Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1370
บทที่ 1370 – ยกระดับขึ้นโดยไม่คาดคิด ขั้นที่ขั้นที่ 8 ของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล วชิระ ระดับขั้นแรกเริ่ม: เคล็ดวิชาสรวงสวรรค์วชิระ
นางลังเลที่จะยอมรับมัน… ชีวิตของนางเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น นางลังเลที่จะต้องสูญเสียมันไปอย่างรวดเร็ว ในวันนี้นางได้เป็นหญิงสาวของเขา แต่ช่วงเวลาแห่งความยินดีของนางนั้นสั้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
กลิ่นอายของน้ำแข็งในเปลวเพลิงนั้นยังคงโจมตีจุดตันเถียนของชิงสุ่ยอย่างต่อเนื่อง จุดตันเถียนของเขาได้ถูกทะลุทะลวงเข้าไป มันทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง เขาไม่เคยคาดคิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ เดิมทีเขาคิดว่าทุกๆอย่างจะไม่เป็นอะไร เขาไม่เคยคาดคิดว่ามันจะทำให้เขาเข้าสู่สถานการณ์เช่นนี้
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ จุดตันเถียนของเขานั้นรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ความรู้สึกที่เขาสามารถสัมผัสได้นั้นก็เริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ราวกับว่ามันโดนมีดเฉือนออกไป ชิงสุ่ยจัดฟันของเขาพยายามที่จะอดทนต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ความรู้สึกที่เจ็บปวดในตอนนี้นั้นเทียบได้กับการถูกเฉือนเนื้อและควักอวัยวะภายในออกไป
กลิ่นอายของน้ำแข็งและเปลวเพลิงภายในร่างกายของอี่หวง กู่หวู๋ราวกับว่ามีจำนวนไม่สิ้นสุด สำหรับในตอนนี้ชิงสุ่ยทำได้เพียงพยายามป้องกันมันเอาไว้เท่านั้น เขาไม่รู้ว่าเขาสามารถทำอะไรได้อีกในตอนนี้ หากเส้นลมปราณของเขาถูกทำลายไปจริงๆเขาก็ไม่รู้ว่าเขาต้องทำเช่นไร
คำกล่าวที่ว่า “การมีเพียงมือเดียวไม่อาจปัดป้องทุกๆสิ่งได้” นั้นหมายความว่าอะไร? ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะทรงพลังอย่างยิ่งแต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ตอนนี้หนทางของเขานั้นมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น… แต่แห่งแรกนั้นคือสวรรค์และอีกแห่งนั้นคือนรก
อี่หวง กู่หวู๋ไม่รู้ว่านานควรทำเช่นไรดี นางต้องการทำให้กลิ่นอายนี้กลับมายังร่างกายของนางให้มากที่สุดเท่าที่นางจะทำได้แต่นางไม่อาจควบคุมมันได้เลย นางไม่อาจทำอะไรได้แต่เพียงรับรู้ได้ว่าร่างกายของชิงสุ่ยนั้นเริ่มเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ
จำนวนพลังปราณน้ำแข็งและเปลวเพลิงภายในจุดตันเถียนของชิงสุ่ยนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทำนองเดียวกันพลังปราณในเส้นลมปราณของเขาก็เพิ่มขึ้น มันรู้สึกราวกับว่าพลังชีวิตทั้งหมดภายในร่างกายของเขานั้นถูกปิดกั้นเอาไว้
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับว่าเขาถูกแช่แข็งจนกลายเป็นน้ำแข็ง
ปราณแห่งการหวนคืน!
