Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1790 - อัศวินหญิงควบม้าพยศ ความงามที่เคลื่อนไหวราวกับกิ่งดอกท้อ
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1790 - อัศวินหญิงควบม้าพยศ ความงามที่เคลื่อนไหวราวกับกิ่งดอกท้อ
AST
บทที่1790 – อัศวินหญิงควบม้าพยศ ความงามที่เคลื่อนไหวราวกับกิ่งดอกท้อ
ชิงสุ่ยค่อยๆเดินทะลุถ้ำทะลวงผ่านถึงใจกลางหุบเขาอย่างช้าๆจากนั้นเขาก็เริ่มมองเห็นเงาที่แสนคุ้นเคย กลิ่นหอมแสนคนเคยจากร่างกายของหญิงสาวผู้หนึ่งที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
หญิงสาวที่มีความสง่างามใบหน้าที่โดดเด่นดวงตาที่เป็นไปด้วยความเฉลียวฉลาด ผิวหนังสีขาวนวลพร้อมกับรูปร่างกายที่พิถีพิถันอ่อนโยน สะโพกและก้นที่โค้งมน มาพร้อมกับเสื้อผ้าที่ขนานนาบไปกับร่างกาย โอบรัดทุกสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ
ห่ายต่งชิง!!
วันเวลาอันแสนยาวนานผ่านพ้นเธอก็ยังคงแต่งกายในชุดลักษณะแบบเดิมชิงสุ่ยจ้องมองหญิงสาวคนนั้นก่อนจะเดินเข้าไปปรากฏตัวข้างหลังเธอ และอุ้มเธอขึ้นมาในชั่วพริบตา
แต่ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นมาได้สำเร็จมือของเธอสะบัดกลับมาพร้อมสังหารคนที่แอบเข้ามาทางข้างหลัง แต่หลังจากที่เธอได้กลิ่นหอมหวลอันแสนคุ้นเคย เธอก็จดจำภาพลักษณ์ของชายที่เธอปรารถนาฝันถึงทั้งกลางวันกลางคืน
”ชิงสุ่ยยย!!”
เปรี๊ยะ!!
ชิงสุ่ยตบลงบนก้นที่โค้งมนก่อนจะยิ้มให้กับเธอ “เจ้าไม่ดีใจเหรอที่สามีของเจ้ามาหา ทำไมเจ้าถึงคิดสังหารสามีของเจ้า”
”ข้าผิดไปแล้วได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยคุณชายชิง”ห่าย ต่งชิงมองดูชิงสุ่ยด้วยสายตาคนอายแต่ก็แทรกไปด้วยความสุขที่มากมายเหลือคณานับ
”ถ้าเช่นนั้นคืนนี้เจ้าจะต้องถูกลงโทษ”ชิงสุ่ยมองดูห่ายต่งชิงพร้อมกับรอยยิ้ม
ดวงตาที่ทรงเสน่ห์ของห่ายต่งชิงบ่งบอกถึงความเขินอายอย่างเปิดเผย “ข้าไม่กลัวเจ้าสิ่งนั้นหรอกนะ..”
และแล้วบุคคลที่น่าหลงใหลอีกคนนึงก็ปรากฏดวงตาของติ๊ชิงเปล่งประกายทันทีที่ได้พบชิงสุ่ย เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าชายคนนี้จะมาปรากฏตัวในช่วงเวลาที่เธอไม่คาดคิด เธอวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกับความสุขที่กำลังเบ่งบานในจิตใจ
ห่ายต่งชิงพยายามผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดชิงสุ่ยแต่ดูเหมือนชิงสุ่ยจะไม่ยอมปล่อยเธอไป ขณะเดียวกันเขาก็ยื่นแขนอีกข้างหนึ่งเพื่อกอดติ๊ชิง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วทั้งสองก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของชิงสุ่ย
”ชิงสุ่ยยย!!”
”เมื่อคืนข้าฝันถึงเจ้าใครจะคิดว่าเจ้าจะมาปรากฏตัวจริงๆ”ติ๊ชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข
”ข้าไปทำอะไรในฝันของเจ้าบ้าง”ชิงสุ่ยกล่าวหยอกล้ออย่างสนุกสนาน ใบหน้าของติ๊ชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเธอเองก็คิดถึงเขาทุกวันทุกคืนแน่นอนว่าในฝันจึงเต็มไปด้วยความเร่าร้อน มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่มนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
”เจ้าคนร้ายย!!”
