Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - ตอนที่ 1477
บทที่ 1477 – ความแข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นของพลัง แผนการ
ชิงสุ่ยไม่ได้ประหลาดใจที่เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 9 เชื่อมต่อกัน เพราะนี่เป็นไปตามที่คาดคิด แต่การพลังที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจ เพราะมันเพิ่มขึ้นมาในปริมาณมาก ซึ่งพลังพื้นฐานของเขาในตอนนี้กลายเป็น 4,000 สุริยะ
แต่เดิมพลังพื้นฐานของเขาอยู่ที่ 3100 สุริยะ ดังนั้นจึงถือว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาในระยะเวลาสั้น ๆ และการเพิ่มขึ้นของพลังนั้นมีความหมายพิเศษบางอย่าง ซึ่งสำคัญมากในการฝึกฝน
ตอนนี้พลังพื้นฐานของเขากลายเป็น 4,000 สุริยะแล้ว ดังนั้นเขาสามารถปลดปล่อยพลังได้มากถึง 160 ล้านสุริยะ ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของพลังในครั้งนี้อาจเรียกว่าเป็นพลังที่ท้าทายสวรรค์ แต่ด้วยระดับของเขาในตอนนั้น การเพิ่มขึ้นพลังนี้จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดแต่อย่างใด
การเชื่อมต่อ เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 9 นั้นมีประโยชน์มาก ในตอนแรกที่ เส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 8 เชื่อมกันนั้นผลลัพธ์ก็ดีมากเช่นกัน แต่ใครจะคิดว่าพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นมหาศาลเมื่อเกิดการเชื่อมต่อกันของเส้นลมปราณสวรรค์เส้นที่ 9 ?
เขาไม่รู้ว่าถ้าเกิดการเชื่อมต่อขึ้นอีกในอนาคตนั้นจะให้ผลลัพธ์อย่างไร..แต่หลังจากที่ชิงสุ่ยคืนสติได้ เขาก็เริ่มบรรเลงเพลงรักอย่างมีความสุข
เวลาผ่านไปช้า ๆ เขาลูบไล้หญิงสาวที่อยู่ภายใต้ร่างกายของเขา ชิงสุ่ยดื่มดำความเนียนนุ่มของเธอ เสียงครางของเธอนั้นทำให้ชิงสุ่ยพอใจก่อนเลือดในตัวเขาจะเดือดพล่านอีกครั้ง
ดวงตาของติ๊ เฉินนั้นหยาดเยิ้มน่าหลงใหล เมื่อเธอกอดชิงสุ่ยไว้แน่น รู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่กลางทะเลที่กว้างใหญ่ ความสุขที่โลดแล่นเข้าไปในจิตใจเธอนั้นเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด..
เมื่อทุกอย่างจบลง..เวลาก็ผ่านไปครึ่งวัน ติ๊เฉินนอนอยู่ในอ้อมกอดของชิงสุ่ย ร่างของทั้งสอดกอดรัดกันแน่น
