Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1570 – ต่อสู้กับจิน ลี่อวี้
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1570 – ต่อสู้กับจิน ลี่อวี้
บทที่ 1570 – ต่อสู้กับจิน ลี่อวี้
ชิงสุ่ยสามารถบอกได้เลยว่าจิน ลี่วี้อนั้นชอบมู่หยุน ชิงเฉิงอย่างมาก แต่เธอกลับไม่ชอบเขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ชิงสุ่ยยังได้กลับมาพร้อมกับเธอ มันจึงทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรชิงสุ่ยก็ไม่ไดสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอ อีกอย่างตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่ม
“พี่ใหญ่ อย่างไรกังวลไปเมื่อชิงสุ่ยมาถึงแล้ว เขาจะไม่ก้าวมายุ่งเกี่ยวกับพวกเราอีกแน่นอน” เธอยิ้มให้กับชอบมู่หยุน ชิงเฉิง
“ข้าไม่คิดอย่างนั้นสิ นิสัยของจิน ลี่อวี้ เจ้าก็รู้อยู่ เขาอยากได้อะไรเขาจะต้องได้ เจ้าเองชิงสุ่ยเจ้าก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นรู้มั้ย “เธอหันไปและกล่าวกับชิงสุ่ย
“ทำไมรึ เขาไม่ใช่แค่ปลาคาฟหรอกหรือ ทำไมพวกเจ้าพูดราวกับเขามีอำนาจอย่างมาก?” ชิงสุ่ยไม่สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้
“แน่นอนเขาเป็นหนึ่งในตระกูลที่ดูแลเส้นทวารมังกรเอาไว้ มันจึงทำให้พวกเขาทรงอิทธิพลอย่างมาก ยิ่งไปกว่าอื่นใดความแข็งแกร่งของเขาก็ยังเป็นของจริงอีกด้วย มันจะดีกว่าถ้าเราหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับเขา” มู่หยุน ชิงเฉิงกล่าวส่ายหัว
“ชิงสุ่ยงั้นเราไปกันเถอะ ไปร่วมงานเลี้ยงของพี่ใหญ่กัน” เจี้ยนเก้อ หัวเราะขณะที่เธอลุกขึ้นยืน
ชิงชุมีอะไรที่ต้องทำและตั้งแต่พวกเขาต้องการที่จะไปเขามากับพวกเขา!
ในตอนนี้พวกเขาได้เข้าไปร่วมข้างในงานเลี้ยงมีผู้คนไม่มากข้างในนี้ ยิ่งไปกว่านั้นที่แห่งนี้ก็ยังมีผู้คุ้มกันที่ละหลวมอย่างมาก
ความแข็งแกร่งของจิน ลี่อวี้จะถือว่าไม่ใช่ที่สุด แต่เขาก็แข็งแกร่งอย่างมาก และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถเป็นผู้ดูแลตระกูลของเขา
อาจกล่าวได้ว่าปลาคาร์พนั้นมีสายเลือดของมังกรอยู่ จึงทำให้เผ่าพันธุ์ของพวกเขายิ่งใหญ่กว่าเผ่าพันธุ์ปลาอื่นๆ ยิ่งไปกว่านี้พวกเขายังเป็นผู้ดูแลทวารมังกรเอาไว้ จึงทำให้พวกเขามีอำนาจอย่างมากในพระราชวังเทพสมุทรแห่งนี้
จิน ลี่อวี้ ไม่ได้เพียงแต่ชอบมู่หยุน ชิงเฉิงแต่เขายังชอบเจี้ยนเก้ออีกด้วย เขามักแสดงท่าทีคุกครามพวกเธอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังอยู่ในขอบเตที่ให้อภัยได้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ติดใจเอาความ
แม้ว่ามู่หยุน ชิงเฉิงและเจี้ยนเก้อจะปฏิเสธเขาอยู่ตลอดแต่เขาก็ไม่เคยลดความพยายามลงเลย มันจึงทำให้ทั้งสองลำบากใจอย่างมาก เพราะเขาก็เป็นคนสำคัญของที่นี่ ปละที่นี่ก็ขาดเขาไม่ ดังนั้นทั้งสองจึงมักที่จะหลบหน้าเขาอยู่บ่อยครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงกับปัญหา
หลังจากที่มองไปรอบๆชิงสุ่ยพบว่ามีเพียงแค่สิบคนเท่านั้นที่อยู่ในที่นี้ หนึ่งในนั้นมีจินลี่อวี้อยู่ด้วย ที่เหลือเป็นแขกของชายชราที่ดูทรงพลัง เนื่องจากลักษณะที่แตกต่างกันของพวกเขา ชิงสุ่ยจึงสามารถบอกได้ว่าแต่ละคนมาจากเผ่า เช่น เต่า ปลาฉลาม งูทะเล………
