Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1597 - การต่อสู้ของหยินต่ง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1597 - การต่อสู้ของหยินต่ง
บทที่ 1597 – การต่อสู้ของหยินต่ง
ตอนนี้ชิงสุ่ยต้องการให้เสวียนั่วถอนตัวจากการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่ได้ทําอย่างนั้น นี่เป็นโอกาสที่ดีสําหรับเธอที่จะได้รับประสบการณ์ในการต่อสู้ เพราอย่างไรก็ตามแล้ว เขาก็จะไม่สามารถดูแลและปกป้องเธอไปได้ตลอด ดังนั้นเขาจึงอยากจะให้เธอนั้นได้รับบทเรียนในทุกๆรูปแบบ
ในตอนนี้เสวี่ยนั่วอยู่บนลานประลอง ในขณะที่ชายชราคนหนึ่งได้เดินขึ้นมา รอบนี้เป็นชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีม่วง เขามีรูปร่างที่สูงโปร่ง และมีใบหน้าที่ชาญฉลาด ในมือของเขาถืออาวุธบางอย่างที่คล้ายกับกระบองคู่
เมื่อเขาเดินขึ้นมา ชิงสุ่ยรู้ไดทันที่ว่าเสี่ยนั่วไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นเขาจะบอกให้ เธอถอนตัว แต่เมื่อมองไปในตาของเธอมันทําให้เขาได้แค้ถอนหายใจและหวังว่าเธอจะไม่ได้รับอันตรายร้ายแรง
“สาวน้อย เจ้าไม่ต้องการที่จะข่มขู่เจ้า แต่จะดีกว่าถ้าเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ ข้าเชื่อว่าเจ้าก็สามารถรู้สึกได้ว่าเจ้าไม่ใช่คู่ของข้า “เสียงของชายชราเต็มไปด้วยพลัง แต่เขากล่าวเบาๆอย่างตรงไปตรงมา
เธอส่ายหัว “ข้าจะรู้ได้อย่างไร ในเมื่อข้ายังไม่ได้ลองดู ข้าไม่ยอมแพ้หรอก”
เธอตระหนักว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งกว่าตัวเองมากนัก แต่ก็ไม่มีทางใดที่เธอจะยอมรับความพ่ายแพ้โดยยังไม่ประลอง ยิ่งไปกว่านั้นเธอยากจะรู้ว่าเธอจะสามารถทําอะไรได้บ้างต่อหน้าผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
“ตามใจเจ้า แต่ข้าจะเตือนไว้กระบี่นั้นไร้ตา เจ้าจงระวังให้ดี “ชายชรากว่าออกมาในตอนนี้
ในตอนนี้เสวี่ยนั่วได้ตรงเข้าใส่ชายชราด้วยพลังทั้งหมด เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถออมพลังได้อีกต่อไปแล้ว ในขณะนี้แม้ในมือของเธอได้ขดตัวและฟาดลงไปดังกับมังกรที่พุ่งข้าหาเหยื่อ
เมื่อเห็นการจู่โจมของเธอชิงสุ่ยแอบแปลกใจเล็กน้อย ในตอนนี้เธอได้มายืนอยู่ในจุดเดียวกับเขาแล้ว ไม่เสียแรงที่เธอเป็นคนที่ได้รับการฝึกฝนโดยเขา
ทักษะการเคลื่อนไหวอสรพิษไอยรา เป็นทักษะที่มีความรุนแรงดังช้าง แต่ก็มีความยืดหยุ่นเหมือนกับงู ความสมบูรณ์แบบของทักษะนี้ ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นที่ถูกใช้ออกพร้อมกัน มันจึงทําให้ทักษะนี้เป็นทักษะในการจู่โจมที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก
ในตอนนี้ชายชราได้ยกกระบอกคู่ในมือขึ้นอย่างช้าๆ แต่มันกลับเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลก่อนที่มันจะตรงเข้าป้องกันแส้ของเสวียนั่ว
ตูม…
คลื่นกระแทรกได้แหวกท้องฟ้าแยกออกจากกัน เสียงที่ดังสั่นดังเสียงฟ้าผ่าได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ใบหน้าของเสวียนั่วเปลี่ยนเป็นซีดขาวจืดชืดขึ้น ขณะที่ท่าทางของชายชราได้เปลี่ยนไป ร่างกายของเขาขยายขึ้นดังวัวกระทิงที่เต็มไปด้วยกกล้ามเนื้อ
ในตอนนี้เสวี่ยนั่วอ่อนล้าอย่างมากจากการใช้ทักษะของเธอ นี่เป็นผลกระทบที่เธอใช้พลังออกมามากเกิดไป เมื่อเห็นว่าเสวี่ยนั่วอ่อนแอลง ชายชราก็ไม่ได้รอช้าก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เธอคือครั้ง
ตูม!
