Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1877 - ถานท่ายหลิงเยียน ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็ง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1877 - ถานท่ายหลิงเยียน ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็ง
AST
บทที่1877 – ถานท่ายหลิงเยียน ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็ง
ในวันนี้ถานท่ายหลิงเยียนฝนอยู่คนเดียวในสวนหลังบ้าน ดูเหมือนเธอกำลังพบปัญหาใหญ่จึงใช้เวลาทั้งหมดในการฝึกฝน และเลือกสถานที่ที่ไม่มีใครเข้ามาขัดขวางเธอได้
กระบี่เทพธิดาหิมะทอแสงสว่างไสวอยู่บนมือซีดเซียวแต่ดูนุ่มนวลเหมือนหยกความต่างระหว่างผิวหนังและกระบี่ช่างภาพที่ดูน่าทึ่ง ทุกครั้งที่เธอเหวี่ยงกระบี่ การกระทำบ่งบอกถึงการผสานระหว่างความแข็งแกร่งกับความเร็ว ยิ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์อันแสนงดงามให้กับเธอ
ร่างกายของเธอเต้นรำไปทั่วเหมือนมีทำนองเพลงคอยกู่ร้อง
ชิงสุ่ยเดินตรงมายังสวนหลังบ้านโดยไม่ให้เธอรู้ตัวเขากำลังมองดูถานท่ายหลิงเยียนจากระยะไกล และค่อยๆสังเกตทักษะการร่ายรำกระบี่ที่แสนงดงาม กระบี่ของเธอประสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายเธอ มันเคลื่อนไหวเหมือนกับธารน้ำแข็งบริสุทธิ์ซึ่งไร้สิ่งสกปรกเจือป่น
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็ทำบางสิ่งบางอย่างได้เขาจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาถานท่ายหลิงเยียน
แน่นอนว่าถานท่ายหลิงเยียนย่อมต้องสัมผัสถึงกลิ่นอายชิงสุ่ยเธอจึงเงยหน้ามองหาชิงสุ่ยพร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มจางๆ ใบหน้าที่เคยเยือกเย็นเริ่มเต็มไปด้วยความอบอุ่นเหมือนดวงอาทิตย์
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็ง!!
ภาพจินตนาการของทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเกรงขามปรากฏขึ้นในจิตใจชิงสุ่ยทักษะที่เธอกำลังใช้คือทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งที่ทำให้รอบตัวกลายเป็นธารน้ำแข็ง
ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งมุ่งเน้นไปในการควบคุมพลังที่รุนแรงมันคือพลังธาตุหนามองค์ประกอบหนึ่งในพลังห้าธาตุที่แสนอ่อนโยน น้ำเคลื่อนที่ไปได้ทุกหนแห่ง ยิ่งปริมาณน้ำมีมากพลังก็จะรุนแรงแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนโยน อย่างไรก็ตามธารน้ำแข็งก็คือการแข็งตัวของน้ำ แม้จะลดความอ่อนโยนลง แต่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก น้อยคนนักที่จะเรียนรู้ทักษะด้านนี้
ชิงสุ่ยจับมือถานท่ายหลิงเยียนก่อนจะลอยขึ้นไปกลางอากาศในชั่วพริบตาทั้งสองคนก็ปรากฏตัว ณ ระดับความสูงเสียดฟ้า
ถานท่ายหลิงเยียนไม่ได้วิตกกังวลในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถจับมือเธอได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งการโอบกอดเธอ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากจิตใจของทั้งสองฝ่าย ชิงสุ่ยไม่ได้มีบังคับเธอ ในขณะเดียวกันเธอก็ตำหนักถึงความรักและความอบอุ่นที่เขามอบให้