”ว่าแต่ที่เหลือละ?”ชิงสุ่ยไม่เห็นหรือแม้แต่กลิ่นติ๊เฉินและเหวินเหรินอูซวง
”พวกนางไปจัดการเรื่องของนิกายบงกชเทวะอีกไม่นานพวกนางก็คงกลับมา”ห่ายต่งชิงกล่าว
”ถ้าเช่นนั้นก็คงต้องใช้เวลาทำไมพวกเราไม่ไปรอกันในห้องละ”ชิงสุ่ยกล่าวเบาๆ พร้อมกับสีหน้าแดงกล่ำของหญิงสาวทั้งสอง
ความหมายในคำพูดของชิงสุ่ยนั้นชัดเจนมากและเขาก็รีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ตัวของเขาเองก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับพวกเธอมานานมาก ช่างน่าแปลกที่เขาเองก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์พร้อมกันสามคน ไปจากความรู้สึกของเขาเขารู้สึกว่าการนอนกับผู้หญิง2 คนพร้อมกันเป็นการไม่ให้เกียรติและดูหมิ่นหญิงสาว หญิงสาวทุกคนของเขามีความงามอยู่ในระดับเทพธิดา ที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะในใจก็เต็มไปด้วยความละอาย
แต่เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้นความผูกพันระหว่างเขาและบรรดาหญิงสาวก้นลึกซึ้งมากขึ้นทุกคนต่างร่วมฟันฝ่าอุปสรรค แม้ว่าความสนุกภายในห้องนอนจะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่มันก็คือส่วนเสริมของความรัก
ดวงตาของชิงสุ่ยเต็มไปด้วยความเร่าร้อนหลังจากที่เขาพาหญิงสาวทั้งสองคนเข้าไปในห้อง
”ชิงสุ่ยถ้าพวกนางกลับมา……”ห่ายต่งชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาบาง
เธอไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เขาจะทำแต่เธอกลัวการถูกรบกวน
”ข้าจะทำให้ไวที่สุด”ชิงสุ่ยไม่อยากพลาดโอกาสครั้งนี้ ติ๊ชิงและห่ายต่งชิงต่างก็เป็นหญิงสาวที่กล้าหาญแม้เธอจะรู้สึกเขินอายแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร………
หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาปิดประตูห้องนอนอย่างรวดเร็วแม้จะไม่รู้ว่าเจ้าของห้องคือใครแต่จากกลิ่นที่อยู่ภายในห้องเขาพอจะระบุได้ว่านี่คือห้องของติ๊ชิง
ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากจนไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไรเขาอุ้มหญิงสาวทั้ง 2 คนขึ้นไปบนเตียง ซึ่งทั้งคู่เองก็เขิลอายจนไม่แม้แต่จะขยับตัว สถานการณ์บีบคั้นให้ชิงสุ่ยต้องก้าวมาอยู่ในจุดที่น่าอึดอัดใจ
ชิงสุ่ยเริ่มบรรจงจูบริมฝีปากห่ายต่งชิงขณะที่มือของเขายังคงเลื้อยไปตามร่างกายของติ๊ชิง
”ต่งชิงข้ารู้ว่าเจ้าต้องการอย่างไร”ชิงสุ่ยพูดไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรต่อ
แม้ว่าห่ายต่งชิงจะเขินอายเธอก็เริ่มกัดฟันถอดเสื้อผ้าของเธอทีละชิ้น ……………
……
ห่ายต่งชิงนั่งคร่อมอยู่เหนือร่างกายชิงสุ่ยเหมือนกับอัศวินหญิงที่อยู่บนม้าพยศการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนดอกท้อที่กำลังโบกสะบัดไปตามสายลมเหนือโลกของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยบรรจงจูบริมฝีปากติ๊ชิงโดยที่มือของเขาไหลผ่านผิวหนังและเนินอกอันโค้งมนอย่างนุ่มนวล ยอดปทุมถันสีขาวนวลชูชันสู้นิ้วมือชิงสุ่ย
……………………..
