Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 2061 – ตำนานแห่งผีเสื้อหยก เผชิญหน้าอสูร
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 2061 – ตำนานแห่งผีเสื้อหยก เผชิญหน้าอสูร
บทที่ 2061 – ตำนานแห่งผีเสื้อหยก เผชิญหน้าอสูร
ตลอดเส้นทางเดิน ข้างทางเต็มไปด้วยผึ้งพิษมากมาย แม้ว่าพวกมันจะไม่เป็นภัยคุกคามมากนัก แต่ถ้าหากรวมกันเป็นฝูง ดวงจันทร์มีจำนวนหลายล้านตัว พิษของพวกมันก็จะรุนแรงพอจะกัดกร่อนทุกอย่างให้หายวับไปในพริบตา เหยื่อไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่ง มิฉะนั้นก็จะต้องจมอยู่กับความตาย
แต่สำหรับชิงสุ่ย เขาเคลื่อนที่ผ่านพวกมันได้โดยที่พวกมันไม่แม้แต่จะรู้ตัว แต่สำหรับเฉินหวง เขาไม่อาจรับประกันได้ สิ่งที่เขาทำได้คือการพาเธอเดินทางไปให้เร็วที่สุด
เวลา 2 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยและเฉินหวงใช้เวลา 2 วันเต็มในการเดินทางฝ่าขวากหนาม ทุกๆ 2 ชั่วยาม ชิงสุ่ยจะต้องช่วยเฉินหวงอบอุ่นร่างกาย ดังนั้น ถึงมันจะเรียกว่าเวลาพักผ่อน แต่ก็สร้างความอึดอัดให้ไม่น้อยเลย ชิงสุ่ยรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่ต้องกอดเฉินหวง
อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยก็ไม่สามารถควบคุมปฏิกิริยาของร่างกายได้ เขาพยายามจะสะกดเข็มทองคำ แต่เฉินหวงก็เข้าใจ “ข้าคงไม่โทษท่าน การที่ท่านพยายามสะกดอารมณ์มันคงไม่ส่งผลดีต่อร่างกายท่านนัก”
ชิงสุ่ยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ตลอดเวลาหนึ่งชั่วยามที่เขากอดเธอ เข็มทองคำก็ยังคงชี้โด่เด่ตอบเวลา เฉินหวงเองก็รู้สึกถึงความร้อนที่ถูกผลักโดยของสำคัญส่วนล่าง
ชิงสุ่ยก็มักจะเกิดความคิดสกปรกโดยไม่ตั้งใจ และเขาก็จะรู้ตัวทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเขินอายของเฉินหวง แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้โกรธเขา
ในเวลากลางคืน ชิงสุ่ยก็ไม่ได้นอนร่วมกับเฉินหวง เขาขอแยกตัว และเข้าไปฝึกฝนในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขากำหนดเวลาออกจากดินแดนต่างมิติ 2-3 ครั้ง ในยามกลางคืน
วัฏจักรเวลายังคงวนเวียนเช่นนั้นผ่านไปจนกระทั่ง 2 วันต่อมา ทั้งสองก็เข้าไปอยู่ในส่วนลึกของทุ่งทะเลดอกไม้แล้ว
ชิงสุ่ยทุ่มเทเวลามากมายเพื่อหนีผึ้งพิษ โชคดีที่เขาใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวา จึงทำให้หนีรอดมาจากฝูงผึ้งได้ พวกผึ้งก็มีความพยายามที่สูง พวกมันทุ่มเททุกอย่างเพื่อไล่ตามเขา
“ชิงสุ่ย!! ดูนั้นสิ!! นั่นมันผีเสื้อหยก” ทันใดนั้นเฉินหวงก็ชี้นิ้วออกไปยังสถานที่ที่ห่างไกล
