Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1907 - พลังหยิน และพลังหยาง
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1907 - พลังหยิน และพลังหยาง
ในไม่ช้าบ้านทั้งหลังก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบอีเย่เจี้ยนเก้อใบหน้าแดงก่ำ ขณะที่เธอนอนขดอยู่ในอ้อมอกของชิงสุ่ย ซึ่งมันก็ทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างที่ใครไม่อาจเทียบได้
ในครั้งนี้ดูเหมือนเรื่องจะวุ่นวายกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา อีเย่เจี้ยนเก้อกล่าวจากความรู้สึก
อย่าไปพูดถึงมันเลยหากใครก็ตามต้องการล้มข้า ข้าบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ตัวข้าเหมือนเม้นที่มีหนามแหลม นอกจากจะเข้าถึงลำบาก เนื้อยังไม่อร่อยอีกด้วย ชิงสุ่ยยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลาย
อีเย่เจี้ยนเก้อรู้ว่าที่ชิงสุ่ยกล่าวมันก็เป็นความจริงและเธอเองก็พยายามจะไม่กังวล เธอจึงไม่พูดอะไรต่อ ทำได้แค่เฝ้ามองลูกตัวน้อยที่นอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมอกอันแสนอิ่มเอมของเธอ เธอรู้สึกเหมือนทุกอย่างได้เติมเต็มชีวิตของเธอแล้ว จนเธอไม่ต้องการอะไรอีก หากเธอไม่สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ มันก็คงเป็นเพราะชะตากรรมของเธอ แต่ตราบใดที่เธอยังคงอยู่ ลูกและสามีของเธอจะต้องอยู่รอดแล้วมีหัวใจที่สมบูรณ์
ขณะที่อีเย่เจี้ยนเก้อกำลังขบคิดชิงสุ่ยก็เอื้อมมือออกไปขย้ำบั้นท้ายสีขาวหิมะอันแสนงดงาม มันสู้สะท้อนมือยืดหยุ่นอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งการจับของเขาก็ทำให้เธอถึงกับอ้าปาก
เจ้าวัวบ้า….. อี้เย่เจี้ยนเก้อถึงกับร้องอุทานแต่เธอก็ยังไม่ทันพูดจบ
ชิงสุ่ยบรรจงจูบเธออีกครั้ง อย่าได้กังวลอีกเลย ข้าก็เป็นอีกคนนึงที่ชอบการพนัน ทำใจให้ผ่อนคลาย ข้าเป็นคนประเภทตายยาก แม้ข้าจะไม่ชนะ แต่ข้าก็มีวิธีพาทุกคนหนี พวกมันก็คงยังไม่รู้ แต่ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะต้องรู้ว่าความสามารถในการหลบหนีของข้าสูงส่งเพียงใด
เมื่อชิงสุ่ยพูดถึงการหลบหนีเขาแสดงสีหน้ามั่นใจเหมือนมีเทพสวรรค์คอยอยู่เคียงข้าง จนอีเย่เจี้ยนเก้อถึงกับเผลอหัวเราะออกมา
หลังจากอีเย่เจี้ยนเก้อนอนหลับชิงสุ่ยก็ลุกขึ้นในออกมาข้างนอก เขากลับเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะทันทีเพราะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องตรวจสอบ ในช่วง 2-3 วันนี้ เขาจำเป็นจะต้องตื่นตัวและเฝ้าระวังด้วยความมุ่งมั่นสูงสุด เขาไม่อยากจะเสียใครไปแม้แต่คนเดียว
หลังจากตรวจสอบรูปแบบค่ายกลชิงสุ่ยก็กลับไปที่ห้องนอนของตนเอง
ซึ่งทันทีที่เขาเข้ามาข้างในเขาก็รู้สึกถึงกลิ่นบางอย่าง มันเป็นกลิ่นหอมที่เล็ดลอดออกมาตามช่องหน้าต่างและประตู ทันทีที่เขาสัมผัสถึงกลิ่น เขาก็มองเห็นชิงห่านอี้กำลังยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง ซึ่งเธอเองก็มองย้อนกลับมาหาชิงสุ่ย
ร่างผอมเพียวยาวในชุดนอนหิมะขาวผมปล่อยยาวไปถึงหลัง ชุดนอนของเธอครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย หากมองจากภายนอกจะเห็นผิวหนังเฉพาะบริเวณมือ
เท้าของเธอค่อยๆเหยียบลงบนพรมให้ความรู้สึกซับซ้อนภายใต้แสงจันทร์สีขาวนวลที่ทอดผ่านหน้าต่าง
แม้ว่าเธอจะปกปิดร่างกายมิดชิดแต่เสน่ห์ที่เธอมีมันเป็นสิ่งที่ผู้อื่นไม่สามารถเอื้อมถึง ร่างกายที่น่าดึงดูดโดยเฉพาะหน้าอกพร้อมกับเอวคอดยิ่งเสริมความพิเศษ เมื่อผสานรวมกับบั้นท้ายกลมมนและเส้นโค้งเว้าตามร่างกาย มันยิ่งทำให้เธอครองความงดงาม
เอ๋!!!
