Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1766 - สกัดจุดหยุดชีพจร
AST
บทที่1766 – สกัดจุดหยุดชีพจร
ชิงสุ่ยไม่กล้าประมาทอีกต่อไปพลังความเร็วเทียบเท่าได้กับพลังกายภาพ ทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงแค่สิ่งเปราะบางเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเร็วเหนือจินตนาการ
ชิงสุ่ยพยายามรักษาความสงบของร่างกายเอาไว้กำลังมุ่งมั่นที่เข้มข้นพร้อมกับภาพหยินหยางช่วยลบล้างความสับสนที่เกิดขึ้นภายในใจของเขา และแล้วเขาก็มองเห็นเส้นทางการเคลื่อนที่ของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ได้อย่างชัดเจน
”ชิงสุ่ยยยยย!!”
มูหยุนชิงเก้อตะโกนด้วยความกระวนกระวายขณะมองดูชิงสุ่ยลอยปลิวไปไกล
”ข้าไม่เป็นไรอย่าได้กังวลเลย”ชิงสุ่ยตอบกลับด้วยความเร่งรีบ
”อย่ากังวลเลยชิงเก้อ เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ไม่ได้คิดลงมือสังหารเขา”เฉิงเจินยิ้มตอบ
ม้าอสูรจันทราสวรรค์เต็มไปด้วยพลังบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์มันจะไม่ฆ่าใครแม้ว่ามันจะโกรธจัดก็ตาม แต่นิสัยของมันก็ยังคงเป็นผู้ที่ชอบเอาชนะศัตรู แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมันเลยก็ตาม
ร่างกายของชิงสุ่ยเคลื่อนที่กระพริบไปมาเหมือนภาพลวงตาและเริ่มหลบหลีกการโจมตีได้อย่างไว การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 ของภาพวาดหยินหยาง ได้ช่วยเสริมทักษะการต่อสู้ของชิงสุ่ยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
โชคดีที่ความเร็วของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ไม่ได้อยู่เกินขีดจำกัดความสามารถของชิงสุ่ยเขาจึงสามารถรับมือมันได้
ฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์!!
มือของชิงสุ่ยแปรเปลี่ยนเป็นหยกสีขาวโปร่งใสจากนั้นเขาก็หลบหลีกอย่างรวดเร็วก่อนจะวางมือลงบนคอของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์
ฮี่!!!!
และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยต้องกระโดดถอยห่างม้าอสูรจันทราสวรรค์เพื่อรอการโจมตีครั้งต่อไป ขณะเดียวกันพลังปราณจิตที่ใช้ต่อสู้ของเขาก็พัฒนาขึ้นทุกครั้งเมื่อปะทะกับอสูรที่อยู่เบื้องหน้า
เฉิงเจินมองดูการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ยด้วยท่าทางตกตะลึงมันเป็นพลังที่ดึงดูดจนทำให้เธอถึงกับอ้าปากค้าง
ไม่มีคำพูดใดที่จะสามารถอธิบายความประหลาดใจที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอได้คนที่มีพละกำลังและขนาดที่ต้อยต่ำกว่าม้าอสูรจันทราสวรรค์กลับสามารถประลองความเร็วกับมันได้ในระดับที่เท่าเทียม……………
ชิงสุ่ยโจมตีม้าอสูรจันทราสวรรค์ด้วยฝ่ามือและพลังโจมตีก็ทำให้เขาตกตะลึง ฝ่ามือไม่เพียงแต่จะไม่ทำร้ายมันเพียง แต่มันเหมือนกับว่าเขาแค่แตะลงบนต้นคอที่บอบบางของมันอย่างอ่อนโยนเท่านั้น
ประกายแสงหยกสีขาวค่อยๆห่อหุ้มร่างกายม้าอสูรจันทราสวรรค์
แสงพิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์!!
