Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1846 - ปีศาจศักดิ์สิทธิ์ ทารกตัวน้อยชิงหยวน
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1846 - ปีศาจศักดิ์สิทธิ์ ทารกตัวน้อยชิงหยวน
AST
บทที่1846 – ปีศาจศักดิ์สิทธิ์ ทารกตัวน้อยชิงหยวน
หลังจากพูดคุยกันมาได้สักพักชิงสุ่ยก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ทำไมเขาต้องมาสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้อีก
ถ้าหากยังคงยึดหลักมาตรฐานของโลกใบก่อนสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์จะถูกเรียกว่าภูตผีปีศาจแทบทั้งหมด ส่วนนิยามของความงาม สูงสุดก็คือมนุษย์ ส่วนที่นอกเหนือจากนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดทั้งหมด
ชิงสุ่ยใช้เวลากว่า10 วันนั่งอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลาราชินีปีศาจดูดเลือดหลายๆตนก็ได้เดินทางไปผ่านสถานที่ที่ชิงสุ่ยใช้รอคอย แต่เขาก็ไม่ได้กินหรือร่องรอยใดๆของจักรพรรดินีผีดูดเลือดเลย
แม้ว่าเธอจะไม่ปรากฏตัวแต่ชิงสุ่ยก็คาดคะเนว่าอีกไม่นานเธอจะให้กำเนิดบุตรสาว การไม่ออกมาจากที่พักจึงถือเป็นเรื่องปกติ
จนกระทั่งช่วงบ่ายราชินีปีศาจดูดเลือดตนหนึ่งได้ปรากฏกายต่อหน้าชิงสุ่ย “จักรพรรดินีผีดูดเลือดต้องการให้เจ้าเข้าไปข้างใน”
ชิงสุ่ยพยักหน้าขณะเดินตามหญิงสาวผู้นั้นเข้าไปภายในหุบเขาเขาเดินขึ้นไปบนบันไดกิ่งไม้คนที่สูงที่สุด บนยอดเขาเต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมเขียวขจี เหมือนกับภาพลวงตา
การเดินทางเป็นไปค่อนข้างนานและแล้วพวกเขาก็ได้เห็นปีศาจดูดเลือดกลุ่มนึงซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นทหารยามร่างกายของปีศาจดูดเลือดตนนั้นแตกต่างจากตนอื่นๆโดยสิ้นเชิง พวกนางสวมเครื่องแต่งกายอย่างเหมาะสมโดยที่ด้านหลังมีปีกคู่สวยสยายออกด้านข้างอย่างสง่างาม
หากเทียบกับบรรดาปีศาจดูดเลือดตนอื่นๆพวกนางต่างกันเพียงแค่อย่างเดียวคือปีกแต่ก็ยังคงรูปลักษณ์ที่งดงามน่าหลงใหล แต่แสดงออกให้เห็นถึงความเยือกเย็นอย่างชัดเจน
”จักรพรรดินีผีดูดเลือดต้องการให้เจ้าเข้าไปข้างในด้วยตัวเอง”ปีศาจหญิงโฉมงามกล่าวก่อนจะถอยหลังแล้วจากไป
ศาลาที่อยู่เบื้องหน้าเป็นศาลาที่ไม่มีประตูทางเข้าแต่เป็นศาลาที่ต้องใช้ทางอ้อมด้านข้างเพื่อเดินเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ตัวตึกทุกอย่างล้วนสร้างขึ้นโดยสถาปัตยกรรมที่แสนงดงาม มันช่างเป็นทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจชิงสุ่ยยิ่ง
บริเวณพื้นเบื้องล่างถูกปูไปด้วยไม้ที่มีพื้นผิวเรียบลื่นและตลอดเส้นทางเดินเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี มันงดงามมากจนดูเกือบเหมือนของปลอม
อุ๊แว๊!!
