Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1645 - เข้าสู่ทะเลเหนือ กุ้งเกราะทองคำบรรพกาล
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1645 - เข้าสู่ทะเลเหนือ กุ้งเกราะทองคำบรรพกาล
AST
ชิงสุ่ยนั้นยังไม่ได้รู้สึกง่วงเพราะเขาเพิ่งตื่นขึ้นมาหลังจากที่พลังของเขาได้เพิ่มขึ้นร่างกายของเขาก็ทรงพลังยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามในตอนนี้ประตูห้องเปิดออกมาและหญิงสาวทั้งสองคนของเขากำลังเดินออกมา
ตอนนี้พวกนางอยู่ในชุดนอนผมที่ยุ่งเหยิงของพวกนางนั้นไม่ได้ส่งผลต่อความงดงามของพวกนางเลยกลับกันมันทำให้นางดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
เมื่อได้เห็นชิงสุ่ยหญิงสาวทั้งสองคนก็ยิ้มขึ้นและตรงไปอาบน้ำทันทีชิงสุ่ยนั้นไม่ได้นอนหลับไปดังนั้นใบหน้าของเขาจึงยังดูสดใสอยู่
ยิ้มทั้งสองคนเดินออกไปเพื่อฝึกฝนยามเช้าชิงสุ่ยก็ตามออกไปด้วยเช่นกัน พื้นที่ของนิกายจันทรานิรันกาลนั้นกว้างใหญ่ไพศาลและเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่กำลังฝึกฝนในตอนเช้าเช่นนี้ ผู้คนเหล่านี้ต่างก็เป็นคนของนิกายจันทรานิรันกาลและในตอนนี้นิกายนี้ก็ทรงพลังมากยิ่งขึ้นหลังจากได้ผ่านการต่อสู้แห่งความเป็นและความตาย
พวกเขาทั้งสามคนเลือกพื้นที่ฝึกฝนที่ห่างออกไปเพื่อไม่ให้มีผู้ใดมารบกวนทุกๆคนต่างรู้ดีว่าชิงสุ่ยและหญิงสาวทั้งสองคนนั้นไม่อยากให้ใครเข้าไปรบกวน ตระกูลหงนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากพวกเขาทำเช่นนั้น
นี่ก็ผ่านมาเป็นเวลานานแล้วที่คนจำนวนมากได้เห็นชิงสุ่ยปรากฏตัวขึ้นที่นี่ครั้งแรกบางคนอิจฉาในพลังของเขาแต่บางคนกลับอิจฉาเขาในเรื่องหญิงงามทั้งสองคนที่อยู่เคียงข้างเขามากกว่า
นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เคลื่อนไหวดังนั้นในตอนนี้ชิงสุ่ยจึงรู้สึกอยากจะออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่งการยกระดับก่อนหน้านี้ทำให้พลังในร่างกายของเขานั้นยังไม่เสถียรแต่อีกไม่นานมันก็คงจะกลับมาเป็นปกติ
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นทำให้ดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋าของชิงสุ่ยพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดการได้ผ่านความเป็นความตายในครั้งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋าได้ยกระดับขึ้นครั้งใหญ่
เพลงหมัดไทเก๊ก!
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเพลงหมัดไทเก๊กของเขานั้นอยู่ในระดับใดในตอนนี้แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมันมากนักในตอนนี้ทุกการโจมตีของเขาดูเหมือนจะมีพลังของดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋าซึ่งเป็นพลังที่ไม่อาจมองเห็นได้
สีหน้าของชิงสุ่ยเต็มไปด้วยความพึงพอใจในตอนนี้และไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นหยินเทียนและเฟิงซี่ กำลังเดินมาที่นี่ พวกเขาก็ฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้หยินเทียนตกตะลึงเมื่อเขาได้เห็นเพลงมาร์ชของชิงสุ่ยซึ่งอยู่ในระดับที่สูงส่งอย่างยิ่ง
ชิงสุ่ยและหญิงสาวทั้งสองคนของเขาต่างก็ทักทายหยินเทียนและเฟิงซี่
เพลงหมัดไทเก๊กของหยินเทียนนั้นไม่ได้พัฒนาขึ้นมากนักหลายวันที่ผ่านมานั้นเขากังวลเรื่องการบาดเจ็บของชิงสุ่ยและไม่มีอารมณ์ที่จะฝึกฝนเลย ในตอนนี้เขาอารมณ์ดีขึ้นจึงกลับมาฝึกฝนอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะหยุดการฝึกฝนไปแต่ร่างกายของเขานั้นก็ยังคงแข็งแรงอยู่
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จสิ้นชิงสุ่ยช่วยบำรุงร่างกายและกระตุ้นพลังให้แก่หยินเทียนหลังจากนั้นเขาก็ใช้เข็มสวรรค์แห่งธาตุทั้ง 5 เพื่อช่วยฟื้นฟูอวัยวะภายใน
ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยเมื่อชิงสุ่ยบาดเจ็บสาหัสนั้นเขาไม่อาจรักษาตัวเองได้ในทันที- ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่อาจรักษาตัวเองได้
เวลาครึ่งวันได้ผ่านพ้นไปและร่างกายของหยินเทียนเริ่มพัฒนามากยิ่งขึ้นในตอนนี้เขาใกล้จะหายดีจนเข้าสู่จุดสูงสุดของระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์พินาจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้องใช้เวลาสองเดือนหรือมากกว่านั้นในการฟื้นฟูอย่างเต็มที่เว้นแต่เขาจะสามารถฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กของเขาให้ไปถึงระดับสมบูรณ์ครั้งยิ่งใหญ่
เพลงหมัดไทเก๊กของหยินเทียนอยู่เพียงระดับขั้นแรกเริ่มแต่มันกก็ยังทำให้เขาได้รับประโยชน์อย่างมากเพลงหมัดไทเก๊กไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแกรงแต่ยังช่วยเรื่องสุขภาพด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะเข้าใจแก่นแท้ของเพลงหมัดไทเก๊ก หยินเทียนไม่ได้เร่งเร้าชิงสุ่ยแต่อย่างใดในตอนนี้
บางเรื่องนั้นไม่ต้องพูดแต่ก็สามารถเข้าใจได้ด้วยตนเองมันยากที่จะอธิบายได้ ชิงสุ่ยนั้นยังฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กคู่กับหยินเทียนเพื่อให้เขาได้รับประสบการณ์
ตอนนี้ชิงสุ่ยรู็สึกผ่อนคลายอย่างยิ่งร่างกายของหยินเทียนนั้นกำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็วและปัญหาของนิกายจันทรานิรันกาลก็ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ก็ยังเหลือเรื่องของนิกายกระบี่อสูรอมตะ เมื่อพวกเขากลับมาแล้วไม่รู้ว่านิกายจันทรานิรันกาลนั้นจะรับมือกับนิกายกระบี่อสูรอมตะได้หรือไม่
นิกายกระบี่อสูรอมตะและนิกายจันทรานิรันกาลเป็น2 นิกายที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนแห่งนี้ นิกายกระบี่อสูรอมตะนั้นพยายามที่จะทำลายนิกายจันทรานิรันกาลเพื่อให้ได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างเพียงผู้เดียว มันช่างดูโหดร้ายอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะผ่านไปนานเพียงใดนิกายกระบี่อสูรอมตะก็ยังคงมีความคิดเช่นนี้
กลับกันนิกายกระบี่อสูรอมตะนั้นย่อมมีความสุขมากยิ่งกว่าที่ตระกูลหงถูทำลายลงไปหากไม่มีตระกูลหงแล้วนิกายกระบี่อสูรอมตะย่อมเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้ แน่นอนว่านิกายกระบี่อสูรอมตะยังไม่ทราบถึงพลังของชิงสุ่ยในตอนนี้.Aileen-novel.