นี่คือหนึ่งในทักษะขั้นสูงของม้าอสูรจันทราสวรรค์นอกจากจะทำให้พลังภายนอกที่กำลังปะทะเข้ากับตัวของมันสูญสลาย ประกายแสงยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นภายในตัวของมัน
ม้าอสูรจันทราสวรรค์ยอมสูญเสียพลังปราณติดบางส่วนเพื่อเพิ่มพลังและประสิทธิภาพของร่างกายตอนนี้พลังโจมตีของมันมีโอกาสสูงที่จะสามารถทะลวงผ่านเกราะป้องกันของศัตรูได้
ชิงสุ่ยรับรู้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นถ้าหากเป็นการโจมตีธรรมดาคงยากที่จะทำอันตรายมันทันใดนั้นเขาก็นึกถึงฝ่ามือกระชากมังกร และต้องการทดลองใช้กับเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์
ชิงสุ่ยเริ่มต้นโบกสะบัดมืออย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเพียงแค่เงา
ฝ่ามือกระชากมังกร!!
โฮกกกกกก!!
ร่างมังกรยักษ์ค่อยๆโอบล้อมม้าอสูรจันทราสวรรค์ ชิงสุ่ยไม่กลัวอะไรวะมังกรของเขาจะบีบรัดเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์จนถึงแก่ความตายเพราะเขารู้ดีว่าพลังของมันยังไม่มากพอที่จะจัดการเป้าหมาย
ตูมมมมม!!
แน่นอนว่าในไม่ช้าร่างมังกรที่ปลดปล่อยออกมาจากฝ่ามือกระชากมังกรก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วทักษะนี้อาจจะได้ผลกับสัตว์อสูรหรือมนุษย์ แต่ที่เขารู้คือมันไม่มีทางได้ผลหากโจมตีใส่ม้าอสูรจันทราสวรรค์
หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็พยายามโจมตีหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นอาศัยทักษะจากกรงเล็บมังกรทองคำ และปราณจักรพรรดิ์ ในที่สุดความเร็วของเขาก็เกือบจะได้ทันความเร็วของม้าอสูรจันทราสวรรค์
ณปัจจุบัน ชิงสุ่ยไม่ค่อยรู้สึกอะไรนอกจากอารมณ์เสีย แต่คนที่ตกตะลึงมากที่สุดคงจะเป็นเฉิงเจิน ในสายตาของเธอ เธอไม่สามารถหาคำอธิบายใดมาแทนตัวของชิงสุ่ยได้นอกจากคำว่าปีศาจ
15นาทีผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ชิงสุ่ยรู้ตัวแล้วว่าพลังของเขาใกล้จะหมด และภายในระยะเวลาอันสั้น การจะเอาชนะม้าอสูรจันทราสวรรค์ที่ทั้งแข็งแกร่งคงกระพันว่องไวคงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง หากไม่ใช่เพราะร่างกายของชิงสุ่ยที่ครอบครองความแข็งแกร่งเหนือผู้อื่น เขาก็คงจะพ่ายแพ้ไปนานแล้ว Aileen-novel
ชิงสุ่ยให้คำมั่นสัญญากับเฉิงเจินว่าเขาจะช่วยเธอจับม้าอสูรจันทราสวรรค์ฉะนั้นเขาจะต้องรักษาสัญญา แม้ว่าม้าอสูรจันทราสวรรค์จะไม่ได้ทำให้ชิงสุ่ยบ้า แต่มันทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกท้าทายและกำลังบีบบังคับให้ยอมแพ้
เถาวัลย์ไม้!!
เถาวัลย์พัวพัน!!เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!!
ชิงสุ่ยยังคงตั้งใจใช้ทักษะพันธนาการเพื่อตรึงเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์แต่ดูเหมือนว่ามันจะค้นพบทางนี้รอดทุกครั้ง ในที่สุดชิงสุ่ยก็คิดวิธีเอาชนะศัตรูได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง
จุดชีพจร!!
เส้นลมปราณ!!