ร่างกายของเสวี่ยนั่วลอยไปข้างหลัง ก่อนที่เธอจะพ้นเลือดสดออกมา ในตอนนั้นเองชิงสุ่ยได้พุ่งออกไปรับเธอไว้และฝังเข็มให้เธอก่อนที่จะถ่ายทอดปราณลงไปในร่างของเธอ
“พี่หใญ่ ข้ามันไม่มีประโยชน์จริงๆ” เธอมองไปที่ชิงสุ่ยก่อนจะกล่าวด้วยเสียงที่ยื่นขม
“เจ้าลืมสิ่งที่ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วรึ? เจ้าก็รู้ดีนิว่าชายชราคนนั้นแข็งแกร่งกว่าเจ้า แล้วทําไมเจ้าถึงต้องฝืนตัวเองเช่นนี้? “ชิงสุ่ยยิ้มให้เธอ
” แล้วจะจะตายหรือไม่? “เธอมองไปที่เขาและถามออกมมา
“สบายใจได้เจ้าจะไม่เป็นอะไร ในวันพรุ่งนี้เจ้าก็จะหายดีแล้ว สาวน้อยที่มาจากตระกูลเสวี่ยนั้นแข็งแกร่งจะตาย นอกจากนี้ข้าสัญญาว่าเมื่อเจ้าหายดีแล้ว พลังของเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าชายชราคนนั้นถึงสิบเท่าอีกด้วย “ชิงสุ่ยอุ้มเธอขึ้นก่อนที่จะส่งเธอให้หลิงเฟิง
เธอไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะโชคดีที่ในช่วงวุดท้ายเธอได้สร้างกําแพงดอกไม้ขึ้นมาป้องกันเอาไว้ มันจึงช่วยลดแรงประทะลงไปได้ครึ่งหนึ่ง
“ขอบคุณพี่ใหญ่ “ในตอนนี้เธอได้ถอนหายใจออกมาที่ไม่ถูกชิงสุ่ยตําหนิ ในความเป็นจริงแล้วเธอนั้นกลัวชิงสุ่ยอย่างมาก
“เอาละใครจะเป็นคนต่อไปที่จะไปสู้กับเขา?” ชิงสุ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าจะไป!” หยินต่งอาสาหลังจากคิดบางอย่าง
ชิงสุ่ยไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มและกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”
รอยยิ้มแปลกๆได้ประกฏขึ้นมาบนใบหน้าของชายชรา นั้นเพราะเขาได้สืบประวัติหยินต่งมาบ้างแล้ว ทําให้เขามั่นใจว่าหยินต่งไม่ใช่คู่มือของเขา
หยินต่งนั้นไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้บ่อยนัก ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าความแข็งแกร่งที่ แท้จริงของเขานั้นมากน้อยเท่าไร นอกจากนี้ยังมีคนน้อยมากที่รู้ว่าเขาได้รับมรดกแห่งพระเจ้ามาอีกด้วย
สําหรับชิงสุ่ยเองเขาก็ไม่ค่อยมั่นใจในความแข็งแกร่งของหยินต่งมากนัก มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ชิงสุ่ยได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของเขา และเขาก็ได้ต่อสู้กันในเวลาต่อมาเช่นกัน แต่นั่นก็นานมากแล้ว นอกเหนือฝึกฝนกับหลิงเฟิงแล้ว หยินต่งแทบจะไม่ได้แสดงฝีมือเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่เคยเอาจริงสักครั้ง