เสียงร้องครวญครางของเด็กทารกดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง”นางให้กำเนิดบุตรสาวแล้ว!!” เขาค่อยๆเดินตามเสียงไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาเดินไปเจอกับศาลาขนาดใหญ่ที่มีทางเดินแตกขแนงไปเป็นห้องต่างๆ
หลังจากเดินผ่านไปอีก3 ห้อง เขาก็หยุดลงหน้าห้องที่ 4 ซึ่งภายในห้องมันเป็นเพียงห้องขนาดเล็กที่มีบรรยากาศดี มันค่อนข้างสะอาดสะอ้านไม่มีต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว ต้องการปรากฏให้เห็นเป็นเตียงหิมะขาว พร้อมกับผ้าห่มสีหิมะขาว
ชิงสุ่ยจดจำชุดสีแดงได้ทันทีแต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าเตียงนอนที่เธอใช้จะเลือกเป็นสีขาวบริสุทธิ์
ชิงสุ่ยค่อยๆมองดูเธอที่กำลังอุ้มทารกน้อยอยู่ในอ้อมแขนก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองชิงสุ่ยกลับมา
ใบหน้าที่เปล่งประกายยิ่งทำให้ชิงสุ่ยลืมเลือนทุกสิ่งอย่างก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธออย่างช้าๆ
ทารกน้อยที่มีอายุไม่ถึง1 วัน ร่างกายของเจ้าหนูน้อยแสดงให้เห็นผิวสีขาวหยก และกำลังมองดูเขาด้วยดวงตาสีดำมุก
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังที่แข็งแกร่งและคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเด็กน้อยมันคือพลังของปีศาจศักดิ์สิทธิ์ หากทารกน้อยเติบใหญ่พลังที่อยู่ในร่างกายของหนูน้อยจะทรงพลังและกลายเป็นพลังที่แสนน่ากลัวพร้อมสั่นสะเทือนทุกสายพันธุ์แม้กระทั่งสายพันธุ์มนุษย์ แต่ในสายตาของชิงสุ่ย เธอก็คือลูกสาวของเขา
”สาวน้อยเจ้าช่างเหมือนกับข้าจริงๆ”ชิงสุ่ยจ้องมองเด็กหญิงตัวน้อยด้วยสายตาที่เป็นสุข
”หน้าด้าน!!”
”แค่มองดูเส้นผมใบหน้า จมูกเล็กตรงของนาง ทุกคนก็บอกได้ทันทีว่าเหมือนกับข้า”ชิงสุ่ยหัวเราะอย่างสนุกสนาน
”เจ้ากำลังจะบอกว่าจมูกของข้านั้นแปลกประหลาดงั้นรึ?”จักรพรรดินีผีดูดเลือดบ่นพึมพำ เพราะลูกสาวของเธอนั้นมีลักษณะเหมือนกับชิงสุ่ยเพียงเล็กน้อย ซึ่งส่วนที่เหมือนมากที่สุดคงเป็นพลังหยินที่อยู่ระหว่างคิ้วทั้งสอง
”ข้าขออุ้มเจ้าหนูตัวน้อยคนนี้หน่อยนะ”ชิงสุ่ยกล่าว
”เจ้าดูเป็นคนเงอะงะระมัดระวังด้วย”จักรพรรดินีผีดูดเลือดไม่คิดมากก่อนจะส่งลูกน้อยให้ชิงสุ่ยอุ้ม
”จากการอุ้มของเจ้าเจ้าคงเป็นคนที่มีภรรยามากมายและมีลูกมากมายอย่างแน่นอน”จักรพรรดินีผีดูดเลือดหัวเราะเบาๆ
”เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่าอะไรรึ?”ชิงสุ่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว
”ข้ายังไม่ได้ตั้งชื่อนางเลยเจ้าอยากจะตั้งชื่อนางอย่างนั้นเหรอ?”จักรพรรดินีผีดูดเลือดกล่าวถามชิงสุ่ย
”ถ้าหากข้าจะบอกว่าถ้าอยากจะตั้งตามสกุลของข้าละเจ้าจะว่าอย่างไรบ้าง?”