“เนื้อตัวเจ้าหอมมาก”ชิงสุ่ยลูบไล้มือตนบนร่างของติ๊ เฉิน
ติ๊ เฉินมองชิงสุ่ยด้วยใบหน้าพอใจ เธอดูประหลาดใจ เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ “ชิงสุ่ย ข้ามีความสุขมาก”
ชิงสุ่ยไม่คิดว่าติ๊ เฉินจะพูดเช่นนั้นออกมา เขาเองก็พอใจมากเช่นกัน ก่อนจะมองร่างงามใกล้ตัว เขาเริ่มเกิดอารมณ์อีกครั้ง
……
ครั้งนี้ติ๊ เฉินไม่กล้าพูดอะไรหลังจากพวกเขาบรรเลงเพลงรักรอบที่สอง..เธอสวมเสื้อคลุมก่อนจะนอนกอดหมอนบนเตียงอย่างหมดแรง
ชิงสุ่ยหัวเราะ เขาสวมชุดก่อนจะกอดและจูบเธอ
“พลังของข้าเพิ่มขึ้นมาก ..การรวมเป็นหนึ่งนั้นเพิ่มพลังได้มากถึงเพียงนี้เลยหรือ?”ติ๊ เฉินถามอย่างสงสัย ในขณะที่กำลังจ้องมองชิงสุ่ย
“นี่เป็นการฝึกตนแบบทวิบ่มเพาะ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจะได้รับประโยชน์…ดีใช่ไหมล่ะ?”ชิงสุ่ยหยอกล้อ
“ไม่แปลกใจเลยที่นิกายต่าง ๆ มีคู่หลับนอนก็เพราะนี่เป็นทักษะการฝึกตนอย่างหนึ่งอย่างนั้นหรือ แต่ว่าทักษะนี้…มันไม่ผิดจริยธรรมไปหน่อยหรือ?”ติ๊ เฉินเมินคำหยอกล้อของชิงสุ่ย
“การฝึกตนแบบทวิบ่มเพาะนั้นสามารถแบ่งได้หลายประเภท ตั้งแต่ระดับแรกเริ่ม คือจะมีเพียงฝ่ายเดียวที่ได้ประโยชน์ แต่อีกฝ่ายจะต้องทนทุกข์ ก็คล้าย ๆ กับเตาหลอมก็คือมีฝ่ายหนึ่งที่ได้พลังหยินและหยางจากอีกฝ่าย ส่วนอีกประเภทคือระดับกลางซึ่งถือว่ามีประโยชน์ดีที่เดียวคือฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ได้และไม่เสียประโยชน์ ซึ่งถือว่าดีมากทีเดียวเพราะอีกฝ่ายไม่ต้องสละพลังของตนเพื่อให้อีกฝ่ายเกิดการก้าวข้าม ส่วนประเภทสุดท้ายคือการฝึกตนแบบทวิบ่มเพาะระดับสูง ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ ซึ่งแต่ละคนอาจจะได้รับประโยชน์ที่แตกต่างกัน”ชิงสุ่ยอธิบาย
“ดูเหมือนเจ้าจะใช้ระดับสูงสินะ”ติ๊ เฉินยิ้ม แม้เธอจะเองก็จะเขินอายเช่นกัน แต่ท่าทางของเธอนั้นก็ดูเป็นธรรมชาติมาก
“ใช่ ในฐานะสามี ข้าขอเอ่ยตรงนี้เลยว่าไม่มี การฝึกตนแบบทวิบ่มเพาะใดที่ดีกว่านี้อีกแล้ว”ชิงสุ่ยหัวเราะ ทักษะไร้ชื่อนี้ช่างยอดเยี่ยมนัก โลกนี้ช่างกว้างใหญ่จึงอาจจะมีทักษะอะไรที่ดีกว่านี้ก็ได้ อย่างไรซะชิงสุ่ยก็ไม่ได้ต้องการทักษะที่ดีเยี่ยมหรือต้องการเป็นที่หนึ่ง เพราะยังไงก็ย่อมมีคนที่แข็งแกร่งหรือเหนือฟ้ายังมีฟ้า ไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้เขาอาจจะเป็นที่หนึ่งแต่หลังจากนั้นสิบปีหรือมากกว่านั้นเขาก็คงไม่ใช่ที่หนึ่งอีกต่อไป
