Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1341
บทที่ 1341 – ดวงใจกระจ่างดุจกระจก พบเจอหยวน สู่อีกครั้ง
พลังอำนาจที่พวยพุ่งมากเกินไปคือสิ่งที่ ชิงสุ่ยเป็นกังวลอย่างยิ่ง และยิ่งเขาเห็นว่าหญิงสาวทั้งสองคนสามารถซึมซับพลังจำนวนมากเหล่านั้นได้ เขาจึงตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะลองมัน แต่ใครจะคาดคิดว่าผลลัพธ์ของมันจะจบลงเช่นนี้
มันคงจะดูโกหกถ้าหากเขาจะบอกว่าเรื่องเหล่านี้มันไม่น่ากังวล แต่ถึงกระนั้นเหล่าหญิงสาวเองก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกนางเลือกที่จะไม่เข้าไปรบกวนชิงสุ่ย
หลังจากเหล่าหญิงสาวจากไป ชิงสุ่ยก็กลับเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ พลังปราณจิตทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงจำนวนดอกบัวพุทธองค์ทองคำและหยดฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิต ถ้าหากเขาต้องการใช้มัน สิ่งเหล่านี้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ชั่วคราว
ร่างกายของเขากำลังร้อนรุ่มราวกับถูกเปลวเพลิงครอบงำ เปลวเพลิงกำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จนร่างกายของเขารู้สึกเจ็บปวด ภายในเส้นลมปราณกำลังบวมขยายใหญ่และเมล็ดทองคำในจุดตันเถียนก็กำลังหมุนด้วยความเร็วที่น่ากลัว ชิงสุ่ยพยายามตั้งสมาธิขั้นสูงที่สุด แม้แต่พลังปราณแห่งเส้นทางสวรรค์ก็ดูเหมือนว่ามันจะกำลังแสดงความตื่นเต้นให้เห็น
เมื่อเวลาผ่านไป เส้นเลือดทั้งหมดในร่างกายก็กำลังปูดโปนราวกับว่าพวกมันกำลังจะระเบิด ความเจ็บปวดระเบิดขึ้นเป็นครั้งคราว มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเข็มนับล้านกำลังทิ่มแทง อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นเรื่องเล็กน้อยเพราะชิงสุ่ยได้ฝึกฝนระดับความอดทนมาโดยตลอด อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่เคยเห็นว่ามีผู้ใดจะสามารถอดทนได้มากกว่าเขา
ปุ ปุ!!
เสียงเล็กๆ 2 ครั้งดังขึ้นภายใต้เส้นลมปราณ ผิวของเขาเริ่มแตกออกให้เห็น แต่ความสามารถในการฟื้นตัวของเขาก็รวดเร็วจนรอยแผลเหล่านั้นหายไปในทันตา
ปุ ปุ!!!
เสียงแตกอีก 2 ครั้งดังขึ้น คงมีเฉพาะชิงสุ่ยเท่านั้นที่ทั้งรู้ทั้งเข้าใจว่าเส้นลมปราณเญิ่นและเส้นลมปราณตูกำลังเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พลังภายในร่างกายของเขากำลังเพิ่มพูนขึ้นแต่เขากลับไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลย นั่นเพราะเขากำลังกลัวว่าพลังที่เพิ่มพูนขึ้นแต่สวนทางกับพลังชีวิตที่อาจจะดับลงได้ทุกเมื่อ
ยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์เญิ่นและยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์ตูยังคงเพิ่มพูนพลังของเขาอย่างต่อเนื่อง ยาทั้งสองชนิดกำลังถูกปรับแต่งให้เหมาะสม และได้ผลดีกว่าครั้งก่อน
ไม่รู้ว่าความรู้สึกของชิงสุ่ยกำลังเลือนลางหรือว่าเขากำลังลืมๆทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่คำซ่อนเร้นในจิตใจยังคงชัดเจน หัวใจของเขากำลังเปลี่ยนแปลงไปราวกับกระจกใสที่สะท้อนภาพไปมา แต่ถึงกระนั้นชิงสุ่ยก็ยังคงตั้งสติและรู้ตัวว่าเขากำลังทำอะไร มันเป็นความรู้สึกที่น่าจดจำ แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจากร่างกายที่กําลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