ชิงสุ่ยมองไปตามทิศทางนิ้วของเฉินหวง และสิ่งที่เขาเห็นก็คือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่าผีเสื้อหยก 2 ตัวจากทั้งหมด กำลังสยายปีกกว้างร่างกายเท่ากับช่วงอายุโตเต็มวัย ตัวของมันมีสีเขียว ดูสดใสแวววาว มากจนมองเห็นสีเขียวจางๆกระจายออกมาจากรอบตัว ให้ความรู้สึกงดงามอย่างผิดแปลก
พวกมันกำลังเดินทางมาเป็นคู่ โดยปกติแล้วผีเสื้อหยกจะเป็นสายพันธุ์สัตว์อสูรที่พบเห็นได้บ่อยนัก บางคนก็เรียกมันว่าตำนานสัตว์อสูร แต่ที่เด่นชัดที่สุดคือ ความเชื่อที่ลือกันมาตั้งแต่ยุคโบราณว่า ชายหญิงคนใดที่ได้เจอพวกมัน บั้นปลายชีวิตจะได้ลงเอยเป็นสามีภรรยากัน
แต่ถ้าหากเป็นชายกับชาย หรือหญิงกับหญิง พวกเขาจะได้กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน นอกจากนี้ยังมีคำกล่าวบอกกันไว้ว่า อนาคตแต่ละฝ่ายจะช่วยหาคู่ครองที่เหมาะสม และจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าในตำนาน ชิงสุ่ยไม่สามารถอ้างอิงหลักความจริงอะไรได้ แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกสับสนมากที่สุดคือ แรงกดดันที่เกิดจากคำบอกเล่า เนื่องจากทุกคนพูดเรื่องนี้เป็นเสียงเดียวกัน มันจึงย่อมส่งผลต่ออิทธิพลในจิตใจใครหลายคนโดยไม่รู้ตัว
เฉินหวงสีหน้ามีความสุขที่ได้เห็นผีเสื้อหยก แต่ในไม่ช้า คำพูดบอกเล่าก็ผุดขึ้นในจิตใจของเธอ จิตใจของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ เป็นไปได้หรือไม่ที่สุดท้ายในอนาคตเธอจะลงเอยเป็นภรรยาของเขา? แต่เธอมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หรือว่าการปรากฏตัวของผีเสื้อหยก ก็เพื่อบอกว่าเธอจะต้องรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้?
“แม่นาง โปรดอย่าคิดมาก”ชิงสุ่ยปลอบเธอ
“ท่านเชื่อเรื่องในตำนานหรือไม่?”เฉินหวงถามกลับไป
เธอสามารถทดสอบความรู้สึกที่ชิงสุ่ยมีต่อเธอได้ด้วยคำถามนี้ ถ้าหากเขาบอกว่าเชื่อ นั่นก็แปลว่าเขาชอบเธอ แต่ถ้าคำตอบตรงกันข้าม นั่นก็แปลว่าชิงสุ่ยไม่อยากจะแต่งงานกับเธอ
“ถ้า ข้าบอกว่าสุดท้ายท่านจะต้องเป็นผู้หญิงของข้า ข้าก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เช่นนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าความรักที่ข้าที่ต่อท่าน มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้ข้าตัดสินใจพาท่านมาที่นี้ และผีเสื้อหยกตัวนั้นก็คงยินดีที่ได้เห็นพวกเรามาเจอกัน “ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
เฉินหวงยิ้ม เพราะเธอชอบในคำตอบของเขา เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอควรจะเชื่อเรื่องในตำนานหรือไม่ ไม่มีอะไรสามารถพิสูจน์ความจริงของมันได้ ตำนานมีอยู่มากมาย แต่ก็มีส่วนน้อยมากที่จะเป็นเรื่องจริง ถึงกระนั้นมนุษย์ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากคำบอกเล่า ไม่มีใครอยากจะต้านทานพระประสงค์ของผู้เป็นเจ้า โอกาสที่จะได้เจอผีเสื้อหยกก็มีอยู่น้อยนิด คู่รักที่บังเอิญได้มาเจอจึงต้องตกใจเป็นธรรมดา และมันก็คงจะส่งผลต่อความรู้สึกที่มีต่อกันโดยไม่รู้ตัว