ชิงสุ่ยเรียกใช้ปราณแห่งการหวนคืนทั่วร่างกายของเขาทันทีและพยายามขับพลังปราณน้ำแข็งและเปลวเพลิงภายในร่างกายของเขาออกไปทีละนิด นี่คือความสามารถสุดท้ายของชิงสุ่ยในการเอาชีวิตรอด หากมันล้มเหลวชิงสุ่ยก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรอีกแล้ว
ปราณแห่งการหวนคืนค่อยๆโคจรอย่างช้าๆและพยายามขับพลังปราณในร่างกายออกไป อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีจำนวนจำกัดไม่สามารถเทียบได้กับพลังปราณน้ำแข็งและเปลวเพลิงที่เข้ามายังร่างกายของเขา ในตอนนี้ร่างกายของชิงสุ่ยถูกทำลายไปอย่างช้าๆ
สติของชิงสุ่ยก็เริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆเช่นกัน อี่หวง กู่หวู๋กำลังจะทำสิ่งที่นางคิดจะทำก่อนหน้านี้อีกครั้ง หนังไม่อาจทนเห็นชิงสุ่ยต้องจากโลกใบนี้ไปเช่นนี้ นางได้บอกกล่าวกับตัวเองเอาไว้ว่าแม้ว่าจะต้องตายไปนางก็ยังอยากที่จะเดินเคียงคู่กับเขาต่อไป
พลังชีวิตของชิงสุ่ยนั้นเริ่มอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้มันเกือบจะหมดลงไปแล้ว
อี่หวง กู่หวู๋กัดฟันเอาไว้ นางกำลังตัดสินใจครั้งสุดท้าย ขณะที่พลังชีวิตของนางนั้นกำลังหายไปปริมาณของปราณแห่งการหวนคืนก็ถูกย้ายเข้ามายังร่างกายของนางจันที
หยาดน้ำตาบนใบหน้าของนางนั้นลดลงมาอีกครั้ง
อี่หวง กู่หวู๋นั้นตระหนักได้ว่าชิงสุ่ยมีเจตนาที่จะทำเช่นนี้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปชิงสุ่ยจะต้องตายต่อหน้าของหน้า ด้วยวิธีนี้ปราณแห่งการหวนคืนภายในร่างกายของเขาจึงถาโถมเข้าไปยังร่างกายของนาง ดังนั้นสิ่งที่นางกำลังทำอยู่จะถูกยึดไป ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกเล็กน้อย
สติของชิงสุ่ยเริ่มพร่ามัวลงไป
เพล้ง!
ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเพียงใดและทันใดนั้นร่างกายของชิงสุ่ยก็ได้เปล่งแสงออกมา กลิ่นอายจำนวนมากพุ่งกระจายออกมาในทันที ราวกับว่ามันกำลังกระจายไปทั่วทั้งสวรรค์และโลก
ชิงสุ่ยเปิดตาของเขาขึ้นในทันที ทั่วห้องนี้ก็เต็มไปด้วยแสงอันลึกลับ
อี่หวง กู่หวู๋ก็เปิดตาของนางขึ้นเช่นกัน ในตอนนี้ร่างกายของทั้งสองคนยังเชื่อมต่อกันเหมือนดังก่อนหน้านี้ แต่ร่างกายของชิงสุ่ยไม่ได้เย็นเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ในทางตรงกันข้ามมันให้ความรู้สึกที่อุ่นอย่างยิ่ง
อุณหภูมิในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็รู้สึกราวกับว่าทั่วโลกนี้สว่างไสวมากยิ่งขึ้น ทันทีที่เขาปลดปล่อยการรับรู้ทางจิตวิญญาณของตนเองออกไปมันก็ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ร่างกายของเขารู้สึกราวกับว่านี่ไม่ใช่ร่างกายของตนเอง พลังที่เขารู้สึกได้….ทำให้เขารู้สึกทรงพลังจนสามารถฉีกท้องฟ้าออกเป็นชิ้นๆได้
เขาได้ยกระดับขึ้นแล้วโดยที่ก่อนหน้านี้มันไม่มีสัญญาณเตือนใดๆเลย….
เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ว่ากลิ่นอายของเขาในตอนนี้นั้นทรงพลังมากเพียงใด มันกระจายออกไปภายนอกและทำให้ผู้ฝึกยุทธจำนวนมากต้องตกอยู่ในความโกลาหล ในตอนนี้ผู้คนมากมายในอาณาจักรอี่หวงต่างรู้แล้วว่ามีผู้ฝึกยุทธที่ทรงพลังอยู่บริเวณใกล้เคียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร
กลิ่นอายของชิงสุ่ยนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง มันเหมือนกับของ มังกรไอยราเกล็ดทองคำก่อนหน้านี้ มันเป็นกลิ่นอายที่ทรงพลังเหนือผู้ใด ด้วยกลิ่นอายนี้นั่นหมายความว่าในอนาคตเขาจะสามารถทรงพลังขึ้นได้อีกมาก แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์แต่กำเนิดที่ดีแต่เขาก็ยังต้องการเวลาจำนวนมากเพื่อที่จะประสบความสำเร็จเหมือนกับสายเลือดของมังกรในตำนาน สิ่งต่างๆที่เขาได้ประสบพบเจอต่อไปจะกลายมาเป็นพลังให้แก่เขา เขาจะไม่ต้องกลัวว่าต้องตายโดยที่อายุน้อยอีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงเวลาเท่านั้น
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงแล้วในตอนนี้ ร่างกายของเขากลับมาสมบูรณ์เหมือนดังเดิมแต่ทั้งสองคนรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่งและน้ำในอ่างที่กระจ่างใสในตอนแรกในตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลสกปรก มันส่งกลิ่นเหม็นที่เลวร้ายออกมา
ชิงสุ่ยได้สะบัดมือของเขาและทำให้น้ำในอ่างน้ำได้ระเหยออกไปทั้งหมด หลังจากนั้นเขาก็นำน้ำจำนวนมากออกมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะของเขา เขายังนำดอกท้อออกมาเพื่อให้บรรยากาศของที่แห่งนี้สดชื่นมากยิ่งขึ้น
ชิงสุ่ยและอี่หวง กู่หวู๋แช่ตัวลงไปในน้ำครั้ง มันรู้สึกสบายอย่างยิ่งเพราะว่าร่างกายของทั้งสองคนนั้นยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ เพียงแต่ว่าในตอนนี้ไม่มีพลังปราณน้ำแข็งและเปลวไฟอีกแล้ว
“หวู๋หวู๋น้อย ข้าไม่อาจขอบคุณเจ้าได้มากพอ มันเหมือนกับคำกล่าวที่ว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นพรจากพระเจ้าทันที ข้าได้ยกระดับขึ้น ในภายภาคหน้า เจ้าสามารถเป็นหญิงสาวธรรมดาได้ หญิงสาวที่เป็นของข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น เจ้าต้องการมีลูกหรือไม่? เช่นนั้นเรามาทำลูกกันในตอนนี้เถอะ” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความยินดี
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้เดินผ่านประตูนรกมาอย่างแท้จริง ในตอนนี้รู้ว่าในช่วงเวลาสุดท้ายนั้นปราณแห่งการหวนคืนของเขาได้ยกระดับขึ้น ปราณแห่งการหวนคืนอันทรงพลังได้สร้างพลังชีวิตให้แก่ชิงสุ่ย ไม่นานหลังจากนั้นจุดตันเถียนของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไป
ขณะที่พูดอยู่นี้ชิงสุ่ยได้แอบตรวจสอบจุดตันเถียนของเขาก่อนหน้านี้ สภาพในตอนนี้ของจุดตันเถียนของเขานั้นเป็นเช่นเดียวกับที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ เมื่อเขาได้ก้าวเข้าสู่ประตูเทวะแห่งเต๋าครั้งแรก
ก้อนทองคำได้หายไปแล้ว ในตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนตัวเล็กๆที่สวมชุดเกราะทองคำแต่ใบหน้านั้นไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจน ชุดเกราะบนร่างนั้นดูสง่างามอย่างยิ่ง เขาถือหุบเขา 9 เทวาในมือข้างหนึ่งและมืออีกข้างนั้นถึงกระบี่ดารายุพฆาต เบื้องล่างนั้นเหยียบอยู่บนธงสวรรค์ปัญจธาตุ…….
เมื่อคิดว่ามันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ ก้อนเมล็ดเจ็ดสีได้ฝังแน่นอยู่บนหน้าผากของคนๆนั้นและยาระดับจักรพรรดิก็อยู่เหนือศีรษะของเขา พลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากได้เพิ่มเข้ามาอย่างจุดตันเถียนของเขา นี่เป็นพลังที่เขาไม่เคยรู้สึกได้มาก่อน
“ชิงสุ่ย เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าหวาดกลัวมากเพียงใด” รอยยิ้มของความยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอี่หวง กู่หวู๋ ทุกๆสิ่งย่อมดีตราบใดที่ชิงสุ่ยนั้นไม่เป็นอะไร
ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยก็ตระหนักได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ยอมตายเพื่อเขา สำหรับหญิงสาวที่น่าพึงพอใจเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นางยอมทำอะไรเช่นนี้เพื่อเขา เขาจะไม่รู้สึกได้อย่างไรกัน? สิ่งใดกันที่เขาจะมอบให้นางไม่ได้?
“ข้ารู้ดี เอ่อ ข้าเข้าผิดรูใช่หรือไม่……?”