ชิงสุ่ยไม่รู้ตัวว่าเขาได้ใช้เวลาไปนานมากเพียงใด เขาเหมือนยืนอยู่บนชายฝั่งที่อยู่ไม่ห่างไกลจากกระท่อมไม้ไผ่ ดวงอาทิตย์ยังคงตั้งตระหง่านอยู่กลางศีรษะ เวลายังคงล่วงเลยไปโดยไม่รู้ตัว ในชั่วพริบตาเวลากว่า 3 เดือนก็ผ่านพ้นไป
ในตอนนี้ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยคราบเลือดและรอยแผลเป็น ทันทีที่จิตวิญญาณของเขากลับสู่โลกปกติ ร่างกายภายนอกของเขาก็เหมือนกับถูกแช่ลงบนกระทะที่เต็มไปด้วยหยดเลือด
“ชิงสุ่ย!!” อี่หวง กู่หวู๋ตะโกนเรียกด้วยความกังวล
อวี้ลู่หยานเองก็พยายามจะเอื้อมมือไปจับร่างของชิงสุ่ย แต่เธอก็เลือกที่จะยังไม่เอาไว้เพราะชิงสุ่ยได้ออกคำสั่งไม่ให้รบกวนเขา
“ข้าสบายดี เชื่อข้าเถิด ข้ารู้สึกดีกว่าแต่ก่อนเสียอีก”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
อวี้ลู่หยานเคยได้ยินคำพูดนี้จากปากชิงสุ่ย เธอโอบกอดชิงสุ่ยโดยไม่สนใจเลือกที่เปรอะเปื้อนบนร่างกาย เธอมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขแม้จะมีร่องรอยแห่งความกังวล
“ลู่หยาน ร่างกายของข้าเต็มไปด้วยเลือด มันน่าสะอิดสะเอียนนัก”
“ไม่เลย ข้าไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น”อวี้ลู่หยานสวมกอดชิงสุ่ย
ถานท่ายหยวนมองชิงสุ่ยจากทางด้านข้างอย่างมีความสุข แม้ว่าเธอจะไม่กล่าวอะไร แต่สายตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยที่เอ่อล้น
“ข้าขอตัวไปอาบน้ำสักประเดี๋ยว ข้าคิดว่าข้าคงจะต้องจากลากันในวันพรุ่ง”ชิงสุ่ยกล่าว
หลังจากที่เขาทำความสะอาดร่างกายจนเสร็จสิ้น ชิงสุ่ยก็ล้มตัวลงนอนบนพื้นผิวทรายพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข ความแข็งแกร่งทางกายของเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า และก้อนเมล็ดเจ็ดสีในร่างกายของเขาก็สามารถเพิ่มพูนพลังทางกายได้ถึง 25 เท่า
ชิงสุ่ยยังคงจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกมีความสุขที่พลังอำนาจของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก เขาไม่คาดคิดเลยว่า ยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์เญิ่นและยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์ตูจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจขนาดนี้ได้ ตอนนี้เขาได้ก้าวขึ้นสู่จุดที่สูงอย่างมากภายใต้เหล่าจอมยุทธ์แห่งดินแดนปราณจักรพรรดิ
ความแข็งแกร่งของเขา เพิ่มพูนขึ้น 25 เท่าภายใต้ผลลัพธ์ของก้อนเมล็ดเจ็ดสี และ 10 เท่าภายใต้ผลลัพธ์ของกระบี่ดารายุพฆาต และอีก 4 เท่าจากเกราะอสูรสำแดง และ 2 เท่าจาก รูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ อย่างน้อยพลังก็เพิ่มพูนขึ้นมากกว่า 45000 สุริยา และเมื่อโจมตีประสานกับหุบเขา 9 เทวาที่มีพลังมากกว่า 90,000 สุริยา และทักษะและการจู่โจม พลังโจมตียิ่งแข็งแกร่งขึ้นมหาศาล