ชิงสุ่ยร้องอุทานด้วยความตกใจสีหน้าของเขาจับจ้องไปที่ร่างกายของชิงห่านอี้ จนใบหน้าของเธอแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันแสนงดงาม ดวงตาที่เหมือนดอกท้อเจาะแสงไปด้วยเมฆหมอกคล้ายจะมีน้ำตา
ตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกมากแล้วทำไมเจ้าถึงยังไม่นอน? ชิงสุ่ยยิ้มอย่างเชื่องช้าขณะที่เขาก้าวเข้าไปในห้อง
ชิงสุ่ยไม่ใช่คนที่จะแสดงอาการเขินอายง่ายๆแต่เขาก็แสดงออกให้เธอได้เห็น มันคือความรู้สึกอึดอัดเวลาชายหญิงกำลังหลงรักกัน
ขณะที่เธอได้ยินคำพูดของชิงสุ่ยเธอเองยังคงตกตะลึงในสายตาที่เขามองมา เธอค่อยๆกระพริบตา โดยที่ขนตาของเธอโค้งงอนให้ความรู้สึกน่าดึงดูด เมื่อร่างกาย 9 หยางกับร่างกาย 9 หยินอยู่ใกล้กัน มันจะสร้างแรงดึงดูดพิเศษ ยิ่งทำให้การกระทำทุกอิริยาบถก่อให้เกิดแรงดึงดูดระหว่างกัน
ชิงห่านอี้กำลังมองดูชายที่เธอชอบหลังจากที่ได้สารภาพความในใจ โชคชะตาเหมือนเล่นตลก ปัญหาต่างๆเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แต่ในสุดท้าย ทั้งสองคนก็รู้สึกแล้วว่ามันถึงเวลาที่จะต้องอยู่ด้วยกันแล้ว
ขณะที่เธอกำลังขบคิดเธอก็รับรู้ถึงกลิ่นอายของชายที่เธอชอบกำลังเข้ามาไกล เธอเงยหน้ามองดูชิงสุ่ยตาไม่กระพริบ
ชิงสุ่ยคืนนี้ ข้าอยากเป็นผู้หญิงของเจ้า……………
คำพูดของชิงห่านอี้รุนแรงยิ่งกว่าแรงดึงดูดของดอกไม้ที่หอมหวลที่สุดจริงๆแล้วในตอนนี้เธอเองก็ไม่อยากมอบร่างกาย 9 หยินของเธอให้กับชิงสุ่ย เพราะกลัวว่าร่างกาย 9 หยางของชิงสุ่ยยังไม่แข็งแกร่งพอจนเกิดอาการบาดเจ็บ
แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าเธอก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ตราบใดที่เธอได้กลายเป็นผู้หญิงของเขา เธอก็ไม่รู้สึกเสียใจอะไรอีก
ชิงสุ่ยอบกอดร่างกายที่เหมือนหยกที่ถูกคลุมไปด้วยผ้าชุดนอนแม้จะมีชั้นผ้ากั้น แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงผิวพรรณเรียบเนียนและนุ่มนวล
ชิงสุ่ยค่อยๆประกบริมฝีปากของเขาเข้ากับริมฝีปากของเธอมือข้างหนึ่งโอบบริเวณเอว ส่วนอีกมือหนึ่งเอื้อมไปโอบไหล่ ความรู้สึกที่เขาได้รับคือเขากำลังรู้สึกถึงความกระวนกระวายที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอ
ชิงห่านอี้หน้าปากค้างพร้อมกับส่งเสียงอันแสนนุ่มนวลซึ่งมันยิ่งสร้างความรู้สึกตื่นเต้นให้กับชิงสุ่ย เขากอดเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับว่าร่างกายของทั้งสองกำลังเรียกหากัน
ในช่วงพริบตาชิงสุ่ยก็เริ่มปลดเสื้อผ้าภายนอกออกทีละชิ้น จนสุดท้ายร่างกายของชิงห่านอี้ก็กลายเป็นร่างกายเปลือยเปล่า แสดงให้เห็นถึงร่างกายขาวนวลโดยเฉพาะหน้าอกที่โดดเด่น จนจิตใจของชิงสุ่ยเต้นถี่ไม่เป็นจังหวะ
ยอดปทุมถันสีแดงดึงดูดจิตใจยิ่งทำให้ชิงสุ่ยรุกเร้า คล้ายกับคนหิวกระหาย
…………..
