Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1751 - พบเจอกลุ่มอสูรแดนสมุทรอีกครั้ง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1751 - พบเจอกลุ่มอสูรแดนสมุทรอีกครั้ง
AST
บทที่1751 – พบเจอกลุ่มอสูรแดนสมุทรอีกครั้ง
เมื่อได้ยินชื่อของพระราชวังอสูรแดนสมุทรชิงสุ่ยก็เริ่มฟังด้วยความตั้งใจ เขาได้สังหารกลุ่มอสูรแดนสมุทรที่เข้าไปค้นหาสมบัตินับสิบคนจนตายหมดสิ้น อย่างไรก็ตาม จากบทสนทนาที่ชิงสุ่ยได้ยิน ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ยังไม่รู้ตัว
”แล้วเพื่ออะไรล่ะ?บางคนก็บอกว่าพวกมันมาเพื่อหาสมบัติ บางคนก็บอกว่าพวกมันมาเพื่อครอบครองพื้นที่รอบทะเลหยางแดนเหนือ แต่จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ พวกเขาบอกว่า มันมาเพื่อผู้หญิง”ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง
”ผู้หญิง?นางเป็นใครกัน ทำไมถึงทำให้พระราชวังหยางแดนเหนือและกลุ่มพระราชวังอสูรแดนสมุทรฆ่ากันเพื่อแย่งชิงนาง?”ผู้อาวุโสสงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงสับสน
”เห็นพวกเขาเล่ากันว่าจ้าวแห่งพระราชวังหยางแดนเหนือเหนือดกำลังจะตกแต่งกับหญิงสาวคนหนึ่งแต่ขณะเดียวกันจ้าวอสูรแดนสมุทรเองก็กำลังชื่นชมหญิงสาวผู้นั้นเช่นกัน เขาจึงมีบังคับให้จ้าวแห่งพระราชวังหยางแดนเหนือมอบนางให้กับเขา จ้าวอสูรแดนสมุทรไม่ได้คาดคิดว่ากลุ่มพระราชวังหยางแดนเหนือจะคิดต่อต้าน หรืออาจเป็นเพราะว่าพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น และที่น่าประหลาดใจที่สุด คือกลุ่มพระราชวังหยางแดนได้ทำการสังหารตัวแทนทูตจากพระราชวังอสูรแดนสมุทรโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย”
”พวกมันก็สมควรโดนแล้วพวกมันคิดว่าพวกมันสามารถทำอะไรก็ได้ที่มันต้องการเพียงเพราะว่าพวกมันแข็งแกร่ง ดูเหมือนว่ากลุ่มพระราชวังหยางแดนกำลังตกเป็นเป้าหมาย แล้วใครจะกล้าเข้าไปยุ่งย่ามกับคนกลุ่มนี้อีก?”ผู้อาวุโสสงกล่าวด้วยท่าทางที่มีความสุขผิดปกติ
ชิงสุ่ยคิดเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองมูหยุนชิงเก้อ”ผู้หญิงแบบไหนกัน ที่ทำให้สองฝ่ายเริ่มต้นสงครามได้?”
”เกิดอะไรขึ้นน่ะหรือ?อย่าบอกนะว่า เจ้าจะเอาตัวเองไปมีส่วนร่วมกับสงครามครั้งนี้?”มูหยุนชิงเก้อจ้องมองชิงสุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
”ข้าเท่าที่ผ่านมาข้าก็พยายามตีตัวออกห่าง”
มูหยุนชิงเก้อหน้าแดงขณะที่เธอคิดถึงอะไรบางอย่างจากนั้นเธอก็ก้มหน้านั่งนิ่งเงียบ
”เป็นไงล่ะคำพูดของข้าดูดีใช่หรือไม่?”ชิงสุ่ยยิ้มขณะจ้องมองมูหยุนชิงเก้อ
”ไม่!!”
หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าทั้งอ่อนน้อมถ่อมตนคงไว้ซึ่งรูปรักที่แสนงดงามไร้ที่ติ ช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตร่วมกับชิงสุ่ยมาโดยตลอด เธอต้องเลือกที่จะไม่ขัดหากชิงสุ่ยคิดจะทำสิ่งใด
เรื่องทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชิงสุ่ยเลยแล้วไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรมาข้องเกี่ยว มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา
ชิงสุ่ยในปัจจุบันแข็งแกร่งอย่างมากหากรวมกับการพัฒนาของภาพวาดหยินหยาง มันจะไม่มีเรื่องจำเป็นอะไรเลยที่เขาต้องกังวลเกี่ยวกับกลุ่มพระราชวังอสูรแดนสมุทร แต่นึกในใจของเขา เขาเองก็รู้สึกเสียใจที่สังหาร ผู้นำตระกูลสาขาของตระกูลเหยียนอย่างเหยียน สือหยุน(จ้าวอสูรแดนสมุทร) แต่ถึงกระนั้นมันก็สมควร
หลังจากที่ชาวบ้านได้ข่าวเรื่องราวของกลุ่มอสูรแดนสมุทรที่กำลังคืบคลานเข้ามาในทะเลหยางแดนเหนือเพื่อแย่งชิงหญิงสาวกลุ่มพระราชวังหยางแดนเหนือทุกคนก็คาดเดาว่าคนที่นำทัพมาจะต้องเป็นบิดาของเหยียน สือหยุน ราชาอสูรแดนสมุทร หยุน อวี้เจียง
ชิงสุ่ยที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรเขาวางแผนที่จะเดินทางต่อไป เพราะแผนการที่สำคัญที่สุดคือการมุ่งหน้าเข้าสู่ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ สำหรับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากฝั่งตระกูลทั้งสองฝ่าย ชิงสุ่ยหวังว่ากลุ่มพระราชวังหยางแดนเหนือจะได้เป็นฝ่ายชนะเพียงเท่านั้น
”ชิงสุ่ยเจ้าอยากจะไปดูลาดราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักหน่อยหรือไม่?” มูหยุนชิงเก้อกล่าวขณะที่เธอกำลังรับประทานอาหาร ไอรีนโนเวล
”อย่าไปสนใจมันเลยมันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรา กินอาหารให้อร่อย แล้วรีบไปกันดีกว่า”ชิงสุ่ยหยิบชามน้ำซุปขึ้นมาซด
มูหยุนชิงเก้อพยักหน้าจากนั้นทั้งสองคนก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ได้ข่าวที่ตนเองต้องการ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าสงครามในละแวกนี้กำลังจะเกิดขึ้น
ศัตรูของศัตรูข้าคือมิตรข้าดังนั้นชิงสุ่ยจึงวางแผนที่จะสื่อสารกับกลุ่มของพระราชวังหยางแดนเหนือในโอกาสทางไป มันคงจะดีถ้าหากเขาได้ร่วมเผชิญหน้ากับกลุ่มพระราชวังอสูรแดนสมุทร ในความรู้สึกของชิงสุ่ยในตอนนี้กลุ่มพระราชวังหยางแดนเหนือยังคงอ่อนแอ และคงต้องใช้เวลานานเพื่อที่จะคลี่คลายปัญหานี้
ชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อนั่งมังกรหยกขาวและเร่งรีบออกเดินทางพวกเขาพุ่งทะยานแหวกว่ายไปในพื้นน้ำด้วยความเร็วที่สูงมาก หลังจากผ่านไปได้ 15 นาที มูหยุนชิงเก้อที่กำลังมองดูพื้นดินเบื้องล่างก็พบว่าบนพื้นดินกำลังมีนักรบประมาณ 10 คน เหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง เธอจึงเรียกชิงสุ่ยให้มาดู แล้วทันทีที่เขามองดู เขาก็รู้ทันทีว่าพวกมันคือพวกอสูรแดนสมุทร
จากข่าวลือที่ว่าพวกอสูรแดนสมุทรมาเพื่อการทำสงครามสิ่งที่เขาคาดคิดคือพวกมันควรจะรออยู่บริเวณรอบๆพระราชวังหยางแดนเหนือ แต่ทำไมพวกมันปรากฏตัวอยู่บริเวณแถวนี้ มันจึงยิ่งทำให้ชิงสุ่ยเริ่มสงสัยว่าพวกมันมาที่นี่ด้วยเหตุผลใด แต่ชิงสุ่ยก็หันไปยิ้มให้กับมูหยุนชิงเก้อ “ไปกันเถอะ พยายามอย่าสร้างปัญหาเพิ่มเติมอีกเลย”
”อืมมม!!”มูหยุนชิงเก้อกล่าว
”นั่นใครหน่ะ!!หยุดเดี๋ยวนี้!!”
ชิงสุ่ยบังคับให้มังกรหยกขาวทะยานสูงขึ้นกว่าเก่าเขาตั้งใจจะผ่านกลุ่มคนเหล่านี้ โดยพยายามไม่สนใจ แต่แล้วเป็นคนที่อยู่เบื้องล่างก็เปลี่ยนเสียงตะโกนขึ้นมา
ชิงสุ่ยเริ่มอารมณ์เสียเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการสร้างปัญหา แต่กลับกลายเป็นว่าปัญหาเข้ามาหาเขาแทน
”พวกเราควรทำอย่างไรดี?”มูหยุนชิงเก้อกล่าวถาม
”ไม่เป็นไรมาดูกันเถอะว่ามันต้องการสิ่งใดจากเรา”ชิงสุ่ยตอบกลับ จากนั้นก็ลงมาหาคนที่ตะโกนเรียกเขา
ผู้นำของกลุ่มเป็นชายวัยกลางคนใบหน้าหล่อเหลาและทันทีที่ชิงสุ่ยพบหน้าชายคนนี้ เขาก็สังเกตเห็นว่าชายคนนี้มีลักษณะคล้ายกับเหยียนสือหยุนอย่างมาก แตกต่างกันเพียงแค่คนที่อยู่เบื้องหน้าดูเป็นผู้ใหญ่ และมีเสน่ห์มากกว่า ดวงตาของเขาให้ความรู้สึกลึกซึ้งในแบบที่ผู้ชายพึงมี
”ไม่ทราบว่าพวกท่านต้องการอะไรถึงได้หยุดและเรียกพวกเรา?”ชิงสุ่ยแสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตร ขณะที่เขาเปล่งเสียงถาม
อย่างไรก็ตามดูเหมือนชายที่อยู่ตรงข้ามชิงสุ่ยจะไม่ได้สนใจคำพูดของเขาสายตาของเขาจับจ้องไปที่มูหยุนชิงเก้อ พร้อมกับเปล่งประกายดวงตาอันแสนโลภ ชิงสุ่ยที่กำลังจับตามองเขาอยู่ ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ว่า “เหมือนกันเลยทั้งพ่อทั้งลูก” ลูกชายตายเพราะสตรี และพ่อของตัวเองก็กำลังจะตายเพราะอิสตรีเช่นกัน
”ข้าขอถามว่าพวกเจ้าเป็นใคร?ทำไมถึงทำเป็นแสร้งมองไม่เห็นพวกข้า และยังเลือกที่จะบินผ่านหัวพวกข้าอีก?”ชายคนนี้จ้องมองชิงสุ่ยพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พึงพอใจ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งนิสัยที่ปรากฏอยู่บนโลกมหาทวีปผืนน้ำแห่งนี้นักรบบางคนภาคภูมิใจที่ตัวเองแข็งแกร่ง และไม่ยอมให้คนอื่นยืนอยู่เหนือหัวของตน ฉะนั้นบางครั้งปัญหาก็เกิดขึ้นได้ ทั้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น