พลังวัตรวิญญาณของเขาเองก็น่ากลัวขึ้นอย่างมาก เพียงแค่ทักษะการโจมตีง่ายๆอย่างตราประทับแห่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ก็รุนแรงถึง 66000 สุริยา อีกทั้งยังมีโอกาสที่พลังจะพ่วยพุ่งถึง 2 เท่าซึ่งเท่ากับ 130000 สุริยา และยังมีโอกาสอีก 10% ที่พลังอำนาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวอีกครั้ง นั่นก็เท่ากับพลังที่น่ากลัวถึง 260000 สุริยา
แม้ว่าการโจมตีระดับ 260000 สุริยาจะเป็นความน่ากลัวที่แท้จริง และเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่ แต่มันก็เป็นเครื่องยืนยันว่า เขาย่อมสามารถสังหารศัตรูได้ภายในพริบตา
ในครั้งนี้ ชิงสุ่ยเองไม่ทราบว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นเกิดจากการที่เขาบรรลุ “ดวงใจกระจ่างดุจกระจก” แต่สิ่งหนึ่งที่ชิงสุ่ยรู้ก็คือเขาไม่กล้าปล่อยให้เหล่าหญิงสาวของเขาทดลองการกินยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์เญิ่นและยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์ตูอีกครั้งอย่างแน่นอน เขาตัดสินใจรอจนกว่าผลการดูดซึมซับในร่างกายจะเสร็จสิ้นเต็มที่ และรอจนมั่นใจอีกครั้งว่าพวกเธอจะสามารถซึมซับพลังจากเม็ดยาได้เป็นครั้งที่ 2
ในคืนนี้มันคงเป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยแบ่งปันห้องให้กับหญิงสาวทั้งสามคน ทั้งหมดนอนร่วมเตียงเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยนอกจากการนอนพูดคุย ก่อนยามราตรีจะมาถึง ชิงสุ่ยได้พาอวี้ลู่หยานไปอาบน้ำที่ริมทะเล มันเป็นความรู้สึกน่าอัศจรรย์จนกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินไปกว่าการกอดและจูบ แต่ถ้าหากเขาอยู่กันสองต่อสองแล้วละก็ ชิงสุ่ยก็อาจจะไม่สามารถระงับอารมณ์ตัวเองได้
วันรุ่งขึ้น ชิงสุ่ยจากหญิงสาวทั้งสามคนไป พวกเธอยังคงเฝ้ามองดูชิงสุ่ยจากไปจนลับขอบฟ้า
ชิงสุ่ยมุ่งหน้าตรงไปยังหอคอยจักรพรรดิ ทุกย่างก้าวที่เขาก้าวเดิน เขายังคงคิดถึงเส้นทางในอนาคต บางทีภายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำอาจจะมีผู้ฝึกตนระดับดินแดนปราณบัญชาสวรรค์พินาศซ่อนตัวอยู่ก็เป็นได้ ภายใต้ 81 อาณาจักร เมืองอี่หวงก็เป็นหนึ่งในเมืองที่มีโอกาสพบเจอผู้ฝึกตนระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศ แต่อัตราการเจอนั้นคงจะเปรียบได้กับยอดของภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือโอกาสพบเจอเพียงน้อยนิด
และด้วยพลังในตอนนี้ เขามีความแข็งแกร่งมากพอที่จะเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนปราณจักรพรรดิขั้นปลาย ซึ่งมีจำนวนไม่ใช่น้อยภายในเมืองอี่หวง
ในไม่ช้าเขาก็เดินทางมาถึงหอคอยจักรพรรดิ แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ความรุ่งเรืองยังคงเป็นเหมือนก่อนหรืออาจจะเจริญมากขึ้น เมื่อตอนที่เขากลับมาครั้งสุดท้าย มันคือวันเกิดของอดีตผู้นำแห่งตระกูลอี่หวง และด้วยการเฉลิมฉลองนี้ยิ่งทำให้หอคอยจักรพรรดิ์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจนโด่งดังที่สุดภายในเมือง ดังนั้นวันเวลาที่ผ่านไปยิ่งทำให้แขก ต่างต้องการมารับประทานอาหารที่หอคอยจักรพรรดิ จนทำให้สถานะของสถานที่แห่งนี้สูงขึ้น
