Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1733 - จ้าวอสูรแดนสมุทร เหยียนสือหยุน
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1733 - จ้าวอสูรแดนสมุทร เหยียนสือหยุน
AST
บทที่1733 – จ้าวอสูรแดนสมุทร เหยียนสือหยุน
สุ่ยหยุนเฟิงสังเกตเห็นสีหน้าการแสดงออกของหยวนเชอแต่เขาก็ยังคงสงบนิ่งและเลือกที่จะไม่สนใจ
นี้คือทางเข้าสู่เส้นทางมังกรการุณแห่งแดนทะเลเหนือแต่ดูเหมือนมันยังไม่ถึงเวลา ผู้คนมากมายจึงทำได้เพียงแค่ยืนรอ แม้แต่ตระกูลหยวนเองก็ยังมากันไม่ครบ
ส่วนใหญ่คนในพื้นที่แห่งนี้จะแบ่งกลุ่มยืนกันเป็นกลุ่มก้อนโดยยึดตามขุมกำลังของตน ส่วนคนกลุ่มเล็กๆ จะเริ่มเข้าหากันเพื่อขยายอำนาจให้กลายเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะหากเมื่อขุมกำลังใดด้อยกว่าขุมกำลังของศัตรู ขุมกำลังนั้นจะต้องประสบพบเจอกับคำดูถูกเหยียดหยาม และโดนกลั่นแกล้งซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีนัก ในไม่ช้าชิงสุ่ยก็มองเห็นกลุ่มคนของถ้ำคลื่นจันทรา ซึ่งประกอบไปด้วยชายฉกรรจ์มากกว่า 20 คน เขาเหลือบมองดูอย่างรวดเร็วก็พบเจอกับฮวงหวู่ซึ่งเขาเองก็หันมามองดูแล้วพบว่าชิงสุ่ยกำลังยืนอยู่ด้านข้างสุ่ยหยุนเฟิง
นอกจากนี้เขายังเห็นหญิงสาวอีก2 คนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ซึ่งก็คือ ประมุขพระราชวังสุริยาและมูหยุนชิงเก้อ หนึ่งคนคือเผ่านาคา ส่วนอีกคนมาจากเผ่านางเงือก ผู้คนมากมายต่างจับจ้องมาที่โฉมงามทั้งสองคน แต่ก็พอคาดเดาคำตอบได้หลังจากมองเห็นชายหนุ่มที่มีนามว่าชิงสุ่ย
ฮวงหวู่อึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นชิงสุ่ยก่อนจะพยักหน้าให้กลับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยพยักหน้าเบาๆโดยไม่สนใจอะไรมาก ผู้นำของถ้ำคลื่นจันทรานั้นเป็นคนที่มีอายุมากกว่าสุ่ยหยุนเฟิงและหยวนเชอ แม้ว่าเขาจะใส่เสื้อคลุมสีเหลืองแต่มันก็ไม่อาจจะผิดรัศมีแห่งความมืดมนและความเย็นชา เขายืนอยู่ท่ามกลางผู้คนแต่กลับโดดเด่นอย่างน่าประหลาดใจ
หลังจากนั้นสุ่ยหยุนเฟิงก็ชี้ให้เห็นถึงขุมกำลังอื่นๆ แต่พวกเขาก็ไม่ได้แข็งแรงเทียบเท่ากับถ้ำคลื่นจันทราและตระกูลหยวน แต่ก็ถือว่าเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งมากในภูมิภาคแห่งนี้
ชิงสุ่ยตั้งใจฟังและจดจำทุกคน
หลังจากนั้นไม่นานนะสุ่ยหยุนเฟิงก็หันมองออกไปในที่ไกลแสนไกล ชิงสุ่ยเองก็อยากรู้อยากเห็นจึงมองตาม
ณสถานที่ห่างไกล มีเงาประมาณ 10 เงาปรากฏการณ์ขึ้น พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่บนปลาที่มีขนาดยาวกว่า 100 เมตร ปลาแต่ละตัวทอแสงประกายสีทองซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังปราณจิต มันทั้งดูสง่างามและสูงส่งเหมือนปลาจากสวรรค์
มัจฉาเกล็ดทองคำ!!
ชิงสุ่ยดวงตาทอแสงเปล่งประกายปลาสายพันธุ์นี้คือปลาสายพันธุ์โบราณ ที่ทั้งแข็งแกร่งและทรงอำนาจ แม้ว่าจะอยู่บนอากาศหรือในน้ำทะเล
มัจฉาเกล็ดทองคำเป็นเพียงแค่สายพันธุ์ปลาที่ได้รับสืบทอดโลหิตแห่งเกล็ดทองคำที่จริงแล้วมีสัตว์อสูรจำนวนมากที่ได้รับสืบทอดสายเลือดชนิดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มัจฉาเกล็ดทองคำหนึ่งในสายพันธุ์ที่รับสืบทอดพลังสูงกว่าสายพันธุ์อื่น จึงทำให้มันส่งอำนาจ แม้จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกันก็ตาม
ท่ามกลางคนทั้ง10 ที่อยู่บนฟ้า ชิงสุ่ยตลาดไทยกับหนึ่งในผู้คนที่อยู่ท่ามกลาง เขาช่างโดดเด่นกว่าผู้อื่น และในไม่ช้า เขาก็รู้ว่าชายผู้นี้คือใคร ไอลีนโนเวล
จ้าวอสูรแดนสมุทร!!
