Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1833 - 2 เดือนผ่านไป ให้กำเนิดหยินเฉิง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1833 - 2 เดือนผ่านไป ให้กำเนิดหยินเฉิง
AST
บทที่1833 – 2 เดือนผ่านไป ให้กำเนิดหยินเฉิง
ในชั่วพริบตาวันเวลา2 เดือนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยยังคงเดินทางไปกลับพระราชวังอาทิตย์อัสดงหลายต่อหลายครั้ง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยไม่ให้เกิดปัญหาใดๆในยามที่เขาไม่อยู่
และในวันนี้เองก็เป็นวันดีที่หลินเฟ่ยให้กำเนิดลูกชาย คนที่ดีใจมากที่สุดคงจะเป็นหยินต่ง และภายในหอคอยจักรพรรดิก็ปิดทำการเพื่อจัดงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่
หอคอยจักรพรรดิคือสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภูมิภาคแล้วตัวของหลินเฟ่ยก็เป็นตระกูลอันดับ 1 ของเมืองหลินห่าย แม้แขกที่ถูกเชิญจะมีจำนวนไม่มาก แต่ทุกคนก็ถือเป็นผู้ที่มีอำนาจคอยช่วยเหลือหอคอยจักรพรรดิมาโดยตลอด แน่นอนว่ากรุงโรมคงไม่สามารถสร้างได้ในวันเดียว ชิงสุ่ยที่ห่างหายไปจากสถานที่แห่งนี้ จึงไม่รู้เลยว่าผู้คนที่คอยช่วยเหลือหอคอยจักรพรรดิมีจำนวนมากมาย และคนส่วนใหญ่ให้ความช่วยเหลือจากใจจริงๆโดยไม่สนใจสถานะพิเศษใดๆ
งานเลี้ยงเริ่มต้นในช่วงบ่ายจนกระทั่งตะวันตกดินหลังจากแขกทุกคนทยอยกันกลับ มันก็ถึงเวลาของคนในหอคอยจักรพรรดิที่จะฉลองและนั่งพูดคุย
”ชิงสุ่ยเจ้าช่วยตั้งชื่อลูกของข้าได้หรือไม่”หยินต่งยิ้มด้วยสีหน้าที่มีความสุขอย่างแท้จริง
ชิงสุ่ยตกใจเล็กน้อยที่ได้รับเกียรติครั้งยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้การที่คนคนนึงจะให้อีกคนนึงตั้งชื่อลูกให้ ทั้งสองจะต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นอย่างมาก
ชิงสุ่ยยินดีและไม่มีทางปฏิเสธคำขอ”เพราะฉะนั้น ข้าขอตั้งชื่อเด็กน้อยคนนี้ว่าหยินเฉิง ชายผู้เติบโตมาเป็นกษัตริย์ผู้เกรียงไกร”
มันคือชื่อของตัวละครในโลกใบก่อนของชิงสุ่ยที่มีพลังมหาศาลและเป็นตัวละครที่มีความแข็งแกร่งและมีเกียรติสูง
”ยอดเยี่ยมถ้าเช่นนั้นลูกของข้าคนนี้มีชื่อว่าหยินเฉิง กษัตริย์ผู้เกรียงไกรข้าชอบชื่อนี้เหลือเกิน”หยินต่งพูดพลางหัวเราะพลาง
ทุกคนเดี๋ยวคงนั่งพูดคุยอย่างสนุกสนาน บรรดาหญิงสาวยังคงต่างชื่นชมกันและกัน นี่คือหนึ่งในนิสัยของผู้หญิง พวกเธอจะมีความสุขยิ่งถ้าหากคนที่สรรเสริญชื่นชมคือคนที่พวกเธอหลงรัก
”น้องชาหลิงเฟิงพวกเจ้าสองคนต้องพยายามหน่อยแล้ว อย่าไปแพ้ 2 คนนั้น”อวี้เนียงยิ้ม
”ใช่แล้วละพวกเราพยายามอย่างหนักมาตลอด แต่หนทางช่างยากเหลือเกิน”เหลียนหลิงเฟิงพยักหน้าขณะกล่าวตอบอย่างจริงจัง
ซีฉีชาถึงกับหน้าแดงก่อนจะกำหมัดต่อยใส่เหลียนหลิงเฟิงเบาๆ”เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร!!”
