Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1797 - พลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 ระดับพลัง 330,000 เต๋า
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1797 - พลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 ระดับพลัง 330,000 เต๋า
AST
บทที่1797 – พลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 ระดับพลัง 330,000 เต๋า
ชิงสุ่ยได้รับรู้ถึงพลังอันน่ากลัวของทัณฑ์สวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แม้เส้นสายฟ้าจะดูมีขนาดเล็กปริมาณพลังของมันกับเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ
ชิงสุ่ยไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเช่นนี้มานานมกาแล้วเสื้อผ้าของเขาสลายกลายเป็นฝุ่นผง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยพกช้ำ บางแห่งก็มีรอยสีจุดเทาปรากฏ
ทัณฑ์สวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มีผลในการชำระล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในร่างกายผลลัพธ์ของมันถือว่าเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ และด้วยร่างกายปัจจุบันของชิงสุ่ย อนุมานได้อย่างง่ายๆว่าร่างกายของเขาแทบไร้ซึ่งสิ่งสกปรกที่อุดตันภายในเส้นลมปราณ ฉะนั้นสิ่งสกปรกที่ออกมาจึงมีปริมาณน้อยแต่ยังพอสัมผัสได้ ถ้าหากสิ่งสกปรกมีสีดำและมีอุณหภูมิที่สูงมากมันก็หมายความว่าร่างกายของคนคนนั้นมีสิ่งสกปรกมาก แต่ถ้าหากสีของพวกมันดูจืดจาง ก็แสดงถึงสิ่งสกปรกที่มีจำนวนน้อย
ครึ้นนนน-ครึ้นนนน!!!
ท้องฟ้าส่งเสียงร้องกึกก้องภายในชั่วพริบตาสายฟ้าขนาดมหึมาก็ตามมาอย่างรวดเร็วเมื่อถึงจุดนี้ชิงสุ่ยจึงรีบโคจรพลังสูงสุดด้วยความไม่ประหมาทอีกต่อไป
ปังงงง!!!
ร่างกายของชิงสุ่ยสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงหลังจากนั้นพลังงานที่น่ากลัวก็เริ่มดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาอีกครั้ง มันไหลพุ่งพ่านอยู่ภายในเส้นลมปราณส่งผลให้พวกมันสะเทือนอย่างรุนแรง แน่นอนว่าคลื่นพลังทั้งหมดกำลังสร้างความหายนะให้กับร่างกายของเขา
ความเจ็บปวดทุกข์ระทมเหมือนกับว่าร่างกายกำลังฉีกขาดออกจากกันโชคดีที่ระดับความอดทนของชิงสุ่ยได้ถูกพัฒนาให้แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาจึงปรากฏเฉพาะรอยบาดแผล อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาถูกฟ้าผ่า วิญญาณของเขากลับได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงเหมือนกับว่าร่างกายและวิญญาณของเขากำลังจะแยกจากกัน
และแล้วจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางที่อยู่ในร่างกายของเขาก็ส่งเสียงคำราม พลังที่ผิดปกติภายในร่างกายก็ถูกระงับให้หยุดลงอย่างฉับพลัน
การสั่นสะเทือนของจิตวิญญาณชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันเป็นเพียงแค่ความรู้สึก แม้ว่าจิตวิญญาณแท้จริงของเขาจะเป็นอย่างไร หรือมันจะคืออะไรกันแน่ เขาก็ถือรวมว่ามันคือสติสัมปชัญญะ ถ้าหากเขายังคงไว้ได้วิญญาณของเขาก็ยังคงอยู่
เปล้งงงงงงงง!!!
เสียงร้องดังกึกก้องมาจากภายในร่างกายชิงสุ่ยมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าชายฝั่งแม่น้ำกำลังเกิดแรงระเบิด ตอนนี้เส้นลมปราณที่อยู่ภายในร่างกายของเขากำลังออกผลงดงามราวกับทิวทัศน์ของภูเขาและทะเล
มันเปรียบเสมือนโลกอันแสนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยทะเลสาบและแม่น้ำใสสะอาดเป็นระเบียบภายในสามารถมองเห็นท้องฟ้าดวงดาวได้อย่างชัดเจน ไม่ต่างอะไรจากโลกที่เต็มไปด้วยป่าและผืนน้ำ
ทุกอย่างถูกจัดให้เป็นระเบียบวนเวียนเป็นวัฏจักรผสมปนเปไประหว่างองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 ลำห้วยค่อยๆกลายเป็นแม่น้ำ แม่น้ำค่อยๆกลายเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ ก่อนที่จะไหลลงไปรวมในผืนน้ำมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล หยดน้ำค่อยๆระเหยกลายเป็นก้อนเมฆในท้องฟ้า เหนือท้องฟ้าปรากฏให้เห็นเป็นกระแสสายฟ้า ผ่าลงสู่แผ่นดิน ก่อให้เกิดฝนตกหนัก และสายน้ำจากสายฝนก็ไหลกลับสู่แม่น้ำ
ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับว่าเขากำลังมองเห็นพื้นหญ้าที่เก่าแก่ต้นไม้โบราณกำลังเติบโตภายในดินแดนเส้นลมปราณ มันเหมือนกับว่ามีสัตว์กินพืชคอยดูแลวัฏจักรอยู่ภายใน ทันใดนั้นสัตว์อสูรที่ดุร้ายก็ปรากฏตัว มันเข้าไปฉีกขย้ำสัตว์กินพืช จากนั้นมันก็ตายไปเพราะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่า………ท้ายที่สุดผู้ที่แข็งแกร่งก็สามารถสังหารผู้ที่อ่อนแอกว่าได้เสมอ
กฎสวรรค์เทวะแห่งเต๋า!!นี่คือกฎสวรรค์เทวะแห่งเต๋า
ชิงสุ่ยรับรู้ถึงพลังแห่งเต่าที่กำลังเอ่อล้นภายในร่างกายพลังที่ถูกเติมเต็มทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก ทันใดนั้นพลังปราณที่รุนแรงก็เริ่มปรากฏขึ้นภายในจุดตันเถียน มันกำลังแหวกว่ายภายในเส้นลมปราณของเขาด้วยความเร็ว ทุกที่ที่มันผ่านมันจะดูดซึมพลังงานสายฟ้าเข้ามากักเก็บไว้ภายในตัวของมัน
ต้นกำเนิดแห่งพลังปราณภายในร่างกายของเขากำลังขยายใหญ่เหมือนกับมังกรทองพร้อมกลับให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันกำลังออกเดินทางท่องโลกกว้าง
………………………
.เมื่อทุกอย่างสงบสุขลงมันเหมือนกับเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝัน ชิงสุ่ยต้องมองตัวเองที่เพิ่งตื่นจากความฝันอันยาวนาน ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกสีเทาครอบคลุมทั่วทางร่างกาย กลิ่นของมันเหม็นยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยผ่านมา
เขารีบลุกขึ้นตรงไปล้างตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อความสะดวกสบาย
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จสิ้นชิงสุ่ยก็เริ่มสังเกตเห็นความแข็งแกร่งของเขา เขายืนยันได้ทันทีว่าพลังของเขาได้อยู่เหนือระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ของเขาแม้จะมีค่าใกล้เคียงกับระดับ130,000 เต๋า แต่พลังของเขาก็ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 และแม้ตอนนี้จะได้รับการยืนยันได้ว่าเขาได้ก้าวสู่ระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 แล้ว เขาเองก็ยังไม่เข้าใจว่าพลังของเขาอยู่ในระดับใดกัน
แต่ความรู้สึกของเขารู้สึกได้ว่าพลังสูงสุดของเขาก้าวขึ้นสู่ระดับ1 ล้านเต๋า
แม้เขาจะคาดการณ์ไว้ว่าพลังของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นแต่มันก็เกินความคาดคิดของเขาอย่างมากเพราะมันเพิ่มขึ้นเกือบอย่างน้อย2 เท่าครึ่ง ก่อนหน้านี้พลังพื้นฐานของเขาอยู่ในระดับ 130,000 เต๋า แต่ตอนนี้พลังพื้นฐานของเขาก้าวขึ้นสู่ระดับ 330,000 เต๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ชิงสุ่ยเหวี่ยงมือออกไปก็รับรู้ได้ถึงพลังอันไร้ขอบเขตเขาว่าตัวเขาสามารถควบคุมทุกอย่างที่ต้องการได้ มันคือความรู้สึกผ่อนคลายภายใต้ความรู้สึกมั่นใจ
แม้แต่ตัวของเขาเองก็ไม่สามารถจินตนาการพลังที่อยู่ภายในร่างกายได้มันเหมือนภูเขายักษ์ขนาดมหึมา หรือบางทีอาจจะเป็นสัตว์อสูรโบราณที่รอวันผงาด
ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นแต่ความสามารถในการป้องกันก็เพิ่มขึ้นในระดับน่าภาคภูมิใจเช่นกัน
เมื่อผนวกกับพลังป้องกันจากผลของเกราะทองคำวชิระมันสามารถเพิ่มพลังป้องกันได้มากถึง 10 เท่า
หากนับจากพื้นฐานพลังผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาแทบจะไม่สามารถทำให้เขาพ่ายแพ้ได้เลย
ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่ปกคลุมร่างกายมันเหมือนกับมีชุดเกราะจำลองห่อหุ้มทั่วร่างกายของเขา แม้จะเหมือนไม่มีชุดเกราะแต่ก็ไม่มีใครโจมตีเขาได้
แต่ถ้าหากเขาต้องเผชิญหน้ากับจอมยุทธที่แข็งแกร่งเขาเองก็เคยเห็นนักรบมากมายได้ขัดเกลาร่างกายมาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหรือกล้ามเนื้อ แต่สุดท้ายชิงสุ่ยก็สามารถเอาชนะคนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการสกัดจุด หรือการใช้พลังเจาะทะลวงนิ้ว เพื่อหยุดศัตรูและทำลายจากภายใน …………………………….
หลังจากเวลาผ่านไปชิงสุ่ยก็ได้ออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ แต่บรรยากาศยังคงเป็นช่วงเกือบดึก ชิงสุ่ยใช้เวลาภายในไม่ถึง 6 ชั่วโมง แท้จริงแล้วเขาใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นเอง เมื่อออกมาเขาเวลาภายนอกตกอยู่ประมาณ 21:00 น การใช้เวลาครั้งนี้ถือว่าเป็นการใช้เวลาที่เร็วมาก เด็กๆกำลังนั่งชุมนุมอยู่บนโต๊ะอาหารเพื่อรอชายผู้เป็นพ่อมาร่วมรับประทานอาหารเย็น