Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1666 - ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์และโลก ผลผลึกวชิระ เต่าเฒ่าเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1666 - ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์และโลก ผลผลึกวชิระ เต่าเฒ่าเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์
AST
อสูรแมงมุมมังกรเก้าเศียรในตอนนี้มีพลังประมาณ1,000 เต๋า แต่พลังป้องกันของนางนั้นทรงพลังยิ่งกว่า นอกจากนี้พิษของนาง รวมไปถึงความเหนียวของเส้นใยนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด!
ชิงสุ่ยมองไปยังวิหคอัคคีทมิฬและหลงซู่เอ๋อที่ยืนข้างๆเขาด้วยความรู้สึกแปลกๆยิ่งไปกว่านั้นเด็กสาวผู้นี้ยังเรียกเขาว่าท่านพ่อ ตัวเขาเองนั้นก็มีลูกอยู่แล้วมากมายจะมีเพิ่มมาอีกคนก็คงไม่เป็นไร เพราะนักฝึกนักฝึกสัตว์อสูรต่างก็ดูแลสัตว์อสูรเหมือนลูกของตนเอง
ใยแมงมุมของนางนั้นสามารถทำให้ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในระดับเดียวกันต้องพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดาย
ก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยยังไม่ได้มีโอกาสยินดีเมื่ออสูรแมงมุมมังกรได้เป็นสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มันเหมือนกับว่าเขาได้รับพรจากพระเจ้าถึง 2 ครั้งในวันนี้
ภายใต้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์นั้นความฉลาดของสัตว์อสูรจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในตอนนี้วิหคอัคคีทมิฬและหลงซู่เอ๋อต่างก็ไม่ต้องอยู่แต่ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ แต่พวกเขาสามารถกลับไปยังดินแดนหยกยุพราชอมตะในตอนที่ต้องการพักผ่อนได้ เพราะการอาศัยอยู่ภายในดินแดนนั้นสร้างประโยชน์ให้อย่างมหาศาล
ทั้งวิหคอัคคีทมิฬและหลงซู่เอ๋อต่างก็สามารถเข้าออกดินแดนหยกยุพราชอมตะได้อย่างอิสระแต่แต่ถ้าหากพวกเขาออกห่างจากชิงสุ่ยมากกว่า 100 เมตร เมื่อพวกเขาต้องการกลับเข้าไปยังดินแดนหยกยุพราชอมตะพวกเขาจะต้องเข้าไปใกล้ชิงสุ่ยในระยะ 100 เมตร นี่เป็นเงื่อนไขที่ชิงสุ่ยได้ตั้งเอาไว้ เพราะเขามีสัตว์อสูรจำนวนมากจึงเป็นไปได้ยากที่เขาจะต้องดูแลพวกมันตลอดเวลา
เหตุผลที่ชิงสุ่ยตั้งกฎเช่นนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้พวกเขาทั้งสองคนมาทำให้ชีวิตของเขาวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
ในวันถัดมาชิงสุ่ยก็ออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะด้วยความรู้สึกที่ยังคงตื่นเต้นวิหคอัคคีทมิฬไม่คุ้นเคยกับผู็คนและไม่ออกไปไหนมาไหนกับชิงสุ่ย
ในตอนนี้วิหคอัคคีทมิฬนั้นสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระแต่ก็ต้องอยู่ภายใต้ฝั่งชิงสุ่ยดินแดนหยกยุพราชอมตะนั้นเป็นเหมือนบ้านและที่ฝึกฝนของมัน.