ดวงตาของชิงสุ่ยทอแสงเป็นประกายขณะที่เขากำหมัดแสดงท่วงท่าย่างก้าวไทเก๊กรูปภาพหยินหยางหมุนวนอย่างรวดเร็วจนร่างกายของเขาการเป็นเพียงภาพลวงตา พุ่งทะยานเข้าใส่ม้าอสูรจันทราสวรรค์
วิธีที่เขาคิดค้นคือการสกัดจุดหยุดชีพจร!!
ในเมื่อมนุษย์มีจุดชีพจรและเส้นลมปราณสัตว์อสูรก็ย่อมต้องมีไม่ต่างจากมนุษย์เพียงแต่แตกต่างกันที่สถานที่ตั้งของจุด ชิงสุ่ยไม่รู้จักชื่อจุดชีพจรที่อยู่ในตัวของสัตว์ แต่เขารู้วิธีที่จะตามหาจุดสำคัญของมันและใช้ความสามารถของเขาในการบีบบังคับ
ชิงสุ่ยหลบหลีกการโจมตีอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็ใช้หมัดขวากระทุ้งเข้าไปที่ข้อต่อฝั่งขวาของต้นขาหน้าด้านซ้ายของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์
ระเบิด!!
ชิงสุ่ยระเบิดพลังใส่จุดที่เขากำลังปล่อยหมัดกระแทกแน่นอนว่าพลังนี้เป็นเหมือนตัวกระตุ้นที่รวบรวมพลังทั้งหมดคล้ายกับรูปแบบเข็มที่สามารถเจาะทะลวงผ่านการป้องกันทั้งหมด
การโจมตีใส่จุดชีพจรย่อมส่งผลรุนแรงกว่าการโจมตีใส่กระดูกหรือร่างกายเพราะว่าต่อให้เป็นถึงเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ หากถูกโจมตีที่จุดชีพจร คงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่จุดชีพจรจะแข็งแกร่งกว่ากระดูกในร่างกาย
ถ้าหากเป็นมนุษย์ทั่วไปการโจมตีใส่จุดชีพจรเป็นเรื่องที่ยากยิ่งเพราะมันทั้งมีขนาดเล็กและต้องใช้ความแม่นยำสูง แต่เมื่ออยู่ในสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา บริเวณต้นขาของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ใหญ่โตยิ่งกว่ารอบเอวของผู้ชายร่างยักษ์เสียอีก ฉะนั้นการโจมตีของชิงสุ่ยจึงเข้าเป้าหมายและมีความแม่นยำสูง
ปังงงงงง!!
เสียงกระแทกดังฟังชัดกึกก้องไปทั่วพื้นที่เฉิงเจินและมูหยุนชิงเก้อได้แต่มองดูด้วยความประหลาดใจเนื่องจากตอนนี้ม้าอสูรจันทราสวรรค์ถูกกระแทกกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตรด้วยฝีมือของชิงสุ่ย
ฮี่!!
ม้าอสูรจันทราสวรรค์ร่ำร้องขณะที่มันพยายามล่าถอย
ผู้ที่ชาญฉลาดสามารถรู้ถึงจุดอ่อนศัตรูและเอาชนะศัตรูได้แม้จะมีพลังน้อยกว่าศัตรู
แน่นอนว่าชิงสุ่ยยอมต้องไม่ยอมให้เสียโอกาสที่เขาอุตส่าห์คิดค้นวิธีกำราบเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์เขาไล่ตามมันจากนั้นก็ปล่อยหมัดโจมตีมันไปอีกครั้ง
ปังงงงงงงงง!!
ในช่วงพริบตาขาวก็ไปปรากฏตัวอยู่ด้านหลังม้าอสูรจันทราสวรรค์ราวกับปีศาจ
ปังงงงงงง!!
เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์พยายามเตะชิงสุ่ยแต่ชิงสุ่ยก็สามารถหลบหลีกได้อย่างทันท่วงที
ฮี่!!!
ในขณะที่ชิงสุ่ยใกล้จะเผด็จศึกแต่แล้วเขาก็รับรู้ได้ถึงพลังปราณจิตที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน จากนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น
”ชิงสุ่ยระวัง นั้นมัน ท่าคลื่นกระแทกแสงศักดิ์สิทธิ์!!”
