Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1399
บทที่ 1399 – ข้าเป็นผู้หญิงของเจ้า กลับบ้านพร้อมหยวนสู่ เตรียมการเคลื่อนย้าย วางแผน
ชิงสุ่ยไม่ได้คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น หลังจากคิดสักครู่หนึ่ง เขาก็เข้าใจถึงความรู้สึกของการคิดถึงบ้านที่จากมาไกล นับตั้งแต่ที่เขาจากมา เขาไม่เคยสัมผัสกับอารมณ์เช่นอีก เมื่อเขากำลังจะเดินทางกลับบ้าน เขาปรารถนาอย่างมากว่าเขาจะสามารถเดินทางไปถึงปลายทางด้วยหัวใจที่เต้นรัว
เมื่อเห็นใบหน้าที่น่ารักของเธอ ชิงสุ่ยเอื้อมมือออกไปเช็ดน้ำตาของเธอ เมื่อเขาปาดผ่านน้ำตาของเธอเพียงครึ่งนึง หยวนสู่ ก็กระโจนตัวเองเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและร้องไห้ออกมาอย่างนุ่มนวล
ชิงสุ่ยเพียงแค่ตบลงไปเบาๆบนหลังอันงดงามของเธอโดยไม่กล่าวคำใด เธอเก็บอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้มากเกินไป เป็นเรื่องดีที่เธอได้ปลดปล่อยมันออกมาทั้งหมด ดังนั้นแทนที่จะปลอบโยนเธอ เขาปล่อยให้เธอได้ระบายความรู้สึกทั้งหมดแทน
หยวนสู่ไม่ได้เงยศีรษะขึ้นเป็นเวลานาน ดวงตาของเธอแดงและบวม แต่เธอดูเหมือนจะดีขึ้นมาก เธอกอดชิงสุ่ยและกล่าวด้วยเสียงเขินอายเล็กน้อย “ตอนนี้ข้าดูน่าเกลียดมากหรือไม่?”
“ไม่ใช่เลย แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าเจ้าช่างดูน่ารักจริงๆ เด็กน้อยน้ำมูกไหลผู้น่ารักและงดงาม” ชิงสุ่ยหัวเราะ
“ข้าไม่ได้น้ำมูกไหล! ข้าไม่ใช่เด็กน้อย ข้าอายุมากกว่าเจ้า!” หยวนสู่โมโห
เธอรู้สึกอบอุ่นภายในหัวใจ เธอรู้สึกแปลกๆ ชายหนุ่มผู้ยืนอยู่ตรงหน้าเธอมีพื้นที่พิเศษในใจของเธอ เขาอยู่ที่นั่นตั้งแต่เมื่อนานมาแล้วและเธอก็ไว้ใจเขาอย่างเต็มที่
“เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือไม่?” ชิงสุ่ยถามด้วยรอยยิ้ม เสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา
หน้าเปื้อนน้ำตาของเธอถูกย้อมเป็นสีแดง มันเป็นสำหรับผู้หญิงที่ร้องไห้ในอ้อมแขนของผู้ชายซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกในครอบครัวหรือคนรัก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนกัน พวกเขาก็ไม่ใช่แค่เพื่อนทั่วไป
“ข้าสบายดี ข้าต้องดูตลกสำหรับเจ้าแน่” หยวนสู่สงบลง แต่เธอไม่ได้ออกจากอ้อมแขนของชิงสุ่ย
“เจ้าต้องรู้สึกดีมากในอ้อมแขนของข้า!” ชิงสุ่ยมองหยวนสู่ด้วยรอยยิ้ม
“ผู้หญิงของเจ้าไม่ได้อยู่ด้วย มันไม่ได้หมายความว่าเจ้ากำลังมองหาเหยื่อ ถ้าหากข้ายังอยู่เช่นนี้อีกหน่อย” หยวนสู่จ้องมองเขา
ชิงสุ่ยงงงวย เขาไม่คาดคิดว่าหยวนสู่จะกล่าวอะไรบางอย่างที่ชัดเจนแบบนี้ เขาเอื้อมมือออกไปและกอดเธอไว้ ความรู้สึกระหว่างพวกเขาเป็นของจริงและซับซ้อน ดังนั้นชิงสุ่ยจึงหยุดคิดให้มากมาย ตั้งแต่ที่พวกเขาได้เปิดเผยกันและกัน พวกเขาก็ควรทำตัวให้เป็นธรรมชาติและไม่จำเป็นต้องแสร้งทำ