……….
เมื่อชิงสุ่ยเข้าสู่จุดบริเวณดอกไม้ที่เปียกชื้นเขาค่อยๆบดขยี้ร่างกายอันแสนอ่อนโยนจนร่างกายของชิงห่านอี้สั่นไหวอย่างรุนแรง ในไม่ช้า แท่งสวรรค์ของเขาก็เริ่มบดขยี้จุดดอกไม้มนตรา แม้มันจะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ก็เป็นความรู้สึกเจ็บปวดที่แสนสุข
ชิงสุ่ยมองดูชิงห่านอี้ด้วยสายตานิ่มนวลพลังของทั้งสองคนกำลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมกับร่างกายที่กำลังเคลื่อนไหว
พลังแห่งกายา9 หยาง
ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้พลังของกายา9 หยางในร่างกายของเขา กับพลังกายา 9 หยินของชิงห่านอี้มันกำลังจะเริ่มดึงดูดเข้าหากัน
เขาเกือบลืมสติสัมปชัญญะของตนเองทันทีที่พลัง 9 หยินของชิงห่านอี้เข้ามาในร่างกายของเขา หากไม่ใช่เพราะกายา 9 หยาง สถิติของเขาคงจะเลอะเลือน และหายไปตลอดกาล
หลังจากที่พลังระเบิดขึ้นภายในร่างกายของชิงสุ่ยพลัง 9 หยางก็เริ่มแข็งแกร่งและเติบโต และดูดกลืนพลัง 9 หยินที่เข้ามาในร่างกายอย่างต่อเนื่อง ชิงสุ่ยตกตะลึงในพลังของกายา9 หยิน และไม่คิดเลยว่ามันจะพุ่งตรงเข้ามาในร่างกายของเขา เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะแบกรับพลังนี้ไหวหรือไม่
ตูมมมม!!
ภายในทะเลแห่งปัญญาของชิงสุ่ยตอนนี้มันเหมือนมีภูเขา 2 ลูกกำลังพุ่งเข้าปะทะกันเอง ส่วนรูปภาพหยินหยางก็กำลังหมุนวนพร้อมกับระเบิดแสงสว่างจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์
รูปภาพหยินหยางค่อยๆขยายตัวเพิ่มอีกครึ่งหนึ่งซึ่งสิ่งที่แปลกมากคงจะเป็นทะเลสาบแห่งทะเลปัญญา ที่ปัจจุบันสว่างจนเหมือนมองไม่เห็น
ปังงงงง!!
ในขณะเดียวกันรูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ก็เกิดการระเบิด แสงสว่างของดวงดาราทองคำกระจัดกระจายไปทั่ว แม้ดวงดาวอื่นจะสว่างไสว แต่ดวงดาวที่อยู่ใจกลางจาก 9 ดวงเป็นดวงดาวที่ส่องสว่างมากที่สุด การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในทะเลแห่งปัญญาขยายขอบเขตท้องฟ้าของทะเลแห่งปัญญาให้กว้างใหญ่ขึ้น ก่อนหน้านี้มันก็มีความใหญ่อยู่แล้ว แต่ก็เป็นการขยายที่อยู่บนกรอบของเขตสูงสุด แต่หลังจากที่มันเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง เห็นได้ชัดเลยว่าขนาดของท้องฟ้ากว้างใหญ่ยิ่งกว่าเดิม และรับรู้ได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ความแข็งแกร่งของรูปแบบเพิ่มขึ้น4 เท่าจนกลายเป็น 9 เท่า ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่ามันทำอะไรได้มากขึ้น เขาจึงรีบปลดปล่อยพลังดาราจักรอัสนีออกมา!!
สายฟ้าแห่งดวงดาวถูกปลดปล่อยออกมาจากใจกลางค่ายกลรูปแบบ9ดาราคล้อย9 สวรรค์กลายเป็นสายฟ้าขนาดใหญ่โจมตีเข้าสู่ใจกลางทะเลแห่งปัญญา
พลังที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ส่วนแรกเริ่มพลังหยินยังคงถาโถมเข้าใส่ร่างกายของชิงสุ่ย และร่างกายของเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดูดซับพลัง ถ้าหากหยินและหยางแยกออกจากกันชีวิตจะคงอยู่ได้ไม่นาน แต่เมื่อไหร่ที่พวกมันรวมเข้าด้วยกัน แม้แต่พลังของสวรรคและโลก ก็หยุดยั้งพวกมันไม่ได้
นอกจากทะเลแห่งปัญญาที่เปลี่ยนไปร่างกายภายนอกของชิงสุ่ยไม่ว่าจะเป็นกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เส้นเลือด เส้นลมปราณเองก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย
ไม่ใช่แค่ชิงสุ่ยคนเดียวที่ได้รับพลังชิงห่านอี้เองก็ไม่ต่างกัน ความแข็งแกร่งของเธอค่อยๆถูกปลดผนึกอย่างต่อเนื่อง เธอไม่อยากเชื่อในความรู้สึก และไม่คิดว่าคนที่ทำให้เกิดสิ่งที่ได้คือคนที่อยู่ใกล้ตัวเธอมากที่สุด
บทที่1907 – พลังหยิน และพลังหยาง
ในไม่ช้าบ้านทั้งหลังก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบอีเย่เจี้ยนเก้อใบหน้าแดงก่ำ ขณะที่เธอนอนขดอยู่ในอ้อมอกของชิงสุ่ย ซึ่งมันก็ทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างที่ใครไม่อาจเทียบได้
ในครั้งนี้ดูเหมือนเรื่องจะวุ่นวายกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา อีเย่เจี้ยนเก้อกล่าวจากความรู้สึก
อย่าไปพูดถึงมันเลยหากใครก็ตามต้องการล้มข้า ข้าบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ตัวข้าเหมือนเม้นที่มีหนามแหลม นอกจากจะเข้าถึงลำบาก เนื้อยังไม่อร่อยอีกด้วย ชิงสุ่ยยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลาย
อีเย่เจี้ยนเก้อรู้ว่าที่ชิงสุ่ยกล่าวมันก็เป็นความจริงและเธอเองก็พยายามจะไม่กังวล เธอจึงไม่พูดอะไรต่อ ทำได้แค่เฝ้ามองลูกตัวน้อยที่นอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมอกอันแสนอิ่มเอมของเธอ เธอรู้สึกเหมือนทุกอย่างได้เติมเต็มชีวิตของเธอแล้ว จนเธอไม่ต้องการอะไรอีก หากเธอไม่สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ มันก็คงเป็นเพราะชะตากรรมของเธอ แต่ตราบใดที่เธอยังคงอยู่ ลูกและสามีของเธอจะต้องอยู่รอดแล้วมีหัวใจที่สมบูรณ์
ขณะที่อีเย่เจี้ยนเก้อกำลังขบคิดชิงสุ่ยก็เอื้อมมือออกไปขย้ำบั้นท้ายสีขาวหิมะอันแสนงดงาม มันสู้สะท้อนมือยืดหยุ่นอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งการจับของเขาก็ทำให้เธอถึงกับอ้าปาก
เจ้าวัวบ้า….. อี้เย่เจี้ยนเก้อถึงกับร้องอุทานแต่เธอก็ยังไม่ทันพูดจบ
ชิงสุ่ยบรรจงจูบเธออีกครั้ง อย่าได้กังวลอีกเลย ข้าก็เป็นอีกคนนึงที่ชอบการพนัน ทำใจให้ผ่อนคลาย ข้าเป็นคนประเภทตายยาก แม้ข้าจะไม่ชนะ แต่ข้าก็มีวิธีพาทุกคนหนี พวกมันก็คงยังไม่รู้ แต่ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะต้องรู้ว่าความสามารถในการหลบหนีของข้าสูงส่งเพียงใด
เมื่อชิงสุ่ยพูดถึงการหลบหนีเขาแสดงสีหน้ามั่นใจเหมือนมีเทพสวรรค์คอยอยู่เคียงข้าง จนอีเย่เจี้ยนเก้อถึงกับเผลอหัวเราะออกมา
หลังจากอีเย่เจี้ยนเก้อนอนหลับชิงสุ่ยก็ลุกขึ้นในออกมาข้างนอก เขากลับเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะทันทีเพราะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องตรวจสอบ ในช่วง 2-3 วันนี้ เขาจำเป็นจะต้องตื่นตัวและเฝ้าระวังด้วยความมุ่งมั่นสูงสุด เขาไม่อยากจะเสียใครไปแม้แต่คนเดียว
หลังจากตรวจสอบรูปแบบค่ายกลชิงสุ่ยก็กลับไปที่ห้องนอนของตนเอง
ซึ่งทันทีที่เขาเข้ามาข้างในเขาก็รู้สึกถึงกลิ่นบางอย่าง มันเป็นกลิ่นหอมที่เล็ดลอดออกมาตามช่องหน้าต่างและประตู ทันทีที่เขาสัมผัสถึงกลิ่น เขาก็มองเห็นชิงห่านอี้กำลังยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง ซึ่งเธอเองก็มองย้อนกลับมาหาชิงสุ่ย
ร่างผอมเพียวยาวในชุดนอนหิมะขาวผมปล่อยยาวไปถึงหลัง ชุดนอนของเธอครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย หากมองจากภายนอกจะเห็นผิวหนังเฉพาะบริเวณมือ
เท้าของเธอค่อยๆเหยียบลงบนพรมให้ความรู้สึกซับซ้อนภายใต้แสงจันทร์สีขาวนวลที่ทอดผ่านหน้าต่าง
แม้ว่าเธอจะปกปิดร่างกายมิดชิดแต่เสน่ห์ที่เธอมีมันเป็นสิ่งที่ผู้อื่นไม่สามารถเอื้อมถึง ร่างกายที่น่าดึงดูดโดยเฉพาะหน้าอกพร้อมกับเอวคอดยิ่งเสริมความพิเศษ เมื่อผสานรวมกับบั้นท้ายกลมมนและเส้นโค้งเว้าตามร่างกาย มันยิ่งทำให้เธอครองความงดงาม
เอ๋!!!
