Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1548 – นิสัยของฉินชิงเปลี่ยนไป การแยกจากกัน
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1548 – นิสัยของฉินชิงเปลี่ยนไป การแยกจากกัน
บทที่ 1548 – นิสัยของฉินชิงเปลี่ยนไป การแยกจากกัน
ชิงสุ่ยเข้าใจว่าทำไมตระกูลเลิงถึงทำเช่นนั้นกับฉินหยิง คนของตระกูลเลิงถูกชิงสุ่ยและฉินชิงสังหารไปไม่น้อย นี่เป็นการแก้แค้น มันเป็นเพียงความต้องการของพวกเขาที่อยากจะทำ
ธรรมชาติของมนุษย์นั้นมักจะอยู่ข้างเดียวกับครอบครัวเสมอ พวกเขาจะไม่สนอะไรถึงแม้ว่าสมาชิกในตระกูลของพวกเขาจะทำเรื่องเลวร้าย หากคนให้ครอบครัวของพวกเขาถูกทำให้เกิดความอัปยศหรือตาย นั่นจะเป็นเรื่องที่ยกโทษให้ไม่ได้ ฉินหยิงช่างโชคร้ายที่กลายเป็นผู้รับเคราะห์
เมื่อนึกถึงหญิงสาวตัวน้อยที่เรียกเขาว่าพี่ชายชิงสุ่ย สำหรับเขาแล้วในคฤหาสน์จอมฟ้าฉิน นอกจากฉินชิงแล้วคนที่สนิทสนมกับเขามากที่สุดคือฉินหยิง
การตายของเธอทำให้ชิงสุ่ยโกรธและเสียใจมากในเวลาเดียวกัน มันเป็นความโศกเศร้าที่ไม่อาจอธิบายได้ เขาเป็นหมอและตราบเท่าที่เธอยังมีลมหายใจ เขาสามารถนำเธอกลับมาได้ แต่มันไม่ใช่ในตอนนี้
เขาไม่รู้ว่าฉินหยิงต้องพบเจอกับอะไรบ้าง ความเจ็บปวดที่แสนทรมานอย่างยาวนานทำให้เธอสูญสิ้นกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เธอเลือกที่จะหนีด้วยการตาย
ดวงตาของฉินชิงแดงก่ำด้วยความแค้น ชิงสุ่ยสกัดการโจมตีทั้งหมดที่เข้ามาหาตัวเธอ ขณะที่กระบี่ของเธอกวัดแกว่งอย่างเฉียบคมและเด็ดขาดด้วยพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยกังวลมากขึ้น เพราะเขารู้ว่าสภาพจิตใจของฉินชิงกำลังเปลี่ยนไป
เธอเริ่มทุกข์ทรมานจากจิตอสูรของเธอ แต่เธอยังคงมีสติอยู่ เธอรู้ตัวเองดีและรู้ว่ากำลังทำอะไร สำหรับผู้ที่ถูกจิตอสูรครอบงำ พวกเขาจะไม่สามารถจดจำสหายของตัวเองได้และสังหารอย่างไม่เลือกหน้า
หัวใจของชิงสุ่ยรู้สึกสับสน ขณะที่เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น หงส์เพลิงรอบชายชราก็หายไปในพริบตา ร่างของชายชรากระจุยกระจายเป็นชิ้นๆ ตอนนี้พลังของฉินชิงไม่อาจประเมินค่าได้
ความเกลียดชังและความโกรธสามารถทำให้แข็งแกร่งขึ้นได้ มันทำให้เกิดการปลุกพลังขึ้น ฉินชิงกำลังเป็นเช่นนั้น
หลังจากนั้นไม่นานพื้นดินก็เต็มไปด้วยซากศพ ทุกคนจากตระกูลเลิงถูกสังหาร ร่างกายของฉินชิงอาบไปด้วยเลือด รัศมีแห่งการฆ่าฟันที่ปล่อยออกมารอบตัวเธอไม่ได้ลดลงเลย เธอค่อยๆเดินไปหาฉินหยิงและอุ้มร่างที่แน่นิ่งขึ้นมา
ไม่มีน้ำตาสักหยดไหลริน ดวงตาอันเย็นชาของฉินชิงค่อยๆจางหายไปแลแทนทีด้วยสายตาอันอ่อนโยนขณะมองดูร่างของน้องสาว ทุกอย่างเป็นความผิดของเธอ
น้องสาวของเธอตายเพราะเธอ…
ชิงสุ่ยเดินเข้าไปข้างๆ “ทำใจดีๆเอาไว้ หยิงเอ๋อคงไม่อยากเห็นเจ้าเป็นเช่นนี้”
“นางเป็นน้องสาวตัวน้อยที่น่ารักของข้า” ฉินชิงกล่าว
“ผู้ที่ตายไม่อาจหวนคืนกลับ นางจากไปแล้ว แต่นี้ต่อไปนางจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีก” ชิงสุ่ยรู้สึกเศร้ามากเช่นกัน เขารู้สึกอยากจะกวาดล้างตระกูลเลิง
