Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1647 - กลับบ้าน งานแต่งงานของเหลียนหลิงเฟิง ตระกูลชีแห่งเมืองจักรพรรดิได้มาถึง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1647 - กลับบ้าน งานแต่งงานของเหลียนหลิงเฟิง ตระกูลชีแห่งเมืองจักรพรรดิได้มาถึง
AST
การจากไปของทั้งชิงเฟิงและหมิงอวี้ทำให้หยินเทียนรู้สึกไม่สบายใจแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเขาก็ต้องยอมรับมันเดิมทีพลังของตระกูลหยินก็ไม่ได้มากมายอยู่แล้วในตอนนี้กลับต้องอ่อนแอลงไปอีก
แต่ราชาเฒ่าก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกันไม่เพียงแต่เขาจะชื่นชอบการทำอาหารแต่เขากลับมาฝึกฝนอีกครั้งด้วยเช่นกัน ชิงสุ่ยใช้ยาเม็ดวิศิษฐ์โฉมและยาหอมมรกตทองคำเพื่อทำให้เขาเขาดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ราชาเฒ่ารู้สึกไม่คุ้นเคยเล็กน้อยหลังจากได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้งหยินเทียนและเฟิง ซี่มาหาชิงสุ่ยอย่างลับๆเพราะหวังว่าราชาเฒ่าจะสามารถหลุดออกจากอดีตของตนเองได้ ถ้าเขายังจมอยู่กับอดีตชีวิตของเขาก็คงจะไม่มีความสุข
ดูเหมือนความหวังนั้นจะเป็นจริงเพราะชายชราดูเหมือนจะชื่นชอบในชีวิตใหม่และแสดงอารมณ์ออกมาได้มากขึ้น
แม้ว่านิกายจันทรานิรันกาลจะสูญเสียตระกูลหงไปรวมไปถึงชิงเฟิงและหมิงอวี้แต่ผู้คนที่เหลืออยู่ในตอนนี้นั้นก็ซื่อสัตย์ต่อตระกูลหยิน ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าตระกูลหยินนั้นทรงพลังมากยิ่งขึ้น แม้ว่าหยินเทียนยังไม่หายเป็นปกติก็ตาม
นิกายจันทรานิรันกาลยังไม่อาจรับมือกับนิกายกระบี่อสูรอมตะได้ในตอนนี้เวลาได้ผ่านพ้นไปยังไม่รู้ตัวและส่วนใหญ่นั้นชิงสุ่ยจะใช้เวลาเดินทางไปรอบๆที่แห่งนี้กับหญิงสาวทั้งสองคนของเขา เพื่อดูว่ามีของล้ำค่าหรือสมุนไพรใดๆหรือไม่
ดินแดนหยกยุพราชอมตะนั้นกำลังจะยกระดับเข้าสู่ขั้นต่อไปแต่ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์9 อสูรนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย ผู้หญิงทั้งสองค่อยๆปรับความแข็งแกร่งและพลังของตระกูลหยินก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น
พลังของหยินเทียนเฟิง ซี่ และราชาเฒ่าก็เพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าและนั่นก็เพราะว่าการช่วยเหลือของชิงสุ่ย พลังของหยินเทียนค่อยๆฟื้นฟูขึ้นอย่างช้าๆในตอนนี้
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าการฟื้นฟูของหยินเทียนจะใช้เวลาประมาณ1 เดือนและเมื่อถึงตอนนั้นชิงสุ่ยก็จะสามารถกลับไปที่บ้านเขาได้ เขาไม่ได้เร่งรีบที่จะเข้าไปยังส่วนลึกของมหาทวีปอุดรเทวา เรื่องของที่นี่นั้นยังไม่จบและคนส่วนใหญ่ของที่นี่นั้นอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อซึ่งชิงสุ่ยอยากจะเข้ามาช่วยเหลือ
ชีวิตประจำวันในตอนนี้ของเขานั้นสงบสุขอย่างยิ่งและชิงสุ่ยก็ได้มีโอกาสออกไปผ่อนคลายพร้อมกับฉินชิงและถานท่ายหลิงเยียน แม้ว่าหญิงสาวทั้งสองคนจะไม่ได้แสดงออกมากนักแต่ชิงสุ่ยก็รู้สึกได้ว่าพวกนามีความสุข
แต่ชิงสุ่ยต้องพบเจอกับปัญหาบางอย่างในตอนนี้เขาพบว่าเขาไม่อาจใช้ธงสวรรค์ปัญจธาตุได้ในตอนนี้เพราะมันจะพาเขาไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเมื่อตอนที่พวกเขากลับไปที่บ้านก็จะต้องใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวาและสัตว์อสูรของเขาเท่านั้น
เวลา1 เดือนได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วและพลังของหยินเทียนก็กลับมาเป็นปกติดูเหมือนจะมากกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ชิงสุ่ยยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเขาอีกด้วย