บทที่1766 – สกัดจุดหยุดชีพจร
ชิงสุ่ยไม่กล้าประมาทอีกต่อไปพลังความเร็วเทียบเท่าได้กับพลังกายภาพ ทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงแค่สิ่งเปราะบางเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเร็วเหนือจินตนาการ
ชิงสุ่ยพยายามรักษาความสงบของร่างกายเอาไว้กำลังมุ่งมั่นที่เข้มข้นพร้อมกับภาพหยินหยางช่วยลบล้างความสับสนที่เกิดขึ้นภายในใจของเขา และแล้วเขาก็มองเห็นเส้นทางการเคลื่อนที่ของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ได้อย่างชัดเจน
”ชิงสุ่ยยยยย!!”
มูหยุนชิงเก้อตะโกนด้วยความกระวนกระวายขณะมองดูชิงสุ่ยลอยปลิวไปไกล
”ข้าไม่เป็นไรอย่าได้กังวลเลย”ชิงสุ่ยตอบกลับด้วยความเร่งรีบ
”อย่ากังวลเลยชิงเก้อ เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ไม่ได้คิดลงมือสังหารเขา”เฉิงเจินยิ้มตอบ
ม้าอสูรจันทราสวรรค์เต็มไปด้วยพลังบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์มันจะไม่ฆ่าใครแม้ว่ามันจะโกรธจัดก็ตาม แต่นิสัยของมันก็ยังคงเป็นผู้ที่ชอบเอาชนะศัตรู แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมันเลยก็ตาม
ร่างกายของชิงสุ่ยเคลื่อนที่กระพริบไปมาเหมือนภาพลวงตาและเริ่มหลบหลีกการโจมตีได้อย่างไว การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 ของภาพวาดหยินหยาง ได้ช่วยเสริมทักษะการต่อสู้ของชิงสุ่ยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
โชคดีที่ความเร็วของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ไม่ได้อยู่เกินขีดจำกัดความสามารถของชิงสุ่ยเขาจึงสามารถรับมือมันได้
ฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์!!
มือของชิงสุ่ยแปรเปลี่ยนเป็นหยกสีขาวโปร่งใสจากนั้นเขาก็หลบหลีกอย่างรวดเร็วก่อนจะวางมือลงบนคอของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์
ฮี่!!!!
และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยต้องกระโดดถอยห่างม้าอสูรจันทราสวรรค์เพื่อรอการโจมตีครั้งต่อไป ขณะเดียวกันพลังปราณจิตที่ใช้ต่อสู้ของเขาก็พัฒนาขึ้นทุกครั้งเมื่อปะทะกับอสูรที่อยู่เบื้องหน้า
เฉิงเจินมองดูการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ยด้วยท่าทางตกตะลึงมันเป็นพลังที่ดึงดูดจนทำให้เธอถึงกับอ้าปากค้าง
ไม่มีคำพูดใดที่จะสามารถอธิบายความประหลาดใจที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอได้คนที่มีพละกำลังและขนาดที่ต้อยต่ำกว่าม้าอสูรจันทราสวรรค์กลับสามารถประลองความเร็วกับมันได้ในระดับที่เท่าเทียม……………
ชิงสุ่ยโจมตีม้าอสูรจันทราสวรรค์ด้วยฝ่ามือและพลังโจมตีก็ทำให้เขาตกตะลึง ฝ่ามือไม่เพียงแต่จะไม่ทำร้ายมันเพียง แต่มันเหมือนกับว่าเขาแค่แตะลงบนต้นคอที่บอบบางของมันอย่างอ่อนโยนเท่านั้น
ประกายแสงหยกสีขาวค่อยๆห่อหุ้มร่างกายม้าอสูรจันทราสวรรค์
แสงพิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์!!
