Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1369
บทที่ 1369 – ความน่ากลัวของบ่อน้ำเบญจธาตุแห่งชีวิต
ชิงสุ่ยยังคงรู้สึกพึงพอใจหลังจากได้เห็นผลของมัน บ่อน้ำเบญจธาตุแห่งชีวิตไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างรากฐานของร่างกายเท่านั้น มันยังสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เซลล์ต่างๆภายในร่างกายรวมไปถึงอวัยวะภายในด้วยเช่นกัน มันยังสามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกภายในร่างกายและยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ส่วนที่สำคัญของร่างกาย
ชิงสุ่ยค่อนข้างพึงพอใจกับมัน เขาสร้างมันขึ้นมาสำเร็จแล้ว “ตีเหล็กต้องตีตอนกำลังร้อน” ชิงสุ่ยเริ่มปรุงบ่อน้ำเบญจธาตุแห่งชีวิตอีกครั้ง เขาทำมันอย่างต่อเนื่องและหยุดเมื่อเวลาของดินแดนแห่งนี้หมดลงเท่านั้น ในระหว่างการปรุงนั้นเขาลมเหลวไปเพียง 2 ครั้งเท่านั้นและที่เหลือสำเร็จทั้งหมด
ในตอนนี้เขามีผงของบ่อน้ำเบญจธาตุแห่งชีวิตกว่า 20 ขวด แต่ละขวดนั้นสามารถใช้ได้ 1 ครั้ง ชิงสุ่ยรู้สึกพึงพอใจกับผลลัพธ์ของมัน
หลังจากชิงสุ่ยออกจากดินแดนแห่งนี้ เขาก็บอกให้อี่หวง กู่หวู๋เตรียมน้ำเอาไว้ทันที หยวน สู่ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน แต่เพราะชิงสุ่ยและอี่หวง กู่หวู๋นั้นเป็นสามีภรรยากัน และนี่เป็นสิ่งที่หยวน สู่ตระหนักได้ด้วยตนเองเมื่อนางเห็นชิงสุ่ยไม่ได้คิดที่จะออกไปนางเองจึงต้องปลีกตัวปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน
เหตุผลที่ทำไมชิงสุ่ยยังอยู่ที่นี่เพราะเขากลัวว่าอาจมีเรื่องร้ายแรงบางอย่างเกิดขึ้นได้ ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นคนที่ค่อนข้างว่างอยู่แล้วและทั้งเขาและอี่หวง กู่หวู๋นั้นถือว่าเป็นสามีภรรยากัน ในใจของชิงสุ่ยพวกเขาต่างมีความสัมพันธ์กันเช่นนี้มานานแล้ว
อี่หวง กู่หวู๋นั้นไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรมากนักในเรื่องนี้ นี่คือห้องของนาง หลังจากที่นางได้ลงกลอนประตูนางก็ได้เดินมาตรงหน้าชิงสุ่ย “ข้าอยากจะถอดเสื้อคลุมของเจ้าออก”
ชิงสุ่ยยิ้มและโอบกอดนางทันที เขารีบปิดปากที่เย้ายวนของนางด้วยปากของเขาเอง ตั้งแต่แรกเริ่มลิ้นของเขาก็เข้าไปอยู่ในปากของนางแล้ว มันเข้าไปพัวพันกับลิ้นสีชมพูของนางขณะที่เขาดูดมันอย่างตะกละตะกลาม
มือทั้ง 2 ข้างของเขาค่อยๆเลื่อนขึ้นไปที่ใต้ร่มผ้าของนาง อี่หวง กู่หวู๋ไม่ได้ขัดขีนแต่อย่างใดขณะที่เขาทำเช่นนี้ ในความเป็นจริงแล้วนางก็กอดและจุมพิตเขาเอาไว้อย่างแน่นหนาเช่นกัน
ทรวงอกอันอ่อนนุ่มของนางเว้าโค้งราวกับจันทร์เสี้ยว แม้ว่าเขาจะบีบมันแต่มันก็รู้สึกยืดหยุ่นสู้มืออย่างยิ่ง มันมีขนาดที่เหมาะสมไม่ได้ใหญ่เกินไปซึ่งทำให้มันดูเย้ายวนอย่างยิ่ง
พวกมันต่างอวบอิ่มและอ่อนนุ่ม ชิงสุ่ยใช้มืออีกข้างหนึ่งของเขารวบไปที่บั้นท้ายของนาง ผิวของนางนั้นนุ่มลื่นราวกับน้ำ
“พอก่อนชิงสุ่ย เดี๋ยวน้ำที่เตรียมไว้จะเย็นซะก่อน” อี่หวง กู่หวู๋อ้าปากค้างขณะที่กำลังหลบเลี่ยงปากของชิงสุ่ย บนใบหน้าที่นวลผ่องของนางนั้นมีทั้งความเขินอายและความสุข