บางทีอาจเป็นเพราะเรื่องนี้หยินเทียนและเฟิงซี่ต่างก็ไม่อยากกระทบกระทั่งกับนิกายกระบี่อสูรอมตะในตอนนี้ ชิงสุ่ยเองก็ย่อมจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องของนิกายจันทรานิรันกาลและแม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เขามาที่นี่ก็เพื่อรักษาการบาดเจ็บของหยินเทียนเท่านั้น เรื่องอื่นๆนั้นเขาไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย
ในตอนนี้เขาไม่สนว่าอะไรจะเกิดขึ้นพลังที่เพิ่มขึ้นของเขาทำให้เขาสามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุข
……
……
ชิงสุ่ยพาถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงตรวจดูไปรอบๆนิกายจันทรานิรันกาล ทิวทัศน์ของที่แห่งนี้นั้นงดงามอย่างยิ่ง ยิ่งเขาเข้ามาในมหาทวีปอุดรเทวาลึกมากเพียงใดก็ยิ่งงดงามมากยิ่งขึ้นแต่มันก็อันตรายยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ตอนนี้เขามีความสุขอย่างยิ่งเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับหญิงสาวของตนเอง
นิกายจันทรานิรันกาลนั้นไม่สนใจคนธรรมดาแต่ย่อมให้ความสนใจกับนิกายกระบี่อสูรอมตะหรือตระกูลที่ทรงพลังอื่นๆที่อาจจะปรากฏขึ้นมานิกายกระบี่อสูรอมตะก็ด้วยเช่นกัน
ภัยคุกคามอาจเป็นประโยชน์หากเป็นเรื่องการแข่งขัน
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงพลังดังนั้นเขาเลือกที่จะมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของมหาทวีปอุดรเทวาเพื่อตรวจสอบดู
พวกเขาทั้ง3 คนนั่งไปบนวิหคเพลิงนรกานต์ เบื้องล่านั้นเป็นภูเขาและแม่น้ำ พวกเขายืนขึ้นเพื่อมองทิวทัศน์ที่อยู่ไกลออกไป พวกเขารู้สึกดีอย่างยิ่งในตอนนี้
ด้านหน้าของพวกเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมด้วยต้นไม้ที่สูงประมาณเอวและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์พืชพรรณกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณนี้ ต้นไม้ที่นี่สูงและใหญ่เป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นเพราะกระแสลมที่รุนแรงหากมันไม่แข็งแรงพอก็อาจจะลอยไปตามลมได้
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาชิงสุ่ยไม่เคยไปเที่ยวป่าที่กว้างใหญ่และเพียงดูมันจากทีวีเท่านั้นขณะที่เมื่อมายังโลกใบนี้เขาได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามมานับไม่ถ้วนและยังมีหญิงสาวที่งดงามข้างกายเขาอีก 2 คน เขาจะต้องการอะไรอีก?
บางครั้งสัตว์ป่าก็จะออกมาบริเวณนี้และบางครั้งก็อาจจะมีเสียงคำรามหรือเสียงนกร้องด้วยเช่นกันสัตว์ป่าและนกที่ออกมาในตอนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง
2ชั่วโมงผ่านไปชิงสุ่ยก็เห็นทะเลสาบอยู่ตรงหน้าเขา ที่จริงแล้วเขาเคยเห็นลำธารและทะเลสาบมาก่อน แต่มันก็อาจเทียบได้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา มันไม่ได้มีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไปแต่ใสกระจ่างดุจแก้วและจิตแห่งปราณภายในนั้นก็รุนแรงอย่างยิ่ง
ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทรงรีกว้างประมาณ 10 กิโลเมตร ผิวหน้าของทะเลสาบนั้นมีพืชน้ำปกคลุมหนาทึบแต่สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจนั้นคือไม่มีสัตว์อสูรเวหาตัวไหนบินลงมากินน้ำเลย มันช่างเงียบสงบอย่างยิ่ง
นี่ทำให้ชิงสุ่ยสงสัยว่าน้ำที่นี่อาจจะมีพิษหรือไม่ก็คงมีสัตว์อสูรอาศัยอยู่ภายในน้ำนี้อย่างแน่อน
แต่บนผิวน้ำยังคงมีพืชพรรณต่างอาศัยอยู่ดังนั้นน้ำที่นี่คงจะไม่มีพิษอย่างแน่นอนมีเพียงอย่างเดียวคือมีสัตว์อสูรอาศัยอยู่ภายในน้ำนี้อย่างแน่อน
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็เห็นก้อนหินก้อนหนึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบมันถูกต้นไม้บดบังเอาไว้ก่อนหน้านี้ทำให้เขาไม่อาจสังเกตเห็นได้ เมื่อเขาได้เห็นมันเขาก็เดินเข้าไปหาทันที
“ชิงสุ่ยระวังตัวด้วย!”