ร่างกายที่อยู่ในอ้อมแขนของเขานั้นอ่อนนุ่มและบอบบาง กลิ่นหอมอ่อนๆบนเรือนร่างกายเธอช่างทำให้รู้สึกสบายจริงๆ หยวนสู่เงยใบหน้าขึ้นอย่างเงียบๆและจ้องไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างน่าอัศจรรย์ของชิงสุ่ย เธอหลงเสน่ห์อันลึกลับของชายหนุ่มคนนี้
หยวนสู่ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและจูบลงบนแก้มของชิงสุ่ย
มันทำให้ชิงสุ่ยตกใจ ความอ่อนนุ่มที่เขารู้สึกผ่านแก้มของเขายังไม่จางหายไป เขามองไปที่สุภาพสตรีผู้งดงามซึ่งหน้าแดงราวกับดวงอาทิตย์ตก ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจเธอทุกครั้ง
เธอก้มศีรษะไม่ให้มอง ชิงสุ่ยค่อนข้างรู้สึกขบขัน ผู้หญิงคนหนึ่งหน้าแดงด้วยความเขินอาย มันเป็นสิ่งที่น่าหลงใหลมาก
ชิงสุ่ยรู้ว่าหยวนสู่ให้ความสำคัญกับการกระทำของเธอจริงๆ เขาก้มหัวลงเบาๆเพื่อเงยหัวของเธอออก ความใกล้ชิดระหว่างพวกเขาอยู่ใกล้พอที่จมูกของชิงสุ่ยจะสามารถสัมผัสโดยตรงกับจมูกของเธอ
ขนตาอันยาวของหยวนสู่กระพริบทำให้ดวงตาของชิงสุ่ยระคายเคือง เธอรู้สึกกระวนกระวายมากๆและดูเหมือนจะต้องการปิดตา แต่ในเวลาเดียวกันก็ต้องการที่จะเปิดไว้
ชิงสุ่ยค่อยๆเอนไปข้างหน้าเพื่อจูบเธอบนริมฝีปากที่อ่อนหวาน มันรู้สึกเหมือนกลีบดอกไม้ เขาดูดริมฝีปากเบาๆด้วยการเคลื่อนไหวที่ช้ามาก
ขณะที่ริมฝีปากของชิงสุ่ยได้ผสานกับเธอ หยวนสู่ไม่สามารถทำอะไรได้ เธอตัวสั่นและหลับตาลง มือของเธอดูเหมือนพร้อมที่จะผลักชิงสุ่ยออกไป แต่แล้วเธอก็หันไปโอบกอดแทนเมื่อพวกเขาจูบกันไปมา จริงๆแล้วเธอรู้สึกกระวนกระวายอยู่ในใจลึกๆ
มือชิงสุ่ยที่กุมมือของหยวนสู่เอาไว้ค่อยๆเลื่อนต่ำลง ขณะที่พวกเขาพวกมันเอื้อมไปยังหลังที่งดงามของเธอ ริมฝีปากของหยวนสู่แยกออกจากกัน มันช่วยให้ลิ้นของชิงสุ่ยสามารถล้วงลึกเข้าไปในปากอันหวานฉ่ำทันที
ชิงสุ่ยไม่ปล่อยช่องว่างของริมฝีปากแม้เพียงเล็กน้อย หยวนสู่กำลังหอบจากการจูบ หยวนสู่เขินอายเล็กน้อยและไม่กล้าที่จะสบตากับชิงสุ่ย
“พึงพอใจหรือไม่?” ชิงสุ่ยหัวเราะเบาๆ
“ฮี!” หยวนสู่ตบชิงสุ่ยด้วยความโกรธ
“เจ้างดงามมากในวันนี้ มันเป็นเพราะเจ้าตัดสินใจที่จะเปิดรับข้าแล้วงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยยังคงล้อเลียนเธอ
“พอได้แล้วชิงสุ่ย ข้าชอบเจ้า แต่ข้ายังมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ พวกเรารออีกหน่อยได้หรือไม่? ถ้าข้าจะแต่งงานในชีวิต แน่นอนว่าต้องแต่งกับเจ้า”
“อย่าได้กังวล ข้าจะไม่บังคับเจ้า ข้าจะรับฟังทุกสิ่งที่เจ้าพูด” ชิงสุ่ยยืนยันด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าโกรธหรือไม่?” หยวนสู่มองไปที่เขาและถามอย่างระมัดระวัง
ชิงสุ่ยตบลงไปที่ก้นของเธอ
เพี๊ยะ!
