Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1641 - จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ตาข่ายดักวิญญาณ วิหคอรุณโปรยปราย
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1641 - จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ตาข่ายดักวิญญาณ วิหคอรุณโปรยปราย
AST
เห็นได้ชัดว่าตระกูลหยินนั้นประเมินตระกูลหงต่ำเกินไปการปรากฏตัวของชิงสุ่ยนั้นถือเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ สำหรับหงหงและหงกู่พลังของพวกเขาในตอนนี้นั้นเหนือกว่าเฟิง ซี่และผู้อาวุโสหวัง พวกเขานั้นเทียบได้กับหยินเทียนเมื่อใช้พลังสูงสุดในตอนนี้
ชิงสุ่ยก็พยายามรับมือกับพวกเขาจนสุดความสามารถสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องตกตะลึง แต่ลึกๆในใจแล้วนอกเหนือจากการตกตะลึงผู้อาวุโสหวังก็รู้สึกยินดีมากเช่นกัน เช่นเดียวกันสำหรับเฟิง ซี่และหยิน ชา หากไม่ใช่เพราะชิงสุ่ยพวกเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ในตอนนี้
ตระกูลหงนั้นรู้สึกเสียใจและอิจฉาตระกูลหยินครั้งนี้ตระกูลหงนั้นมั่นใจอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะสามารถทำลายตระกูลหยินไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้พวกเขาต้องผิดหวังและยิ่งไปกว่านั้นผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้อาจจะเปลี่ยนไปได้เช่นกัน มันทำให้พวกเขารู้สึกอยากจะกระอักเลือดออกมา
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมศัตรูของตนเองถึงโดดเด่นทั้งทางด้านการโจมตีการป้องกัน รวมไปถึงความเร็วก็ด้วยเช่นกัน ในทางกลับกันพวกเขาไม่เพียงแต่รู้สึกอ่อนแอลงแต่ยังรู้สึกเชื่องช้าลงด้วยเช่นกัน
ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้มองเห็นว่ามันเป็นเพราะคนที่อายุน้อยที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้ชิงสุ่ย!
ชายผู้นี้มีความสามารถที่แปลกประหลาดในการต่อสู้แห่งนี้เขามองไปรอบๆการต่อสู้ครั้งนี้อยู่เสมอ และลงมือทำอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เขาและพี่ชายรู้สึกได้ว่าพลังของพวกเขานั้นลดลงไปอย่างมาก นอกจากนี้ตำแหน่งที่เขายืนอยู่นั้นก็มีความพิเศษเช่นกัน ชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนเดียวที่เคลื่อนที่ไปมาในการต่อสู้ครั้งนี้คนอื่นนั้นต่างก็นิ่งอยู่ที่ตำแหน่งของตัวเอง
ดังนั้นด้วยประสบการณ์และความรู้ของพี่น้องตระกูลหงพวกเขารู้สึกว่าต้องกำจัดชายหนุ่มผู้นี้ก่อน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วพวกเขาจะสามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้
ปุปุ!
เฟิงซี่อละหยิน ชาก็ได้สังหารชายชราไปอีก หยิน ชาได้สังหารไปถึง 2 คนแล้ว เมื่อศัตรูตระหนักได้ถึงความสำคัญของชิงสุ่ย พวกเขาก็เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น ดังนั้นงานหลักของพวกเขาคือกำจัดพวกชายชราเหล่านั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถทำลายกลยุทธ์ของศัตรูเคยได้ ไม่อย่างนั้นแล้วหากศัตรูของพวกเขาร่วมมือกันและเล็งเป้าหมายไปที่ชิงสุ่ย เช่นนั้นแล้วก็จะถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง
กี้กี้…….