“ข้าจะฝังตระกูลเลิงทั้งหมดไปพร้อมกับนาง” ฉินชิงจ้องมองไปสุดขอบฟ้าและแผ่รัศมีแห่งการฆ่าฟัน
มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะระบายความโกรธแค้นกับครอบครัวของศัตรู แม้ว่าบางครั้งจะมีความจำเป็นต้องตัดรากถอนโคนให้หมดสิ้น ชิงสุ่ยนึกย้อนกลับไป เขารู้ว่าฉินชิงจะไม่มีทางเลือกทำเช่นนี้ในอดีต แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว
ฉินชิงนำร่างของฉินหยิงกลับไปที่คฤหาสน์จอมฟ้าฉิน ทุกคนเกิดอาการตกตะลึง มันไม่มีทางที่พวกเขาจะรับได้
……
“ให้ข้าไปกับเจ้าด้วย!”
ในวันที่ 2 ฉินชิงกำลังจะออกเดินทาง แม้เขาจะรู้ว่าเธอต้องการจะทำอะไร เขาก็ยังเลือกที่จะสนับสนุนเธอ
“ข้าต้องการจัดการด้วยตัวเอง ข้าไม่ต้องการให้ผู้อื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว” ฉินชิงจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย ไม่มีความรู้สึกใดๆในอดีตอีกแล้ว ตอนนี้เธอมีเพียงความเฉยเมยเท่านั้น
เรื่องนี้มีผลกระทบต่อเธออย่างมาก เธอเริ่มห่างเหินจากชิงสุ่ย เขาเข้าใจมันได้อย่างชัดเจน
3 วันต่อมา ฉินชิงเดินทางออกไปเพื่อกวาดล้างตระกูลเลิงที่จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ ชิงสุ่ยกังวลเรื่องเธอและตามติดไปเหมือนเงา หัวใจของเต็มไปด้วยความเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่คำนึงถึงว่าใครจะผิดหรือถูก ฉินชิงสังหารพวกเขาอยากไม่แยแส เธอเป็นเหมือนอสูร
ชิงสุ่ยนึกถึงประมุขอสูร ถานท่ายหลิงเยียนได้รับตำแหน่งประมุขอสูร แต่จะไม่สังหารผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง สำหรับเขาประมุขอสูรมีความชอบธรรมมากเมื่อเทียบกับผู้ที่ไร้ศีลธรรม
ฉินชิงมีมรดกแห่งเทพสงคราม เธอเป็นหญิงสาวที่งดงามราวเทพธิดาและสง่างาม แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นอสูรที่กระหายเลือดอย่างแท้จริง เขารู้สึกราวกับว่าเขาสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาถือกระบี่ที่อาบไปด้วยเลือดและเหมือนเป็นคนแปลกหน้า ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่เหลืออยู่รอบๆตัวฉินชิง
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าถึงแล้วที่ควรจะหยุด เขาหันมองไปที่เธอ ฉินชิงยืนอยู่ตรงหน้าเขาและจ้องมองมา “ข้าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้”
“เจ้าไม่ได้ถูกจิตอสูรครอบงำ เจ้ารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรในตอนที่ฆ่าพวกเขา” ชิงสุ่ยถอนหายใจ ถ้าเธอตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจิตอสูรจริงๆ ชิงสุ่ยย่อมมีวิธีช่วยเธอ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรได้หากเธอนิสัยของเธอเปลี่ยนไป
การตายของฉินหยิงเป็นสิ่งที่สะเทือนจิตใจมาก ชิงสุ่ยเข้าใจ แต่เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขาเพียงเลือกที่จะนิ่งไว้ชั่วคราวเท่านั้น เธอจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