นี่คือหนึ่งในทักษะขั้นสูงของม้าอสูรจันทราสวรรค์นอกจากจะทำให้พลังภายนอกที่กำลังปะทะเข้ากับตัวของมันสูญสลาย ประกายแสงยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นภายในตัวของมัน
ม้าอสูรจันทราสวรรค์ยอมสูญเสียพลังปราณติดบางส่วนเพื่อเพิ่มพลังและประสิทธิภาพของร่างกายตอนนี้พลังโจมตีของมันมีโอกาสสูงที่จะสามารถทะลวงผ่านเกราะป้องกันของศัตรูได้
ชิงสุ่ยรับรู้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นถ้าหากเป็นการโจมตีธรรมดาคงยากที่จะทำอันตรายมันทันใดนั้นเขาก็นึกถึงฝ่ามือกระชากมังกร และต้องการทดลองใช้กับเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์
ชิงสุ่ยเริ่มต้นโบกสะบัดมืออย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเพียงแค่เงา
ฝ่ามือกระชากมังกร!!
โฮกกกกกก!!
ร่างมังกรยักษ์ค่อยๆโอบล้อมม้าอสูรจันทราสวรรค์ ชิงสุ่ยไม่กลัวอะไรวะมังกรของเขาจะบีบรัดเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์จนถึงแก่ความตายเพราะเขารู้ดีว่าพลังของมันยังไม่มากพอที่จะจัดการเป้าหมาย
ตูมมมมม!!
แน่นอนว่าในไม่ช้าร่างมังกรที่ปลดปล่อยออกมาจากฝ่ามือกระชากมังกรก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วทักษะนี้อาจจะได้ผลกับสัตว์อสูรหรือมนุษย์ แต่ที่เขารู้คือมันไม่มีทางได้ผลหากโจมตีใส่ม้าอสูรจันทราสวรรค์
หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็พยายามโจมตีหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นอาศัยทักษะจากกรงเล็บมังกรทองคำ และปราณจักรพรรดิ์ ในที่สุดความเร็วของเขาก็เกือบจะได้ทันความเร็วของม้าอสูรจันทราสวรรค์
ณปัจจุบัน ชิงสุ่ยไม่ค่อยรู้สึกอะไรนอกจากอารมณ์เสีย แต่คนที่ตกตะลึงมากที่สุดคงจะเป็นเฉิงเจิน ในสายตาของเธอ เธอไม่สามารถหาคำอธิบายใดมาแทนตัวของชิงสุ่ยได้นอกจากคำว่าปีศาจ
15นาทีผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ชิงสุ่ยรู้ตัวแล้วว่าพลังของเขาใกล้จะหมด และภายในระยะเวลาอันสั้น การจะเอาชนะม้าอสูรจันทราสวรรค์ที่ทั้งแข็งแกร่งคงกระพันว่องไวคงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง หากไม่ใช่เพราะร่างกายของชิงสุ่ยที่ครอบครองความแข็งแกร่งเหนือผู้อื่น เขาก็คงจะพ่ายแพ้ไปนานแล้ว Aileen-novel
ชิงสุ่ยให้คำมั่นสัญญากับเฉิงเจินว่าเขาจะช่วยเธอจับม้าอสูรจันทราสวรรค์ฉะนั้นเขาจะต้องรักษาสัญญา แม้ว่าม้าอสูรจันทราสวรรค์จะไม่ได้ทำให้ชิงสุ่ยบ้า แต่มันทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกท้าทายและกำลังบีบบังคับให้ยอมแพ้
เถาวัลย์ไม้!!
เถาวัลย์พัวพัน!!เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!!
ชิงสุ่ยยังคงตั้งใจใช้ทักษะพันธนาการเพื่อตรึงเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์แต่ดูเหมือนว่ามันจะค้นพบทางนี้รอดทุกครั้ง ในที่สุดชิงสุ่ยก็คิดวิธีเอาชนะศัตรูได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง
จุดชีพจร!!
เส้นลมปราณ!!
ดวงตาของชิงสุ่ยทอแสงเป็นประกายขณะที่เขากำหมัดแสดงท่วงท่าย่างก้าวไทเก๊กรูปภาพหยินหยางหมุนวนอย่างรวดเร็วจนร่างกายของเขาการเป็นเพียงภาพลวงตา พุ่งทะยานเข้าใส่ม้าอสูรจันทราสวรรค์
วิธีที่เขาคิดค้นคือการสกัดจุดหยุดชีพจร!!
