Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 1946 - การจู่โจมที่น่าอัศจรรย์ ความอาฆาตแค้น ไม่จำเป็นต้องไว้หน้า
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 1946 - การจู่โจมที่น่าอัศจรรย์ ความอาฆาตแค้น ไม่จำเป็นต้องไว้หน้า
ก้าวพสุธาเอราวัณ
คลื่นกระแทกสั่นคลอนสวรรค์ถูกนำมาใช้ทันทีหลังจากใช้ทักษะฝ่ามือกระชากมังกร
พายุขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นให้เห็นทันทีพร้อมกับร่างของชิงสุ่ยที่พุ่งทะยานเข้าหาชายชราการโจมตีเปิดฉากของชายชราไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับเขาเพราะมันเป็นการเปิดฉากที่พร้อมจะเอาชีวิตเขาตลอดเวลา ฉะนั้นเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าชายชราอีกต่อไป
การจะฆ่าชิงสุ่ยไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายๆ เขาระเบิดความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่ได้ปรับแต่งดูดซับพลังของรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด แม้แต่ผู้อาวุโสดาราจรัสที่เก่งกาจเรื่องความเร็ว ก็ไม่ใช่คู่ต่อกรเรื่องความเร็วของชิงสุ่ย แต่แล้วเมื่อชิงสุ่ยเข้าประชิดตัวชายชรา ชายชราก็หายวับไปกับตา และไปปรากฏตัวอยู่ด้านหลังชิงสุ่ยแทน ในขณะที่เขาเองก็กำลังปลดปล่อยกำปั้นเข้าใส่ชายชรา
ตูมมมมม!!
จากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกถึงอาการเจ็บปวดจากข้อมือมันเป็นความรู้สึกเจ็บปวดทรมานไปถึงกระดูก ซึ่งมันทำให้เขาตระหนักแล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องดี
เขาประมาทเกินไปจนถูกอสรพิษทองคำครามกัดเข้าเต็มแรง!!
แม้ว่าร่างกายของชิงสุ่ยจะมีความสามารถในการต่อต้านพิษสูงแต่พลังของเจ้างูปีศาจก็ไม่ธรรมดา พิษยังคงกระจายเข้าไปในร่างกายชิงสุ่ยสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงทำให้ร่างกายของเขาหนักอึ้ง ในขณะเดียวกันชายชราก็เข้ามาใกล้ตัวเขา
พ่อหนุ่มน้อยเจ้ายังพิจารณาเงื่อนไขที่ข้ายื่นให้กับเจ้าก่อนหน้านี้อยู่อีกหรือไม่? ถ้าหากเจ้ายอมรับใช้ข้า เจ้าจะต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน ตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสกล่าวด้วยน้ำเสียงน่าขนลุก
ชิงสุ่ยยิ้มเล็กน้อย พูดตามตรงเลยแล้วกัน ข้าไม่คิดว่าข้าจะมีอนาคตที่สดใสถ้าหากคอยติดตามท่าน
ตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสยิ้มอย่างน่าสยดสยอง คนอย่างเจ้าถ้าหากไม่เป็นมิตรก็ต้องเป็นศัตรู ถ้าเจ้าเลือกปฏิเสธคำขอของข้า ฉะนั้นข้าคงต้องเลือกทำลายเจ้าอย่างโหดเหี้ยมทารุณ
มีดสั้นสีเขียวมรกต2 เล่มปรากฏขึ้นในมือของชายชรา มันเงาและแวววาวจนมองแทบไม่เห็นพื้นผิวของมีดสั้นทั้ง 2 เล่ม สิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียวคือสีเขียวที่น่าขนลุก
จงเตรียมรับดินแดนหยินหยางไปจากข้า ตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสบิดร่างกายไปมาอย่างแปลกประหลาดจากนั้นก็กระโจนเข้าหาชิงสุ่ยด้วยจังหวะร่างกายที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ
นี่คือหนึ่งในทักษะที่ตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสภาคภูมิใจมากที่สุด
ร่างกายของชิงสุ่ยยังคงรู้สึกชาอีกเพียงเล็กน้อยเมื่อเห็นตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสกำลังเตรียมเข้าโจมตีเขา เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะพร้อมกับหลับตา ในมุมมองของคนภายนอก ทุกคนต่างบอกได้เลยว่าชิงสุ่ยไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์ได้อีกต่อไป สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวคือนอนรอความตาย
ตึงงงง!!ตูมมมม!!
ชิงสุ่ยลืมตาขึ้นพร้อมกับร่างของตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสที่ปลิวกระเด็นถอยหลัง ปากของชายชรากระอักเลือดคำโตพุ่งกระจายไปทั่วท้องฟ้า
ภูเขา9 เทวาลอยอยู่เบื้องหน้าชิงสุ่ย!!
นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยเอาภูเขา9 เทวาออกมาใช้หลังจากดูดซับพลังของรากฐานเต๋าเทวาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่เขาฝึกซ้อมเขาเองก็รับรู้ได้ถึงพลังอันรุนแรงจากตัวของภูเขา 9 เทวา ซึ่งตอนนี้ภูเขา 9 เทวาครอบครองพลังสูงสุดถึง 1000 ล้านเต๋า สำหรับผู้ที่มีพลังเพียงแค่ระดับ 7 ของดินแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่มีทางสร้างความเสียหายให้กับภูเขา 9 เทวาได้แม้แต่ริ้วรอย
ทุกคนต่างปากค้างด้วยความประหลาดใจบรรดาผู้ชมต่างเชื่อมั่นว่าชิงสุ่ยจะต้องตายคามือตาเฒ่าปีศาจดาราจรัส เพราะตัวของตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เมื่อชายชราที่แข็งแกร่งมาเจอกับเด็กหนุ่ม ผลลัพธ์ที่ได้มันควรจะเป็นเด็กหนุ่มที่ถูกทุบจนจมดิน
ไอ้สิ่งที่รออยู่นั้นมันคืออะไร?
ภูเขาเล็กๆนั่น ทำไมถึงมีพลังโจมตีที่รุนแรงได้มากขนาดนี้ บรรดาผู้ชมเบื้องล่างเผลออุทาน
มันจะต้องเป็นขุมทรัพย์อย่างแน่นอนแต่มันคือขุมทรัพย์ระดับใดกัน
การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวทำให้ตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสถึงกับกระอักเลือด ไม่รู้ว่าจะอยู่หรือตาย มันจะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าที่ยิ่งใหญ่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย …………………..
ชิงสุ่ยเก็บภูเขา9 เทวากลับคืนสู่ร่างกาย เขาค่อยๆสลายพิษ และเดินตรงเข้าไปหาตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสที่นอนแน่นิ่งอยู่ไม่ไกลจากลานราชกิจสวรรค์
น้องสองงง!!
ในขณะที่ชิงสุ่ยเดินตรงเข้าหาตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสเสียงตะโกนแห่งความโกรธก็ดังมาจากด้านหลัง
ตาเฒ่า!!เจ้ากล้างั้นรึ?!! ขณะเดียวกันบรรพบุรุษอาวุโสแห่งตระกูลเซี่ยก็เริ่มตะโกนโต้กลับ
แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปชิงสุ่ยจึงรีบเรียกง้าวทองทะลวงศัตรูขึ้นมาไว้บนมือและรีบตรวจสอบชายชราที่กำลังลอบโจมตีเขา ชายชราคนนี้เหมือนกับตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสแทบทุกอย่าง พร้อมกับถือมีดสั้นคู่เช่นเดียวกัน เพียงแต่มีสั้นของชายชราคนนี้เป็นสีแดงสดคล้ายกับเลือด ความเร็วของชายชราคนนี้เลวยิ่งกว่าตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสและภายในเสี้ยววินาที มีดสั้นก็พุ่งทะยานตรงมาที่คอของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยเบี่ยงตัวหลบเป็นแนวราบอย่างไม่ลังเลและรีบแทงง้าวทองทะลวงศัตรูผลักดันสวนกลับ
ทักษะวชิระจู่โจม!!
ง้าวทองทะลวงศัตรูเปล่งประกายแสงสีทองครอบคลุมไปทั่วทั้งตัวของชิงสุ่ยจนคล้ายกับเทพสงครามกำลังประทับบนร่างกายของเขาง้าวทองพุ่งทะลุร่างกายของชายชราด้วยความเร็วปานสายฟ้า เจาะทะลวงด้วยพละกำลังสูงสุดที่เขาครอบครอง
ตูมมมมมม!!
ทั่วทั้งพื้นที่กลับคืนสู่ความเงียบสงัดไม่มีใครกล้าทำเสียงใดๆ ทักษะวชิระจู่โจมเป็นอีกหนึ่งไพ่ตายของชิงสุ่ย ถ้าหากปลดปล่อยทักษะวชิระจู่โจม พลังโจมตีของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นไปถึง 1,200 ล้านเต๋าทันที มันสามารถบดขยี้ทุกอย่างให้เป็นผุยผง และผนวกกับการควบคุมพลังของชิงสุ่ย มันทำให้เขาสามารถควบคุมพลังไว้ที่ปลายง้าว เจาะทะลวงกลางร่างกายของชายชราโดยที่ไม่ทำให้ร่างกายของเขาแตกสลายกลายเป็นฝุ่นได้
นี้ข้าตาฝาดไปใช่ไหม?เฒ่าอสูรดาราจรัสที่โหดเหี้ยมกว่าตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสยังถูกสังหารภายในกระบวนท่าเดียว……..
