Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1643 - การทำลายเพื่อสร้างขึ้นใหม่ เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เคล็ดเสริมสร้างบรรพกาลขั้นที่เก้า
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1643 - การทำลายเพื่อสร้างขึ้นใหม่ เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เคล็ดเสริมสร้างบรรพกาลขั้นที่เก้า
AST
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับแฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
บทที่1643 – การทำลายเพื่อสร้างขึ้นใหม่ เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ เคล็ดเสริมสร้างบรรพกาลขั้นที่เก้า
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใดแต่ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าอุณภูมิในร่างกายของเขานั้นเพิ่มสูงขึ้นภาพหยิน-หยางโคจรอย่างรวดเร็วในขณะที่สติของเขาเริ่มเลือนลางจากความเจ็บปวด
แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งชิงสุ่ยก็ยังสามารถอดทนเอาไว้ได้เมื่อสติของเขาเริ่มลางเลือนไปชิงสุ่ยก็เริ่มใช้ปราณแห่งเคล็ดเสริมกายาบรรพกาลและปราณแห่งการหวนคืนของเขาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของอวัยวะภายใน
มันดีขึ้นอย่างช้าๆแต่ก็ดีกว่าไม่รักษาเลยเขารู้สึกได้ว่ามือของตนเองในตอนนี้เริ่มเย็นขึ้นราวกับหยก ความรู้สึกที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในจิตใจของเขาและเขารู้ว่าถานท่าย หลิงเยียนกำลังจับมือของเขาอยู่ แต่เขาไม่อาจเปิดตาหรือขยับตัวได้
“ชิงสุ่ยข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่เป็นอะไร เจ้าต้องไม่เป็นอะไร สัญญากับข้าสิ ข้าสัญญาว่าจะไม่เป็นภรรยาของเจ้าจนกว่าเจ้าจะตื่นขึ้นมา”
เสียงของถานท่ายหลิงเยียนนั้นชิงสุ่ยได้ยินอย่างชัดเจน แม้ว่าเขาจะไม่อาจมองเห็นได้แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นบนใบหน้าของเขา นางร้องไห้เพื่อเขานั่นทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่งแต่เขาก็รู้สึกดีด้วยเช่นกัน แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าตนเองจะตื่นขึ้นเมื่อไหร่แต่เขาก็รู้ว่าเขาจะต้องไม่ตายอย่างแน่นอน
เขาอยากจะจับมือของนางเอาไว้ตอนนี้แต่ก็ทำไม่ได้โชคดีที่เขาสามารถควบคุมอวัยวะภายในของเขาได้ ไม่อย่างนั้นแล้วเขาอาจจะต้องเดินตามรอยหยินเทียนก็เป็นได้
มือของเขาถูกจับเอาไว้โดยที่เขาไม่รู้ตัวความอบอุ่นและความอ่อนนุ่มที่เขารู้สึกได้นี้ทำให้เขารู้ทันทีว่าเจ้าของมือคู่นี้คือ ฉินชิง
“ท่านหมอที่อยู่ที่นี่บอกว่าเจ้าปฏิเสธการรักษาเช่นนั้นแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเองเท่านั้นในตอนนี้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องไม่เป็นอะไร เจ้าจะต้องหายดีในเร็ววันนี้ ตระกูลหงจบสิ้นแล้วในวันนี้ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ทุกๆคนต่างก็รอคอยให้เจ้ากลับมาหายดี”
ร่างกายของชิงสุ่ยยังคงฟื้นฟูอย่างช้าๆหญิงสาวทั้งสองคนยังอยู่เคียงข้างเขาในตอนนี้ เฟิง ซี่และหยินชาต่างก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นอกเหนือจากการจัดการเรื่องธุระต่างๆ
“เยียนน้อยและชิงน้อยพวกเจ้าต้องไปพักก่อน ให้ข้าดูแลที่นี่เอง พวกเจ้าต้องดูแลตนเองด้วยจนกว่าเขาจะได้สติกลับคืนมา” เฟิง ซี่รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยเมื่อนางมองไปยังหญิงสาวทั้งสองคนนี้
“พวกเราไม่เป็นไรท่านควรไปพักก่อน” ถานท่าย หลิงเยียนไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาในขณะที่นางพูด สิ่งที่เกิดขึ้นกับชิงสุ่ยนั้นทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง นางรู้สึกราวกับว่าโลกของนางกำลังจะพังทลายไปอีกครั้ง
โลกใบเก่าของนางก็มักจะเป็นเช่นนี้อยู่เสมอแต่เมื่อชิงสุ่ยปรากฏตัวขึ้นมาเมฆดำภายในจิตใจของนางก็สลายหายไปแต่ตอนนี้ราวกับว่ามันกำลังจะไปเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