ชิงสุ่ยดึงมือของเขากลับมาและช่วยนางแต่งตัวให้เป็นเหมือนเดิม ด้วยกายาทองคำ 9 หยางในระดับสมบูรณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของเขามันย่อมไม่มีปัญหาหากเขาจะอยู่ด้วยกันกับอี่หวง กู่หวู๋ แต่เขาได้สัญญากับนางแล้วว่าเขาจะไม่ทำอะไรนางจนกว่าเขาจะได้ไปถึงระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ
แม้ว่าเขาอยากจะทำมากกว่านี้ในตอนนี้อี่หวง กู่หวู๋ก็ย่อมไม่ยินยอมเช่นเดียวกัน มันก็ได้ผ่านมานานหลายปีแล้วนางไม่ได้สนใจอะไรมากนักหากต้องรอต่อไปอีก นางไม่ต้องการทำร้ายชิงสุ่ยไม่ว่าทางใดก็ตาม ตราบใดที่นางสามารถอยู่เคียงคู่กับชิงสุ่ยต่อไปได้นางย่อมยอมรับได้ในทุกๆเรื่องแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากันก็ตาม แน่นอนว่าสำหรับนางนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของนาง
น้ำในอ่างอาบน้ำนั้นไม่ได้ร้อนจนเกินไป บ่อน้ำเบญจธาตุแห่งชีวิตก็ได้ถูกเทลงไปผสมแล้วเช่นกัน ในตอนนี้น้ำในอ่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม มันดูงดงามอย่างยิ่ง มันปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังรวมถึงกลิ่นอายที่น่าหลงใหลออกมา
ในตอนนี้อี่หวง กู่หวู๋ได้ยืนเปลือยกายจนหมดสิ้นต่อหน้าชิงสุ่ย ร่างกายอันสมบูรณ์แบบของนางนั้นน่าหลงใหลอย่างยิ่งทำให้อาวุธของชิงสุ่ยนั้นมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อคลุมของตนเองออกทันที
อี่หวง กู่หวู๋ถอนหายใจออกมาเบาๆ หลังจากนั้นนางก็ค่อยๆหย่อนตัวลงไปในอ่างอาบน้ำนี้ น้ำในอ่างเริ่มมีฟองเล็กๆขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นจนหนาแน่น นี่คือหลักฐานว่าผิวหนังของมนุษย์กำลังดูดซึมสิ่งที่อยู่ในน้ำนี้เข้าไป
อี่หวง กู่หวู๋ปิดตาของนางลงเล็กน้อย นางดูสงบนิ่งราวกับว่ารู้สึกพึงพอใจกับมันอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยยืนอยู่ข้างๆอ่างอาบน้ำ นี่คือปริมาณยาที่เพียงพอสำหรับคนเดียว นอกจากนี้นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลองใช้มัน ดังนั้นชิงสุ่ยจึงตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกันกับอี่หวง กู่หวู๋เพื่อรอดูว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือไม่ เขาจะสามารถช่วยเหลือนางได้อย่างทันเวลา
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ดูเหมือนว่าความกังวลของชิงสุ่ยจะมากเกินไป ฟองน้ำที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สีเขียวเข้มของน้ำก็เริ่มจางลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้น้ำนี้ก็ไม่ได้ดูกระจ่างใสเหมือนดังก่อนหน้านี้
เมื่อผ่านไปอีก 2 ชั่วโมงฟองน้ำในอ่างก็เริ่มลดลงไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันสิ่งสกปรกก็ปรากฏขึ้นในน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ในทางกลับกันอี่หวง กู่หวู๋ก็เริ่มดูข้าวผ่องและงดงามมากยิ่งขึ้น ผิวหนังของนางก็เริ่มดูนุ่มลื่นมากขึ้นเช่นกันตอนนี้มันดูราวกับอัดแน่นไปด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ
เมื่อนางเปิดตาขึ้นก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเองจากนั้นนางก็กระโดขึ้นจากน้ำทันทีเมื่อได้เห็นสิ่งสกปรกที่ลอยอยู่ภายในน้ำ นางกล่าวด้วยความตกตะลึง “เหตุใดน้ำจึงสกปรกเช่นนี้?”