วิหคอัคคีทมิฬนั้นถือกำเนิดขึ้นมาในดินแดนหยกยุพราชอมตะและดังนั้นเขาจึงรู้สึกผูกพันธ์กับมันอย่างยิ่ง
แม้ว่าวิหคอัคคีทมิฬจะไม่ได้ออกมาแต่หลงซู่เอ๋อนั้นตามชิงสุ่ยออกมา เมื่อคนอื่นๆได้เห็นหลงซู่เอ๋อพวกเขาต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่มีใครรู้ว่าเด็กหญิงหน้าตาน่ารักผู้นี้นั้นมาจากที่ใด
ทั้งถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงต่างก็บอกมายังชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจ “ลูกสาวของพวกเรา”
เขาไม่ได้ระบุว่าเป็นลูกของถานท่ายหลิงเยียนหรือของฉินชิงแต่เขากล่าวไปรวมๆ อาจกล่าวได้ว่าเป็นลูกของถานท่าย หลิงเยียน ชิงสุ่ยลูบศีรษะของหลงซู่เอ๋อ
ไม่มีทางที่เขาจะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ได้นอกเหนือจากอวี้ เหนียงหญิงสาวคนอื่นๆต่างก็ได้รู้ว่าหลงซู่เอ๋อนั้นเป็นสัตว์อสูรที่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์มา หลังจากได้อธิบายเรื่องนี้แล้วเขาก็ปล่อยให้นางอยู่ในร่างที่นางต้องการ
หลังจากที่ได้รู้ว่าเด็กน้อยผู้นี้ได้เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์หญิงสาวคนต่างก็มองมายังหลงซู่เอ๋อด้วยความตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ
ถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงต่างก็ไม่ใช่คนธรรมดาและรู้จักการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของสัตว์อสูร
สิ่งที่ทำให้พวกนางรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยนั่นก็คือหลงซู่เอ๋อนั้นเรียกพวกนางทั้งสองคนว่าท่านแม่
หญิงสาวทั้งสองคนมองมายังชิงสุ่ยในขณะที่เขายิ้มเจื่อนๆตอบกลับไปเขาไม่ได้ตอบหลงซู่เอ๋อให้ทำเช่นนี้แต่คงไม่มีใครจะเชื่อว่าเด็กหญิงนั้นจะกล่าวออกมาด้วยตัวของนางเอง นอกจากนี้หญิงสาวทั้งสองคนก็ยังรู้สึกยินดีที่ได้มีลูกสาวที่ทรงพลังเช่นนี้
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความยุ่งเหยิงเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะได้อยู่ในโลกนี้มานานกว่า 40 ปี แต่เวลาหลายสิบปีในชีวิตก่อนหน้าของเขายังคงมีผลกระทบอย่างมากในแง่ของมุมมองและคุณค่าของชีวิตของเขา!
นอกเหนือจากความสามารถในการรับรู้ถึงอันตรายตามสัญชาตญาณความฉลาด และการสื่อสารกับชิงสุ่ย หลงซู่เอ๋อนั้นยังคงสนใจโลกใบใหม่ของนางอย่างมาก
ชิงสุ่ยได้พูดคุยกับนางอย่างยาวนานในดินแดนหยกยุพราชอมตะเพราะโดยปกติแล้วเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ภายในนั้นในการคุยกับวิหคอัคคีทมิฬและหลงซู่เอ๋ออยู่เสมอ
เพื่อให้พวกเขาคุ้นเคยกับโลกนี้และผู้คนรอบข้างชิงสุ่ยต้องสอนให้พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนกับมนุษย์แม้ว่าเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์จะทำให้สติปัญญาของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นแต่ยังไงพวกเขาก็ยังเป็นสัตว์อสูร ในตอนนี้ความคิดของพวกเขานั้นเริ่มเหมือนกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ฉินชิงและคนอื่นๆต่างก็เดินออกมาพร้อมกับหลงซู่เอ๋อ
ชิงสุ่ยใช้ทักษะย่างก้าว9เทวาพุ่งออกไปสุ่มๆ ระยะที่เขาเดินทางนั้นเท่ากับ 2 ใน 3 ของการใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวาปกติ ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้มายังที่แห่งนี้
ฉินชิงนั้นได้ใช้ผลผลึกวชิระให้สัตว์อสูรของนางไปก่อนหน้านี้จึงไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วยเหตุผลที่ชิงสุ่ยมาที่นี่ก็เพื่อให้ถานท่าย หลิงเยียนได้ใช้ผลผลึกวชิระในตอนนี้
พลังของถานท่ายหลิงเยียนเพิ่งจะเพิ่มขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่แน่ใจว่าเขาสามารถช่วยนางให้ประสบความสำเร็จได้อย่างราบรื่นหรือไม่ ด้วยระดับของนางในตอนนี้มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