เฟิงซี่รูสึกขัดแย้งในใจในตนนี้ นางคุ้นเคยกับถานท่าย หลิงเยียนแต่ก็ไม่อาจละเลยชิงสุ่ยไปได้ นางเคยคิดว่าพลังในตอนนี้ของนางนั้นสามารถปกครองนิกายจันทรานิรันกาลแต่นางคิดผิด
“ท่านแม่นี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว พวกเราลองใช้ยาเม็ดผสานนภาดีหรือไม่?” หยินชากล่าวกับเฟิง ซี่
“ยาเม็ดผสานนภานั้นจะทำลายเพื่อสร้างขึ้นใหม่มันใช้รักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างดีเยี่ยม แต่มันก็ยังมีความไม่แน่นอน ปกติแล้วยานี้จะเป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น ข้าไม่อยากที่จะมอบมันให้ชิงสุ่ยเลย” เฟิง ซี่ส่ายศีรษะของนางและกล่าวขึ้น
หยินชาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกนางได้แต่หวังว่าชิงสุ่ยจะหายดี หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาตระกูลของนางก็จะไม่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน
ร่างกายของชิงสุ่ยนั้นกำลังขึ้นอย่างช้าช้าๆด้วยปราณแห่งการหวนคืนน่าเสียดายที่เขาไม่อาจเคลื่อนไหวหรือตอบสนองใดๆได้ แต่มันก็ถือว่าค่อนข้างเร็วแล้วดังนั้นเฟิง ซี่จึงเลือกที่จะไม่ใช้ยาเม็ดผสานนภา
การฟื้นฟูของชิงสุ่ยย่อมแย่ลงไปอีกหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นในตอนนี้ยิ่งไปกว่านั้นการฟื้นฟูอาจต้องใช้เวลานานมากกว่าที่พวกเขาคิด ในระหว่างกระบวนการฟื้นฟูนี้ร่างกายบางส่วนอาจจะเสื่อมสภาพไปดังนั้นหยินชาจึงเสนอให้ใช้ยาเม็ดผสานนภาก่อนหน้านี้
โลกที่มืดมิดและไม่มีอะไรเลยทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างยิ่งเขารู้สึกได้ถึงผู้คนที่มาเยี่ยมเยียนแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าตัวเขาจะตื่นขึ้นมาเมื่อไรแต่เขาก็สามารถโคจรพลังปราณอ่านเส้นลมปราณภายในร่างกายได้เส้นลมปราณสวรรค์ทั้ง 11 เส้นและเส้นลมปราณโลกทั้ง 3 เส้นของเขาต่างก็แข็งแรงยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้ร่างกายของเขาเสื่อมสภาพลงในตอนนี้.ไอลีนโนเวล.
อีกหลายวันผ่านไปถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงก็ยังคงพูดคุยกันเรื่องนี้ ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปกว่า 48 วันแล้วและมันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
การบาดเจ็บในครั้งนี้เกือบจะสังหารชิงสุ่ยแม้ว่าเส้นลมปราณวชิระช่วยรับความเสียหายไปถึงครึ่งหนึ่งแต่จุดตันเถียนของเขาก็ได้รับบาดเจ็บ
หลักจาโคจรพลังลมปราณไปหนึ่งรอบเขาก็ฟื้นฟูเส้นลมปราณวชิระและจุดตันเถียนกั่วท้งหมดนี้ชิงสุ่ยทำเพื่อปลุกเส้นลมปราณวชิระของเขา มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะให้การฟื้นฟูของเขารวดเร็วยิ่งขึ้น
หลังจากพยายามมาหลายวันผิวของเขาดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน- มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพราะมันอุ่นและชื้นขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังดูอ่อนแออยู่ในตอนนี้
แต่ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าพลังของเขากำลังเพิ่มขึ้นและการตอบสนองของเขาก็ดียิ่งขึ้นเวลาผ่านไปอย่างช้าๆตอนนี้
ตอนนี้เหลือเพียงถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงที่ยังอยู่ในห้องนี้
“พี่สาวเยียนชิงสุ่ยจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่กัน? ข้าจะได้เห็นใบหน้าที่ไร้ยางอายของเขาได้อีกครั้ง” ฉินชิงถอนหายใจออกมา
“ข้ารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขากำลังฟื้นฟูอยู่ได้แต่หวังว่าเขาจะหายในเร็ววันนี้”
ทันทีที่พวกนางสาวจบเสียงลมหายใจของชิงสุ่ยก็ดังขึ้นมามือของหญิงสาวทั้งสองคนกำเอาไว้แน่นในตอนนี้
“ชิงสุ่ยเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เขาเริ่มขยับตัวแล้ว!”