”นามสกุลของเจ้าไหนเจ้าลองว่ามาซิ”จักรพรรดินีผีดูดเลือดกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
”แล้วชื่อที่เจ้าคิดล่ะ?บางทีมันอาจเป็นชื่อที่ดีก็เป็นได้”ชิงสุ่ยรู้ว่าการตั้งชื่อตามชื่อของเขาตั้งแต่แรกเริ่มมันคงไม่ดีนัก
”ข้ายังไม่ได้คิดชื่อเลย”จักรพรรดินีผีดูดเลือดตอบกลับอย่างรวดเร็ว
”เจ้าไม่คิดทีรึ?”ชิงสุ่ยมองดูด้วยความแปลกใจ
”พวกเราเผ่าผีดูดเลือดไม่จำเป็นต้องตั้งชื่อ แต่บางคนก็อาจจะตั้งชื่อเรียกกันสั้นๆในกลุ่มของตน แต่สำหรับตัวข้าที่เป็นจักรพรรดินีผีดูดเลือด ข้าไม่จำเป็นต้องมีชื่อเล่น”เธอยิ้มให้กับชิงสุ่ย
”เออแต่ว่าเจ้าเป็นแม่ของเด็กน้อย ข้าคิดว่าเจ้าควรได้รับเกียรตินี้”
จักรพรรดินีผีดูดเลือดกล่าวอย่างสงบนิ่งและสุขใจ”ไม่เป็นไร ข้าเชื่อใจเจ้า เจ้าจงตั้งชื่อของเธอเถิด”
”ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะตั้งชื่อนางว่าชิงหยวน”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างตั้งใจและชื่อที่เขาตั้งก็เป็นชื่อส่วนหนึ่งที่มาจากเทพสวรรค์ในตำนานบอกเล่าของโลกใบก่อน
”อืมยอดเยี่ยม ข้าชอบชื่อนี้”จักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดกล่าวอย่างเริงร่าซึ่งมันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขมากขึ้น
บทที่1846 – ปีศาจศักดิ์สิทธิ์ ทารกตัวน้อยชิงหยวน
หลังจากพูดคุยกันมาได้สักพักชิงสุ่ยก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ทำไมเขาต้องมาสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้อีก
ถ้าหากยังคงยึดหลักมาตรฐานของโลกใบก่อนสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์จะถูกเรียกว่าภูตผีปีศาจแทบทั้งหมด ส่วนนิยามของความงาม สูงสุดก็คือมนุษย์ ส่วนที่นอกเหนือจากนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดทั้งหมด
ชิงสุ่ยใช้เวลากว่า10 วันนั่งอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลาราชินีปีศาจดูดเลือดหลายๆตนก็ได้เดินทางไปผ่านสถานที่ที่ชิงสุ่ยใช้รอคอย แต่เขาก็ไม่ได้กินหรือร่องรอยใดๆของจักรพรรดินีผีดูดเลือดเลย
แม้ว่าเธอจะไม่ปรากฏตัวแต่ชิงสุ่ยก็คาดคะเนว่าอีกไม่นานเธอจะให้กำเนิดบุตรสาว การไม่ออกมาจากที่พักจึงถือเป็นเรื่องปกติ
จนกระทั่งช่วงบ่ายราชินีปีศาจดูดเลือดตนหนึ่งได้ปรากฏกายต่อหน้าชิงสุ่ย “จักรพรรดินีผีดูดเลือดต้องการให้เจ้าเข้าไปข้างใน”
ชิงสุ่ยพยักหน้าขณะเดินตามหญิงสาวผู้นั้นเข้าไปภายในหุบเขาเขาเดินขึ้นไปบนบันไดกิ่งไม้คนที่สูงที่สุด บนยอดเขาเต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมเขียวขจี เหมือนกับภาพลวงตา