”เจ้ามีความมั่นใจมากเพียงใดที่จะยกระดับเข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์?”ชิงสุ่ยจับมือของนางเอาไว้ขณะที่เดินไป
”ข้ารู้สึกดีอย่างยิ่ง”ถานท่าย หลิงเยียนมองไปรอบๆและกล่าวออกมาเบาๆ
”เจ้าคิดจะย้ายพระราชวังจอมอสูรมาที่มหาทวีปอุดรเทวาหรือไม่?”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวขึ้น
”ข้าจะพิจารณาเรื่องนี้อีกทีหลังจากที่ระดับของข้าได้เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์”ถานท่าย หลิงเยียนคิดครู่หนึ่งและกล่าวขึ้น Aileen-novel
ชิงสุ่ยจับมือของนางให้แน่นยิ่งขึ้น”เจ้าจะต้องเข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้”
ถานท่ายหลิงเยียนมองมายังชิงสุ่ยและรู้สึกถึงความมั่นใจในตอนนี้ การปรากฏตัวของหลงซู่เอ๋ออย่างกะทันหันทำให้นางรู้สึกแปลกๆว่าชายผู้นี้มีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่อีกมากเพียงใด
”เจ้าไม่เชื่อข้างั้นหรือ?”ชิงสุ่ยยิ้มและมองไปยังถานท่าย หลิงเยียน
”ข้าเชื่อก็ได้”
”เจ้าไม่เชื่อผู้ชายของตนเองงั้นหรือ?”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความระมัดระวัง เขาต้องเย้าหยอกถานท่าย หลิงเยียนอย่างระมัดระวังเพราะหญิงสาวอย่างนางนั้นใช่คนที่จะมีอารมณ์ขันมากนัก
ถานท่ายหลิงเยียนดูเหมือนจะไม่รู้ถึงความตั้งใจของชิงสุ่ยและหันศีรษะออกไปด้วยความเขินอายเล็กน้อย
ชิงสุ่ยนำผลผลึกวชิระออกมามันเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์และโลกในตอนนั้นราชาหมีทองคำได้ถูกสังหารไปก่อนที่มันจะได้รับผลไม้นี้ มิฉะนั้นมันคงสามารถยกระดับขึ้นได้ด้วยผลผลึกวชิระนี้ มีโอกาสสูงกับจีนที่มันจะได้กลายเป็นสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต เพราะเมื่อราชาหมีทองคำได้รับผลผลึกวชิระเข้าไปนั้นมันจะได้รับประโยชน์มากยิ่งกว่าคนธรรมดาหรือสัตว์อสูรตัวอื่นๆ
”รับนี่ไปสำหรับตัวเจ้าเอง 1 ผลและสำหรับเจ้าเต่าเฒ่าอีก 1 ผล”
เต่าเฒ่าของถานท่ายหลิงเยียนนั้นขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะได้เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เพียงก้าวเดียวนี้อาจจะเป็นขีดจำกัดของมันแล้วก็ได้ นั่นเป็นเพราะว่ามันแก่ชรามากแล้ว แม้กระนั้นมันก็ยังมีชีวิตที่ยืนยาว
ผลผลึกวชิระนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับมันและอาจเหมาะสมมากยิ่งกว่าราชาหมีทองคำ
ชิงสุ่ยนั้นให้ความเคารพเจ้าเต่าเฒ่าเป็นอย่างมากมันได้ทำสิ่งต่างๆมากมายให้กับถานท่าย หลิงเยียนและแม้ว่ามันจะยังไม่อ่านเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้แต่ความเฉลียวฉลาดของมันนั้นมากยิ่งกว่าสัตว์อสูรตัวอื่นๆ
ชิงสุ่ยคอยดูแลถานท่ายหลิงเยียนและเต่าเฒ่าในตอนนี้ ไม่ต้องเดาเลยว่าเต่าเฒ่าย่อมสามารถยกระดับขึ้นไปได้ และถานท่าย หลิงเยียนก็ไม่น่ามีปัญหาด้วยเช่นกัน แต่ยังไงชิงสุ่ยก็ยังคงรู้สึกกังวลอยู่
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าผลผลึกวชิระนั้นล้ำค่ามากเพียงใดโดยเฉพาะสำหรับสัตว์อสูรทั้งวิหคอัคคีทมิฬและหลงซู่เอ๋อต่างก็เป็นตัวอย่างสำหรับเรื่องนี้ ผลไม้นี้ให้ประโยชน์มากมายสำหรับมนุษย์ด้วยเช่นกัน แต่ถานท่าย หลิงเยียนจะสามารถยกระดับได้หรือไม่นั้นชิงสุ่ยก็ยังไม่แน่ใจในเรื่องนี้
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆเต่าเฒ่าเริ่มมีปฏิกิริยาเป็นคนแรกกระดองที่มีสีฟ้าน้ำทะเลของมันเริ่มเปล่งแสงขึ้นมา เต่าเฒ่านั้นอยู่ห่างจากชิงสุ่ย ด้วยขนาดใหญ่โตของมันและทัณฑ์สวรรค์พินาศที่เกิดขึ้น ทำให้มันต้องรักษาระยะห่างจากชิงสุ่ยเอาไว้
สายฟ้าเริ่มผ่าลงมาจากท้องฟ้าชิงสุ่ยไม่แน่ใจถึงระดับการฝึกยุทธ์ของเต่าเฒ่า เขารู้ดีว่ามันทรงพลังอย่างยิ่ง ในตอนนั้นชิงสุ่ยได้รับความช่วยเหลือจากมันมากมาย
ตู้มตู้ม…
สายฟ้ายังคงผ่าลงมาที่เต่าเฒ่าอย่างต่อเนื่องแต่ลวดลายสีฟ้าบนกระดองของมันก็ดูดซับสายฟ้านั้นเข้าไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่อาจดูซับได้ทั้งหมดแต่ก็สามารถรับความเสียหายส่วนใหญ่ไปได้
โฮก!