ติ๊ เฉินมีความสุขมากที่เห็นชิงสุ่ยในมุมนี้ ใบหน้าหัวเราะของเธอนั้นอ่อนโยนมาก ว่ากันว่าเมื่อเธอเปิดใจให้ชายใดก็ตาม ชายคนนั้นก็จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวของหญิงสาว
ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเธอ เขาก้มหัวลงและจุมพิตเธอ
แต่เดิมพลังของติ๊ เฉินก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว แม้ตอนนี้พลังของเธอยังเทียบถานท่าย หลิงเยียน แต่ความแตกต่างของพลังนั้นก็ไม่ได้มากเท่าใดนัก สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจว่า รูปแบบสัตตบงกชศักดิ์สิทธิ์ คืออะไรกันแน่ ที่สามารถทำให้คติ๊ เฉินพัฒนาได้เร็วถึงเพียงนี้
เมื่อชิงสุ่ยคิดไม่ออก เขาจึงหยุดคิด ชิงสุ่ยใช้ เข็มทองคำฟื้นฟูร่างกายเพื่อทำให้พลังของเธอเสถียร เมื่อก้าวข้าม ความทรมานแห่งทัณฑ์สวรรค์พินาศ มาแล้ว ก็แสดงว่ารูปแบบของติ๊ เฉินนั้นมีความคงตัวสูง
นอกจากชิงสุ่ย คนอื่น ๆ ที่ผ่าน ดินแดนแห่งทัณฑ์สวรรค์พินาศ เองก็มีพลังใกล้เคียงกับชิงสุ่ย ความทรมานแห่งทัณฑ์สวรรค์พินาศ นั้นแข็งแกร่งมาก แต่ก็มีคนมากมายข้ามผ่านสิ่งนั้นมาได้ ยิ่งแต่ละนิกายมีอาณาจักรพลังปราณบรรชาสวรรค์พินาจ ก็จะเพิ่มขึ้นแน่ในอนาคต
ติ๊ เฉินและติ๊ ชิงเป็นพี่น้องกัน ทั้งคู่มาจากรูปภาพโฉมงาม อย่างไรก็ตามพลังของพวกเขาทั้งสองนั้นค่อนข้างต่างกัน พลังของติ๊ ชิงในตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อตามติ๊ เฉินให้ทัน
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็กลับไปที่นิกายบงกชเทวะ
“เฉินเอ๋อ เจ้าอยากย้ายที่ตั้งนิกายบงกชเทวะไปมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำรึไม่ก็มหาทวีปมังกรอหังกาล?” พวกเขายืนอยู่ตรงหน้า นิกายบงกชเทวะ ชิงสุ่ยนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถาม เพราะเขาคิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว
แม้พลังของนิกายบงกชเทวะ ยังไม่แข็งแกร่งมาก แต่ความแข็งแกร่งของติ๊ เฉินนั้นช่วยค้ำจุนพวกเขา ใน มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ พวกเขาล้วนเป็นมิตรกับชิงสุ่ยและตระกูลเหยียน