”หลังจากที่ข้าได้เห็นทักษะกระบี่ของเจ้าเจ้าปรับตัวเข้ากับมันได้เร็วมาก” ชิงสุ่ยจับมือของเธอพร้อมกับทะยานห้ามเส้นขอบฟ้าอย่างช้าๆ
แม้ทั้งสองคนจะอยู่เหนือความสูงท้องฟ้าอยู่ในระดับเดียวกับก้อนเมฆ ปริมาณอากาศรอบตัวของทั้งสองถึงแม้จะบางเบาแต่ก็ยังคงมี โดยทั่วไปแล้วบนสวรรค์ชั้นฟ้า พลังปราณจิตที่ขับเคลื่อนแรงลมจะมีปริมาณมหาศาล แต่เมื่ออยู่รอบตัวชิงสุ่ยและถานท่ายหลิงเยียน พวกมันไม่สามารถทำอะไรสองคนนี้ได้เลย
”มันคือทักษะกระบี่ที่ข้าได้รับมาจากการพัฒนาครั้งล่าสุดข้าพยายามปรับเปลี่ยนบางอย่างและเพิ่มเติมทักษะลงไปบนพื้นฐานทักษะดั้งเดิม ปัญหาเดียวที่ข้าเจอตอนนี้ คือมันไม่ได้ส่งผลดีต่อข้าเลย”ถานท่ายหลิงเยียนเหมือนจะเผชิญหน้ากับความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า คำพูดของเธอจึงแทบไม่มีความรู้สึกเสียใจเลย
และบางทีมันอาจเป็นเรื่องบังเอิญเพราะสิ่งที่เธอล้มเหลวคือสิ่งที่ชิงสุ่ยสงสัย เขาจึงยิ้มและมองใบหน้าถานท่ายหลิงเยียน “บางทีข้าอาจจะช่วยเจ้าได้ หลังจากที่ข้าได้เห็นทักษะของเจ้า ข้ารู้สึกได้เลยว่าข้าสามารถช่วยก็ได้”
”ขอกระบี่ให้ใครยืมหน่อย”
ชิงสุ่ยยิ้มและรับเอากระบี่เข้ามาถือไว้ในมือ
ถานท่ายหลิงเยียนรู้สึกงุนงงก่อนจะส่งกระบี่เทพธิดาให้กับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยยิ้มก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า”จากความรู้สึกของข้า เจ้ากำลังคาดหวังให้ทักษะกระบี่ของเจ้าเติมเต็มความรุนแรงและความบริสุทธิ์ในเวลาเดียวกัน”
”นี่คือรูปแบบทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งที่คู่ควรกับผู้สืบทอดอย่างเจ้าเหยียนเอ๋อ จับตามองให้ดี ทำจิตใจให้ว่างเปล่า ทุกครั้งที่ปลดปล่อยทักษะอย่าให้มีสิ่งใดมาคอยรบกวนจิตใจ มันคือการผสมผสานท่วงท่าที่ซับซ้อน แต่ก็เรียบง่ายอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือทักษะกระบี่ที่แสนใสสะอาด ปราศจากสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย” ตลอดเวลาที่ชิงสุ่ยเคลื่อนไหวเมฆที่อยู่รอบตัวยังคงลอยล้อมรอบตัวของเขาอยู่ตลอดเวลา กระบวนท่าที่ชิงสุ่ยแสดงไม่มีแม้แต่ร่องรอยความรุนแรงเพราะแม้แต่ก้อนเมฆก็ยังคงเคลื่อนไหวเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่พลังความรู้สึกที่อยู่รอบกายชิงสุ่ยเต็มไปด้วยพลังลึกลับชิงสุ่ยกำลังจมเข้าสู่ความรู้สึกอันแสนพิสดาร ราวกลับว่าโลกทั้งใบกลายเป็นดินแดนน้ำแข็ง ทั่วพื้นที่หมื่นลี้มองเห็นเกล็ดหิมะลอยละล่องไปทั่วอากาศได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็เริ่มเปลี่ยนแปลงกระบวนท่า หิมะถาโถมรอบตัวของชิงสุ่ย ก้อนเมฆที่เคยพัดผ่านเคลื่อนไหวเหมือนทุกลมกรรโชก พลังลมรอบตัวหมุนเวียนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
หิมะตกหนักเหมือนพายุผสานรวมเป็นหนึ่งโหมกระหน่ำไปในทิศทางเดียว
คลื่นพลังแผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมในขณะเดียวกันทักษะที่ชิงสุ่ยแสดงก็ผันแปรกลายเป็นความคล่องตัว แม้จะปลดปล่อยพลังอันแสนมหาศาลแต่ก็คงไว้ซึ่งความเสถียร
ทักษะกระบี่ที่เขาใช้ถูกแสดงในระดับความเร็วปานกลาง
ชิงสุ่ยกล่าวคำอธิบายอย่างต่อเนื่องพร้อมกับแสดงท่าทางที่เขาต้องการให้ถานท่ายหลิงเยียนเห็น
โฮกกกก!!