“มันไม่ได้สกปรก สิ่งสกปรกเหล่านี้ล้วนมาจากร่างกายส่วนลึกของเจ้า หากเป็นคนอื่นๆสิ่งเหล่านี้คงมีสีดำสนิท นี่หมายความว่ามันได้ผล” ชิงสุ่ยกล่าวตามความจริง
กู่หวู๋ตรงไปที่อ่างอาบน้ำอีกอ่างหนึ่ง นางรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้ทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตามนางยังรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งเพราะผลที่เกิดขึ้นนั้นยอดเยี่ยมยิ่งนัก
ชิงสุ่ยยังสามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายนางจากการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขา เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้รากฐานทางร่างกายของนางนั้นแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า ก่อนหน้านี้ก่อนหนา้นี้มันเหมือนกับบ้านที่ก่อขึ้นด้วยอิฐเท่านั้นแต่ในตอนนี้มันเหมือนกับมีเสาเหล็กเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งหลายต้น การเปลี่ยนแปลงของนางครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
หลังจากได้ชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกายเวลาชีวิตของนางก็เหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ในทำนองเดียวกันอวัยวะภายในและส่วนสำคัญภายในร่างกาสของนางก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นราวกับก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตามการฝึกยุทธของนางนั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก พลังของนางเริ่มดูหนาแน่นมากยิ่งขึ้นและกำลังกายของนางก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พลังของนางนั้นเชื่อมต่อโดยตรงกับพยัคฆ์ขาว พลังของพวกมันนั้นจะคิดเป็น 4 เท่าของพลังของนาง ดังนั้นเมื่อพลังของนางเพิ่มขึ้นพยัคฆ์ขาวก็ได้รับผลของมันเช่นเดียวกัน ทั้งพลังและความสามารถของมันต่างเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผงยานี้ช่างมหัศจรรย์อย่างยิ่ง นี่ช่วยให้ข้าประหยัดเวลาไปกว่า 10 ปีในการสร้างรากฐานร่างกายของข้า” อี่หวง กู่หวู๋รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง แน่นอนคนอื่นๆก็คงรู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้เหมือนกันหากมันเกิดขึ้นกับพวกเขา
“สูตรของยานี้หยวน สู่เขียนขึ้นมาด้วยตัวนางเอง แม้ว่ามันจะปรุงยากเล็กน้อยแต่ก็ให้ผลที่ยอดเยี่ยม มันยังไม่ได้จัดเป็นยาผงระดับพระเจ้า แต่มันก็ยังสามารถจัดอยู่ในยาระดับตำนานได้” ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง ในเวลาเดียวกันเขาก็พูดถึงความอัจฉริยะภาพของหยวน สู่ในด้านโอสถ
“ชิงสุ่ย เจ้าคิดเช่นไรกับน้องสาวสู่?” อี่หวง กู่หวู๋กำลังแช่อยู่ในน้ำร่างกายของนางพิงไปที่ขอบของอ่างอาบน้ำ นางงอตัวเล็กน้อย ท่วงท่าของนางมนตอนนี้ทำให้ชิงสุ่ยอยากจะกระอักเลือดออกมา
เพียงครู่เดียวชิงสุ่ยก็ฉีกเสื้อผ้าของตนเองในขณะที่เขาพุ่งไปด้านหลังของนางและมือของเขาโอบไปที่เอวของนาง
“ชิงสุ่ย ใจเย็นก่อน!” อี่หวง กู่หวู๋เขินอายอย่างยิ่งและกระซิบออกมาเบาๆ
พวกเขาทั้งสองคนต่างก็แช่อยู่ในน้ำ ผิวหนังของนางนั้นนุ่มลื่นอย่างยิ่ง ทันทีที่ส่วนนั้นของชิงสุ่ยยืดตัวขึ้นเขาก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เขาพบว่าตนเองในตอนนี้มีความอบอุ่นและเพลิดเพลินมากที่สุด
อี่หวง กู่หวู๋รู้สึกเจ็บปวดในร่างกายของนาง นางไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรก็ตามเนื่องจากเวลานี้ ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้เพราะชิงสุ่ยตรงเข้าไปยังส่วนที่ลึกลับที่สุดของนางในทันที นางรีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็วว่า “ไม่……”