ในเมื่อมนุษย์มีจุดชีพจรและเส้นลมปราณสัตว์อสูรก็ย่อมต้องมีไม่ต่างจากมนุษย์เพียงแต่แตกต่างกันที่สถานที่ตั้งของจุด ชิงสุ่ยไม่รู้จักชื่อจุดชีพจรที่อยู่ในตัวของสัตว์ แต่เขารู้วิธีที่จะตามหาจุดสำคัญของมันและใช้ความสามารถของเขาในการบีบบังคับ
ชิงสุ่ยหลบหลีกการโจมตีอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็ใช้หมัดขวากระทุ้งเข้าไปที่ข้อต่อฝั่งขวาของต้นขาหน้าด้านซ้ายของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์
ระเบิด!!
ชิงสุ่ยระเบิดพลังใส่จุดที่เขากำลังปล่อยหมัดกระแทกแน่นอนว่าพลังนี้เป็นเหมือนตัวกระตุ้นที่รวบรวมพลังทั้งหมดคล้ายกับรูปแบบเข็มที่สามารถเจาะทะลวงผ่านการป้องกันทั้งหมด
การโจมตีใส่จุดชีพจรย่อมส่งผลรุนแรงกว่าการโจมตีใส่กระดูกหรือร่างกายเพราะว่าต่อให้เป็นถึงเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ หากถูกโจมตีที่จุดชีพจร คงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่จุดชีพจรจะแข็งแกร่งกว่ากระดูกในร่างกาย
ถ้าหากเป็นมนุษย์ทั่วไปการโจมตีใส่จุดชีพจรเป็นเรื่องที่ยากยิ่งเพราะมันทั้งมีขนาดเล็กและต้องใช้ความแม่นยำสูง แต่เมื่ออยู่ในสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา บริเวณต้นขาของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ใหญ่โตยิ่งกว่ารอบเอวของผู้ชายร่างยักษ์เสียอีก ฉะนั้นการโจมตีของชิงสุ่ยจึงเข้าเป้าหมายและมีความแม่นยำสูง
ปังงงงงง!!
เสียงกระแทกดังฟังชัดกึกก้องไปทั่วพื้นที่เฉิงเจินและมูหยุนชิงเก้อได้แต่มองดูด้วยความประหลาดใจเนื่องจากตอนนี้ม้าอสูรจันทราสวรรค์ถูกกระแทกกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตรด้วยฝีมือของชิงสุ่ย
ฮี่!!
ม้าอสูรจันทราสวรรค์ร่ำร้องขณะที่มันพยายามล่าถอย
ผู้ที่ชาญฉลาดสามารถรู้ถึงจุดอ่อนศัตรูและเอาชนะศัตรูได้แม้จะมีพลังน้อยกว่าศัตรู
แน่นอนว่าชิงสุ่ยยอมต้องไม่ยอมให้เสียโอกาสที่เขาอุตส่าห์คิดค้นวิธีกำราบเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์เขาไล่ตามมันจากนั้นก็ปล่อยหมัดโจมตีมันไปอีกครั้ง
ปังงงงงงงงง!!
ในช่วงพริบตาขาวก็ไปปรากฏตัวอยู่ด้านหลังม้าอสูรจันทราสวรรค์ราวกับปีศาจ
ปังงงงงงง!!
เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์พยายามเตะชิงสุ่ยแต่ชิงสุ่ยก็สามารถหลบหลีกได้อย่างทันท่วงที
ฮี่!!!
ในขณะที่ชิงสุ่ยใกล้จะเผด็จศึกแต่แล้วเขาก็รับรู้ได้ถึงพลังปราณจิตที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน จากนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น
”ชิงสุ่ยระวัง นั้นมัน ท่าคลื่นกระแทกแสงศักดิ์สิทธิ์!!”