าวไปสู่ระดับปรมาจารย์ระดับสองแล้ว ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเธอนั้นเพิ่มขึ้นถึง50%
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้มัน ตอนแรกเขาคิดว่าเข็มแห่งชีวิตและความตายเหล่านี้จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้10%เสียอีก แต่ถึงอย่างไรตอนนี้มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ถึง 50%มันเป็นเรื่องที่เกินคาดอย่างมากสำหรับเขา ในตอนนี้มันให้ผลดีกว่าเข็มทองของเขาอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆดึงเข็มออกมา ขณะที่ลี่เหยียนมองไปที่ชิงสุ่ยอย่างไม่กระพริบตา เดิมทีเธอนั้นติดอยู่ที่ปรมาจารย์ระดับหนึ่งเป็นเวลาหลายปีแล้ว ไม่ว่าทำยังไงเธอก็ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ แต่ในวันนี้ เธอกลับสามารถทำมันได้โดยไม่รู้ตัว เธอมองไปทิชิงสุ่ยด้วยความเคารพและนับถือ
“คุณชายท่านต้องการรับลูกศิษย์หรือไม่?”หมอปิศาจกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
“ทำไมรึท่านต้องการทักษะของข้ารึ?”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา
“ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าแค่หลงใหลในวิชาการแพทย์ มันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ข้ามี ซึ่งตอนนี้ทักษะของคุณชายนั้นก็ยอดเยี่ยมและมหัศจรรย์อยากมาก ดังนั้นข้าจึงอยากจะขอสมัครเป็นศิษย์ของท่านเท่านั้นเอง”
คำพูดของหมอปิศาจทำให้ทุกๆคนนั้นตกตะลึง แม้กระทั้งชิงสุ่ยและชายหนุ่มที่มากกับหมอปิศาจ ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าชิงสุ่ยนั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน หากในตอนแรกเป็นเขายอมให้ชิงสุ่ยทดลองเข็ม ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาต้องก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้เขานั้นมีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งกว่าลี่เหยียนอีกด้วย บางทีเขาอาจสามารถก้าวหน้าขึ้นได้ถึงสองเท่าก็เป็นไปได้