เมื่อเวลาผ่านไปเสียงคำรามที่เหมือนกับเสียงของมังกรก็ดังออกมาสายฟ้าบนท้องฟ้านั้นเริ่มกระจัดกระจายไปและเต่าเฒ่าก็ได้ระเบิดกลิ่นอายของมันออกมาๆ ราวกับว่าพลังภายในร่างกายของมันนั้นกำลังระเบิดออกมาและทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกตกตะลึง
เต่าเฒ่าขนาดยักษ์ได้หายไปมีเพียงชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นชายผู้นี้ดูแก่ชราอย่างยิ่งแต่เขาก็ยังดูสดชื่นและแข็งแรง ใบหน้าที่เป็นมิตรของเขาทำให้ทุกๆคนรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้
การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เต่าเฒ่านั้นก็เป็นสัตว์อสูรที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ แม้ในยามปกติมันจะไม่อาจทำได้ แต่เมื่อมันได้ยกระดับเข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยความช่วยเหลือของผลผลึกวชิระจึงทำให้มันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้
ไม่มีความแตกต่างใดๆระหว่างสัตว์อสูรและมนุษย์ในระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แม้แต่การสื่อสารระหว่างสัตว์อสูรกับเจ้าของนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างเช่นระหว่างนักฝึกสัตว์อสูรและสัตว์อสูรของพวกเขาแม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไป แต่พวกมันก็ยังสามารถพูดคุยกับนักฝึกสัตว์อสูรได้อย่างปกติ ในการต่อสู้นั้นอาจจะใช้รูปแบบของสัตว์อสูรเพื่อให้พวกมันได้ปลดปล่อยพลังออกมาถึงขีดสุด นี่หมายความว่าพวกมันจะทรงพลังขึ้นมากจากสติปัญญาที่เพิ่มขึ้นในรูปแบบมนุษย์
เมื่อสัตว์อสูรได้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปและมีสติปัญญาเพิ่มมากขึ้นทำให้พวกมันนั้นทรงพลังมากยิ่งกว่ามนุษย์ที่อยู่ในระดับเดียวกันตระกูลอมตะมากมายต่างพยายามค้นหาสัตว์อสูรที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้ ในตอนนี้ชิงสุ่ยก็นึกถึงนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะขึ้นมา
นิกาย5 พยัคฆ์อมตะนั้นจะมีสัตว์อสูรที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้หรือไม่?
เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของสัตว์อสูรนี้สามารถสืบทอดไปยังลูกหลานของมันได้หรือไม่?
แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เขายังมีเวลาคิดเรื่องนี้อีกมากในอนาคต ในตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งที่เต่าเฒ่าได้ก้าวเข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นเพราะความช่วยเหลือของถานท่าย หลิงเยียนและภายในหัวใจของถานท่าย หลิงเยียนเต่าเฒ่านั้นถือเป็นคนสำคัญอย่างยิ่ง
ชายชราเดินตรงเข้ามาหาชิงสุ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างสุภาพและดูไม่ได้ประหลาดใจอะไรที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจ การไม่แสดงออกความดีใจเมื่อได้เข้าสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนักไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ชิงสุ่ยสัมผัสได้ว่าจิตใจของเต่าเฒ่านั้นสงบอย่างยิ่ง
”ไม่ต้องกล่าวสุภาพนักกหรอกชิงสุ่ย เจ้ากับเด็กน้อยเยียนนั้นถือเป็นเนื้อคู่กันอยู่แล้ว” เมื่อเต่าเฒ่ากล่าวเช่นนี้เขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง
”ท่านผู้อาวุโสเรื่องนี้คงจะไม่ง่ายนักข้าได้แต่หวังว่านางจะมีความสุข”
”เช่นนั้นก็ดีมาเถอะ ไปดูเด็กน้อยเยียนกัน”