เสียงคมกระบี่ดังราวกับเสียงร้องของมังกรก่อนที่มังกรหิมะขาวจะปรากฏตัวหน้าชิงสุ่ย มันถูกสร้างขึ้นจากน้ำแข็งและมีรูปร่างเท่ากับสัตว์อสูรขนาดยักษ์ เจ้ามังกรตัวนี้มีความยาวมากถึง 1 กิโลเมตร และมีความกว้างของลำตัวเกือบ 100 เมตร
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ทันทีว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางในตัวของเขา
มังกรขับเคลื่อนไปตามทิศทางของกระบี่ในมือชิงสุ่ยเมื่อปลายกระบี่ชี้ไปที่ใด พื้นที่เหล่านั้นจะถูกเจ้ามังกรถล่มจนพังพินาศ รอบๆตัวของเขาถูกกลืนกินไปด้วยโลกหิมะสีขาว ซึ่งเกิดจากส่วนผสมระหว่างความรุนแรงโกรธเกรี้ยวและความบริสุทธิ์
แม้จะไม่สามารถเทียบกับตราประทับน้ำแข็งหมื่นลี้ได้แต่ความรุนแรงของพายุเกือบจะเทียบเท่ากัน ความแข็งแกร่งอันน่าพิศวงช่วยให้ผู้ใช้ปลดปล่อยพลังทำลายล้างมากกว่าพลังของตนได้อีกหลายเท่าตัว
แน่นอนว่าพลังที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นผลของกระบี่เทพธิดาหากชิงสุ่ยเปลี่ยนศาสตราวุธในมือเป็นง้าวทองทะลวงศัตรู ต่อให้เขาปลดปล่อยทักษะเดียวกันนี้ ขอบเขตผลพลังของมันย่อมต้องลดลงเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อการร่ายรำกระบี่จบสิ้นลงโลกทั้งใบรอบตัวชิงสุ่ยก็กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม จากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองถานท่ายหลิงเยียนที่กำลังจ้องมองเขาสีหน้าประหลาดใจ ในเวลานี้จิตวิญญาณของเธอกำลังอยู่ในสภาพว่างเปล่า ชิงสุ่ยจึงไม่ขัดจังหวะ และปล่อยให้เธอซึมซับความสมบูรณ์ของทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งด้วยตัวของเธอเอง ชิงสุ่ยมีหน้าที่เป็นเพียงแค่ประตูทางผ่าน
และแล้วอุณหภูมิรอบๆตัวถานท่ายหลิงเยียนก็ลดลงอย่างฉับพลันเมฆที่เคยรายล้อมเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นภูเขาน้ำแข็ง
บทที่1877 – ถานท่ายหลิงเยียน ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็ง
ในวันนี้ถานท่ายหลิงเยียนฝนอยู่คนเดียวในสวนหลังบ้าน ดูเหมือนเธอกำลังพบปัญหาใหญ่จึงใช้เวลาทั้งหมดในการฝึกฝน และเลือกสถานที่ที่ไม่มีใครเข้ามาขัดขวางเธอได้
กระบี่เทพธิดาหิมะทอแสงสว่างไสวอยู่บนมือซีดเซียวแต่ดูนุ่มนวลเหมือนหยกความต่างระหว่างผิวหนังและกระบี่ช่างภาพที่ดูน่าทึ่ง ทุกครั้งที่เธอเหวี่ยงกระบี่ การกระทำบ่งบอกถึงการผสานระหว่างความแข็งแกร่งกับความเร็ว ยิ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์อันแสนงดงามให้กับเธอ
ร่างกายของเธอเต้นรำไปทั่วเหมือนมีทำนองเพลงคอยกู่ร้อง
ชิงสุ่ยเดินตรงมายังสวนหลังบ้านโดยไม่ให้เธอรู้ตัวเขากำลังมองดูถานท่ายหลิงเยียนจากระยะไกล และค่อยๆสังเกตทักษะการร่ายรำกระบี่ที่แสนงดงาม กระบี่ของเธอประสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายเธอ มันเคลื่อนไหวเหมือนกับธารน้ำแข็งบริสุทธิ์ซึ่งไร้สิ่งสกปรกเจือป่น
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็ทำบางสิ่งบางอย่างได้เขาจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาถานท่ายหลิงเยียน
แน่นอนว่าถานท่ายหลิงเยียนย่อมต้องสัมผัสถึงกลิ่นอายชิงสุ่ยเธอจึงเงยหน้ามองหาชิงสุ่ยพร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มจางๆ ใบหน้าที่เคยเยือกเย็นเริ่มเต็มไปด้วยความอบอุ่นเหมือนดวงอาทิตย์
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็ง!!
ภาพจินตนาการของทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเกรงขามปรากฏขึ้นในจิตใจชิงสุ่ยทักษะที่เธอกำลังใช้คือทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งที่ทำให้รอบตัวกลายเป็นธารน้ำแข็ง
ทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งมุ่งเน้นไปในการควบคุมพลังที่รุนแรงมันคือพลังธาตุหนามองค์ประกอบหนึ่งในพลังห้าธาตุที่แสนอ่อนโยน น้ำเคลื่อนที่ไปได้ทุกหนแห่ง ยิ่งปริมาณน้ำมีมากพลังก็จะรุนแรงแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนโยน อย่างไรก็ตามธารน้ำแข็งก็คือการแข็งตัวของน้ำ แม้จะลดความอ่อนโยนลง แต่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก น้อยคนนักที่จะเรียนรู้ทักษะด้านนี้
ชิงสุ่ยจับมือถานท่ายหลิงเยียนก่อนจะลอยขึ้นไปกลางอากาศในชั่วพริบตาทั้งสองคนก็ปรากฏตัว ณ ระดับความสูงเสียดฟ้า
ถานท่ายหลิงเยียนไม่ได้วิตกกังวลในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถจับมือเธอได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งการโอบกอดเธอ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากจิตใจของทั้งสองฝ่าย ชิงสุ่ยไม่ได้มีบังคับเธอ ในขณะเดียวกันเธอก็ตำหนักถึงความรักและความอบอุ่นที่เขามอบให้
”หลังจากที่ข้าได้เห็นทักษะกระบี่ของเจ้าเจ้าปรับตัวเข้ากับมันได้เร็วมาก” ชิงสุ่ยจับมือของเธอพร้อมกับทะยานห้ามเส้นขอบฟ้าอย่างช้าๆ
แม้ทั้งสองคนจะอยู่เหนือความสูงท้องฟ้าอยู่ในระดับเดียวกับก้อนเมฆ ปริมาณอากาศรอบตัวของทั้งสองถึงแม้จะบางเบาแต่ก็ยังคงมี โดยทั่วไปแล้วบนสวรรค์ชั้นฟ้า พลังปราณจิตที่ขับเคลื่อนแรงลมจะมีปริมาณมหาศาล แต่เมื่ออยู่รอบตัวชิงสุ่ยและถานท่ายหลิงเยียน พวกมันไม่สามารถทำอะไรสองคนนี้ได้เลย
”มันคือทักษะกระบี่ที่ข้าได้รับมาจากการพัฒนาครั้งล่าสุดข้าพยายามปรับเปลี่ยนบางอย่างและเพิ่มเติมทักษะลงไปบนพื้นฐานทักษะดั้งเดิม ปัญหาเดียวที่ข้าเจอตอนนี้ คือมันไม่ได้ส่งผลดีต่อข้าเลย”ถานท่ายหลิงเยียนเหมือนจะเผชิญหน้ากับความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า คำพูดของเธอจึงแทบไม่มีความรู้สึกเสียใจเลย
และบางทีมันอาจเป็นเรื่องบังเอิญเพราะสิ่งที่เธอล้มเหลวคือสิ่งที่ชิงสุ่ยสงสัย เขาจึงยิ้มและมองใบหน้าถานท่ายหลิงเยียน “บางทีข้าอาจจะช่วยเจ้าได้ หลังจากที่ข้าได้เห็นทักษะของเจ้า ข้ารู้สึกได้เลยว่าข้าสามารถช่วยก็ได้”
”ขอกระบี่ให้ใครยืมหน่อย”
ชิงสุ่ยยิ้มและรับเอากระบี่เข้ามาถือไว้ในมือ
ถานท่ายหลิงเยียนรู้สึกงุนงงก่อนจะส่งกระบี่เทพธิดาให้กับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยยิ้มก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า”จากความรู้สึกของข้า เจ้ากำลังคาดหวังให้ทักษะกระบี่ของเจ้าเติมเต็มความรุนแรงและความบริสุทธิ์ในเวลาเดียวกัน”