“ไปตายซะ เจ้าจริงจังหน่อยสิ พวกเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกัน?” อี่หวง กู่หวู๋เขินอายเล็กน้อยขณะที่นางกล่าวออกมา
“พวกเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกัน? บอกข้ามา สถานการณ์ใด” ขณะที่ถามเช่นนี้ชิงสุ่ยก็ขยับร่างกายของเขาพร้อมกับกดเอวของเขาไปเบื้องหน้า
“อื้อ!” อี่หวง กู่หวู๋ไม่อาจทนต่อไปได้อีกดังนั้นนางจึงร้องออกมาเบาๆ
การยกระดับก่อนหน้านี้ย่อมต้องเป็นเพราะเคล็ดวิชาไร้นาม ด้วยปราณแห่งการหวนคืนของเขาทำให้เขาสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะสามารถยกระดับขึ้นได้ด้วยตนเอง
สิ่งที่ตามมานั้นคือเรื่องที่ลึกลับมากมาย อี่หวง กู่หวู๋นั้นรู้สึกมีความสุขและพึงพอใจอย่างยิ่ง นางเคยคิดว่านางย่อมไม่มีวันได้รับความรักแบบชายหนุ่มและหญิงสาว นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งนางจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับชายคนที่นางรักมากที่สุด
ชิงสุ่ย หลังจากที่เขารอดตายจากวิกฤตครั้งใหญ่มาได้ ประสบการณ์ต่างๆก็ได้เปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจของเขาไป บางทีเขาอาจจะมีความสัมพันธ์ทางเพศเพื่อปลดปล่อยความตื่นเต้นภายในใจรวมทั้งความรู้สึกที่ไม่อาจพูดออกไปได้ นอกจากนี้นี่เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดที่จะเกิดขึ้นในโลกมนุษย์
จากมุมมองของชิงสุ่ย ไม่มีผู้ใดเทียบได้กับอี่หวง กู่หวู๋ในด้านความเย้ายวนของนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางดูเหมือนจะรู้จักชิงสุ่ยดีอย่างยิ่ง นางยังเปิดกว้างอย่างยิ่งในเรื่องเพศเช่นนี้ ราวกับหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ได้รวมตัวกับหญิงสาวโสเภณี แท้จริงแล้วนางไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งแต่นางคือหญิงสาวที่งดงามที่สุดสำหรับเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ตราบใดที่ชิงสุ่ยกล้าที่จะกล่าวอะไรออกมา อี่หวง กู่หวู๋ก็จะพยายามทำให้เขาพึงพอใจ อันที่จริงแล้วเจตนาของเขาไม่ได้ชั่วร้ายแต่อย่างใดและเขาก็ไม่ได้มีอาการผิดปกติทางเพศด้วยเช่นกัน
เวลาผ่านไปครึ่งวัน ภายใต้ผลของเคล็ดวิชาไร้นามอี่หวง กู่หวู๋ก็ได้รับประโยชน์มากมายได้เช่นกัน รากฐานของนางในตอนนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่งและพลังของนางเพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 สุริยา ประมาณ 160,000 สุริยาได้เลย
ด้วยพลัง 100,000 สุริยา สิ่งที่นางได้รับประโยชน์มากที่สุดนั้นคือรากฐานของร่างกายของตนเอง
อี่หวง กู่หวู๋รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่งเมื่อนางซบลงบนหน้าอกของชิงสุ่ย ดวงตาที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ของนางดูงดงามและเย้ายวนอย่างยิ่ง ดวงตาเหล่านี้ราวกับสามารถมองทะลุเข้าไปถึงกระดูกได้ สายตาที่พึงพอใจของนางทำให้จิตใจของบุรุษนั้นรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง
นี่เป็นสิ่งที่หายากยิ่งนัก หายากอย่างยิ่ง แขนอันอ่อนนุ่มทั้งสองข้างของนางวางลงบนหน้าอกของชิงสุ่ย นางวางคางของตนเองเอาไว้บนแขนของเขาและจ้องมองไปยังใบหน้าของชิงสุ่ย
“ชิงสุ่ย ขอ้าย้ามีความสุขมากจริงๆ ในวันนี้ข้ารู้สึกราวกับว่าได้เปลี่ยนนรกมาเป็นสวรรค์” อี่หวง กู่หวู๋กล่าวอย่างมีความสุข
“นี่คือคำชมเชยที่ดีที่สุดที่ข้าเคยได้รับ” ชิงสุ่ยหัวเราะ
……
ชิงสุ่ยแต่งตัวอย่างเรียบร้อย เวลาได้ผ่านไปกว่าครึ่งวัน อี่หวง กู่หวู๋ได้ออกมาก่อน เพราะหยวน สู่และหมอปิศาจนั้นยังคงอยู่ข้างนอก พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าครึ่งวัน
ชิงสุ่ยสามารถรับรู้ได้ถึงพลังของตนเองในตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ได้มาถึงขั้นที่ 8 ของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล ตลอดมาเขาพึ่งพาเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลของตนเองมาโดยตลอด
ขั้นที่ 8 ของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาล!