วิหคอรุณโปรยปราย4 ตัวปรากฏขึ้นรอบตัวของหงหงและหงกู่ พวกมันถือเป็นสัตว์อสูรสังหาร พวกมันมีสีดำทั้งตัว ความยาวไม่ถึง 100 เมตรและตัวยาวเหมือนงู
มันดูแตกต่างจากวิหคที่ชิงสุ่ยเคยเห็นมามากนักปีกทั้ง 2 ข้างของมันราวกับกระบี่ขนาดใหญ่ มันเหมือนกับปีกของจักจั่นที่ดูทั้งบางและใส
กี้กี้……
เสียงแหลมเล็กดังขึ้นมาตอนนี้มันกำลังพุ่งเข้ามาหาชิงสุ่ย นี่ทำให้ทั้งผู้อาวุโสหวังและเฟิง ซี่รู้สึกกังวลเล็กน้อย พวกเขาก็รู้สึกเป็นกังวลต่อวิหคอรุณโปรยปรายด้วยเช่นกัน ความจริงแล้วการปรากฏตัวของวิหคอรุณโปรยปรายเป็นสิ่งที่พวกเขารู้สึกหวาดกลัวมากที่สุด
เหตุผลที่เฟิงซี่ ผู้อาวุโสหวังและหยิน ชาเรียกสัตว์อสูรของพวกเขาออกมานั้นก็เพื่อป้องกันการโจมตีอย่างกะทันหันของวิหคอรุณโปรยปราย สัตว์อสูรพวกเขานั้นคล้ายคลึงกับสัตว์อสูรโล่ซึ่งจะช่วยสามารถป้องกันการโจมตีของวิหคอรุณโปรยปรายได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ
แต่ในตอนนี้เมื่อพวกเขาตระหนักได้ถึงพลังของวิหคอรุณโปรยปรายดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้แม้ว่าพลังของพวกมันจะยังไม่ได้ยกระดับไปสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกมันก็อยู่ในจุดสูงสุดของระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ ในหมู่สายพันธุ์เดียวกันนั้นมันถือเป็นยอดด้านความเร็ว ปีกขนาดใหญ่ของมันนั้นสามารถใช้ฟาดฟันทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่มันไม่อาจฟาดฟันได้ แต่ร่างกายของมนุษย์นั้นมันสามารถฟาดฟันได้อย่างง่ายดายอย่างแน่นอน แม้แต่ผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในขั้นแรกเริ่มก็อาจจะถูกมันสังหารไปได้อย่างง่ายดาย
คนอื่นๆต้องการช่วยเขาแต่มันสายเกินไปที่จะทำเช่นนั้น คทาทองคำในมือของชิงสุ่ยเปลี่ยนไปเป็นระฆังสะท้านจิตทันที เขาแกว่งมันไปมาอย่างรวดเร็ว เสียงที่แหลมยิ่งกว่าเสียงร้องของวิหคอรุณโปรยปรายก็ดังออกมา
ชิงสุ่ยสั่นระฆังนี้ไปมาไม่หยุดอสูรสยบมังกรใช้โอกาสนี้กระโดดเข้าไปตรงหน้าวิหคอรุณโปรยปราย อสูรสยบมังกรนั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ในตอนนี้ด้วยการพัฒนาจากชิงสุ่ยทำให้พลังและความเร็วของมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก
อสูรนรกรัตติกาลนั้นยังคงอยู่ใกล้ๆชิงสุ่ยโดยตลอดหากมีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมันจะเอาตัวเองเข้ามาป้องกันชิงสุ่ยในทันที
ดังนั้นชิงสุ่ยยังคงมีทางหนีทีรอดแต่ในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เขากวัดแกว่งง้าวทองทะลวงศัตรูในมืออีกครั้ง
ตาข่ายดักวิญญาณ!
เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบตัวชิงสุ่ยนี่คือความสามารถธาตุไม้ของชิงสุ่ยจากเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุของเขา แม้ว่ามันจะไม่ได้น่าสะพรึงกลัวเท่ากับเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด แต่มันก็เหนือกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดในด้านการครอบคลุมพื้นที่ ด้วยการฝึกฝนในตอนนี้ของชิงสุ่ยความแข็งแรงของเถาวัลย์ในตาข่ายดักวิญญาณนั้นถือว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง
ตาข่ายดักวิญญาณนั้นถือเป็น1 ในเคล็ดวิชาสังหารที่ทรงพลังของเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุ ตาข่ายดักวิญญาณนั้นโดดเด่นในด้านการควบคุมพื้นที่ แม้ว่ามันจะด้อยกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดแต่ก็ไม่ได้มากนัก มันด้อยกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดเพียงแค่ 20% เท่านั้น ความสามารถในการดูดเลือดของมันยังคงมีอยู่ เพียงแต่ความสามารถในการพัฒนาการและดูดพลังของมันนั้นเหนือกว่าเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด
เถาวัลย์กระจายจากตัวของชิงสุ่ยไปทั่วทั้งท้องฟ้าและตรงเข้าไปหาวิหคอรุณโปรยปรายอสูรสยบมังกรและวิหคอรุณโปรยปรายต่างก็เผชิญหน้ากันในตอนนี้ พวกมันต่างก็อยู่ภายในเถาวัลย์นี้ แม้แต่วิหคอรุณโปรยปรายที่ทรงพลังนั้นก็ยากยิ่งนักที่จะสยายปีกภายในเถาวัลย์แห่งนี้ มันเหมือนกับมีดที่แหลมคมที่ติดอยู่ในผ้าฝ้ายนิ่มๆ
อสูรสยบมังกรได้กระโดดเข้าไปหาวิหคอรุณโปรยปรายทันทีด้วยขนาดมที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดทำให้อสูรสยบมังกรได้เปรียบกว่าอย่างเห็นได้ชัด เสียงร้องแหลมของวิหคดังขึ้นทันที
วิหคอรุณโปรยปรายอีกตัวรู้สึกเกรี้ยวกราดเพราะระฆังสะท้านจิตของชิงสุ่ยจนเริ่มบินวนเป็นวงกลมมันส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง วิหคอรุณโปรยปรายอีก 2 ตัวที่เหลือต่างก้ติดอยู่ในเถาวัลย์นับไม่ถ้วน แต่พวกมันก็พยายามบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาชิงสุ่ยเมื่อมีโอกาส
ชิงสุ่ยส่งกระแสจิตบอกให้เฟิงซี่และผู้อาวุโสหวังให้เริ่มเคลื่นไหวได้แล้ว เขาบอกให้หยิน ชาและเฟิง ซี่รีบเข้าไปสังหารศัตรู สำหรับผู้อาวุโสหวังนั้นรับมือกับ 2 คนนั้น ในตอนนี้ชิงสุ่ยเรียกอสูรอัสนีคลั่งของเขาออกมา
สถานการณ์ในตอนนี้อันตรายยิ่งนักแต่ชิงสุ่ยก็ยังคงมีไพ่ตายซ่อนเร้นเอาไว้อยู่อย่างน้อยที่สุดเขาก็มั่นใจได้ว่าเจ้านกพวกนี้จะทำอะไรเขาไม่ได้อย่างแน่นอน
วิหคอรุณโปรยปรายนั้นทรงพลังเทียบได้กับอสูรสยบมังกรแต่พวกมันก็ต้องร่วมมือกันมิฉะนั้นความเร็วของพวกมันจะถูกลดลงไป อันที่จริงแล้วหงหงและหงกู่ต่างก็กำลังจับตามองความเร็วของชิงสุ่ย เพียงแต่ถ้าหากว่าพวกเขาทราบถึงความเร็วที่แท้จริงของชายหนุ่มคงจะไม่ทำเช่นนี้ กลับกันพวกเขาคงจะเลือกสั่งให้วิหคของตนเองร่วมมือกันสังหารผู้อาวุโสหวังอย่างแน่นอน.Aileen-novel.
หากพวกเขาสังหารผู้อาวุโสหวังได้สถานการณ์ในตอนนี้ย่อมเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าการสังหารชิงสุ่ยจะเป็นหนทางที่ง่ายกว่า
เหตุผลหลักที่พวกเขาทำเช่นนี้นั่นก็เพราะว่าไม่ต้องการเห็นคนของตระกูลหงต้องเสียชีวิตอีกต่อไปพวกเขาต้องเลือกที่จะทำอะไรบางอย่างไม่เช่นนั้นการสูญเสียก็จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ
นี่คือสิ่งที่มักจะได้ผลเสมอความผิดพลาดในการตัดสินใจแม้แต่สิ่งที่ไม่สำคัญอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ในตอนนี้วิหคอรุณโปรยปราย2 ตัวก็หลุดออกจากเถาวัลย์ได้สำเร็จ อสูรสยบมังกรได้กำจัดวิหคอรุณโปรยปรายไป 1 ตัวแล้ว ชิงสุ่ยนั้นกำลังถือลูกปัดเหล็กกล้าเหมันต์ในมือของเขา ในตอนนี้อสูรสยบมังกรถอยไปอยู่ข้างหลังเขา
ชิงสุ่ยยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจวิหคอรุณโปรยปรายนั้นดูตกตะลึงและไม่กล้าเข้าใกล้ชิงสุ่ย ชิงสุ่ยเรียกหุบเขา 9 เทวาออกมาในตอนนี้
แม้ว่าพลังของมันในตอนนี้จะไม่อาจทำอะไรผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้แต่มันก็ยังมีผลต่อวิหคอรุณโปรยปรายเพราะตัวมันเองนั้นมีทักษะปราการจู่โจมที่ทรงพลัง
หุบเขา9 เทวา!