”นี่คือรูปแบบทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งที่คู่ควรกับผู้สืบทอดอย่างเจ้าเหยียนเอ๋อ จับตามองให้ดี ทำจิตใจให้ว่างเปล่า ทุกครั้งที่ปลดปล่อยทักษะอย่าให้มีสิ่งใดมาคอยรบกวนจิตใจ มันคือการผสมผสานท่วงท่าที่ซับซ้อน แต่ก็เรียบง่ายอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือทักษะกระบี่ที่แสนใสสะอาด ปราศจากสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย” ตลอดเวลาที่ชิงสุ่ยเคลื่อนไหวเมฆที่อยู่รอบตัวยังคงลอยล้อมรอบตัวของเขาอยู่ตลอดเวลา กระบวนท่าที่ชิงสุ่ยแสดงไม่มีแม้แต่ร่องรอยความรุนแรงเพราะแม้แต่ก้อนเมฆก็ยังคงเคลื่อนไหวเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่พลังความรู้สึกที่อยู่รอบกายชิงสุ่ยเต็มไปด้วยพลังลึกลับชิงสุ่ยกำลังจมเข้าสู่ความรู้สึกอันแสนพิสดาร ราวกลับว่าโลกทั้งใบกลายเป็นดินแดนน้ำแข็ง ทั่วพื้นที่หมื่นลี้มองเห็นเกล็ดหิมะลอยละล่องไปทั่วอากาศได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็เริ่มเปลี่ยนแปลงกระบวนท่า หิมะถาโถมรอบตัวของชิงสุ่ย ก้อนเมฆที่เคยพัดผ่านเคลื่อนไหวเหมือนทุกลมกรรโชก พลังลมรอบตัวหมุนเวียนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
หิมะตกหนักเหมือนพายุผสานรวมเป็นหนึ่งโหมกระหน่ำไปในทิศทางเดียว
คลื่นพลังแผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมในขณะเดียวกันทักษะที่ชิงสุ่ยแสดงก็ผันแปรกลายเป็นความคล่องตัว แม้จะปลดปล่อยพลังอันแสนมหาศาลแต่ก็คงไว้ซึ่งความเสถียร
ทักษะกระบี่ที่เขาใช้ถูกแสดงในระดับความเร็วปานกลาง
ชิงสุ่ยกล่าวคำอธิบายอย่างต่อเนื่องพร้อมกับแสดงท่าทางที่เขาต้องการให้ถานท่ายหลิงเยียนเห็น
โฮกกกก!!
เสียงคมกระบี่ดังราวกับเสียงร้องของมังกรก่อนที่มังกรหิมะขาวจะปรากฏตัวหน้าชิงสุ่ย มันถูกสร้างขึ้นจากน้ำแข็งและมีรูปร่างเท่ากับสัตว์อสูรขนาดยักษ์ เจ้ามังกรตัวนี้มีความยาวมากถึง 1 กิโลเมตร และมีความกว้างของลำตัวเกือบ 100 เมตร
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ทันทีว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางในตัวของเขา
มังกรขับเคลื่อนไปตามทิศทางของกระบี่ในมือชิงสุ่ยเมื่อปลายกระบี่ชี้ไปที่ใด พื้นที่เหล่านั้นจะถูกเจ้ามังกรถล่มจนพังพินาศ รอบๆตัวของเขาถูกกลืนกินไปด้วยโลกหิมะสีขาว ซึ่งเกิดจากส่วนผสมระหว่างความรุนแรงโกรธเกรี้ยวและความบริสุทธิ์
แม้จะไม่สามารถเทียบกับตราประทับน้ำแข็งหมื่นลี้ได้แต่ความรุนแรงของพายุเกือบจะเทียบเท่ากัน ความแข็งแกร่งอันน่าพิศวงช่วยให้ผู้ใช้ปลดปล่อยพลังทำลายล้างมากกว่าพลังของตนได้อีกหลายเท่าตัว
แน่นอนว่าพลังที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นผลของกระบี่เทพธิดาหากชิงสุ่ยเปลี่ยนศาสตราวุธในมือเป็นง้าวทองทะลวงศัตรู ต่อให้เขาปลดปล่อยทักษะเดียวกันนี้ ขอบเขตผลพลังของมันย่อมต้องลดลงเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อการร่ายรำกระบี่จบสิ้นลงโลกทั้งใบรอบตัวชิงสุ่ยก็กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม จากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองถานท่ายหลิงเยียนที่กำลังจ้องมองเขาสีหน้าประหลาดใจ ในเวลานี้จิตวิญญาณของเธอกำลังอยู่ในสภาพว่างเปล่า ชิงสุ่ยจึงไม่ขัดจังหวะ และปล่อยให้เธอซึมซับความสมบูรณ์ของทักษะกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สายธารเยือกแข็งด้วยตัวของเธอเอง ชิงสุ่ยมีหน้าที่เป็นเพียงแค่ประตูทางผ่าน
และแล้วอุณหภูมิรอบๆตัวถานท่ายหลิงเยียนก็ลดลงอย่างฉับพลันเมฆที่เคยรายล้อมเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นภูเขาน้ำแข็ง