……………
หญิงสาวทั้งสองคนผลัดกันรุกรับกระบวนท่าที่ชิงสุ่ยปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงจุดสูงสุดที่เขาไม่อาจอดกลั้นและอีกสุดท้ายเขาก็ต้องระเบิดพลังแห่งความสุขถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายห่ายต่งชิง
หลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่งหญิงสาวทั้งสองคนก็หันมาสบตากันจากนั้นพวกเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมใบหน้าแดงกล่ำ
ชิงสุ่ยต้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันคือสิ่งที่เขาก็เคยคิดถวิลหา จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้เติมเต็มมัน
บทที่1790 – อัศวินหญิงควบม้าพยศ ความงามที่เคลื่อนไหวราวกับกิ่งดอกท้อ
ชิงสุ่ยค่อยๆเดินทะลุถ้ำทะลวงผ่านถึงใจกลางหุบเขาอย่างช้าๆจากนั้นเขาก็เริ่มมองเห็นเงาที่แสนคุ้นเคย กลิ่นหอมแสนคนเคยจากร่างกายของหญิงสาวผู้หนึ่งที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
หญิงสาวที่มีความสง่างามใบหน้าที่โดดเด่นดวงตาที่เป็นไปด้วยความเฉลียวฉลาด ผิวหนังสีขาวนวลพร้อมกับรูปร่างกายที่พิถีพิถันอ่อนโยน สะโพกและก้นที่โค้งมน มาพร้อมกับเสื้อผ้าที่ขนานนาบไปกับร่างกาย โอบรัดทุกสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ
ห่ายต่งชิง!!
วันเวลาอันแสนยาวนานผ่านพ้นเธอก็ยังคงแต่งกายในชุดลักษณะแบบเดิมชิงสุ่ยจ้องมองหญิงสาวคนนั้นก่อนจะเดินเข้าไปปรากฏตัวข้างหลังเธอ และอุ้มเธอขึ้นมาในชั่วพริบตา
แต่ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นมาได้สำเร็จมือของเธอสะบัดกลับมาพร้อมสังหารคนที่แอบเข้ามาทางข้างหลัง แต่หลังจากที่เธอได้กลิ่นหอมหวลอันแสนคุ้นเคย เธอก็จดจำภาพลักษณ์ของชายที่เธอปรารถนาฝันถึงทั้งกลางวันกลางคืน
”ชิงสุ่ยยย!!”
เปรี๊ยะ!!
ชิงสุ่ยตบลงบนก้นที่โค้งมนก่อนจะยิ้มให้กับเธอ “เจ้าไม่ดีใจเหรอที่สามีของเจ้ามาหา ทำไมเจ้าถึงคิดสังหารสามีของเจ้า”
”ข้าผิดไปแล้วได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยคุณชายชิง”ห่าย ต่งชิงมองดูชิงสุ่ยด้วยสายตาคนอายแต่ก็แทรกไปด้วยความสุขที่มากมายเหลือคณานับ
”ถ้าเช่นนั้นคืนนี้เจ้าจะต้องถูกลงโทษ”ชิงสุ่ยมองดูห่ายต่งชิงพร้อมกับรอยยิ้ม
ดวงตาที่ทรงเสน่ห์ของห่ายต่งชิงบ่งบอกถึงความเขินอายอย่างเปิดเผย “ข้าไม่กลัวเจ้าสิ่งนั้นหรอกนะ..”
และแล้วบุคคลที่น่าหลงใหลอีกคนนึงก็ปรากฏดวงตาของติ๊ชิงเปล่งประกายทันทีที่ได้พบชิงสุ่ย เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าชายคนนี้จะมาปรากฏตัวในช่วงเวลาที่เธอไม่คาดคิด เธอวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกับความสุขที่กำลังเบ่งบานในจิตใจ
ห่ายต่งชิงพยายามผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดชิงสุ่ยแต่ดูเหมือนชิงสุ่ยจะไม่ยอมปล่อยเธอไป ขณะเดียวกันเขาก็ยื่นแขนอีกข้างหนึ่งเพื่อกอดติ๊ชิง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วทั้งสองก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของชิงสุ่ย
”ชิงสุ่ยยย!!”
”เมื่อคืนข้าฝันถึงเจ้าใครจะคิดว่าเจ้าจะมาปรากฏตัวจริงๆ”ติ๊ชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข
”ข้าไปทำอะไรในฝันของเจ้าบ้าง”ชิงสุ่ยกล่าวหยอกล้ออย่างสนุกสนาน ใบหน้าของติ๊ชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเธอเองก็คิดถึงเขาทุกวันทุกคืนแน่นอนว่าในฝันจึงเต็มไปด้วยความเร่าร้อน มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่มนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
”เจ้าคนร้ายย!!”