ชิงสุ่ยสั่งให้หุบเขา9 เทวาพุ่งเข้าไปปะทะกับวิหคอรุณโปรยปราย พร้อมกันนั้นเขาก็สั่งให้อสูรสยบมังกรพุ่งเข้าไปปะทะในทิศทางที่วิหคอรุณโปรยปรายกำลังหลบหนีออกมา
วิหคอรุณโปรยปรายถูกโจมตีมาจากทั้งสองข้างนอกจากนี้ท่ามกลางการต่อสู้นี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเกิดขึ้นกับอสูรสยบมังกรและหุบเขา 9 เทวา วิหคอรุณโปรยปรายสามารถหลบหนีทั้ง 2 อย่างที่เข้ามาโจมตีได้ ทำให้ชิงสุ่ยต้องใช้อาวุธลับของเขาออกไป
อาวุธลับของชิงสุ่ยนั้นไม่อาจมองเห็นได้มันเจาะเข้าไปในตาซ้ายของนกทันที จากนั้นเสียงร้องของความเจ็บปวดก็ดังขึ้นทันที อสูรสยบมังกรใช้โอกาสนี้พุ่งเข้าไปโจมตีอีกครั้ง
วิหคอรุณโปรยปรายตัวสุดท้ายกำลังพุ่งเข้ามาใกล้ชิงสุ่ยในตอนนี้ชิงสุ่ยกวัดแกว่งง้าวทองทะลวงศัตรูของเขาอีกครั้ง
กระบี่ทองคำ!
กระบี่ที่มีแสงเป็นประกายพุ่งเข้าไปหาวิหคอรุณโปรยปรายในตอนนี้การโจมตีด้วยธาตุทั้ง 5 ของชิงสุ่ยนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง วิหคอรุณโปรยปรายย่อมได้รับบาดเจ็บรุนแรงอย่างแน่นอนในตอนนี้
วิหคอรุณโปรยปรายนั้นโดเด่นในด้านความเร็วภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันสามารถหลบเลี่ยงกระบี่ทองคำของชิงสุ่ยได้ แต่ในตอนนี้อสูรอัสนีคลั่งได้ใช้อัสนีกัมปนาทไปยังวิหคอรุณโปรยปราย ทำให้มันต้องหยุดชะงักไปในทันที
หุบเขา9 เทวาของชิงสุ่ยพุ่งย้อนกลับโจมตีวิหคอรุณโปรยปรายอีกครั้ง
ด้วยความเร็วในตอนนี้ของชิงสุ่ยเขาสามารถหลบการโจมตีของวิหคอรุณโปรยปรายได้อย่างง่ายดายตำแหน่งมังกรของรูปแบบจัตุรทิศช่วยเพิ่มความเร็วให้แก่ชิงสุ่ยอย่างเห็นได้ชัด
หยินชาได้สังหารชายชราคนสุดท้ายไปในตอนนี้ ทางฝั่งของชิงสุ่ยนั้นไม่เพียงแต่ยังมีวิหคอรุณโปรยปรายอีก 2 ตัวแต่ยังมีชายชราที่เป็นผู้นำอีก 2 คนด้วยเช่นกัน จนถึงในตอนนี้ตระกูลหงก็ตระหนักความจริงได้ว่า ชายหนุ่มตรงหน้าพวกเขานั้นน่าแปลกประหลาดอย่างยิ่ง หากพวกเขาต้องพ่ายแพ้ในวันนี้เหตุผลใหญ่ก็คงเป็นเพราะชายหนุ่มผู้นี้
ตาข่ายดักวิญญาณเคล็ดวิชาล่าสังหาร รวมไปถึงปราณจักรพรรดิ … ด้วยผลของเคล็ดวิชาเหล่านี้ทำให้พลังของชายชราลดลงไปอย่างมาก แม้แต่กระบี่ทองคำก็สามารถตัดแขนของชายชราออกไปข้างหนึ่งได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายชราไม่กล้าที่จะเข้ามาปะทะโดยตรงในตอนนี้
ชายชราทั้ง2 คนถือว่าอ่อนแออย่างยิ่งเมื่อเทียบกับทุกๆคนในตอนนี้ พวกเขาเพิ่งจะได้เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่หากเป็นด้านพลังเพียงอย่างเดียวพวกเขาก็นับว่ามากกว่าชิงสุ่ยเพราะจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
แต่ถึงอย่างนั้นพลังของพวกเขาก็ถูกดึงให้ลงไปต่ำกว่าระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่องด้วยปราณจักรพรรดิของชิงสุ่ยด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยังสามารถนับเป็นผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่……