“อ๊ะ!”
เสียงที่ดังออกมาฟังดูลามกเล็กน้อย ใบหน้าของหยวนสู่แดงก่ำและร่างอันงดงามของเธอสั่นอย่างรุนแรง เสียงครางที่เธอเปล่งออกมานั้นดูเย้ายวน
จุดที่ไวต้องความรู้สึกของเธอถูกกระตุ้นมากขึ้น
“หยวนซู วันนี้ข้าจะกลับไปเยี่ยมที่บ้าน” ชิงสุ่ยบอกเธอเบาๆ
“ตกลง ขอให้เดินทางปลอดภัย” หยวนสู่ตอบอย่างนุ่มนวล
“เจ้าอยากไปด้วยหรือไม่?” ชิงสุ่ยถาม
หยวนซูหงุดหงิดและจ้องมองชิงสุ่ยในความสับสน เธอไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ชิงสุ่ยกำลังพยายามกล่าว
“ข้ามีวิธีที่จะพาเจ้ากลับไปด้วย เจ้าต้องการไปกับข้าหรือไม่?” ชิงสุ่ยถามเธออีกครั้ง
หยวนสู่มองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความตกใจ “จริงๆหรือ? ข้าสามารถไปได้งั้นหรือ?”
“แน่นอนว่าเจ้าสามารถทำได้ ไม่เพียงแค่นั้น ถ้าเจ้าต้องการ ข้าสามารถพาเจ้ากลับไปที่บ้านได้ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น” ชิงสุ่ยยิ้ม
“ข้าอยากกัลบไป! ข้ารอวันนี้มานานแล้ว” หยวนสู่มองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความคาดหมายในดวงตาของเธอ
“เช่นนั้นพวกเราไปแจ้งพี่สาวหวู๋ก่อนไปกันเถอะ”
“พี่สาวหวู๋ไม่ไปด้วยงั้นหรือ?”