การเดินทางเป็นไปค่อนข้างนานและแล้วพวกเขาก็ได้เห็นปีศาจดูดเลือดกลุ่มนึงซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นทหารยามร่างกายของปีศาจดูดเลือดตนนั้นแตกต่างจากตนอื่นๆโดยสิ้นเชิง พวกนางสวมเครื่องแต่งกายอย่างเหมาะสมโดยที่ด้านหลังมีปีกคู่สวยสยายออกด้านข้างอย่างสง่างาม
หากเทียบกับบรรดาปีศาจดูดเลือดตนอื่นๆพวกนางต่างกันเพียงแค่อย่างเดียวคือปีกแต่ก็ยังคงรูปลักษณ์ที่งดงามน่าหลงใหล แต่แสดงออกให้เห็นถึงความเยือกเย็นอย่างชัดเจน
”จักรพรรดินีผีดูดเลือดต้องการให้เจ้าเข้าไปข้างในด้วยตัวเอง”ปีศาจหญิงโฉมงามกล่าวก่อนจะถอยหลังแล้วจากไป
ศาลาที่อยู่เบื้องหน้าเป็นศาลาที่ไม่มีประตูทางเข้าแต่เป็นศาลาที่ต้องใช้ทางอ้อมด้านข้างเพื่อเดินเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ตัวตึกทุกอย่างล้วนสร้างขึ้นโดยสถาปัตยกรรมที่แสนงดงาม มันช่างเป็นทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจชิงสุ่ยยิ่ง
บริเวณพื้นเบื้องล่างถูกปูไปด้วยไม้ที่มีพื้นผิวเรียบลื่นและตลอดเส้นทางเดินเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี มันงดงามมากจนดูเกือบเหมือนของปลอม
อุ๊แว๊!!
เสียงร้องครวญครางของเด็กทารกดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง”นางให้กำเนิดบุตรสาวแล้ว!!” เขาค่อยๆเดินตามเสียงไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาเดินไปเจอกับศาลาขนาดใหญ่ที่มีทางเดินแตกขแนงไปเป็นห้องต่างๆ
หลังจากเดินผ่านไปอีก3 ห้อง เขาก็หยุดลงหน้าห้องที่ 4 ซึ่งภายในห้องมันเป็นเพียงห้องขนาดเล็กที่มีบรรยากาศดี มันค่อนข้างสะอาดสะอ้านไม่มีต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว ต้องการปรากฏให้เห็นเป็นเตียงหิมะขาว พร้อมกับผ้าห่มสีหิมะขาว
ชิงสุ่ยจดจำชุดสีแดงได้ทันทีแต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าเตียงนอนที่เธอใช้จะเลือกเป็นสีขาวบริสุทธิ์
ชิงสุ่ยค่อยๆมองดูเธอที่กำลังอุ้มทารกน้อยอยู่ในอ้อมแขนก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองชิงสุ่ยกลับมา
ใบหน้าที่เปล่งประกายยิ่งทำให้ชิงสุ่ยลืมเลือนทุกสิ่งอย่างก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธออย่างช้าๆ
ทารกน้อยที่มีอายุไม่ถึง1 วัน ร่างกายของเจ้าหนูน้อยแสดงให้เห็นผิวสีขาวหยก และกำลังมองดูเขาด้วยดวงตาสีดำมุก
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังที่แข็งแกร่งและคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเด็กน้อยมันคือพลังของปีศาจศักดิ์สิทธิ์ หากทารกน้อยเติบใหญ่พลังที่อยู่ในร่างกายของหนูน้อยจะทรงพลังและกลายเป็นพลังที่แสนน่ากลัวพร้อมสั่นสะเทือนทุกสายพันธุ์แม้กระทั่งสายพันธุ์มนุษย์ แต่ในสายตาของชิงสุ่ย เธอก็คือลูกสาวของเขา
”สาวน้อยเจ้าช่างเหมือนกับข้าจริงๆ”ชิงสุ่ยจ้องมองเด็กหญิงตัวน้อยด้วยสายตาที่เป็นสุข
”หน้าด้าน!!”
