Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล - บทที่ 2073 – กลับคืนสู่ดินแดนฟ้าอุดร
- Home
- Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล
- บทที่ 2073 – กลับคืนสู่ดินแดนฟ้าอุดร
บทที่ 2073 – กลับคืนสู่ดินแดนฟ้าอุดร
เมื่อหนึ่งในพวกเขาบาดเจ็บ ชิงสุ่ยก็ไม่เหลือความปรารถนาที่จะสู้ต่อไป นอกจากนี้เขายังได้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อของตัวเองไปมาก การต่อสู้ได้พิสูจน์แล้วว่าร่างกายของเขาได้ปรับฐานพลัง ส่งผลให้ความแข็งแกร่งของเขาเมื่อรวมกับง้าวทองทะลวงศัตรูก็สามารถแทงทะลุเป้าหมายได้
กระบวนท่ากระบี่สายฟ้าถูกนำมาดัดแปลงเพื่อใช้ร่วมกับง้าวทองทะลวงศัตรู ทำให้พลังทำลายล้างของมันเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวทั้งที่การโจมตียังคงกระบวนท่าเดิม
เมื่อฝ่ามือทองคำยักษ์ถูกปลดปล่อยออกมาจากง้าวทองทะลวงศัตรู ชายคนสุดท้ายก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของชิงสุ่ย
ฝ่ามือทองคำที่เกิดขึ้นภายในชั่วขณะ สร้างเครื่องหมายตรงกลางหน้าอกของชายคนนั้น แรงกระแทกทำให้เขาถอยหลัง พร้อมกับฝนเลือดและอวัยวะที่พวยพุ่งออกมาจาก
บทที่ 2073 – กลับคืนสู่ดินแดนฟ้าอุดร
เมื่อหนึ่งในพวกเขาบาดเจ็บ ชิงสุ่ยก็ไม่เหลือความปรารถนาที่จะสู้ต่อไป นอกจากนี้เขายังได้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อของตัวเองไปมาก การต่อสู้ได้พิสูจน์แล้วว่าร่างกายของเขาได้ปรับฐานพลัง ส่งผลให้ความแข็งแกร่งของเขาเมื่อรวมกับง้าวทองทะลวงศัตรูก็สามารถแทงทะลุเป้าหมายได้
กระบวนท่ากระบี่สายฟ้าถูกนำมาดัดแปลงเพื่อใช้ร่วมกับง้าวทองทะลวงศัตรู ทำให้พลังทำลายล้างของมันเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวทั้งที่การโจมตียังคงกระบวนท่าเดิม
เมื่อฝ่ามือทองคำยักษ์ถูกปลดปล่อยออกมาจากง้าวทองทะลวงศัตรู ชายคนสุดท้ายก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของชิงสุ่ย
ฝ่ามือทองคำที่เกิดขึ้นภายในชั่วขณะ สร้างเครื่องหมายตรงกลางหน้าอกของชายคนนั้น แรงกระแทกทำให้เขาถอยหลัง พร้อมกับฝนเลือดและอวัยวะที่พวยพุ่งออกมาจากบาดแผล
แม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่ช่วงชีวิตของเขาจะไม่สามารถฝึกฝนได้ ต่อให้รักษากู้คืนพลังได้ พลังของเขาก็จะฟื้นกลับแค่ครึ่งเดียว ชิงสุ่ยไม่แสดงความเมตตาต่อผู้ที่ไม่ยอมจำนน บางครั้งคนเรานี่อ่านน่าสงสาร แต่ความเห็นอกเห็นใจย่อมนำมาซึ่งความเกลียดชัง หากปล่อยไป เขาก็จะกลับไปรับใช้ฮัวเล่ย ซึ่งเท่ากับการส่งเสริมความชั่ว
ชิงสุ่ยถอนกำลังกลับและหันไปหาเฉินหวง “พวกเราไปกันเถอะ!!”
เฉินหวงพยักหน้า “ออกไปจากที่นี่โดยเร็ว ข้ามีเรื่องที่จะต้องกลับไป ยังมีหลายอย่างที่จะต้องสะสาง”
ชิงสุ่ยรู้ว่าเฉินหวงคงกังวลเรื่องที่สมาชิกอาศรมเพลิงคนอื่นจะตามมาสมทบ และคนที่กำลังจะมาช่วยจะต้องเป็นกลุ่มคนที่มีพลังสูงส่ง ดังนั้นการออกจากสถานการณ์ตรงนี้ให้เร็วที่สุดคือสิ่งที่พวกเขาควรทำ ถึงกระนั้นเธอก็ยังใช้คำพูดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับว่าฝั่งของเธอเองก็ต้องหลบหนี
“อืม ตอนนี้ข้าได้สั่งสอนพวกมันแล้ว ถึงเวลาที่เราควรไป พวกมันจะได้ตามเราไม่ทัน”ชิงสุ่ยยิ้มให้กับเฉินหวง
เฉินหวงรู้สึกโล่งใจ รอยยิ้มอันแสนสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ในขณะที่เขาเอื้อมมือไปจับเฉินหวง ครั้งนี้เธอมีปฏิกิริยาโต้ตอบด้วยกันจับมือกลับมา
จากท่าทางมาทำให้ชิงสุ่ยเข้าใจว่า เธอเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน คนเราจะใจกว้างเมื่อใกล้ตาย สิ่งที่เคยทำ ก็อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ชิงสุ่ยเคยคิดจะปล่อยมือเธอแต่เมื่อเห็นการแสดงออกของเธอ เขาก็เริ่มเข้าใจว่าเธอรู้สึกอย่างไร เขาไม่รู้ว่าถ้าหากเขาปล่อยมือ มันจะหมายความว่าอย่างไร แต่เขาก็อยากให้เธออยู่ในจุดที่เกิดจาก
ชิงสุ่ยเริ่มปล่อยมือเธออย่างช้าๆ แต่เธอก็ยังคงจับมือของเขาแน่น “เป็นอะไรไป? ทำไมในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ท่านถึงได้ปล่อยมือข้าบ่อยนัก?”เฉินหวงถามชิงสุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
ชิงสุ่ยหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ท่านได้รับผลกระทบจากอาการบาดเจ็บ แต่ตอนนี้ท่านสบายดีแล้ว ข้ารู้ดีว่าเหตุการณ์ต่างๆมันฝังลึกในจิตใจของท่าน ซึ่งข้าก็รู้สึกได้ถึงความลังเล ข้าอยากให้ท่านมีความสุข”
“เอาละ ชิงสุ่ย ข้าไม่รู้ว่าข้ารักท่านหรือไม่ แต่ที่ข้ารู้คือ ท่านคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของข้า”เฉินหวงตอบอย่างจริงจัง
“ข้ารู้!!!”