“ข้าสามารถพาไปได้เพียงคนเดียว” ชิงสุ่ยตอบสั้นๆ หอคอยจักรพรรดิกำลังจะปิดอีกสองสามวันข้างหน้า
……
ชิงสุ่ยและหยวนสู่ปรากฏตัวใน 5 มหาทวีป พวกเขาพบว่าตัวเองอยู่ที่มหาทวีปธรรมไตร หยวนสู่มองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจและไม่เชื่อ เธอจับมือชิงสุ่ยราวกับเด็กหญิงตัวน้อยที่เบิกบานใจ
อาณาจักรเจ็ดดารา
ชิงสุ่ยหยุดที่ชายแดนของอาณาจักรเจ็ดดาราแล้วเรียกวิหคเพลิงนรกานต์ออกมา
“หยวนสู่ เจ้ากลับไปที่บ้านพร้อมกับมันเถอะ หากเจ้าต้องการมาหาข้า ขึ้นไปขี่มันและมันจะนำทางมาหาข้าเอง บ้านของข้าอยู่ในมหาทวีปธรรมไตรที่เมืองวายุนภา 5 วัน… ถ้าหากเจ้ายังคงต้องการกลับไปที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ มาหาข้าในอีก 5 วัน” ชิงสุ่ยกล่าวหลังจากคิดสักครู่
“เจ้ายังตำหนิข้าอยู่หรือไม่? เจ้าปฏิเสธที่ก้าวเข้าไปในอาณาจักรเจ็ดดาราเพราะเจ้ายังโกรธข้าอยู่หรือ?” สายตาของหยวนสู่กระพริบตาด้วยความขุ่นมัว
“ไม่ ข้าเป็นคนใจแคบงั้นหรือ เอาหล่ะ เจ้าไปเถอะ!” ชิงสุ่ยหัวเราะ
“อะไรที่มันจะทำให้เจ้ายกโทษให้ข้าหรือ? ข้าไม่อยากอยู่ในสภาพเช่นนี้” หยวนสู่กอดชิงสุ่ยด้วยตัวเธอเองและจูบลงบนริมฝีปากของเขา
“เด็กโง่ ข้าไม่ใช่คนใจแคบ ตราบเท่าที่มันไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรง ข้าก็ไม่ได้ขุ่นเคืองใดๆ หญิงของข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรเช่นนี้ ข้าชอบความสง่างามและเอาแต่ใจของเจ้า” ชิงสุ่ยหัวเราะและหยิกจมูกของเธอ
“เช่นนั้นเจ้าสัญญาสิ! อย่าโกรธข้า รอข้า ข้าจะไปพบเจ้าแน่ ข้าเป็นผู้หญิงของเจ้า!” หยวนสู่ขึ้นไปบนหลังของวิหคเพลิงนรกานต์ทันทีหลังกล่าวเสร็จ
ชิงสุ่ยใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาแล้วรีบมุ่งหน้าไปทางคฤหาสน์ตระกูลชิง ภายในระยะเวลาสั้นๆ เขาก็ได้มาถึงทางเข้าที่พักของเขาแล้ว
การกลับมาบ้านของเขาอยู่ในช่วงเทศกาลเสมอ โดยธรรมชาติพวกเขาจะพูดทักทายกันด้วยความรื่นรมย์ ลูกๆของเขาโตขึ้น ชิงซุน ชิงหยิน และชิงหมินโตเป็นวัยรุ่นแล้ว ความสูงของพวกเขาอย่างน้อยก็มากกว่า 1.5 เมตร
ชิงหมินตัวสูงมากและมีลักษณะอารมณ์คล้ายคลึงกับชางห่ายหมิงเยวี่ยเล็กน้อย
ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับอีเย่เจี้ยนเก้อ แม้ว่าชิงสุ่ยควรจะคาดเดาได้ แต่เขาก็ยังคิดถึงเธอนิดหน่อย เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มมองหาเธอที่ไหนในเวลานี้
หลวนหลวนอยู่ในความสันโดษซึ่งค่อนข้างแปลกใจ ชิงสุ่ยได้วางแผนที่จะส่งต่อทักษะครอบครองสัตว์อสูรเทวะให้กับเธอแล้ว แต่เงื่อนไขเบื้องต้นนั้นสูงมาก ดูเหมือนว่ามันมีขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้สัตตะดวงใจอสูรและสัตตะดวงใจลี้ลับ
ในเมื่อเธอกำลังอยู่ในความสันโดษ ดังนั้นเขาจึงปล่อยมันไปและมันก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เขานำหยวนสู่มาได้ในเวลานี้ ฉะนั้นเขาสามารถนำใครไปที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำก็ได้
ด้วยชายชราสองคนที่เข้าร่วมกับเขา ชิงสุ่ยอาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีชื่อเสียงในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำแล้วตอนนี้ ดังนั้นเขาวางแผนที่จะย้ายตระกูลไปที่นั่น มันเห็นได้ชัดว่าที่นั่นเหมาะสำหรับการฝึกตน
ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่มีชีวิตชีวามากเมื่อทุกคนมารวมตัวกันอยู่ เมื่อชิงสุ่ยกล่าวความคิดของเขา ทุกคนก็เงียบลง แม้แต่คนรุ่นที่สามก็เผยรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา ชิงหลัวและคนที่เหลือดูเหมือนจะคิดอย่างถี่ถ้วน
“ชิงสุ่ย มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำแตกต่างจากที่นี่ มีฝึกตนที่ทรงพลังมากเกินไปอยู่ที่นั่น พวกเรายังไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ถ้าหากพวกเราย้ายไปที่นั่น นี่จะเป็นการสร้างปัญหาใหญ่สำหรับเจ้า ไม่เพียงแค่นั้น คนส่วนใหญ่ในตระกูลของเราไม่สามารถก้าวไปได้ไกลนักในด้านการฝึกตน เอาหล่ะ เอาแบบนี้ ใครก็ตามที่ปรารถนาจะไปที่นั่นก็ทำเช่นนั้น ผู้ที่ไม่ประสงค์จะก็รออยู่ที่นี่ ข้าคุ้นเคยกับสถานที่นี้และเคยชินกับมัน ยังมีคนอื่นๆอีกที่นี่ ข้าคิดว่าข้าจะอยู่ที่นี่ ข้าไม่คิดจะไปที่นั่นเมื่อยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม เจ้าคิดอย่างไร?” ชิงหลัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและบอกกับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยคิดสักครู่ “เช่นนั้นก็ดี พวกเราจะเริ่มมันในเดือนหน้า ข้าสามารถพาไปได้เพียง 1 คนต่อเดือน ดังนั้นพวกเราต้องใช้เวลาสักหน่อย”
คนรุ่นที่สามของตระกูลชิงปิติยินดี โดยเฉพาะชิงหยู ชิงเป่ย และคนที่เหลือบางส่วน
มีปัญหาหลักอีกอย่างหนึ่ง เมื่อเขากลับไปในเดือนนี้เขาจะต้องไปหาคฤหาสน์หลังใหญ่ มันต้องตั้งอยู่ไม่ไกลจากหอคอยจักรพรรดิ มันเพียงเพราะเขาต้องทำงานในหอคอยจักรพรรดิ ด้วยสองผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง มันจะไม่มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น
ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยหลังจากมีแผนที่ชัดเจนในใจ
เขาต้องออกไปที่อื่น ดังนั้นโดยธรรมชาติเขาต้องสนับสนุนพวกเขาบางอย่าง เขาถูกรุกรานมากมายในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ ดังนั้นเขาจึงได้เน้นกำจัดความเสี่ยงของพวกเขาล่วงหน้าและหวังที่จะปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขา
……
ในวันที่ 5 หยวนสู่ก็มาถึง ไม่มีใครประหลาดใจมากเกินไปเมื่อเห็นว่าเธอดูดีขนาดไหน หนึ่งในนั้นติ๊ชิงรู้จักเธอ จริงๆพวกเขาสามารถถือว่าเป็นเพื่อนสนิทกันได้ หยวนสู่รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นติ๊ชิงอุ้มเด็กเอาไว้ในอ้อมแขนของเธอ
“เด็กหญิงตัวน้อยน่ารักน่าชังจริงๆ นางชื่อว่าอะไรงั้นหรือ? ติ๊ชิง มันนานมากแล้วสินะที่พวกเราได้กันครั้งล่าสุด”
หยวนสู่อุ้มชิงนิ๋วเอาไว้ในอ้อมแขนของเธอ หญิงสาวทั้งสองมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้เจอกันอีกครั้ง ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหยวนสู่กลับไปที่บ้าน แต่เขาก็บอกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีสำหรับเธอ จากรูปลักษณ์บนใบหน้าของเธอ ตอนนี้เธอดูดีขึ้นมาก