”แค่มองดูเส้นผมใบหน้า จมูกเล็กตรงของนาง ทุกคนก็บอกได้ทันทีว่าเหมือนกับข้า”ชิงสุ่ยหัวเราะอย่างสนุกสนาน
”เจ้ากำลังจะบอกว่าจมูกของข้านั้นแปลกประหลาดงั้นรึ?”จักรพรรดินีผีดูดเลือดบ่นพึมพำ เพราะลูกสาวของเธอนั้นมีลักษณะเหมือนกับชิงสุ่ยเพียงเล็กน้อย ซึ่งส่วนที่เหมือนมากที่สุดคงเป็นพลังหยินที่อยู่ระหว่างคิ้วทั้งสอง
”ข้าขออุ้มเจ้าหนูตัวน้อยคนนี้หน่อยนะ”ชิงสุ่ยกล่าว
”เจ้าดูเป็นคนเงอะงะระมัดระวังด้วย”จักรพรรดินีผีดูดเลือดไม่คิดมากก่อนจะส่งลูกน้อยให้ชิงสุ่ยอุ้ม
”จากการอุ้มของเจ้าเจ้าคงเป็นคนที่มีภรรยามากมายและมีลูกมากมายอย่างแน่นอน”จักรพรรดินีผีดูดเลือดหัวเราะเบาๆ
”เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่าอะไรรึ?”ชิงสุ่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว
”ข้ายังไม่ได้ตั้งชื่อนางเลยเจ้าอยากจะตั้งชื่อนางอย่างนั้นเหรอ?”จักรพรรดินีผีดูดเลือดกล่าวถามชิงสุ่ย
”ถ้าหากข้าจะบอกว่าถ้าอยากจะตั้งตามสกุลของข้าละเจ้าจะว่าอย่างไรบ้าง?”
”นามสกุลของเจ้าไหนเจ้าลองว่ามาซิ”จักรพรรดินีผีดูดเลือดกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
”แล้วชื่อที่เจ้าคิดล่ะ?บางทีมันอาจเป็นชื่อที่ดีก็เป็นได้”ชิงสุ่ยรู้ว่าการตั้งชื่อตามชื่อของเขาตั้งแต่แรกเริ่มมันคงไม่ดีนัก
”ข้ายังไม่ได้คิดชื่อเลย”จักรพรรดินีผีดูดเลือดตอบกลับอย่างรวดเร็ว
”เจ้าไม่คิดทีรึ?”ชิงสุ่ยมองดูด้วยความแปลกใจ
”พวกเราเผ่าผีดูดเลือดไม่จำเป็นต้องตั้งชื่อ แต่บางคนก็อาจจะตั้งชื่อเรียกกันสั้นๆในกลุ่มของตน แต่สำหรับตัวข้าที่เป็นจักรพรรดินีผีดูดเลือด ข้าไม่จำเป็นต้องมีชื่อเล่น”เธอยิ้มให้กับชิงสุ่ย
”เออแต่ว่าเจ้าเป็นแม่ของเด็กน้อย ข้าคิดว่าเจ้าควรได้รับเกียรตินี้”
จักรพรรดินีผีดูดเลือดกล่าวอย่างสงบนิ่งและสุขใจ”ไม่เป็นไร ข้าเชื่อใจเจ้า เจ้าจงตั้งชื่อของเธอเถิด”
”ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะตั้งชื่อนางว่าชิงหยวน”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างตั้งใจและชื่อที่เขาตั้งก็เป็นชื่อส่วนหนึ่งที่มาจากเทพสวรรค์ในตำนานบอกเล่าของโลกใบก่อน
”อืมยอดเยี่ยม ข้าชอบชื่อนี้”จักรพรรดินีปีศาจดูดเลือดกล่าวอย่างเริงร่าซึ่งมันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขมากขึ้น