หญิงสาวทั้ง2 คนรู้ว่ายังไงชิงสุ่ยก็จะไปอย่างแน่นอนจึงไม่ได้ห้ามปรามเขา
เมื่อเข้าไปใกล้ชิงสุ่ยก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่ดุร้ายทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดจึงไม่มีใครกล้าเข้ามากินน้ำที่นี่
ชิงสุ่ยเดินเข้าไปที่แผ่นหินและเห็นตัวอักษรที่เขียนอยู่บนนั้น
ทางเข้าของทะเลเหนือ!
ชิงสุ่ยรับรู็ได้ทันทีว่านี่คือทางเข้าของทะเลเหนือโลก 9 มหาทวีปนั้นมีแดนทะเลน้ำเเข็งขนาดใหญ่ 4 แห่งและที่แห่งนั้นล้วนแต่มีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอาศัยอยู่
ตูม!
กระแสน้ำขนาดใหญ่ขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าทะเลสาบแห่งนี้กำลังจะเลือนหายไปและก็มีสิ่งที่เป็นแสงสีทองปรากฏขึ้นมา
กุ้งเกราะทองคำบรรพกาล!
มันเป็นมนุษย์ที่มีก้ามและสวมเกราะสีทองสูงประมาณ3 เมตร เขาถือสามง่ามขนาดใหญ่เอาไว้ในมือและศีรษะของเขานั้นเป็นศีรษะของกุ้งที่มีสีทอง ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยยังเคยเห็นภาพของพวกเขามาก่อนและเผ่าพันธุ์ของพวกเขานั้นเทียบได้กับราชันย์ปูทองคำบรรพกาล กุ้งเกราะทองคำบรรพกาลและราชันย์ปูทองคำมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน แต่ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ทรงพลังขึ้นกว่าก่อนหน้านี้แล้วและแม้ว่าจะได้พบกับผู้ที่คอยปกป้องทางเข้าของทะเลเหนือแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด
“เจ้าคิดจะมาทำอะไรที่ทางเข้าของทะเลเหนือ?”เสียงที่ดังกังวานก็เกิดขึ้น
“ข้าเพิ่งมาที่นี่เพื่อเดินเล่นและสูดอากาศบริสุทธิ์เหตุใดท่านจะต้องดุร้ายเช่นนี้?อื้ม ใช่แล้วพี่ชายหากที่นี่คือทางเข้าของทะเลเหนือ ข้าสามารถไปยังทะเลเหนือจากที่นี่ได้งั้นหรือ?” ชิงสุ่ยยิ้ม
ทางเข้าของทะเลเหนือนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมากและทะเลเหนือก็สามารถเข้าจากทางท้องฟ้าได้เช่นกันแต่มันก็ยากยิ่งนักวิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือเข้าจากทางอื่นและแม้แต่สัตว์อสูรอันทรงพลังที่อาศัยอยู่ในทะเลก็ยังไม่อาจประมาทได้ในแดนทะเลน้ำเเข็ง ถ้าหากโชคดีพอก็อาจจะได้ปะทะเข้ากับราชันย์สัตว์อสูรบรรพกาล นอกจากนี้ยังมีมังกรบรรพกาลและอื่นๆๆที่สามารถพบเจอได้เป็นปกติ – พวกมันมีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานานและทรงพลังเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีการรักษาความปลอดภัยที่ทางเข้า