”ว่าแต่ที่เหลือละ?”ชิงสุ่ยไม่เห็นหรือแม้แต่กลิ่นติ๊เฉินและเหวินเหรินอูซวง
”พวกนางไปจัดการเรื่องของนิกายบงกชเทวะอีกไม่นานพวกนางก็คงกลับมา”ห่ายต่งชิงกล่าว
”ถ้าเช่นนั้นก็คงต้องใช้เวลาทำไมพวกเราไม่ไปรอกันในห้องละ”ชิงสุ่ยกล่าวเบาๆ พร้อมกับสีหน้าแดงกล่ำของหญิงสาวทั้งสอง
ความหมายในคำพูดของชิงสุ่ยนั้นชัดเจนมากและเขาก็รีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ตัวของเขาเองก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับพวกเธอมานานมาก ช่างน่าแปลกที่เขาเองก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์พร้อมกันสามคน ไปจากความรู้สึกของเขาเขารู้สึกว่าการนอนกับผู้หญิง2 คนพร้อมกันเป็นการไม่ให้เกียรติและดูหมิ่นหญิงสาว หญิงสาวทุกคนของเขามีความงามอยู่ในระดับเทพธิดา ที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะในใจก็เต็มไปด้วยความละอาย
แต่เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้นความผูกพันระหว่างเขาและบรรดาหญิงสาวก้นลึกซึ้งมากขึ้นทุกคนต่างร่วมฟันฝ่าอุปสรรค แม้ว่าความสนุกภายในห้องนอนจะไม่ใช่ทุกอย่าง แต่มันก็คือส่วนเสริมของความรัก
ดวงตาของชิงสุ่ยเต็มไปด้วยความเร่าร้อนหลังจากที่เขาพาหญิงสาวทั้งสองคนเข้าไปในห้อง
”ชิงสุ่ยถ้าพวกนางกลับมา……”ห่ายต่งชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาบาง
เธอไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เขาจะทำแต่เธอกลัวการถูกรบกวน
”ข้าจะทำให้ไวที่สุด”ชิงสุ่ยไม่อยากพลาดโอกาสครั้งนี้ ติ๊ชิงและห่ายต่งชิงต่างก็เป็นหญิงสาวที่กล้าหาญแม้เธอจะรู้สึกเขินอายแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร………
หลังจากนั้นชิงสุ่ยก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาปิดประตูห้องนอนอย่างรวดเร็วแม้จะไม่รู้ว่าเจ้าของห้องคือใครแต่จากกลิ่นที่อยู่ภายในห้องเขาพอจะระบุได้ว่านี่คือห้องของติ๊ชิง
ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากจนไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไรเขาอุ้มหญิงสาวทั้ง 2 คนขึ้นไปบนเตียง ซึ่งทั้งคู่เองก็เขิลอายจนไม่แม้แต่จะขยับตัว สถานการณ์บีบคั้นให้ชิงสุ่ยต้องก้าวมาอยู่ในจุดที่น่าอึดอัดใจ
ชิงสุ่ยเริ่มบรรจงจูบริมฝีปากห่ายต่งชิงขณะที่มือของเขายังคงเลื้อยไปตามร่างกายของติ๊ชิง
”ต่งชิงข้ารู้ว่าเจ้าต้องการอย่างไร”ชิงสุ่ยพูดไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรต่อ
แม้ว่าห่ายต่งชิงจะเขินอายเธอก็เริ่มกัดฟันถอดเสื้อผ้าของเธอทีละชิ้น ……………
……
ห่ายต่งชิงนั่งคร่อมอยู่เหนือร่างกายชิงสุ่ยเหมือนกับอัศวินหญิงที่อยู่บนม้าพยศการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนดอกท้อที่กำลังโบกสะบัดไปตามสายลมเหนือโลกของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยบรรจงจูบริมฝีปากติ๊ชิงโดยที่มือของเขาไหลผ่านผิวหนังและเนินอกอันโค้งมนอย่างนุ่มนวล ยอดปทุมถันสีขาวนวลชูชันสู้นิ้วมือชิงสุ่ย
……………………..
……………
หญิงสาวทั้งสองคนผลัดกันรุกรับกระบวนท่าที่ชิงสุ่ยปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงจุดสูงสุดที่เขาไม่อาจอดกลั้นและอีกสุดท้ายเขาก็ต้องระเบิดพลังแห่งความสุขถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายห่ายต่งชิง
หลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่งหญิงสาวทั้งสองคนก็หันมาสบตากันจากนั้นพวกเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมใบหน้าแดงกล่ำ
ชิงสุ่ยต้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันคือสิ่งที่เขาก็เคยคิดถวิลหา จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้เติมเต็มมัน