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว พลังที่เหมือนกับน้ำแข็งและเปลวเพลิงได้ไหลเข้าไปยังร่างกายของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยได้กอดนางเอาและไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย เคล็ดวิชาไร้นามโคจรอย่างรวดเร็ว กระดูกภายในร่างกายของเขาเปร่งแสงออกมาจนเห็นได้ชัด แน่นอนว่ามันไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้
เมื่อพลังที่เหมือนกับน้ำแข็งและเปลวเพลิงนี้ได้ไหลเข้ามา รอยฉีกขาดเล็กๆก็ปรากฏขึ้นที่เส้นลมปราณของเขาทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง ก้อนทองคำภายในจุดตันเถียนของเขาก็โคจรอย่างรวดเร็วพร้อมเปร่งแสงจางๆออกมา
หุบเขา 9 เทวาก็ปลดปล่อยคลื่อนพลังของทักษะปราการจู่โจมออกมาอย่างต่อเนื่อง มันรับการปะทะจากพลังที่เข้ามาในตอนนี้เพื่อปกป้องจุดตันเถียนของเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่ปราณจักรพรรดิปลดปล่อยพลังอันมหาศาลออกมา ราวกับว่ามันเป็นกษัตริย์ที่ถูกคนรับใช้ของตนเองนั้นก่อกบฏ
แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นอายแห่งน้ำแข็งและเปลวเพลิงนี้จะทรงพลังอย่างยิ่ง มันเหมือนกับพยัคฆ์ขาวที่เป็นเทพแห่งสงคราม สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสองคนจะควบคุมได้ ชิงสุ่ยไม่อาจทำอะไรได้แม้แต่จะขับพลังนี้ออกไป
ในทำนองเดียวกันอี่หวง กู่หวู๋ก็รู้สึกกังวลอย่างยิ่ง ความกังวลในหัวใจของนางนั้นมีมากมายในตอนนี้ หากมีเรื่องไม่คาดฝันอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับชิงสุ่ยนางย่อมยอมตายไปพร้อมกับเขาอย่างแน่นอน
กลิ่นอายแห่งน้ำแข็งและเปลวเพลิงออกมาจากร่างกายของอี่หวง กู่หวู๋ ดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งที่สร้างหายนะให้แก่ร่างกายของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยไม่คาดคิดว่าเขาจะไม่สามารถทนรับมันได้แม้ว่าร่างกายของเขาจะได้มาถึงระดับสมบูรณ์ครั้งยิ่งใหญ่ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทนรับมันไปได้ถึงเมื่อไหร่
หรือนี่เป็นเพราะว่านางได้ยกระดับเข้าสู่ระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ?
มันอาจจะเป็นเพราะอย่างนั้นแม้แต่ในชิงสุ่ยก็รู้สึกกังวลเช่นเดียวกัน หากเขาตายไปในตอนนี้มันก็จะเหมือนคำพูดที่ว่า “ได้ใช้เวลา 1 คืนกับหญิงสาวที่งดงามแม้ต้องตายก็ยอม”
ชิงสุ่ยนั้นกำลังโคจรพลังทั้งหมดที่เข้ามาในร่างกายของเขา แน่นอนว่าเขายังไม่อยากจะตายในตอนนี้ ยังมีเรื่องอีกมากมายที่เขายังต้องทำ เขาเหลืออีกเพียงก้าวเดียวที่จะเข้าไปสู่ระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจและสำเร็จขั้นที่ 8 ของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล อีกไม่นานเขาก็จะสามารถทำสิ่งต่างๆที่เขาต้องการได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ
เส้นลมปราณของเขาไม่ได้ขาดสะบั้นออกจากกันแต่มันเหมือนกับว่ามีใยแมงมุมเกิดขึ้นในเส้นลมปราณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่ร่างกายของชิงสุ่ยนั้นแข็งแกร่งมากพอ หากเป็นคนอื่นเส้นลมปราณของพวกเขาย่อมขาดสะบั้นออกจากกันไปนานแล้ว
ส่วนที่รู้สึกเจ็บปวดมากที่สุดสำหรับชิงสุ่ยนั้นคือจุดตันเถียนของเขา พลังปราณอันมหาศาลได้ทะลุทะลวงเข้าไปยังจุดตันเถียนของเขา วันเข้าไปโจมตีก้อนทองคำภายในจุดตันเถียนของเขาอย่างต่อเนื่อง ก้อนทองคำภายในร่างกายนั้นเป็นเหมือนส่วนพื้นฐานในการทำงานของร่างกาย หากมีอะไรเกิดขึ้นกับมันอนาคตในการเป็นผู้ฝึกยุทธของเขาก็จะหายไปทันทีเช่นกัน