พลังของหยินเทียนในตอนนี้อยู่ที่1500 เต๋าและแตกต่างจากชิงสุ่ยอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังมากกว่าคนอื่นๆ พลังของราชาเฒ่านั้นอยู่ที่ 1100 เต๋าแน่นอนว่ายังไม่ได้รวมกับพลังเพิ่มขึ้นจากรูปแบบต่างๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมราชาเฒ่าดูมีความสุขอย่างยิ่งในตอนนี้
“ท่านป้าเฟิงและท่านลุงพวกเราได้อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับไปแล้ว” ชิงสุ่ยบอกกล่าวเรื่องนี้กับหยินเทียนและเฟิง ซี่ในวันที่ 3 หลังจากหยินเทียนหายเป็นปกติ
หยินเทียนและเฟิงซี่รู้ว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึงนางจึงกล่าวออกมาด้วยความเสียดายว่า “พวกเราจะกลับไปพร้อมกับเจ้า”
ชิงสุ่ยส่ายศีรษะของเขา“ท่านป้าเฟิงยังเป็นห่วงข้าอีกงั้นหรือ? ท่านไม่ควรออกจากที่นี่แหละตอนนี้ ท่านควรอยู่ที่นี่และเมื่อถึงเวลาพวกเราก็จะกลับมาที่นี่”
เฟิงซี่รู้ว่าสิ่งที่ชิงสุ่ยกล่าวนั้นเป็นความจริงและแม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่พูดเรื่องนี้ออกมานางก็คงออกไปส่งเขาไม่ได้ “เช่นนั้นพวกเจ้าก็ต้องระวังให้ดี เมื่อเรื่องในตอนนี้สงบสุขดีแล้วพวกเราจะไปหาพวกเจ้าเอง”
การจากลานำพามาซึ่งความโศกเศร้าอยู่เสมอซึ่งทำให้ชิงสุ่ยต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไม่อย่างนั้นแล้วเขาก็อาจจะต้องรู้สึกโศกเศร้าไปอีกนาน
เมื่อขึ้นมาบนวิหคเพลิงนรกานต์ชิงสุ่ยและหญิงสาวทั้งสองคนของเขาก็มุ่งหน้าไปยังแดนทะเลน้ำเเข็ง เมื่อได้มาถึงที่นี่ชิงสุ่ยก็นึกถึงช่วงเวลา 2 เดือนนั้นและการรอคอยให้หยินเทียนหายเป็นปกติกว่าครึ่งปีก่อนที่พวกเขาจะได้กลับมายังเมืองหลินห่าย
เมืองหลินห่ายดูไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักแม้เวลาจะผ่านไปกว่าครึ่งปีแล้วที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยหิมะและตั้งใจ มันยังคงงดงามเช่นเคย
หอคอยจักรพรรดินั้นก็เจริญรุ่งเรืองมากกว่าก่อนหน้านี้แม้ว่าจะไม่มีชิงสุ่ยแต่เพราะว่าเทียนยี่นี่นทรงพลังอย่างยิ่งยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสามารถสรรหาหมอที่มีฝีมือมาแทนชิงสุ่ยได้
ชิงสุ่ยได้ทิ้งวิธีการรักษาและสูตรยาจำนวนมากเอาไว้ให้พวกเขาที่นี่แต่ดูเหมือนยังมีโรคร้ายแรงที่ไม่อาจรักษาให้หายได้รอคอยให้ชิงสุ่ยกลับมา ถึงกระนั้นจะรักษาหายหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเท่านั้น
นั่นเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ชิงสุ่ยเปิดหอคอยจักรพรรดิขึ้นมาเพราะยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่อาจรักษาโรคของตนเองได้
การกลับมาของพวกเขาในครั้งนี้ทำให้ทุกๆคนมีความสุขเป็นอย่างยิ่งเหลียนหลิงเฟิงและมีความสุขมากที่สุดเพราะเขากำลังรอคอยให้ชิงสุ่ยกลับมาเพื่อที่เขาจะได้แต่งงานกับซีฉีชา
หลังจากที่ได้ทักทายทุกๆคนพวกเขาก็ตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ทันที
“ก่อนหน้านี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”ชิงสุ่ยยิ้มแล้วถามขึ้น หากเขากลับมาที่นี่คนเดียวโดยไม่มีหญิงสาวทั้งสองคนมาด้วยเขาคงจะตรงไปที่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ใกล้ๆพระราชวังทะเลราชันย์ในตอนนี้
“ไม่มีอะไรทุกอย่างปกติดี พวกเรากำลังรอคอยให้ท่านกลับมาก่อนที่ข้าจะได้แต่งงานกับซีฉีชา ท่านจะกลับมานานเท่าไรในครั้งนี้?” เหลียนหลิงเฟิงถามชิงสุ่ยด้วยความกังวล
“ครั้งนี้อาจจะยาวนานหน่อยไม่ต้องกังวลไปเลยข้าจะออกไปหลังจากเจ้าได้แต่งงานแล้ว” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวขึ้น.Aileen-novel.