ชิงสุ่ยร้องอุทานด้วยความตกใจสีหน้าของเขาจับจ้องไปที่ร่างกายของชิงห่านอี้ จนใบหน้าของเธอแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันแสนงดงาม ดวงตาที่เหมือนดอกท้อเจาะแสงไปด้วยเมฆหมอกคล้ายจะมีน้ำตา
ตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกมากแล้วทำไมเจ้าถึงยังไม่นอน? ชิงสุ่ยยิ้มอย่างเชื่องช้าขณะที่เขาก้าวเข้าไปในห้อง
ชิงสุ่ยไม่ใช่คนที่จะแสดงอาการเขินอายง่ายๆแต่เขาก็แสดงออกให้เธอได้เห็น มันคือความรู้สึกอึดอัดเวลาชายหญิงกำลังหลงรักกัน
ขณะที่เธอได้ยินคำพูดของชิงสุ่ยเธอเองยังคงตกตะลึงในสายตาที่เขามองมา เธอค่อยๆกระพริบตา โดยที่ขนตาของเธอโค้งงอนให้ความรู้สึกน่าดึงดูด เมื่อร่างกาย 9 หยางกับร่างกาย 9 หยินอยู่ใกล้กัน มันจะสร้างแรงดึงดูดพิเศษ ยิ่งทำให้การกระทำทุกอิริยาบถก่อให้เกิดแรงดึงดูดระหว่างกัน
ชิงห่านอี้กำลังมองดูชายที่เธอชอบหลังจากที่ได้สารภาพความในใจ โชคชะตาเหมือนเล่นตลก ปัญหาต่างๆเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แต่ในสุดท้าย ทั้งสองคนก็รู้สึกแล้วว่ามันถึงเวลาที่จะต้องอยู่ด้วยกันแล้ว
ขณะที่เธอกำลังขบคิดเธอก็รับรู้ถึงกลิ่นอายของชายที่เธอชอบกำลังเข้ามาไกล เธอเงยหน้ามองดูชิงสุ่ยตาไม่กระพริบ
ชิงสุ่ยคืนนี้ ข้าอยากเป็นผู้หญิงของเจ้า……………
คำพูดของชิงห่านอี้รุนแรงยิ่งกว่าแรงดึงดูดของดอกไม้ที่หอมหวลที่สุดจริงๆแล้วในตอนนี้เธอเองก็ไม่อยากมอบร่างกาย 9 หยินของเธอให้กับชิงสุ่ย เพราะกลัวว่าร่างกาย 9 หยางของชิงสุ่ยยังไม่แข็งแกร่งพอจนเกิดอาการบาดเจ็บ
แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าเธอก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ตราบใดที่เธอได้กลายเป็นผู้หญิงของเขา เธอก็ไม่รู้สึกเสียใจอะไรอีก
ชิงสุ่ยอบกอดร่างกายที่เหมือนหยกที่ถูกคลุมไปด้วยผ้าชุดนอนแม้จะมีชั้นผ้ากั้น แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงผิวพรรณเรียบเนียนและนุ่มนวล
ชิงสุ่ยค่อยๆประกบริมฝีปากของเขาเข้ากับริมฝีปากของเธอมือข้างหนึ่งโอบบริเวณเอว ส่วนอีกมือหนึ่งเอื้อมไปโอบไหล่ ความรู้สึกที่เขาได้รับคือเขากำลังรู้สึกถึงความกระวนกระวายที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอ
ชิงห่านอี้หน้าปากค้างพร้อมกับส่งเสียงอันแสนนุ่มนวลซึ่งมันยิ่งสร้างความรู้สึกตื่นเต้นให้กับชิงสุ่ย เขากอดเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับว่าร่างกายของทั้งสองกำลังเรียกหากัน
ในช่วงพริบตาชิงสุ่ยก็เริ่มปลดเสื้อผ้าภายนอกออกทีละชิ้น จนสุดท้ายร่างกายของชิงห่านอี้ก็กลายเป็นร่างกายเปลือยเปล่า แสดงให้เห็นถึงร่างกายขาวนวลโดยเฉพาะหน้าอกที่โดดเด่น จนจิตใจของชิงสุ่ยเต้นถี่ไม่เป็นจังหวะ
ยอดปทุมถันสีแดงดึงดูดจิตใจยิ่งทำให้ชิงสุ่ยรุกเร้า คล้ายกับคนหิวกระหาย
…………..
……….
เมื่อชิงสุ่ยเข้าสู่จุดบริเวณดอกไม้ที่เปียกชื้นเขาค่อยๆบดขยี้ร่างกายอันแสนอ่อนโยน จนร่างกายของชิงห่านอี้สั่นไหวอย่างรุนแรง ในไม่ช้า แท่งสวรรค์ของเขาก็เริ่มบดขยี้จุดดอกไม้มนตรา แม้มันจะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ก็เป็นความรู้สึกเจ็บปวดที่แสนสุข
ชิงสุ่ยมองดูชิงห่านอี้ด้วยสายตานิ่มนวลพลังของทั้งสองคนกำลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมกับร่างกายที่กำลังเคลื่อนไหว
พลังแห่งกายา9 หยาง ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้พลังของกายา9 หยางในร่างกายของเขา กับพลังกายา 9 หยินของชิงห่านอี้มันกำลังจะเริ่มดึงดูดเข้าหากัน
เขาเกือบลืมสติสัมปชัญญะของตนเองทันทีที่พลัง 9 หยินของชิงห่านอี้เข้ามาในร่างกายของเขา หากไม่ใช่เพราะกายา 9 หยาง สถิติของเขาคงจะเลอะเลือน และหายไปตลอดกาล
หลังจากที่พลังระเบิดขึ้นภายในร่างกายของชิงสุ่ยพลัง 9 หยางก็เริ่มแข็งแกร่งและเติบโต และดูดกลืนพลัง 9 หยินที่เข้ามาในร่างกายอย่างต่อเนื่อง
ชิงสุ่ยตกตะลึงในพลังของกายา9 หยิน และไม่คิดเลยว่ามันจะพุ่งตรงเข้ามาในร่างกายของเขา เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะแบกรับพลังนี้ไหวหรือไม่
ตูมมมม!!