การเคลื่อนไหวต่อไปของผีเสื้อหยก ยิ่งสร้างความตกใจให้ทั้งคู่ ผีเสื้อหยกคู่นั้นเข้าล้อมรอบตัวชิงสุ่ยและเฉินหวง จากนั้นก็โผล่บินอยู่รอบๆเป็นเวลานาน ชิงสุ่ยที่ตอนแรกไม่คิดจะเชื่อ ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อว่าโลกใบนี้เต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับมากมาย
นี่คือตำนานของ โชคชะตานิรันดร์แห่งผีเสื้อหยก
ตำนานกล่าวกันว่า หาคู่สามีใดได้เผอิญเจอผีเสื้อหยก และพวกมันเองก็เต็มใจบินล้อมรอบชายหญิงคู่นั้น บั้นปลายชีวิตทั้งสองจะต้องลงเอยเป็นสามีภรรยากัน มันยังสื่อไปถึงโชคชะตา ทั้งสองจะถูกด้ายแดงเกี่ยวพัน กงล้อแห่งชีวิตจะเริ่มต้น ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า ทั้งสองจะต้องเกิดมาคู่กันอีก
แต่ตำนานก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นคือผีเสื้อหยกกำลังบินล้อมรอบพวกเขาทั้งสองคน
เฉินหวงจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความไม่เชื่อ เธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะรู้สึกอย่างไร มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง มันมีแต่ความน่าเหลือเชื่อ จากคำพูดและการกระทำต่างๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะไม่เกิดความรู้สึกใดๆในหัวใจ สุดท้ายชายคนนี้ก็เป็นคนที่สนิทชิดใกล้กับเธอมากที่สุด เมื่อเธอรู้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน คนแรกที่เธอนึกถึงในใจก็คือชิงสุ่ย นั่นก็มากพอจะสะท้อนความรู้สึกที่เธอมีต่อผู้ชายคนนี้
เฉินหวงยิ้ม เธอจดจำทุกช่วงเวลาที่เธอได้จับมือกับเขา ทุกช่วงเวลาที่เธอปล่อยให้เขากอด แม้กระทั่งช่วงเวลาที่อวัยวะส่วนล่างของเขาแนบชิดติดกับร่างกายของเธอ
ผีเสื้อหยกบินจากไป ในขณะเดียวกันนั้น ชิงสุ่ยก็รีบหันกลับไปจ้องมองสัตว์อสูรสีแดงเพลิงที่อยู่ห่างไกลออกไป ร่างกายของมันคล้ายกับหินหนืดเหลว มันไม่เคลื่อนไหวและยืนอยู่นิ่งห่างจากเขาไปไม่กี่ร้อยเมตร สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยตกใจมากที่สุดคือ เขาไม่รู้สึกถึงการซ่อนตัวของมัน
เฉินหวงที่เห็นสีหน้าชิงสุ่ย จึงมองไปตามสายตาที่ชิงสุ่ยมองไป ก่อนที่สีหน้าการแสดงออกของเธอจะเปลี่ยนไป “สัตว์อสูรบุปผชาติ”
ชิงสุ่ยได้สืบค้นหาข้อมูลก่อนที่จะเข้ามาในที่แห่งนี้ นี่คือสัตว์อสูรที่น่ากลัวมาก แต่สิ่งที่น่ากลัวเกี่ยวกับสัตว์อสูรบุปผชาติก็คือปีศาจดอกไม้ที่จะปรากฏตัวอยู่ด้านข้างสัตว์อสูรบุปผชาติ ปีศาจดอกไม้เป็นสัตว์ครึ่งปีศาจครึ่งมนุษย์ บางคนก็เรียกมันว่านางฟ้า พรสวรรค์โดยธรรมชาติและความสามารถแต่กำเนิดของมัน อยู่เหนือกว่าทั้งมนุษย์และสัตว์อสูร