ทำไมตาเฒ่าอสูรดาราจรัสถึงได้พ่ายแพ้รวดเร็วขนาดนี้…..
………………
ชิงสุ่ยเก็บง้าวทองทะลวงศัตรูจากนั้นก็เดินตรงไปหาตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสที่ถูกโจมตีโดยภูเขา9 เทวา อวัยวะภายในร่างกายของตาเฒ่าปีศาจดาราจรัสแตกสลายเป็นเสี่ยง แต่เจ้าอสรพิษทองคำคราม 2 ตัวยังคงเหลืออยู่รอบๆตัวของเจ้านายของมัน
ชิงสุ่ยคว้างูทั้งสองตัวโยนเข้าไปเก็บไว้ในดินแดนหยกยุพราชอมตะจากนั้นก็พันธนาการพวกมันทั้ง 2 ตัวด้วยเตาหลอมกลั่นอสูร เพื่อไม่ให้พวกมันไปลอบกัดสัตว์อสูรตัวอื่นที่อาศัยอยู่ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ
พวกเราขอพาตัวผู้อาวุโสทั้งสองคนกลับไปกับพวกเราได้หรือไม่? ในขณะเดียวกันชายวัยกลางคนคนนึงก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า
ชายคนนี้ก็เป็นคนที่มาจากพระราชวังอมตะดาราจรัส
เชิญ ชิงสุ่ยตอบอย่างเชื่องช้า
คนของพระราชวังอมตะดาราจรัสรีบวิ่งขึ้นมานำตัวชายชราทั้งสองคนลงจากลานราชกิจสวรรค์และรีบออกเดินทางจากเมืองแห่งนี้ไปโดยไม่พูดคุยกับใครแม้แต่คนเดียว
ความบาดหมางกับพระราชวังอมตะดาราจรัสได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แต่ตัวของชิงสุ่ยหาได้ใส่ใจไม่ ด้วยพลังของเขา ถ้าหากยังเป็นเพียงพระราชวังอมตะดาราจรัส เขาไม่ได้รู้สึกหวั่นกลัวหรือกังวลอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เขาต้องการจะเดินทางเข้าสู่โลกเก้ามหาทวีปที่แท้จริงทันทีหลังจากที่จัดการปัญหาในที่แห่งนี้ได้จนเสร็จสิ้น
ตัวของบรรพบุรุษอาวุโสตระกูลเซี่ยเคยบอกเล่าเรื่องราวของโลกเก้ามหาทวีปที่แท้จริงให้กับเขาได้รับรู้มันคือที่รวมตัวของสุดยอดจอมยุทธ บรรดาผู้คนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกเก้ามหาทวีป และมันยังเป็นสถานที่ที่เป็นไปด้วยนิกายและราชวงศ์มากมายที่กระหายสงคราม และกระหายพลัง
มีใครอยากจะทดสอบความสามารถของข้าอีกหรือไม่? ชิงสุ่ยชำเลืองมองบรรดาผู้คนที่นั่งอยู่ด้านล่าง
ไม่มีใครกล้าปริปากพูดหรือแม้แต่สบตากับชิงสุ่ยเลยแม้แต่คนเดียวใครก็ตามที่กล้าเดินขึ้นไปท้าประลอง มันก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาชีวิตของตัวเองไปเดิมพันกับความตาย
ชิงสุ่ยรู้ดีถึงผลที่ตามมาเพราะถ้าหากเขายังไม่แสดงพลังให้ทุกคนได้เห็น ผู้คนก็อาจจะอยากท้าทาย อยากทดสอบพลัง และทำให้พิธีการยืดเยื้อ
เมื่อไม่มีใครกล้าขึ้นมาท้าทายพิธีการต่อไปก็เริ่มต้น บรรพบุรุษอาวุโสตระกูลเซี่ยก้าวเดินขึ้นมาบนลานราชกิจสวรรค์ จากนั้นก็มอบแหวนมังกรหลวงให้กับองค์ชายสิบสาม ทันทีที่องค์ชายสิบสามหยดเลือดลงบนแหวนมังกรหลวง พลังปราณจากแหวนมังกรหลวงก็ครอบคลุมไปทั่วทั้งตัวขององค์ชายสิบสาม ในชั่วพริบตาชิงส่ยข้อสังเกตเห็นได้เลยว่าพลังขององค์ชายสิบสามกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพลังปราณหลวงก็กำลังพุ่งพล่านไปทั่วทั้งตัวขององค์ชาย
ภาพที่ปรากฏแม้แต่ตัวของบรรพบุรุษอาวุโสตระกูลเซี่ยเองก็ยังตกใจไม่ต่างจากคนอื่นๆ