ชิงสุ่ยที่ได้ยินคำพูดถึงกับเธอหัวเราะจนอาหารในปากเกือบจะกระเด็นออกมาเสวี่ยนั่วใบหน้าแดงกล่ำ เมื่อได้ยินหัวข้อบทสนทนาที่น่าอึดอัดใจ การกระทำของซีฉีชา ทำให้แม้แต่อวี้เนียงก็รู้สึกผิดไปโดยปริยาย
สิ่งที่อวี้เนียงกล่าวออกไปเธอไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไรเลย แต่คำตอบที่เธอได้รับกลับมา มันกลับกลายเป็นคำตอบที่ทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกเขินอายและอึดอัดใจ
เหลียนหลิงเฟิงได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนการพูดคุยยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งช่วงเวลาสังสรรค์สิ้นสุดลง ทุกคนจึงค่อยๆแยกย้ายกันจากไป
ถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงก็เพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมื่อหลายวันก่อนตอนนี้สภาพความแข็งแกร่งของถานท่ายหลิงเยียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งมันก็ส่งผลให้อารมณ์ของถานท่ายหลิงเยียนเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
เธอเองยังคงมีแผนการที่จะทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาพระราชวังจอมอสูรและสิ่งต่างๆที่ทำมันได้ส่งผลให้เธอกลายเป็นคนที่สนิทสนมชิดเชื้อเป็นพิเศษกับชิงสุ่ย เมื่อนานวันเข้า เธอก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า เธอได้ตกหลุมรักชายคนนี้ แต่คงเป็นเพราะเรื่องที่เธอต้องจัดการมีจำนวนมาก เธอถึงไม่รู้เลยว่าชายคนนี้ได้ลงแรงลงความพยายามอย่างหนักไปมากมายเพื่อเธอ
ตลอดเวลาชิงสุ่ยมักจะเดินทางไปไหนมาไหนพร้อมกับหญิงสาวทั้งสอง ตัวตนของถานท่ายหลิงเยียนในปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งเกือบเทียบเท่าชิงสุ่ย ส่วนฉินชิง แม้ปัจจุบันเธอจะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ก็เป็นคนที่ประมาทไม่ได้ อย่างน้อยในอดีตเธอเองก็เคยแข็งแกร่งกว่าชิงสุ่ย แม้ตอนนี้จะอ่อนแอ แต่ความต่างชั้นก็ไม่ได้มากมายเลย
เนื่องจากการเดินทางของชิงสุ่ยมันจึงทำให้หญิงสาวทั้งสองคนคุ้นเคยกับคนของพระราชวังอาทิตย์อัสดง จะได้รับตำแหน่งหรือคำเรียกเปรียบเหมือนผู้อาวุโสของพระราชวังอาทิตย์อัสดง
นี่คงไม่ใช่เหตุการณ์แปลกประหลาดใดๆเพราะสุดท้ายมันก็เป็นดังการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ โดยที่ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มหญิงสาวทั้งสองกลุ่มเลย จนในปัจจุบันความสัมพันธ์ของหญิงสาวนี้ กลายเป็นดั่งพี่น้อง หรืออาจเป็นในฐานะผู้หญิงที่ยอมแบ่งปันชายผู้เป็นที่รักอย่างเต็มอกเต็มใจ
บทที่1833 – 2 เดือนผ่านไป ให้กำเนิดหยินเฉิง
ในชั่วพริบตาวันเวลา2 เดือนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยยังคงเดินทางไปกลับพระราชวังอาทิตย์อัสดงหลายต่อหลายครั้ง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยไม่ให้เกิดปัญหาใดๆในยามที่เขาไม่อยู่
และในวันนี้เองก็เป็นวันดีที่หลินเฟ่ยให้กำเนิดลูกชาย คนที่ดีใจมากที่สุดคงจะเป็นหยินต่ง และภายในหอคอยจักรพรรดิก็ปิดทำการเพื่อจัดงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่
หอคอยจักรพรรดิคือสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภูมิภาคแล้วตัวของหลินเฟ่ยก็เป็นตระกูลอันดับ 1 ของเมืองหลินห่าย แม้แขกที่ถูกเชิญจะมีจำนวนไม่มาก แต่ทุกคนก็ถือเป็นผู้ที่มีอำนาจคอยช่วยเหลือหอคอยจักรพรรดิมาโดยตลอด แน่นอนว่ากรุงโรมคงไม่สามารถสร้างได้ในวันเดียว ชิงสุ่ยที่ห่างหายไปจากสถานที่แห่งนี้ จึงไม่รู้เลยว่าผู้คนที่คอยช่วยเหลือหอคอยจักรพรรดิมีจำนวนมากมาย และคนส่วนใหญ่ให้ความช่วยเหลือจากใจจริงๆโดยไม่สนใจสถานะพิเศษใดๆ
งานเลี้ยงเริ่มต้นในช่วงบ่ายจนกระทั่งตะวันตกดินหลังจากแขกทุกคนทยอยกันกลับ มันก็ถึงเวลาของคนในหอคอยจักรพรรดิที่จะฉลองและนั่งพูดคุย