ด้วยเหตุนี้ ชิงสุ่ยจึงหยุดใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวา และทะยานลงสู่เมืองรุ้งครามพร้อมกับเฉินหวง
สถานที่แห่งนี้คือจุดหมายปลายทางที่เขาเลือกเอาไว้
เมื่อเห็นว่าพิธีเฉลิมฉลองวันปีใหม่ยังคงอยู่ บรรยากาศทั่วทั้งเมืองจึงเต็มไปด้วยเทศกาลดอกไม้ไฟ หลังจากผ่านวันปีใหม่ไปเพียงแค่ไม่กี่วัน ชีวิตของเฉินหวงก็มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
“แม่นาง ท่านสนใจกลับไปยังหอคอยจักรพรรดิพร้อมกับข้าหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวถาม
“อืม ข้าจะอยู่ที่นี่สัก 2-3 วันก่อนจะกลับไปยังเมืองวิหคเพลิง”เฉินหวงตอบ
“ถ้าหากมีสิ่งเร่งด่วนที่ท่านจำเป็นต้องทำ ท่านก็กลับไปก่อนได้เลย แต่ถ้ายังพอมีเวลา แล้วเกิดเหตุเร่งด่วน ข้าจะพาท่านไปเอง”ชิงสุ่ยสามารถใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาเพื่อไปส่งจะได้ ซึ่งมันก็ใช้เวลาอันน้อยนิดในการเดินทางไปยังเมืองวิหคเพลิง
เฉินหวงพยักหน้า “พวกเรากลับไปยังหอคอยจักรพรรดิก่อนเถิด ข้ายังติดหนี้บุญคุณท่าน ดังนั้น ข้าขอเป็นคนเลี้ยงสุราท่าน”
ทั้งสองกลับหรือยังหอคอยจักรพรรดิ เมื่อได้เห็นหน้าชิงสุ่ย เสือใหญ่ก็ดีใจมาก ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หอคอยจักรพรรดิได้เปิดดำเนินการค้า ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบรื่น จากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นก่อนปีใหม่มันทำให้หอคอยจักรพรรดิกลายเป็นสถานที่ที่โด่งดังที่สุดในเมืองรุ้งคราม ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวกล้ายุหอคอยจักรพรรดิหรือตระกูลอวี้
ทุกคนรู้ดีว่าอำนาจของตระกูลจ้านไม่สามารถใช้ในดินแดนแห่งนี้ได้แล้ว เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจี๋และหอคอยจักรพรรดิกำลังเป็นไปได้ด้วยดี ตระกูลจี๋คือขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนฟ้าอุดร และดูเหมือนว่ายังมีข่าวลืออื่นๆอีกว่าหอคอยจักรพรรดิกำลังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับขุมอำนาจตระกูลอื่นๆอีกมากมาย
ตัวของเขาเองก็คงจะอยู่ในเมืองรุ้งครามไม่นานนัก มันไม่เหมาะต่อการพักระยะยาวสำหรับเขา แต่สำหรับตระกูลชิง ในอนาคตมันก็ไม่แน่เขาอาจจะย้ายตระกูลของเขามาที่เมืองแห่งนี้ หรือบางทีมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
ชิงสุ่ยไม่ต้องการให้ตระกูลของเขาเข้ามามีส่วนร่วมในการแย่งชิงอำนาจ หลายต่อหลายอย่างเป็นสิ่งที่เกินคาดเดา และมันก็ไม่อาจเป็นไปตามความต้องการของเขาได้
ชิงสุ่ยยังคงทำงานหนักเพื่อสร้างรากฐานให้กับคนที่อยู่เบื้องหลัง สักวันหนึ่งลูกหลานของเขาก็จะมีลูกหลานของตนเอง พวกเขาจะต้องฝึกฝนและเพิ่มพูนความสามารถเนื่องจากชิงสุ่ยก็คงไม่สามารถปกป้องชีวิตพวกเขาไปได้ตลอดกาล
แต่ตัวของเขาเองก็ไม่ได้วางแผนชีวิตให้กับลูกๆของเขา เขาเชื่อมั่นในการเคารพการตัดสินใจของเด็กๆ สิ่งที่เขาทำเพียงอย่างเดียวคือการกำหนดเงื่อนไขในการฝึกฝน เขาจำเป็นต้องปรับพื้นฐานให้กับลูกๆของเขา แต่พวกเขาจะไขว่คว้าได้สูงเพียงใด มันก็ขึ้นอยู่กับชะตาของพวกเขาเอง