กลิ่นอายรอบๆตัวของชิงสุ่ยเริ่มบ้างและรุนแรงขึ้นอยู่ตอนนี้ทำให้หญิงสาวเริ่มกังวลแทนที่จะยินดีเพราะว่ามีเลือดไหลออกมาจากจมูก ปาก และร่างกายของชิงสุ่ย
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าแก่นแท้แห่งโลหิตทองคำอินทนิลภายในเส้นลมปราณของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วแต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงมากที่สุดคือเส้นลมปราณวชิระเริ่มเปล่งแสงสีทองออกมาราวกับดวงอาทิตย์
แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่ตามมาคือกลิ่นอายอันทรงพลังที่คอยซ่อมแซมอภัยวะภายในและเส้นลมปราณตลอดเวลาแต่ในเวล่เดียวกันพลังนี้ก็ส่งผลให็เลือดประทุออกจากร่างกายของเขาทางจมูก ปาก และรูขุมขน
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าสิ่งนี้ดีหรือไม่ดีแต่การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทำให้เขาตกใจเขาไม่รู้ว่าพลังนี้กำเนิดมาจากที่ใดแต่เส้นลมปราณวชิระก็เต็มไปด้วยพลัง
เมื่อชิงสุ่ยมองไปยังเส้นลมปราณวชิระก็ทำให้เขาตกตะลึงอีกครั้ง- เส้นลมปราณวชิระนั้นเปล่งแสงสีทองออกมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเส้นลมปราณวชิระที่มืดมัวของเขาก่อนหน้านี้เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นและเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงอีกครั้ง
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!
ชิงสุ่ยจินตนาหารไม่ออกว่าเส้นลมปราณวชิระของเขานั้นได้กลายเป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์- ที่คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน สองสามวันที่ผ่านมานี้พลังของชิงสุ่ยเพิ่มมากยิ่งขึ้นแต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม
นี่อาจเป็นการทำลายเพื่อสร้างขึ้นใหม่?
ชิงสุ่ยไม่อาจหาคำอะิบายสำหรับเรื่องนี้ได้การรับรู้ทางจิตวิญญาณของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทำให้การฟื้นฟูร่างกายของเขานั้นดียิ่งขึ้นแต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่อาจตื่นขึ้นมาได้ในตอนนี้
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กลิ่นอายแห่งเทพมังกรมรกต!
ชิงสุ่ยตกตะลึงไปในทันทีแต่ก็จินตนาการไม่ออกว่าจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะได้รับผลของเทพมังกรมรกตความสามารถของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์คือเปลี่ยนแปลงพลังของเทพมังกรมรกตให้กลายเป็นกลิ่นอายแห่งเทพมังกรมรกต
กลิ่นอายแห่งเทพมังกรมรกต:ความสามารถด้านจิตวิญญาณของเส้นลมปราณวชิระ เพิ่มพลังขึ้น 9 เท่า เพิ่มความรุนแรงของทักษะทั้งหมดขึ้นเป็น 2 เท่ารวมถึงทักษะสังหารไร้ปรานี เพิ่มพลังป้องกันและความทรหดขึ้นอีก 3 เท่าและเพิ่มพลังป้องกันต่อความชั่วร้ายขึ้น 3 เท่ารวมการควบคุมจิตใจและพิษ เคล็ดวิชาสรวงสวรรค์วชิระนั้นเป็นเคล็ดวิชาติดตัวไม่ต้องใช้พลังงานใดๆ
วิธีการยกระดับขึ้น:เป็นความลับ!
เคล็ดวิชาติดตัวหมายถึงมันจะอยู่ติดตัวไปจนกว่าผู้ใช้จะตาย
นี่คือกลิ่นอายแห่งเทพมังกรมรกตสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหากมันยกระดับขึ้นได้ก็จะสามารถเพิ่มพลังให้แก่เขาอีก ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่อาจควบคุมได้ภายในร่างกายของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาไม่อาจแม้แต่ยกนิ้วได้ก็ตามแต่พลังตอนนี้ของเขายังคงอยู่ที่ 1600 เต๋า หากเขาโจมตีออกไปภายใต้ผลของกลิ่นอายแห่งเทพมังกรมรกตพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น 3200 เต๋า
นี่คือความแตกต่างระหว่างระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์และระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ….
ชิงสุ่ยอธิบายได้เพียงอย่างเดียวในตอนนี้ว่าการยกระดับของเขาเป็นเพราะ‘การทำลายเพื่อสร้างขึ้นใหม่’
เคล็ดเสริมกายาบรรพกาลโคจรอีก1 ครั้งและไปสู่ขั้นที่เก้า ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงพลังภายในร่างกายของเขาในตอนนี้ การยกระดับครั้งนี้ทำให้เขารู็สึกงุนงงเพราะไม่คาดคิดและไม่มีการเตรียมตัวใดๆ
ก่อนหน้านี้เคล็ดเสริมกายาบรรพกาลก็โคจรอย่างต่อเนื่องเขาไม่อาจรู้เหตุผลมากนักแต่พลังภายในร่างกายของเขาก็ยังโคจรอย่างต่อเนื่อง เส้นลมปราณของเขาก้เริ่มแข็งแรงมากยิ่งขึ้นขณะที่อวัยวะภายในของเขาเริ่มฟื้นฟูจนหายดี
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิเส้นลมปราณวชิระในจุดตันเถียนของชิงสุ่ยก็ได้กลายเป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และทหารในชุดเกราะทองคำของเขาก็ดูทรงพลังมากยิ่งขึ้น กลิ่นอายที่ทรงพลังทำให้หัวใจของชิงสุ่ยรู้สึกสบายอย่างไม่น่าเชื่อและจากนั้นดวงตาของชิงสุ่ยก็เริ่มเปิดขึ้นช้าๆ