”ชิงสุ่ยเจ้าช่วยตั้งชื่อลูกของข้าได้หรือไม่”หยินต่งยิ้มด้วยสีหน้าที่มีความสุขอย่างแท้จริง
ชิงสุ่ยตกใจเล็กน้อยที่ได้รับเกียรติครั้งยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้การที่คนคนนึงจะให้อีกคนนึงตั้งชื่อลูกให้ ทั้งสองจะต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นอย่างมาก
ชิงสุ่ยยินดีและไม่มีทางปฏิเสธคำขอ”เพราะฉะนั้น ข้าขอตั้งชื่อเด็กน้อยคนนี้ว่าหยินเฉิง ชายผู้เติบโตมาเป็นกษัตริย์ผู้เกรียงไกร”
มันคือชื่อของตัวละครในโลกใบก่อนของชิงสุ่ยที่มีพลังมหาศาลและเป็นตัวละครที่มีความแข็งแกร่งและมีเกียรติสูง
”ยอดเยี่ยมถ้าเช่นนั้นลูกของข้าคนนี้มีชื่อว่าหยินเฉิง กษัตริย์ผู้เกรียงไกรข้าชอบชื่อนี้เหลือเกิน”หยินต่งพูดพลางหัวเราะพลาง
ทุกคนเดี๋ยวคงนั่งพูดคุยอย่างสนุกสนาน บรรดาหญิงสาวยังคงต่างชื่นชมกันและกัน นี่คือหนึ่งในนิสัยของผู้หญิง พวกเธอจะมีความสุขยิ่งถ้าหากคนที่สรรเสริญชื่นชมคือคนที่พวกเธอหลงรัก
”น้องชาหลิงเฟิงพวกเจ้าสองคนต้องพยายามหน่อยแล้ว อย่าไปแพ้ 2 คนนั้น”อวี้เนียงยิ้ม
”ใช่แล้วละพวกเราพยายามอย่างหนักมาตลอด แต่หนทางช่างยากเหลือเกิน”เหลียนหลิงเฟิงพยักหน้าขณะกล่าวตอบอย่างจริงจัง
ซีฉีชาถึงกับหน้าแดงก่อนจะกำหมัดต่อยใส่เหลียนหลิงเฟิงเบาๆ”เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร!!”
ชิงสุ่ยที่ได้ยินคำพูดถึงกับเธอหัวเราะจนอาหารในปากเกือบจะกระเด็นออกมาเสวี่ยนั่วใบหน้าแดงกล่ำ เมื่อได้ยินหัวข้อบทสนทนาที่น่าอึดอัดใจ การกระทำของซีฉีชา ทำให้แม้แต่อวี้เนียงก็รู้สึกผิดไปโดยปริยาย
สิ่งที่อวี้เนียงกล่าวออกไปเธอไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไรเลย แต่คำตอบที่เธอได้รับกลับมา มันกลับกลายเป็นคำตอบที่ทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกเขินอายและอึดอัดใจ
เหลียนหลิงเฟิงได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนการพูดคุยยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งช่วงเวลาสังสรรค์สิ้นสุดลง ทุกคนจึงค่อยๆแยกย้ายกันจากไป
ถานท่ายหลิงเยียนและฉินชิงก็เพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมื่อหลายวันก่อนตอนนี้สภาพความแข็งแกร่งของถานท่ายหลิงเยียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งมันก็ส่งผลให้อารมณ์ของถานท่ายหลิงเยียนเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
เธอเองยังคงมีแผนการที่จะทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาพระราชวังจอมอสูรและสิ่งต่างๆที่ทำมันได้ส่งผลให้เธอกลายเป็นคนที่สนิทสนมชิดเชื้อเป็นพิเศษกับชิงสุ่ย เมื่อนานวันเข้า เธอก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า เธอได้ตกหลุมรักชายคนนี้ แต่คงเป็นเพราะเรื่องที่เธอต้องจัดการมีจำนวนมาก เธอถึงไม่รู้เลยว่าชายคนนี้ได้ลงแรงลงความพยายามอย่างหนักไปมากมายเพื่อเธอ
ตลอดเวลาชิงสุ่ยมักจะเดินทางไปไหนมาไหนพร้อมกับหญิงสาวทั้งสอง ตัวตนของถานท่ายหลิงเยียนในปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งเกือบเทียบเท่าชิงสุ่ย ส่วนฉินชิง แม้ปัจจุบันเธอจะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ก็เป็นคนที่ประมาทไม่ได้ อย่างน้อยในอดีตเธอเองก็เคยแข็งแกร่งกว่าชิงสุ่ย แม้ตอนนี้จะอ่อนแอ แต่ความต่างชั้นก็ไม่ได้มากมายเลย
เนื่องจากการเดินทางของชิงสุ่ยมันจึงทำให้หญิงสาวทั้งสองคนคุ้นเคยกับคนของพระราชวังอาทิตย์อัสดง จะได้รับตำแหน่งหรือคำเรียกเปรียบเหมือนผู้อาวุโสของพระราชวังอาทิตย์อัสดง
นี่คงไม่ใช่เหตุการณ์แปลกประหลาดใดๆเพราะสุดท้ายมันก็เป็นดังการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ โดยที่ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มหญิงสาวทั้งสองกลุ่มเลย จนในปัจจุบันความสัมพันธ์ของหญิงสาวนี้ กลายเป็นดั่งพี่น้อง หรืออาจเป็นในฐานะผู้หญิงที่ยอมแบ่งปันชายผู้เป็นที่รักอย่างเต็มอกเต็มใจ