“ถ้าข้าไม่ฆ่าพวกมัน ข้าจะต้องเจ็บปวดไปตลอดชีวิต ข้าไม่มีทางเลือก หากข้าปล่อยพวกมันไป ข้ารู้สึกราวกับจะถูกมีดกรีดลงบนหัวใจ” ฉินชิงกล่าวอย่างเดือดพล่านขณะที่เธอมองชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยเข้าใจความรู้สึกนั้น เขาพยักหน้าเล็กน้อย “ตอนนี้ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า ข้าเองก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน มันไม่ผิดเลยที่จะฆ่าพวกคนที่รังแกหยิงเอ๋อ แต่สำหรับผู้หญิง คนแก่ และเด็กๆที่ไม่รู้เรื่อง…”
ฉินชิงไม่ได้พูดอะไร เธอหันหน้าหนีเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอรู้สึกสับสนในหัวใจ ก่อนหน้านี้เมื่อชิงสุ่ยจะปล่อยมือเธอ เธอไม่ต้องการให้เขาทำมัน
แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าบางทีเธออาจไม่สามารถรักษาหัวใจของเขาเอาไว้ได้ เธอเปลี่ยนไป เขาดูเหมือนจะไม่ชอบเธอที่เป็นอยู่ตอนนี้ และในความเป็นจริง เธอก็ไม่ชอบตัวเองสักเท่าไหร่
เธอไม่ผิดที่สังหารคนเหล่านั้นบนเกาะหมาป่าทมิฬ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่อง พวกเขาไม่มีส่วนที่จะต้องรับผิด
“สำหรับฉินหยิง นางได้จากไปแล้ว เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะพวกเรา ตอนนี้ทุกสิ่งจบลงแล้ว ถึงเวลาที่ข้าต้องจากไปแล้ว” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างไม่เต็มใจ
ฉินชิงตัวสั่นขณะที่เธอจ้องมองชิงสุ่ย ตอนนี้เธอมั่นใจว่าเธอรักเขา แต่เธอรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาเริ่มมากขึ้น ความรักไม่ใช่สิ่งที่สามารถบังคับได้และเธอเข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าตอบและถอนหายใจ “เช่นนั้นก็ดูแลตัวเองด้วย”
หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อพูดมันออกไป แต่หัวใจของชิงสุ่ยก็เช่นกัน! เขาพยักหน้า “เจ้าก็ด้วย ดูแลตัวเองให้ดี”
ด้วยความรู้สึกที่พังทลายลงในตอนนี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการถอยห่างออกมาสักระยะหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะห่างเหินกันไปสักพัก ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ยังไม่ได้ตัดขาดจากกัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นนั้นและต้องใช้เวลานานนับพันปี
ชิงสุ่ยมองดูฉินชิงอย่างลังเลขณะกำลังจะไป จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ข้าหวังว่าจะได้พบเจ้าอีก”
หัวใจของฉินชิงสั่นสะท้าน เธอเอามือกุมอกไว้และค่อยๆเดินจากไป ชิงสุ่ยจ้องมองดูแผ่นหลังของเธอจนลับหายไปด้วยความรู้สึกว่างเปล่าในหัวใจของเขา
หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหนในตอนนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของฉินชิง เธอจะไม่เป็นอันตราย มันทำให้เขาไม่ต้องเป็นกังวล แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยวางเธอไปจากหัวใจได้
ชิงสุ่ยไม่รู้เลยว่าที่จักรวรรดิเดชสวรรค์เป็นอย่างไร มันเหมือนจักรวรรดิฉินหรือไม่? ถ้าข่าวเรื่องตระกูลเลิงถูกกวาดล้างรั่วไหลออกไป เขาไม่รู้ว่าคฤหาสน์จอมฟ้าฉินจะประสบปัญหาใดหรือไม่
……
ฉินชิงกลับไปที่คฤหาสน์จอมฟ้าฉินตามลำพัง ความจริงแล้วในหัวใจของเธอ เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิด นิสัยของเธอเปลี่ยนไปและเธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเป็นเรื่องปกติกับสิ่งที่คนเหล่านั้นทำกับน้องสาวของเธอ เธอเพียงแค่ตอบแทนพวกเขากลับไป ตั้งแต่ที่พวกเขาทำร้ายคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างน้องสาวของเธอและทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย เธอก็สามารถทำเช่นเดียวกันได้ เธอไม่รู้สึกว่าเธอทำอะไรเกินเลย
เมื่อคนที่คฤหาสน์จอมฟ้าฉินเห็นฉินชิงกลับมาคนเดียว พวกเขาสามารถคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ตอนนี้ทุกคนจมอยู่กับความเจ็บปวดของการสูญเสียฉินหยิง ไม่กี่วันที่ผ่านมา สภาพจิตใจของทุกคนในคฤหาสน์จอมฟ้าฉินย่ำแย่ลง ฉินชิงปิดตัวเองอยู่กับความเงียบทันทีที่เธอกลับมา
ชิงสุ่ยยังคงอยู่ที่เมืองหลวงและไม่ได้ไปทำอะไร เขานึกถึงฉินชิงและคิดว่าจะอะไรทำได้บ้าง…
ความเกลียดชัง โกรธ ความเศร้า และความเสียใจอัดแน่นอยู่เต็มหัวใจของเธอและไม่มีที่ว่างสำหรับสิ่งใด ดังนั้นชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะถอยออกมาก่อนและปล่อยให้เวลาผ่านไป ความรู้สึกด้านลบอาจจางหายไปและมีที่ว่างให้สำหรับเขาอีกครั้ง
ถ้าไม่มีตระกูลเลิง นั่นหมายความว่าจะไม่มีศัตรูอื่นใดอีกต่อไป อย่างไรก็ตามตระกูลเลิงเป็นตระกูลใหญ่ พวกเขาน่าจะมีคนในตระกูลหลงเหลืออยู่บ้าง เมื่อตระกูลเลิงถูกกวาดล้าง ชิงสุ่ยรู้ว่ามันมีผลต่อผู้คนจำนวนมาก เขาอยากเห็นการเคลื่อนไหวของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ว่าจะเป็นเช่นไร
นี่เป็นจุดประสงค์หลักที่ชิงสุ่ยยังคงอยู่ต่อ
เมืองจักรพรรดิ!
ชิงสุ่ยเข้าไปยังเมืองจักรพรรดิในจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่รู้ว่ามีใครรู้จักเขามากแค่ไหน เพราะฉะนั้นเขาจึงทำการปลอมตัวเป็นชายวัยกลางคน
“เอาเหล้ามาให้ข้าและกับแกล้มสัก 2-3 อย่าง” หลังจากชิงสุ่ยเข้าไปในโรงเตี๊ยม เขาก็ทำการสั่งเด็กรับใช้ในร้าน
ชิงสุ่นั่งลงที่โต๊ะและมองไปรอบๆอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ทันใดนั้นตาของเขาเพ่งตรงไปที่โต๊ะริมหน้าต่าง มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมหมวกไม้ไผ่อยู่ เธอเรือนร่างที่งดงามและมีเสน่ห์ มันทำให้ทุกคนไม่อาจละสายตาจากเธอได้ อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ชิงสุ่ยสังเกตเห็นเธอไม่ใช่เพราะรูปร่างเธอ แต่มันเป็นกลิ่นอายของเธอ
นับตั้งแต่ที่ชิงสุ่ยฝึกฝนพลังกระทิงยักษาและได้รับพลังอันลึกลับที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาก็ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากกลิ่นอายของเธอ เขาสามรถสัมผัสได้เพียง 90% เท่านั้นว่าผู้หญิงคนนี้เป็นมนุษย์…