มรดกที่หยินตั้งได้รับมานั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นกลุ่มก้อนพลังเท่านั้น มันจึงทําให้เขาไม่ได้มีอาวุธที่เหมาะมือ ชิงสุ่ยจึงได้สร้างมีดที่หลอมมาจากศิลาหยางให้กับเขาโดนเฉพาะ
อาวุธนั้นข้อจํากัดในธรรมชาติของมันเอง สิ่งที่จะสามารถทดแทนมันได้ก็คือทักษะของผู้ใช้ ด้วยทักษะการต่อสู้ของหยินตั้งเป็นการโจมตีอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง จึงสามารถลบข้อจํากัดเรื่องอาวุธของเขาไปได้ และยิ่งกว่านั้นพลังของมรดกที่เขาได้ก็ยังสามารถสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นหาก เขาจู่โจมไปที่จุดๆนั้นซ้ําในเวลาที่กําหนด มันทําให้รูปแบบการต่อสู้ของเขาร้ายกาจอย่างมาก
นอกเนื่องจากนั้นหยินต่งยังเป็นผู้ชํานาญในการใช้พิษอีกด้วย ถึงแม้ชิงสุ่ยจะไม่ค่อยเห็นมันสักเท่าไร แต่เขาสามารถรับรู้ได้เลยว่าหยินต่งในตอนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่เขาเองก็ไม่อาจจะประมาท
“เชิญ!” ชายชรามองไปที่หยินส่งและกล่าวอย่างสุภาพ
“เชิญ!” หยินต่งยิ้มขณะที่เขาตอบกลับ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขาก็ยังไม่ลืมความสุภาพของเขา ไม่ช้าบรรพยากาศค่อยๆเปลี่ยนไปเงียบสงบ
ในตอนนี้ชายชรายิ้มออกมาเขาวางแผนที่จะจัดการหยินต่งในพริบ ในขณะที่เขาพุ่งเข้าใส่หยินต่งในพริบตา
เช่นเดียวกับหยินต่งที่สามารถสังเกตการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายก่อนที่จะมีดของเขาออกมา ในช่วงเวลานั้นเองประกายแสงสีทองสว่างออกมา
ครื่นน!
เสียงคํารามที่ดังออกมาจากแท่งโลหะที่อยู่ในมือของชายชราได้ดังขึ้นก่อนที่เขาจะจู่โจมออกมา ปรากฏปราณมังกรคู่ใหญ่ตรงเข้าใส่หยินยิ่งในตอนนี้
หยินต่งก้าวถอยหลังเล็กไปน้อย ก่อนที่เขาจะหลบการโจมตีนั้นในเสี้ยววินาที ถึงอย่างไรก็ตาม ชายเสื้อของเขาก็ถูกกระชากออกเป็นรอยขาดเล็กน้อยจากการจู่โจมดังกล่าว ถ้าไม่ใช่เพราะหยินต่ง ใส่ปราณลงไปปกคลุมชุดของเขาในตอนนั้น เกรงว่าเสื้อผ้าของเขาคงฉีกขาดมากว่านี้หลายเท่า
โซ่ทองไข่มุกหยก!
ในเวลานี้หยินต่งพุ่งเข้าไปและกระหน่ําต่อบลงไปที่หน้าอกของชายชราอย่างต่อเนื่อง!
ปังปัง!
เสียงกระแทกได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันทําให้ชายชราตกใจอย่างมากจนเขากระอักเลือดออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะรู้ว่าเขาประมาทมากเกินไป
ในตอนนี้นั้นเองกลิ่นอายที่แปลกประหลาดได้ถูกปลดปล่อยออกมา มันทําให้หยินต่งถอยออกมาสอสามก้าวเพื่อตั้งหลัก ในตอนนี้ร่างกายของชายชรากับเปลี่ยนเป็นสีน้ําเงินเข้ม และขยายออกจนมีขนาดใหญ่กว่าเก่าสองเท่า
หน้ากากอสูรพฤษภ!