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงพลังพื้นฐานของเขา: 200 สุริยา!
พลังพื้นฐานของเขานี้ถือว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ถัดจากนั้นชิงสุ่ยก็ตรวจสอบความสามารถอื่นๆของเขา ก้อนเมล็ดเจ็ดสีสามารถเพิ่มพลังพื้นฐานขึ้นได้ 30 เท่า
การเพิ่มขึ้นของมันนั้นไม่ได้มากมายนัก ด้วยเหตุนี้ชิงสุ่ยจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ยังคงตรวจสอบต่อไป
เกราะอสูรสำแดง?
มันหายไปแล้ว…..
กระบี่ดารายุพฆาตก็หายไปแล้วงั้นหรือ?
ทั้งหมดนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเกราะทองคำของคนตัวเล็กๆภายในจุดตันเถียนของเขา คนตัวเล็กนี่คือวชิระของชิงสุ่ย
อะไรคือวชิระ? ชิงสุ่ยไม่รู้ สิ่งเดียวที่เขารู้คือคนตัวเล็กๆนี้เกือบจะเหมือนกับก้อนทองคำที่เขามี ในด้านของพลังนั้นมันทรงพลังกว่ามาก มันสามารถเพิ่มความสามารถทั้งหมดของเขาขึ้นถึง 50 เท่า
ชิงสุ่ยตระหนักได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังของเขาในการยกระดับของ พลังพื้นฐานของเขาในตอนนี้อยู่ที่ 200 สุริยา ก้อนเมล็ดเจ็ดสีสามารถเพิ่มพลังพื้นฐานของเขาทั้งหมดขึ้นอีก 30 เท่า วชิระนั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก 50 เท่าและรูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ก็สามารถเพิ่มพลังของเขาขึ้นอีก 1 เท่า
เมื่อคำนวณทั้งหมดนี้พลังพื้นฐานของชิงสุ่ยจะเป็น 600,000 สุริยา พลังของหุบเขา 9 เทวาในตอนนี้นั้นเกือบจะถึง 2 ล้านสุริยา
ภายใต้ผลของลูกประคำอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ ก้อนเมล็ดเจ็ดสี วชิระ รูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ รวมไปถึงตราประทับแห่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ พลังวิญญาณของเขาจะมีพลังมากกว่า 5 ล้านสุริยา
สิ่งเดียวที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกผิดหวังในตอนนี้คือเขายังไม่อาจตรวจสอบพลังของกระบี่ดารายุพฆาตและเกราะอสูรสำแดงของเขาได้ แม้แต่โอกาสที่จะเพิ่มพลังขึ้นเป็น 2 เท่าของกระบี่ดารายุพฆาตก็ดูเหมือนจะหายไป เรื่องนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
ในตอนนี้เขามีวชิระ ซึ่งทำให้เขาได้รับประโยชน์มหาศาล
วชิระในเกราะทองคำนั้นยังมีความมหัศจรรย์อีกสองสามอย่าง นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ระดับขั้นแรกเริ่ม: เคล็ดวิชาสรวงสวรรค์วชิระ
เกราะทองคำ: เปิดใช้งานความสามารถในการป้องกันทั้งหมดของชิงสุ่ยด้วยพลัง 3 เท่าของพลังพื้นฐานทั้งหมด มันยังสามารถช่วยป้องกันการโจมตีที่รุนแรงได้ 1 ครั้งต่อวัน
วชิระจู่โจม: วชิระจู่โจมนั้นสามารถใช้ได้ 1 ครั้งต่อวัน พลังโจมตีของมันนั้นคิดเป็น 3 เท่าของพลังพื้นฐานของผู้ใช้
วชิระไร้เงา: ความเร็วของผู้ใช้นั้นจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า สามารถใช้ได้ 1 ครั้งต่อวัน มันจะแสดงผลอยู่เป็นเวลา 1 ก้านธูป
นี่คือระดับขั้นแรกเริ่มของเคล็ดวิชาสรวงสวรรค์วชิระภายในจุดตันเถียน เพราะว่าเขาได้มาถึงขั้นที่ 8 ของเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลเขาจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งซึ่งทำให้ก้อนทองคำนั้นได้กลายไปเป็นวชิระ