ชิงสุ่ยปลดปล่อยกระบี่ทองคำของเขาออกไปอีกครั้งในตอนนี้
วิหคอรุณโปรยปรายที่เหลืออยู่นั้นประสบชะตากรรมที่น่าสังเวชมันถูกโจมตีจากทั้งชิงสุ่ยและอสูรสยบมังกร รวมไปถึงหุบเขา 9 เทวา อสูรอัสนีคลั่งก็ช่วยโจมตีด้วยการปลดปล่อยอัสนีกัมปนาทออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกมันกำจัดจะตายในอีกไม่นานนี้
ชิงสุ่ยบอกหยินชาให้เขาไปช่วยเหลือผู้อาวุโสหวัง ผู้อาวุโสหวังในตอนนี้เป็นกุญแจสำคัญของการต่อสู้ครั้งนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาการต่อสู้ในวันนี้ต้องยากลำบากอย่างแน่นอน พลังของหงหงและหงกู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้
กระแสของการต่อสู้ฟันดีเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้งตระกูลหงเริ่มตกที่นั่งลำบากในตอนนี้ ชายชราได้ตายไปกว่า 5 คนแล้วและอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดนั้นต่างก็เป็นเสาหลักของตระกูลหง การสูญเสียพวกเขาแต่ละคนนั้นย่อมเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อตระกูล ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่นิกายจันทรานิรันกาลจะมีผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เพราะในหมู่นิกายอมตะนั้นพวกเขาที่เป็นนิกายอมตะระดับต่ำ
ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยยังไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆแต่ในตอนนี้พวกเขาตระหนักได้ว่าชายหนุ่มที่พวกเขาเคยดูถูกเอาไว้ตั้งแต่แรกนั้นสามารถเอาชนะผู้ฝึกยุทธระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแรกเริ่มได้ หากมีใครพุ่งเข้าไปโจมตีเขาก็จะตกอยู่ในสถาการณ์ที่ยากลำบาก ในตอนนี้ชายชราทั้ง 2 คนไม่กล้าที่จะประมาทใดๆ
เมื่อพวกเขาไม่กล้าที่จะพุ่งเข้ามาโจมตีไม่ได้หมายความว่าชิงสุ่ยจะไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้นด้วยด้วยพลังป้องกันของเขาในตอนนี้ เขาพุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจการโจมตีของชายชราทั้ง 2 คนทันที
ทักษะย่างก้าว9เทวา จักรวาลหวนคืน!
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็สลับตำแหน่งตนเองกับชายชราที่ไม่ได้รับบาดเจ็บทันทีการเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้ทำให้เขาเข้ามาปะทะกับชายชราที่สูญเสียแขนไปก่อนหน้านี้ เขากวัดแกว่งง้าวทองทะลวงศัตรูในมือของตนเองออกไปทันที
ดวงตาของชายชราเบิกกว้างขึ้นทันทีพร้อมกับใช้แขนที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวโจมตีสวนกลับไปเขาแทงกระบี่ยาวของตนเองไปที่หน้าอกของชิงสุ่ย
อัสนีจู่โจมไร้เงา!
เงาของกระบี่ราวกับลำแสงพุ่งทะลุผ่านหน้าอกของชิงสุ่ยออกไป