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ สีหน้าของชิงสุ่ยนั้นเริ่มขมขื่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในทางกลับกันใบหน้าของอี่หวง กู่หวู๋นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาของนาง นางตระหนักดีถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ในความเป็นจริงนางเข้าใจมันมากยิ่งกว่าชิงสุ่ย เหตุผลก็เพราะว่าตอนนี้ทั้งสองคนนั้นได้เชื่อมต่อเข้าหากัน แน่นอนว่านางย่อมไม่รู้ถึงความลับของชิงสุ่ย เพียงแต่นางตระหนักได้ว่าสถานการณ์ของนางและชิงสุ่ยในตอนนี้นั้นเป็นแบบไหน
“ชิงสุ่ย หากข้าตายไป นั่นหมายความว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? เมื่อพลังลมปราณหลักของข้าได้หายไป เจ้าจะสามารถรอดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้ใช่หรือไม่?” อี่หวง กู่หวู๋กล่าวเบาๆ
อี่หวง กู่หวู๋ไม่อาจควบคุมความคิดด้านลบของตนเองได้ในตอนนี้ นางสูญเสียการควบคุมร่างกายแต่สติของนางนั้นยังคงเป็นปกติ นางยังสามารถสนทนาได้ตามปกติ
ในทางกลับกันชิงสุ่ยนั้นยังสามารถควบคุมร่างกายและสติของเขาเอาไว้ได้ แต่เขาไม่อาจควบคุมอาวุธของตนเองได้ในตอนนี้ เขาสามารถควบคุมเคล็ดวิชาต่างๆของตนเองได้และในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนได้ ‘เชื่อมต่อกัน’ จึงไม่แปลกที่พลังปราณที่เพิ่มขึ้นระหว่างพวกเขานั้นเหมือนเป็นพลังปราณที่มาจากคนคนเดียว หากพวกเขาคนใดคนหนึ่งต้องการแยกพลังลมปราณนี้ออกจากกันนั่นหมายความว่าต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องตายหรือ…ต้องทำให้พลังนี้ออกไปด้วยพลังทั้งหมดของเขา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือชิงสุ่ยจะต้องทำลายอัญมณีของครอบครัวของเขาออกไป
แน่นอนว่าชิงสุ่ยย่อมไม่ทำเช่นนั้น แม้ว่ามันจะมียามหัศจรรย์บางอย่างที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆย้อนคืนกลับมาได้ แต่นั่นก็ยังมีความไม่แน่นอน หากไม่มีมันเขายอมตายดีกว่าที่ต้องอยู่ในจุดที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
ชิงสุ่ยส่ายศีรษะของเขา “หยุดกล่าวเรื่องไร้สาระเช่นนั้น หากมันจำเป็นต้องทำเช่นนั้นจริงๆ ข้าคิดว่าเป็นข้าที่ต้องตายจะดีกว่า”
“ข้าเองก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่หากเจ้าตายไป”
“เราทั้งสองคนกำลังจะตาย แต่เจ้ายังไม่ได้กลายเป็นผู้หญิงของข้าเลย” ชิงสุ่ยกล่าวเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
“ข้าเป็นแล้ว แม้แต่ในตอนนี้หากข้าจะต้องตายไปข้าก็ไม่เสียใจเลย สิ่งเดียวที่ข้าเสียใจนั้นคือข้ายังไม่ได้กำเนิดลูกๆให้แก่เจ้าเลย ข้ามั่นใจว่าลูกของเราจะต้องออกมาหน้าตาดีอย่างแน่นอน” อี่หวง กู่หวู๋กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“อย่ากังวลไปเลย เช่นนั้นเราจะมีลูกกันสองคน คนแรกเป็นเด็กผู้ชายส่วนอีกคนเป็นเด็กผู้หญิง” ชิงสุ่ยตอบกลับไปขณะที่เขาคิดไปด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกันเขาก็ยังคงพยายามปิดกั้นกลิ่นอายแห่งน้ำแข็งและเปลวเพลิงที่ถาโถมเข้ามา
ทันใดนั้นชิงสุ่ยจะรู้สึกว่าพลังปราณหลักในร่างกายของอี่หวง กู่หวู๋กำลังเหือดแห้งไปเรื่อยๆ
“หากเจ้าต้องการจะทำเช่นนั้นจริงๆ ข้าก็จะทำให้จุดตันเถียนของข้าระเบิดขึ้นทันที พวกเราจะตายไปด้วยกัน” ชิงสุ่ยนั้นรู้สึกกลัวจริงๆ น้ำเสียงของเขานั้นสามารถหยุดการฆ่าตัวตายของอี่หวง กู่หวู๋เอาไว้ได้ นางรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อยในหัวใจแต่ความสุขของนางนั้นจะมีเวลาน้อยนิดเท่านี้งั้นหรือ?