ทันทีที่เขาเดินขึ้นไปชั้นที่ 5 หมอปีศาจรีบกล่าวต้อนรับชิงสุ่ยอย่างรวดเร็วว่า “น้องชายเจ้ากลับมาแล้ว”
หมอปีศาจนั้นเป็นคนที่มีความสุภาพยิ่ง ไม่เพียงแต่ เขาจะแต่งงานและมีภรรยาที่ตั้งครรภ์ ทักษะการแพทย์ของเขาก็ยังดีขึ้นเรื่อยๆ เขาทำทุกอย่างจงสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหอคอยจักรพรรดิ มันยิ่งทำให้เขามีความสุขมากกว่าผู้อื่น ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณชิงสุ่ย มิฉะนั้นเขาก็คงคิดว่าตัวเองเป็นเลิศทางด้านการแพทย์และหยิ่งทะนงจนไม่อาจพัฒนาขึ้นได้
อีกครั้งเขาไม่มีญาติพี่น้อง ดังนั้นชิงสุ่ยจึงถือได้ว่าเป็นญาติคนสนิทของเขา ทุกอย่างที่เขาได้รับย่อมมาจากชิงสุ่ย ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อชิงสุ่ย
“ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง “ชิงสุ่ยเอ่ยถาม
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี ผู้คนมากมายต่างต้องการเจอหน้าเจ้า แต่ข้าก็เลือกปฏิเสธคำขอทั้งหมด หลายคนอยากให้เจ้าไปรักษา แต่ข้าก็ปฏิเสธพวกเขาเช่นกัน จริงสิ มีหมอคนหนึ่งมาที่นี่ ทักษะทางแพทย์ของนางก็ไม่ได้ดูเลวร้าย อีกทั้งนางยังเป็นคนที่งดงามยิ่ง ข้ากำลังรอการตัดสินใจจากเจ้า”หมอปีศาจยิ้มขณะกล่าว
“โอ้? ถ้าเช่นนั้นก็ไปเรียกนางมาได้เลย ข้าจะพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ทักษะการแพทย์ของคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ตัวตนนั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นใจคนย่อมสำคัญกว่า” ชิงสุ่ยกล่าวเปรียบเทียบ
“อืม ถูกต้องอย่างเจ้าว่า”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ชิงสุ่ยพบหน้ากับเธอ เขาก็ต้องตกตะลึง เพราะว่าเขาใครรู้จักกับเธอ ซึ่งเธออาจจะเป็น…..
หยวน สู่…….
เธอพยักหน้าอย่างช้าๆ ส่วนชิงสุ่ยก็ยังคงแสดงท่าทางประหลาดใจ เฉกเช่นเดียวกับตอนที่เขาเจอเธอครั้งแรก เธอยังคงสวยเหมือนแต่ก่อน แต่การแสดงออกของเธอนั้นช่างสงบนิ่งและลุ่มลึก
รวมถึงกลิ่นอายที่เปลี่ยนไป!!
คิ้วที่โค้งมนดุจจันทร์เสี้ยว ดวงตาที่เด่นสง่าดุจหินล้ำค่า ความเงางามของคมจมูกดุจหยกขาว ริมฝีปากสีแดงพร้อมกับปากที่อ้าขึ้นเล็กน้อย บ่งบอกเห็นว่าเธอเองก็ตกตะลึง
เธอเองก็ไม่ได้คาดหวังว่า จะพบเจอกับชิงสุ่ย ณ ที่แห่งนี้ ทันทีที่เธอเห็นชิงสุ่ย ร่างกายของเธอก็สั่นสะท้าน
ชิงสุ่ยก็เป็นคนนึงที่ประหลาดใจไม่ใช่น้อย ย้อนกลับไปในมหาทวีปธรรมไตร เธออยู่ภายใต้นิกายเทพโอสถ เธอเองก็เป็นหญิงสาวที่น่ามหัศจรรย์ผู้ซึ่งสรรค์สร้างตำรับการปรุงยาด้วยตัวเอง แต่ด้วยการที่เธอครอบครองร่างกายศิลาจึงทำให้ไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้ แต่ชิงสุ่ยก็ทำการรักษาจนหายขาด ช่างน่าเสียดายที่ทั้งสองคนเลือกเดินทางคนละเส้นทางกัน
นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วตั้งแต่ที่พวกเขาได้พบเจอกัน เธอยังคงหน้าตาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ นี่คือสถานที่ที่ถูกแยกจากมหาทวีปอู่เซียตะวันตก บางทีเธอมายังสถานที่แห่งนี้เพราะเหตุผลบางประการ