เหลียนหลิงเฟิงคำนับชิงสุ่ยและกล่าวว่า“ท่านช่างเป็นพี่ชายที่ดีจริงๆๆ”
ชิงสุ่ยมองไปยังถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงและเขารู้สึกอยากจะแต่งงานกับหญิงสาวทั้งสองคนมากจริงๆเพราะช่วงเวลาที่ยากลำบากพวกเขาผ่านมาได้กันสำคัญอย่างยิ่ง
วันแต่งงานของพวกเขานั้นจะจัดขึ้นก่อนวันปีใหม่ที่ใกล้จะเข้ามาถึงแล้วมันเหลือเวลาอีกไม่ถึง 20 วันและการแต่งงานของลูกชายคนโตของตระกูลเหลียนและลูกสาวคนโตของตระกูลซีฉีย่อมถือเป็นงานใหญ่อย่างแน่นอน
งานแต่งงานจะจัดขึ้นที่หอคอยจักรพรรดิซึ่งถูกเตรียมขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความจริงแล้วผู้อาวุโสของตระกูลซีฉีนั้นต้องการให้ซีฉีชาแต่งงานกับชิงสุ่ยแต่น่าเสียดายที่มันไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ยิ่งไปกว่านั้นเหลียนหลิงเฟิงยังชื่นชอบซีฉีชาเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกนั้นไม่สามารถบังคับกันได้หากเป็นหญิงสาวที่เขาชื่นชอบแล้วละก็เขาก็จะไล่ตามนางไปเรื่อยๆ
ชิงสุ่ยนั้นเข้าใจเหลียนหลิงเฟิงและหยินต่งเสมอ – หลายสิ่งหลายอย่างไม่จำเป็นต้องพูดแต่ก็สามารถเข้าใจได้ คนที่เหมือนกันมักจะเข้าใจซึ่งกันและกันและชิงสุ่ยก็รู้สึกได้ว่าคนพวกนี้นั้นคล้ายคลึงกันกับเขา
แม้ว่าเหลียนหลิงเฟิงจะเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเหลียนแต่เขาก็ไม่ได้ทำตัวชั่วร้ายแต่อย่างใดและยังมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลนั่นยังเป็นเหตุผลที่ทำให้ซีฉีชาชื่นชอบเขา
วันปีใหม่ใกล้เข้ามาถึงโดยไม่รู้ตัวและงานแต่งงานของเหลียนหลิงเฟิงและซีฉีชาก็ได้มาถึงแล้วแม้ว่าชิงสุ่ยไม่ได้รู้จักใครมากนักแต่ชื่อเสียงที่โด่งดังของหอคอยจักรพรรดิและผู้คนจำนวนมากที่ได้รับการรักษาต่างก็ยกย่องเขาดังนั้นฐานะของเขาจึงไม่ได้ต่ำต้อยเลย ผู้คนจำนวนมากมายังที่นี่แม้จะไม่ได้รับเชิญก็ตาม
ชิงสุ่ยไม่ได้กังวลว่าผู้ใดจะมาขัดขวางเพราะตระกูลเหลียนและตระกูลซีฉีต่างก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง
นอกจากนี้พลังของเหลียนหลิงเฟิงยังจัดได้ว่าเป็นยอดฝีมือของตระกูลเหลียนแม้แต่บรรพบุรุษในตระกูลก็ไม่อาจต่อกรกับเขาได้ในตอนนี้นี่เป็นเพราะมรดกแห่งเทพสงครามและด้วยความช่วยเหลือของชิงสุ่ยพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ตระกูลเหลียนรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งที่เหลียนหลิงเฟิงได้เป็นมิตรสหายกับชิงสุ่ยผู้อาวุโสของตระกูลเหลียนต่างก็รู้ดีว่าชิงสุ่ยนั้นเป็นหัวใจของหอคอยจักรพรรดิ