ผู้คนเหล่านี้คือคนของพระราชวังอสูรแดนสมุทรจ้าวอสูรแดนสมุทรคือนิกายที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ ท่ามกลางพวกเขาทั้งหมด จ้าวอสูรแดนสมุทรก็คือหนึ่งในผู้ที่รับครอบครองมรดกแห่งโบราณการ กลุ่มอสูรแดนสมุทรมีลักษณะเหมือนมนุษย์แต่ก็คล้ายคลึงกับนางเงือกและนาคา มันเปรียบได้กับการเอาพันธุกรรมเด่นของแต่ละสายพันธุ์ออกมาแสดงบนร่างของคนๆเดียว
เผ่าพันธุ์เงือกจะสามารถแปรเปลี่ยนขาให้เป็นครีบปลาขนาดใหญ่ซึ่งมันจะช่วยให้เผาผลาญนี้ว่ายน้ำได้เร็วสูงสุด
ส่วนผสมพันธุ์นาคาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีลักษณะเด่นชัดยกเว้นมือซึ่งจะสามารถแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นกรงเล็บมังกรได้ ซึ่งดูเหมือนว่ามันอาจจะไม่ใช่ลักษณะพื้นฐานของเผ่าพันธุ์แต่อาจจะเป็นเพราะการฝึกฝนบางอย่าง
ชายและหญิงของเผ่าพันธุ์อสูรแดนสมุทรล้วนมีลักษณะและหน้าตาที่ดูดีเป็นพิเศษไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ดูหน้าตาต่ำต้อย ส่วนใหญ่ล้วนงดงามและหล่อเหลา
ชิงสุ่ยสังเกตเห็นว่าในกลุ่มของอสูรแดนสมุทรมีผู้หญิงอยู่จำนวน 3 คนซึ่งอยู่ด้านหลังแน่นอนว่าเสน่ห์ของพวกนางสามารถทำให้บรรดาชายที่อยู่เบื้องล่างตกหลุมรักและยอมตายแทนได้ทันที ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่คาดชายฉกรรจ์ที่อยู่เบื้องล่างหลงใหลพวกนางทันทีตั้งแต่แรกพบ แต่ละคนต่างแสดงสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
บรรยากาศแปรเปลี่ยนเป็นความกดดันอีกครั้งเมื่อจ้าวแห่งอสูรแดนสมุทรขมวดคิ้วและมองลงมาดูกลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังมองกลุ่มพวกเขาหลายคนถึงกับสั่นกลัว
ทันทีที่ชายคนนี้เห็นโฉมงามทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายชิงสุ่ยดวงตาของเขาก็ทอแสงเปล่งประกาย และเดินตรงเข้ามา
ชิงสุ่ยยังคงยืนนิ่งเฝ้ามองดูจ้าวอสูรแดนสมุทรที่กำลังเดินตรงเข้ามา ซึ่งทันทีที่หญิงสาวข้างกายของเขาทั้งสองคนสังเกตเห็นจ้าวอสูรแดนสมุทร ใบหน้าของพวกนางก็ยังคงนิ่งเงียบไม่เปลี่ยนแปลง
”สวัสดีแม่นางทั้งสองข้า เหยียนสือหยุน ยินดีที่ได้รู้จักกับแม่นางทั้งสอง”จ้าวอสูรแดนสมุทรเดินเข้ามากล่าวทักทายประมุขพระราชวังสุริยาและมูหยุนชิงเก้อ
”ข้าไม่รู้จักเจ้าและข้าก็ไม่ได้อยากรู้จักเจ้าด้วย”ประมุขพระราชวังสุริยากล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เหยียนสือหยุนประหลาดใจเป็นอย่างมากตัวเขาเป็นถึงจ้าวอสูรแดนสมุทรผู้ทรงเกียรติและทรงพลัง เขาชนะกฏและได้เข้ามาครอบครองพระราชวังอสูรแดนสมุทร
ส่วนมูหยุนชิงเก้อเธอมองตรงออกไปข้างนอกโดยไม่ได้สนใจจ้าวอสูรแดนสมุทรเลยแม้แต่นิดเดียว จากนั้นเธอก็เดินนอกสายตาของกลุ่มคนอสูรแดนสมุทรไปอยู่ด้านหลังชิงสุ่ย
เหยียนสือหยุนเหลือบมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่จริงจังชิงสุ่ยก็มองกลับมาด้วยท่าทางสงบ ไม่มีทั้งสายตาที่เป็นมิตรและสายตาที่เป็นศัตรู