“หืม ให้ข้าปรึกษากับคนของข้าก่อนแล้วกัน ถ้าเป็นไปตามแผน พวกเราก็จะทำการย้ายภายใน 2-3 ปี “ เพราะการเคลื่อนย้ายนิกายนั้นไม่ช่เรื่องเล็ก ๆ ดังนั้นจึงไม่มีใครทำเช่นนี้บ่อยนัก ยกเว้นว่าพวกเขาต้องการย้ายสำนัก
“อื้ม ข้าจะเตรียมทุกอย่างรอเจ้า “ ชิงสุ่ยยิ้ม
“แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ? พวกเราจะย้ายไปพร้อมกันใช่ไหม”
ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงเทือกเขาปู๋โถวและ สำนักสวรรค์เร้นลับชิงสุ่ยจึงตอบเธอทันทีโดยไม่รีรอ “ถ้าพวกเจ้าเลือกที่ที่จะย้ายได้แล้ว ดังนั้นพวกเจ้าก็น่าจะย้ายไปพร้อม ๆ กัน ที่นั้นคงจะครื้นเครงเป็นแน่ และถ้ารวมตัวกันพวกเราก็อาจเป็นใหญ่ในมหาทวีป”
……
ในสายตาติ๊ เฉิน ชิงสุ่ยนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาอยู่ที่นิกายบงกชเทวะ 3 วันเพื่อดูแลเธอฉันท์สามีภรรยาก่อนที่ชิงสุ่ยจะมุ่งหน้าไปยัง เทือกเขาปู๋โถว
เทือกเขาปู๋โถวเองก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่มากเท่าไรมาก เมื่อชิงสุ่ยใช้ย่างก้าว 9 เทวา เขาก็เดินทางไปถึงในระยะเวลาอันสั้น
ทุกอย่างใน ทะเลทิศทักษิณานั้นยังคงเหมือนเดิม อี่หวง กู่หวู๋ ไม่ได้อยู่ที่นี้แล้ว ดังนั้นอวี้ ลู่หยานและถานท่าย หยวนจึงดูแลที่นี้แทน โดยอี่หวง กู่หวู๋อาจกลับมาเยี่ยมที่นี้บ้างเป็นบางโอกาส เพราะเธอเพิ่งให้กำเนิดบุตร ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยมีเวลามากนัก
ชิงสุ่ยเห็นอวี้ ลู่หยานและถานท่าย หยวนอยู่ที่ที่อี่หวง กู่หวู๋เคยอยู่ในอดีต ตอนนี้ทั้งสองสาวงามกำลังฝึกฝนอยู่ที่นั่นและเมื่อเห็นชิงสุ่ย ท่าทางของทั้งสองก็ยิ้มรับอย่างมีความสุข อวี้ ลู่หยานเข้ามากอดชิงสุ่ยก่อนจะดันชิงสุ่ยไปหา ถานท่าย หยวน
ความสัมพันธ์ระหว่างชิงสุ่ยและถานท่าย หยวน นั้นเริ่มคงตัวแล้ว แต่พวกเขายังไม่ได้ทำให้มันชัดเจนจนถึงขั้นสุดท้าย ถานท่าย หยวน ยอมให้ชิงสุ่ยตามเธอไปไหนมาไหนได้ แต่จะต้องเป็นเธอเท่านั้นที่จะสัมผัสตัวชิงสุ่ย เขาไม่มีสิทธิ์จะแตะต้องตัวเธอ
ชิงสุ่ยรู้ว่าถึงแม้เธอจะตั้งกฎไว้เช่นนี้ แต่อีกไม่นานเธอจะต้องตกเป็นของเขาแน่ เพราะเมื่อโชคชะตาลิขิตไว้เช่นนี้ ที่เหลือก็มีแต่ต้องรอเวลา
เธออ้าแขนกว้าง ก่อนจะกอดชิงสุ่ยด้วยท่าทีลังเลเล็กน้อย เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักแต่กลับมีพลังที่น่ากลัวปกคลุมโดยรอบ
“เจ้าคิดถึงข้าไหม?”ชิงสุ่ยกระซิบข้ามหู
“ไม่!”