เมื่อจิน ลี่อวี้ เห็นกลุ่มของชิงสุ่ย เขาได้เดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างร่าเริง: “พวกเข้ามาแล้ว มานั่งที่นี่”
จินลี่อวี้ จัดแจงที่นั่งให้เจี้ยนเก้อและชิงเฉิงนั่งข้างๆเขา ในขณะที่ทำตัวไม่สนใจชิงสุ่ย
“ชิงสุ่ยมานั่งที่นี่สิ”
เจี้ยนเก้อ ขณะที่เธอบอกให้เขานั่งตรงกลางระหว่างเธอและชองเฉิง
“ชิงสุ่ย ใช่มั้ยล่ะ ข้าขอเปลี่ยนที่นั่งของเราได้ พอดีข้ามีเรื่องต้องคุยกับทั้งสองคน” จินลี่อวี้กล่าว
“ข้าไม่ต้องการ!” ชิงสุ่ยปฎิเสธไดยไม่หันกลับไปมองเขา
ในตอนนี้เองรอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจี้ยนเก้อ และคนอื่นๆ มันทำให้เขาเสียหน้าอย่างมาก เขานั้นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งอันดับที่สามของพระราชวังแห่งนี้ ทำไมชิงสุ่ยถึงไม่ให้เกียรติเขา และทำไมผู้ชายที่อ่อนแอเช่นชิงสุ่ยถึงได้นั่งข้างสาวงามเช่นนี้
“ลี่วี้ มานั่งข้างๆข้าก็ได้” มู่หยุนชิงเฉิงกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
เธอเป็นหัวหน้าของที่นี่และเธอไม่ต้องการเห็นชิงสุ่ยและจินลี่อวี้สู้กันดังนั้นจึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา
ผิวของเขาเปลี่ยนเป็นเกล็ดน่าเกลียดในเวลานี้ มันจึงทำให้ชิงสุ่ยสามารถบอกได้ว่ามนุษย์อสูรยังไงก็เป็นอสูรอยู่ดี พวกเขาแทบจะไม่สามารถเก็บซ้อนความรู้สึกของเขาเอาไว้ได้เมื่อยามโมโห
ในตอนนี้เขาค่อยเงียบและดึงสติกลับมา หาไม่ใช่เพราะเจี้ยนเก้อและมู่หยุนชิงเฉิงอยู่ที่นี่เขาคงลงมือกับชิงสุ่ยไปแล้ว
เมื่อเจี้ยนเก้อ ได้สังเกตเห็นด้วยว่าผิวของเขาเปลี่ยนไป เธอยิ้มออกมาและกล่าวว่า: “ขอโทษทีทุกๆคนข้าลืมที่จะแนะนำเขาไป ทุกคนนี่คือชิงสุ่ย และเขายังเป็นสามีของข้า”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเจี้ยนเก้อมันทำให้หัวใจของเขาแทบจะระเบิดออก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชายหนุ่มผู้นี้คือสามีของผู้หญิงที่เขาหลงรัก และยังเป็นผู้ชายที่ครอบครองยิ่งสาวที่งดงามดังนางฟ้าเอาไว้ …
ในตอนนี้มู่หยุนชิงเฉิงได้มองไปที่เจี้ยนเก้อและกุมขมับ เธอเข้าใจได้ถึงสิ่งที่เจี้ยนเก้อทำลงไป เธอต้องการให้ชิงสุ่ยแก้ไขปัญหานี้ให้กับเธอ
“คุณชายจิน ได้ข้าว่าท่านของแอบมาขุมขู่ผู้หญิงของข้าอยู่บ่อยครั้งจริงหรือไม่?” ชิงสุ่ยกันหันไปมองเขาและถาม
ในตอนนี้ความโกรธของเขาได้ทะยานขึ้นมาจนถึงขีดสุดเขาไม่สามารถที่จะทนต่อไปมากกว่นี้ได้แล้ว
“ข้าจะประลองกับเจ้า เจ้านั้นไม่คู่ควรกับเจี้ยนเก้อ” จินลี่อวี้กล่าว
เมื่อเขารู้ว่าชิงสุ่ยเป็นสามีของเจี้ยนเก้อ สัญชาตญาณนของสัตว์ในตัวของเขาก็ถูกปลุกขึ้นมา เขานั้นต้องการที่จะเอาชนะชิงสุ่ยในตอนนี้
“ข้าไม่เหมาะกับผู้หญิงขอข้าแล้วใครเหมาะ เจ้าอย่างนั้นรึ?” ชิงสุ่ยหัวเราะออกมาขณะที่มองไปที่เขา
“นางล้ำค่าเกินว่าที่ขยะเช่นเจ้าจะครอบครอง” จินลี่อวี้กล่าวออกมา
“เจ้านี้มันเกินเยียวยาแล้วจริงๆ ทำไมเจ้าต้องการครอบครองพวกนางทั้งคู่อย่างนั้นรึ?” ชิงสุ่ยหัวเราะ