หอคอยจักรพรรดิมันมีพื้นที่มากมายและงานเลี้ยงก็จัดขึ้นที่นี่สุราในงานเลี้ยงก็เป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยนำออกมาจาก ดินแดนหยกยุพราชอมตะไม่นานมานี้ – มันเป็นสุราที่มีอายุมากกว่า 100 ปีทั้งสิ้น
เพราะ1 วันในโลกแห่งความจริงนั้นเทียบได้กับเวลา 1 ปีกว่าในดินแดนหยกยุพราชอมตะของชิงสุ่ย
ลานประลองก็ถูกจัดตั้งขึ้นเช่นเดียวกันตระกูลซีฉีจะเป็นผู้ที่ปกป้องเวทีและตระกูลเหลียนจะต้องเอาชนะตระกูลซีฉีจึงจะสามารถแต่งงานกับลูกสาวคนโตของตระกูลได้ นี่ถือเป็นพิธีการสำคัญในโลกใบนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงการแสดง แต่มันก็เป็นพิธีการ
ไม่นานนักผู้คนในงานเลี้ยงก็ได้รับรู้ว่าอาหารที่นี่อร่อยมากเพียงใดและต่างก็กล่าวชื่นชมมากมายอาหารที่อยู่ภายในงานนั้นมีเพียงของที่เรียบง่ายไม่หรูหราแต่มีรสชาติที่อร่อยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสุราที่พิเศษกว่าสิ่งใด แน่นอนว่าชิงสุ่ยเป็นผู้เตรียมทุกอย่างเองทั้งหมด
การต่อสู้บนลานประลองก็ได้เริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังจากที่งานเลี้ยงได้เริ่มต้นขึ้นบรรยากาศของที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน แม้ว่าคนเหล่านี้อาจจะไม่ได้ทรงพลังแต่การต่อสู้ของพวกเขานั้นก็เป็นไปอย่างสนุกสนานและผู้คนจำนวนมากก็มีความสุขที่ได้ชม
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ2 ชั่วโมงทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนประมาณ 30 คนเดินตรงเข้ามาที่หอคอยจักรพรรดิ ผู้นำของคนกลุ่มนี้เป็นผู้อาวุโสที่ดูทรงพลังและเมื่อได้เห็นเขาผู้อาวุโสซีฉีก็ยืนขึ้นแล้วต้อนรับทันที “ประมุขของตระกูลชีได้มาถึงแล้ว มาเถอะ นั่งลงก่อน”
ก่อนหน้านี้การพิทักษ์ลานประลองนั้นจะเป็นฝ่ายของเจ้าสาวและฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นจะได้รับสะพานเพื่อข้ามไปหาเจ้าสาว
“ผู้อาวุโสซีฉี!”ใบหน้าของผู้อาวุโสคนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อผู้อาวุโสซีฉีเข้ามาทักทายเขา สำหรับคนอื่นๆขอตระกูลเหลียนพวกเขาไม่ได้สนใจอะไรในตอนนี้
ตระกูลชีเป็นตระกูลชั้นยอดในเมืองเมืองจักรพรรดิของจักรวรรดิหิมะนิรันดร์และดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆ จะไม่เป็นไปด้วยดี ชิงสุ่ยมองไปยังเหลียนหลิงเฟิงซีฉีชาที่มีใบหน้าไม่ค่อยพอใจ
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าหนึ่งในนายน้อยของตระกูลชีนั้นชื่นชอบซีฉีชาการมาถึงของพวกเขาในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การแสดงความยินดีเพราะพวกเขาไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรเลย