Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1763 - ถ้ำมังกรปีศาจ และผาราชินีปีศาจดูดเลือด
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1763 - ถ้ำมังกรปีศาจ และผาราชินีปีศาจดูดเลือด
AST
บทที่1763 – ถ้ำมังกรปีศาจ และผาราชินีปีศาจดูดเลือด
เมื่อเธอแนะนำชื่อของเธอชิงสุ่ยจึงทำการแนะนำกลุ่มคนของเขาเองเพื่อแสดงถึงเกียรติและความเคารพซึ่งกันและกัน
ร้านอาหารจำนวนมากวางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะโดยที่มีคนเพียงแค่ 3 คนอยู่ด้านข้างโต๊ะอาหาร ในไม่ช้าทั้งสามคนก็เริ่มรู้สึกคุ้นชินกัน อาจจะเป็นเพราะชิงสุ่ยและเฉินเจิงต่างก็เป็นมนุษย์ จึงสามารถพูดคุยและแสดงความใกล้ชิดกันได้อย่างรวดเร็ว
พี่สาวเจินท่านขึ้นมาเป็นผู้นำกองกำลังทะเลลึกแห่งนี้ในฐานะมนุษย์ได้อย่างไร? มูหยุนชิงเก้อถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เรื่องมันยาวน่ะในตอนแรกข้าก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้หรอก ย้อนกลับไปในตอนนั้นข้าได้รับสืบทอดมรดกศักดิ์สิทธิ์จากเทพธิดาสวรรค์ ข้าจึงจำเป็นต้องทำภารกิจที่เธอมอบหมายเอาไว้ หนึ่งคือการปกป้องภูเขาสวรรค์แห่งนี้เพื่อให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของกองกำลังแดนมหาสมุทร เฉิงเจินกล่าวตอบ
มันเป็นธรรมดาที่มนุษย์จะไม่สามารถเอาชีวิตรอดภัยในแดนมหาสมุทรได้อย่างไรก็ตามดูเหมือนผู้คนที่มีทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์ ชิงสุ่ยจึงพบว่าต่อให้เป็นคนธรรมดาก็สามารถใช้ชีวิตในที่แห่งนี้ได้ เพราะภูเขาศักดิ์สิทธิ์จะแสดงผลลัพธ์บางอย่างเพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์ และผลลัพธ์อย่างหนึ่งของมันคือการบั่นทอนความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรสายพันธุ์ทะเลให้ลดต่ำลง
รอบนอกภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นไปด้วยสัตว์อสูรมากมายจึงทำให้ผู้คนที่อยู่ภายในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ยากที่จะกลับคืนสู่โลกมนุษย์ เว้นเสียแต่พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากสุดยอดผู้ทรงพลังที่แข็งแกร่ง แต่การที่พวกเขาวางรากฐานสืบทอดยุคสมัย พวกเขาจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่ไม่ละทิ้งไปไหนแม้ว่าจะมีพลังมากพอที่จะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากที่นี่ไปก็ตาม
เห็นได้ชัดว่ารอบภูเขาแห่งนี้ไม่มีกองกำลังหรืออำนาจอื่นเลยยังมีใครที่คิดวางแผนต่อต้านกลุ่มภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อีกอย่างนั้นเหรอ? ชิงสุ่ยถามด้วยความสงสัย
ตัวของเขาเองรับรู้ถึงพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งจากผู้คนทั้งหมดมันเป็นพลังบริสุทธิ์ที่ใช้เป็นตัวชี้วัดความสามารถ แม้เขาจะไม่เคยเห็นการต่อสู้ของหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า แต่เขาก็คาดเดาจากพลังของเธอว่า เธอจะต้องเพิ่มขีดจำกัดความแข็งแกร่งร่างกายได้สูงสุดเป็นอีก 2 เท่า
นอกจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วยังมีถ้ำมังกรปีศาจ และผาราชินีปีศาจดูดเลือด เฉิงเจินกล่าว
โลกใบนี้คือโลกที่แสนแปลกประหลาดชิงสุ่ยยิ่งรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดเกี่ยวกับราชินีปีศาจดูดเลือด พวกเธอคือชนเผ่าโบราณที่มีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ และมีข้อแตกต่างจากมนุษย์เพียงแค่เล็กน้อย และพวกเธอถูกเรียกว่าปีศาจดูดเลือด เพราะต้องพึ่งพาเลือดเพื่อความอยู่รอด พวกเธอทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงที่มีความงดงาม แล้วยังครอบครองพลังอันน่ากลัวแม้จะไม่ได้ฝึกฝนมาก็ตาม
ชิงสุ่ยไม่มีความกังวลใดๆเลยมันคงเป็นเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายใต้ภูเขาแห่งนี้ ไม่ต่างอะไรจากสิ่งที่เป็นปรปักษ์กับพลังแห่งปีศาจอสูร นอกจากนี้พลังรอบตัวของชิงสุ่ยเองก็อยู่ในรูปแบบเดียวกัน พอได้รับพรจากเทพสงคราม Aileen-novel
กลุ่มราชินีปีศาจดูดเลือดคงไม่อาจเป็นภัยคุกคามกลุ่มภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้ ชิงสุ่ยกล่าว
หากเป็นประชาชนทั่วไปของกลุ่มราชินีปีศาจดูดเลือดพวกมันไม่ใช่ภัยคุกคาม คงมีแต่ผู้นำและตัวของราชินีปีศาจดูดเลือดที่เป็นภัยคุกคามเพราะพวกมันไม่เกรงกลัวอำนาจของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ตัวข้านั้นไม่เป็นไร แต่คนของข้าทั้งหมดที่นี่
เมื่อเฉิงเจินกล่าวถึงราชินีปีศาจดูดเลือดดูเหมือนความกังวล และความโกรธแค้นจะปรากฏบนสีหน้าของเธอ การแสดงออกของเธอยิ่งทำให้ชิงสุ่ยรับรู้ถึงการที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ถูกรบกวนโดยกลุ่มราชินีปีศาจดูดเลือด แต่โชคดีที่มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถเข้ามาภายในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้
ถ้าหากมีโอกาสข้าเองก็อยากจะลองพบปะกับพวกชนเผ่ามายาลึกลับเหล่านี้ดูสักครั้ง ชิงสุ่ยกล่าว
พี่สาวเจินดูเหมือนท่านจะไม่อยากออกห่างจากภูเขาแห่งนี้ได้เลยสินะ มูหยุนชิงเก้อกล่าวถาม
ข้าเองเคยจากไปแล้ว2-3 ครั้ง แม้ว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แต่ยังยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง แต่มันจะเป็นการดีถ้าหากข้าสามารถกำราบกลุ่มราชินีปีศาจดูดเลือดและกลุ่มถ้ำมังกรปีศาจ เพราะมันจะทำให้ข้าสบายใจ และจากไปได้โดยไร้กังวล
……………………..
………..
สิ่งที่น่าอึดอัดเกิดขึ้นในตอนกลางคืนอีกครั้งเนื่องจากทั้งสองคนเป็นเหมือนสามีภรรยาทั้งสองจึงถูกจัดให้อยู่ด้วยกันในสถานที่เล็กๆ แน่นอนว่ามันทำให้หัวใจของมูหยุนชิงเก้อเต้นระรัวจนควบคุมไม่ค่อยได้
ภายในห้องนั่งเล่นขนาดประมาณ100 ตารางเมตร แม้ว่าอาจจะดูกว้างแต่เมื่อเทียบกับพื้นที่สัดส่วนในโลกใบนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ค่อนข้างเล็ก
เดี๋ยวข้าจะอยู่ที่ส่วนเจ้าขึ้นไปพักบนชั้น 2 เถิด!! ชิงสุ่ยยิ้ม
อืม มูหยุนชิงเก้อกล่าวขณะก้มศีรษะเล็กน้อย ข้าขอขึ้นไปก่อน
อืมเชิญเลย
ชิงสุ่ยไม่ได้ขึ้นไปข้างบนแต่ก็รู้ดีว่าพื้นที่ทั้งหมดได้ถูกทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชิงสุ่ยเดินไปที่เบาะนั่งก่อนจะนั่งลง
เขานั่งคิดไตร่ตรองดูเหมือนหญิงสาวที่ชื่อว่าเฉิงเจิน จะไม่ได้ขอผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์คืนจากเขาแม้จะรู้ว่าตัวของชิงสุ่ยได้มันไปครอบครองแล้วก็ตาม แต่เรื่องที่เขาทำให้งูมายามหาสมุทรกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา ชิงสุ่ยก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะรู้เรื่องนี้หรือไม่
ผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์คือผลไม้ที่ทรงพลังและมีค่าแต่มันก็เป็นผลไม้ที่ใช้ได้กับสัตว์อสูรประเภทดินเท่านั้น ซึ่งสัตว์อสูรประเภทดินส่วนใหญ่แข็งแกร่งแต่มักเชื่องช้า ผู้คนส่วนมากจึงลังเลที่จะใช้มันเป็นสัตว์อสูรประจำตัว
สัตว์อสูรที่อ่อนแอย่อมไร้ประโยชน์ส่วนสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งก็ทำให้เชื่องยากเกินไป ฉะนั้นทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของตัวผู้ใช้งานเอง มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะเลือกสัตว์อสูรที่อ่อนแอกว่าตนเอง
ในขณะที่ชิงสุ่ยหมกมุ่นอยู่กับความคิดของเขามูหยุนชิงเก้อก็เดินลงมาจากชั้น 2
ชิงสุ่ยแสดงความสับสนเมื่อจ้องมองเธอ มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นรึ
ชั้นบนมีแต่ความว่างเปล่า
ชิงสุ่ยจึงขึ้นไปดูด้วยตัวเองและพบว่ามันไม่มีอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า
ถ้าเป็นเช่นนี้เจ้าก็จงไปนอนที่นอนของข้าเถิด เดี๋ยวข้าจะอยู่ที่นี้เอง ชิงสุ่ยชี้ไปที่เบาะนั่งที่ๆเขาใช้นั่งครุ่นคิด
เออ…….ทำไมเจ้าไม่มานอนในห้องด้วยกันกับข้าล่ะ? มูหยุนชิงเก้อกล่าวถามด้วยน้ำเสียงบางเบา