ในตอนนี้ความเร็วและความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นี่คือเป็นหนึ่งในตราประทับของเทพอสูร ชิงสุ่ยได้รับความทรงจําที่สืบทอดมรดกจากมรดกแห่งพระเจ้าของเขา นี่เป็นหนึ่งในความสามารถของมรดกเทพอสูรพฤษภโลกาที่เขาได้รับรู้มา แต่ยังไม่มั่นใจมากนัก
ในตอนนี้ชิงสุ่ยส่งกระแสปราณวิญญาณออกไปเพื่อติดต่อกับหยินต่ง “นั่นคือหน้ากากอสูรพฤษภ ดูเหมือนว่าพวกเขาเป็นกลุ่มผู้สืบทอดมรดกเทพอสูรพฤษภโลกาจริงๆ ระวังตัวให้มาก มันอันตรายอย่างยิ่ง นอกจากนี้อย่าพยายามต่อสู้กับเขาด้วยพลังเด็ดขาด “
หยินต่งเข้าใจดีถึงสิ่งที่ชิงสุ่ยต้องการสื่อ แม้ชิงสุ่ยจะไม่บอกเขาๆก็สามารถรับรู้ได้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะชายชราซึ่งๆหน้า
ทักษะตัดหยกเหมันต์!
ในตอนนี้ร่างกายของหยินต่งเปลี่ยนเป็นเงาก่อนที่จะหายไปโผล่ที่หลังของชายชรา ในตอนนี้ ด้วยความเร็วของหยินต่ง ชายชราไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้เลย มันจึงจะยากที่เขาจะหลบหนี
ตูม!
มีดคู่ของหยินต่ง ฟันลงไปที่หลังของชายชราด้วยความเร็วที่หน้าตกใจ แม้ว่าผิวหนังของชายชราจะเข็งแกร่งอย่างมาก แต่มันก็ไม่สามารถป้องการการจู่โจมครั้งนี้ได้ ในเวลานี้เลือดสีแดงเข้มได้พุ่งออกมาจากหลังของเขา ขณะที่เขากระอักเลือดกองโตออกมา
อ๊าก!
อย่างไรก็ตามในตอนนี้หยินต่งก็ยังออมมือไว้เขาใส่แรงลงไปเพียงแค่80%เท่านั้น เพราะเขาไม่จําเป็นต้องสังหารชายชราคนนี้ ในเวลาเดียวกันร่างกายของชายชราค่อยๆล่วงลงมาจากท้องฟ้า
ตั้งแต่ต้อนจนจบหยินต่งใช้เวลาเพียงแค่5นาที่เท่านั้นในการล้มอีกฝ่าย ความแตกต่างของพวกเขานั้นมากมายเกินไป แม้ชายชราจะใช้วิชาลับออกมาแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถจัดการกับหยินต่งได้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพราะเขาประมาทมากเกินไปจึงทําให้มีจุดจบเช่นนี้ แม้หยินต่งจะไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งมากมาย แต่เขาก็เป็นผู้สืบทอดมรดกแห่งพระเจ้าอยู่ดี เขาไม่ใช่ตัวตนที่จะสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถบอกได้เลยว่าความแข็งแกร่งของหยินต่งนั้นเพิ่มขึ้นกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้หลายส่วน
อย่างไรก็ตามนี้ไม่ใช่ความสามารถทั้งหมดของเขา ที่จริงแล้วเขาสามารถเอาชนะอีกฝ่ายโดยไม่ต้องทําให้บาดเจ็บก็ได้ เพียงแค่เขาโมโหในสิ่งที่อีกฝ่ายทํากับเสวี่ยนั่ว ดังนั้นหยินต่งจึงไม่ได้แสดงว่าเมตตาออกมา แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้เอาชีวิตอีกฝ่าย อาจกล่าวได้ว่านี้คือการแก้แค้น ให้กับเสวี่ยนั่วก็ได้