ภายในทะเลแห่งปัญญาของชิงสุ่ยตอนนี้มันเหมือนมีภูเขา 2 ลูกกำลังพุ่งเข้าปะทะกันเอง ส่วนรูปภาพหยินหยางก็กำลังหมุนวนพร้อมกับระเบิดแสงสว่างจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์
รูปภาพหยินหยางค่อยๆขยายตัวเพิ่มอีกครึ่งหนึ่งซึ่งสิ่งที่แปลกมากคงจะเป็นทะเลสาบแห่งทะเลปัญญา ที่ปัจจุบันสว่างจนเหมือนมองไม่เห็น
ปังงงงง!!
ในขณะเดียวกันรูปแบบ9ดาราคล้อย 9 สวรรค์ก็เกิดการระเบิด แสงสว่างของดวงดาราทองคำกระจัดกระจายไปทั่ว แม้ดวงดาวอื่นจะสว่างไสว แต่ดวงดาวที่อยู่ใจกลางจาก 9 ดวงเป็นดวงดาวที่ส่องสว่างมากที่สุด
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในทะเลแห่งปัญญาขยายขอบเขตท้องฟ้าของทะเลแห่งปัญญาให้กว้างใหญ่ขึ้น ก่อนหน้านี้มันก็มีความใหญ่อยู่แล้ว แต่ก็เป็นการขยายที่อยู่บนกรอบของเขตสูงสุด แต่หลังจากที่มันเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง เห็นได้ชัดเลยว่าขนาดของท้องฟ้ากว้างใหญ่ยิ่งกว่าเดิม และรับรู้ได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ความแข็งแกร่งของรูปแบบเพิ่มขึ้น4 เท่าจนกลายเป็น 9 เท่า ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่ามันทำอะไรได้มากขึ้น เขาจึงรีบปลดปล่อยพลังดาราจักรอัสนีออกมา!!
สายฟ้าแห่งดวงดาวถูกปลดปล่อยออกมาจากใจกลางค่ายกลรูปแบบ9ดาราคล้อย9 สวรรค์กลายเป็นสายฟ้าขนาดใหญ่โจมตีเข้าสู่ใจกลางทะเลแห่งปัญญา
พลังที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ส่วนแรกเริ่มพลังหยินยังคงถาโถมเข้าใส่ร่างกายของชิงสุ่ย และร่างกายของเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดูดซับพลัง
ถ้าหากหยินและหยางแยกออกจากกันชีวิตจะคงอยู่ได้ไม่นาน แต่เมื่อไหร่ที่พวกมันรวมเข้าด้วยกัน แม้แต่พลังของสวรรคและโลก ก็หยุดยั้งพวกมันไม่ได้
นอกจากทะเลแห่งปัญญาที่เปลี่ยนไปร่างกายภายนอกของชิงสุ่ยไม่ว่าจะเป็นกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เส้นเลือด เส้นลมปราณเองก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่ใช่แค่ชิงสุ่ยคนเดียวที่ได้รับพลังชิงห่านอี้เองก็ไม่ต่างกัน ความแข็งแกร่งของเธอค่อยๆถูกปลดผนึกอย่างต่อเนื่อง เธอไม่อยากเชื่อในความรู้สึก และไม่คิดว่าคนที่ทำให้เกิดสิ่งที่ได้คือคนที่อยู่ใกล้ตัวเธอมากที่สุด