“เจ้ามีข้อดีมากมาย แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยพูดความจริง ข้ารู้ว่าเจ้าพูดเช่นนี้ก็เพื่อเจตนาที่ดี เจ้าคงกังวลว่าถ้าบอกคิดถึงข้า ข้าจะไม่สามารถตั้งสมาธิในการฝึกฝนสินะ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก เจ้าเองก็อย่าฝืนเลย”ชิงสุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทำไมเจ้าถึงพูดได้อย่างไร้อย่างอายเช่นนี้นะ?” ถานท่าย หยวน ยิ้มก่อนจะพักชิงสุ่ยออกห่าง
ทั้งสามพูดคุยกันและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ก่อนพวกเขาจะเข้าไปในเรือนไม้ไผ่ นิกายใหญ่ ๆ ในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก มักจะมีเส้นทางการเดินทางผ่านจิต เพื่อเชื่อมต่อกับ มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ และ มหาทวีปมังกรอหังกาล มีเพียงสถานที่เดียวเท่านั้นที่ทำเช่นนั้นไม่ได้ก็คือ มหาทวีปอุดรเทวา
พวกเขากำลังตั้งตารอเพื่อเดินทางไปที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำต่อ หลังจากรู้ว่าอี่หวง กู่หวู๋ ให้กำเนิดบุตร หญิงสาวทั้งสองเริ่มมองชิงสุ่ยด้วยท่าทีประหลาด เพราะอย่างไรแล้ว อี่หวง กู่หวู๋ก็คือเจ้านายของพวกเธอ แต่เพราะพวกเขาเปรียบเสมือนพี่น้องร่วมสายเลือดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีบางที่ที่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างชิงสุ่ยกับพวกเธอ มีเพียงบางที่เท่านั้นที่ยอมให้ชายหนุ่มแต่งงานกับภรรยาได้หลายคน และกรณีที่หญิงสาวแต่งงานหลายครั้งนั้นก็ถือว่าเป็นกรณีที่น้อยมาก ส่วนมากนั้นหญิงสาวที่แข็งแกร่งนั้นมักแต่งงานกับชายหนุ่มเพียงคนเดียวและอยู่ครองรักกัน ดังนั้นตามธรรมชาติแล้วชายหนุ่มก็ไม่สามารถแต่งงานกับภรรยาหลายคน..
ชิงสุ่ยจึงรู้สึกกังวลอยู่ลึก ๆ
…….
หญิงสาวทั้งสองมีความสุขมาก พวกเธออยากไปเจอ อี่หวง กู่หวู๋ และทารกน้อย ชิงสุ่ยสัญญาว่าเขาจะพาพวกเธอไปด้วยครั้งหน้าหากเขามีเวลา และเพื่อเตรียมการย้าย เทือกเขาปู๋โถวหรือสร้างนิกายย่อยที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ ซึ่งความจริงนั้นนิกายย่อยก็อาจกลายเป็นตระกูลหลักได้เช่นกัน ถือเป็นบททดสอบของเทือกเขาปู๋โถวในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก
หลังจากบางคนออกไปจากนิกาย คนที่เหลือก็เป็นกำลังหลัก แต่เพราะอย่างนั้นพลังที่เคยมีก็คงต้องลดลงเป็นธรรมดา หากที่นี้ถูกรุกราน เทือกเขาปู๋โถวในมหาทวีปอื่น ๆ ก็แข็งแกร่งพอที่จะช่วยเหลือได้ ทว่าระยะทางระหว่างพวกเขานั้นอยู่ห่างกันพอสมควร
ในกรณีนั้นชิงสุ่ยเลิกคิดมาก แม้เขาจะอยู่ที่นี้มาหลายวันแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้ร่วมเตียงกับถานท่าย หยวน และเขาคงไม่ฝืนใจเธอ ทั้งยังมีอวี้ ลู่หยานอยู่ที่นี้ ถานท่าย หยวนคิดว่าการร่วมเตียงนั้นทำให้รู้สึกเจ็บ…อวี้ ลู่หยานรู้สึกเขินอายเมื่อได้ฟังเช่นนั้น ทั้งยังมองเห็นความรู้สึกขื่นขมในสายตาของถานท่าย หยวน เธอมักถามย้ำว่าการทำเช่นนั้นรู้สึกดีจริง ๆ เหรอ…
……
เมื่อพวกเขาไปถึงสำนักสวรรค์เร้นลับ งานฉลองปีใหม่ก็ผ่านไปครึ่งทางแล้ว แต่ก็ถือว่ายังไม่สายเกินไป เมื่อไปถึงที่คฤหาสน์ ชิงสุ่ยมองเห็นองค์หญิงใหญ่ เหยียน จินยวี้ องค์หญิงลำดับเจ็ดและชิง ชากับพี่สาวของเธอ พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนองค์หญิงใหญ่จะหันมามองชิงสุ่ยที่ยืนมองดูทุกคนพร้อมรอยยิ้ม