ในตอนนี้ทุกๆคนตกอยู่ในความเงียบ พวกเขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของจิลี่อวี้ ที่พระราชวังเทพสมุทรยังคงดำรงอยู่ได้ในตอนนี้ หนึ่งในนั้นก็เป็นเพราะฝีมือของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากยื่นมือมายุ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ใช่ ” จินลี่อวี้กล่าวออมาอย่างจริงจึง
ชิงสุ่ยตกใจที่ได้ยินเช่นนี้ เขาช่างเป็นคนโลภจริงๆ และเป็นคนที่หน้าไม่อายที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา
“จิน ลี่อวี้ ข้าบอกเจ้าไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าข้าไม่เคยชอบเจ้า ข้ากับน้องเจี้ยนเก้อไม่เคยชอบเจ้า ” ชิงเฉิง กล่าวเบา ๆ
“ข้ารู้ดี แต่ถึงอย่างไรข้าก็ตัดใจจากพวกเจ้าไม่ได้ ที่ข้าทำเพื่อวังเทพสมุทรทุกวันนี้ก็เพื่อพวกเจ้าทั้งคู่ ” จินลี่อวี้กล่าวอย่างจริงจัง เขาไม่ได้ลืมที่จะแสดงความละเอียดในตอนนี้
เจี้ยนเก้อหัวเราะและมองไปทางชิงสุ่ย ซึ่งเป็นนัยว่าใบหน้าของชายคนนี้หนาและไม่ด้อยกว่าเขาเลย
“เอาละทุกคนงานเลี้ยงจบลงแล้ว แยกย้ายกลับกันเถอะ” มูหยุน ชิงเฉิงกล่าวอย่างรวดเร็ว เธอไม่อยากเห็นชิงสุ่ยสู้กับจินลี่อวี้ในตอนนี้
“ข้าไม่ยอม ข้าจะไม่ยอมให้เจี้ยนเก้อตกอยู่ในมือชายคนนี้” จินลี่อวี้กล่าวออกมาอย่างชัดจน
ในตอนนี้ชิงุส่ยเปลี่ยนเป็นโมขึ้นมา: เจ้ามีสิทธิอะไรมาบอกว่าข้าไม่คู่ควร ในเมื่อดูเจ้าในตอนนี้ดูไมม่ต่างอะไรกับปลาโง่ๆตัวหนึ่ง?”
“นี่เจ้ากำลังว่าข้าโง่ใช่มั้ย นั้นมาสู้กัน”
ชิงสุ่ยมองไปที่เขาแล้วหัวเราะและพูดว่า “ท้าทายข้า เจ้ามีคุณสมบัติหรือ?”
“ข้าจะท้าประลองเป็นตายกับเจ้า เจ้ากล้ารับมันหรือไม่?” เขามองไปที่ชิงุส่ยด้วยสายตาอาฆาต
“ทำไมข้าถึงต้องต่อสู้กับเจ้า? ข้าจะได้ประโยชน์อะไรหากฆ่าเจ้า?” ชิงสุ่ยส่ายหัว
“ข้าเป็นอันดับสามของที่นี่ เจ้าจะได้รับชื่อเสียงอย่างมากถ้าเจ้าชนะ” จินลี่อวี้พูดอย่างกล้าหาญ
“แล้วเจ้าจะได้ประโยชน์อะไรละ ถ้าเจ้าขนะ?” ชิงสุ่ยถามกลับ
“ข้าจะรู้สึกสบายใจ และสามารถตามจีบเจี้ยนเก้อได้ต่อไป” จินลี่ยูยูกล่าวอย่างจริงจัง
“โง่เขล่า”หรือ “บริสุทธิ์” ชิงสุ่ยหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ
“ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงทั้งนั้น เพราะมันไม่มีประโยชน์กับข้า”ชิงสุ่ยส่ายหน้าอีกครั้ง
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าจะสามารถตามจีบชิงเฉิงได้ ถ้าเจ้าฆ่าข้าเจ้าตกลงมั้ย?”เขากล่าวออกมาอย่างไล่สมอง
เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยพบเจอคนที่โงเขล่าเช่นนี้ จนชิงสุ่ยไม่รู้ส่าจะกล่าวอกไรออกมา
“ก็ได้ข้ารับคำท้าย เราจะสู้กัน จนกว่าข้างใดข้างหนึ่งจนตายลงไป”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา
ในตอนนี้จินลี่อวี้ยิ้มออกมา การต่อสู้เช่นนี้เป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมากสำหรับมนุษย์อสูร เมื่อได้ทำข้อตกลงไปแล้วจะไม่มีใครหยุดได้ ซึ่งนั่นคือแผนที่จิน ลี่อวี้วางเอาไว้ เพราะเขาไม่ต้องการให้เจี้ยนเก้อและชิงเฉิงเขามาช่วยชิงสุ่ยในตอนนี้
“ภรรยาของข้าๆละอิจฉาเจ้าจริงๆ”ชิงสุ่ยหันไปยิ้มให้กับเจี้ยนเก้อ