Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 748 โจมตีเต็มที่
หลังจากคำประกาศของชูฮันไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้สร้างความขุ่นมัวระหว่างจงไคและค่ายหนานตู้ไปแล้วโดยปริยาย ยังไม่ทันจะได้เริ่มพูดคุยเรื่องการแต่งงานเลยด้วยซ้ำ แต่ความประทับใจแรกของฉางกวนหลงที่มีต่อจงไคก็ตกลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดแล้ว…
มาเพื่อจะคุยเรื่องการแต่งงานแต่ไม่มีความจริงใจ แถมยังเอาตัวตนของตัวเองมากดขี่คนอื่น นี้แหละคือข้อผิดพลาดของจงไค
ฉางกวนหลงและค่ายหนานตู้ไม่สามารถเทียบเท่าพ่อของจงไคและค่ายจินหยางได้นั้นคือความหมายคำพูดที่จงไคสื่อต่อหน้าฉางกวนยวีซิน เหมือนกับเขาได้ขุดหลุมฝังตัวเองต่อหน้าทุกคนไปแล้ว!
ขณะที่ฉางกวนหลงเริ่มเข้าใจทุกอย่างส่วนฉางกวนยวีซินที่ยังตามสถานการณ์ไม่ทัน จงไคก็ถูกชูฮันฆ่ากลางอากาศไปแล้วเรียบร้อย ไม่เพียงแค่จงไคจะยังไม่ทันได้เอ่ยปากเรื่องการแต่งงานด้วยซ้ำ แต่เขาทำลายโอกาสของตัวเองทิ้งไปแล้วด้วยมือของตัวเอง
สร้างความประทับใจแย่ๆแล้วยังอยากจะแต่งงาน?คิดผิดแล้ว
ผู้คนรอบๆต่างตะลึงกับการโจมตีอันเฉียบขาดของชูฮันทุกคนตกอยู่ในภวังค์ ย้อนคิดการกระทำของที่ตัวเองทำพลาดไปก่อนหน้านี้ แต่ลืมไปอย่างสิ้นเชิงเลยว่าคู่แข่งอันดับหนึ่งที่พวกเขาจะต้องรับมือก็คือชูฮัน
บรรยากาศตกอยู่ในความเย็นเฉียบทันทีจงไคเหงื่อแตกพลั่กและไม่สามารถหาทางแก้ไขสถานการณ์ได้ มันคือความจริงและเขาก็พูดเองจริงๆอย่างที่ชูฮันว่า เขาถูกชูฮันตลบหลังและไม่สามารถหาจุดที่พลิกกลับสถานการณ์ได้เลย
ดังนั้นบรรยากาศจึงเหมือนกับถูกแช่แข็งชูฮันเดินอย่างสบายอารมณ์เข้าไปหาฉางกวนหลง นั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างๆ เผชิญหน้ากับฉางกวนยวีซินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีใครกล้าออกมาขวางชูฮันอีก ด้วยกลัวว่าจะโดนชูฮันตลบหลังและจัดการรายบุคคลอย่างจงไคอีก
มีเพียงแค่ฉางกวนหลงที่มีแววตาอึ้งๆมีประกายจางๆบางอย่างในนัยน์ตาของฉางกวนหลงขณะกวาดสายตามองทุกคนในห้อง
ในที่สุดหลังจากการโจมตีคลื่นแรกผ่านไป อาหารก็เริ่มทยอยเสิร์ฟทีละจาน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มกลับมามีชีวิตชีวา
พลโทที่เคยลุกขึ้นมาคัดค้านจงไคก่อนชูฮันปรากฏตัวขึ้นจู่ๆก็ตัดสินใจลุกขึ้นมา ท่าทางดูดี มีสง่า ตราบนหน้าอกเปล่งประกายสะท้อนแสงวาว
”คุณฉางกวนผมชื่อเฉินยุนโหลว จากค่ายซือฉวนครับ” พลโทหนุ่มแนะนำตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆ ค่อยๆยกแก้วไวน์ขึ้นส่งสัญญาณให้ฉางกวนยวีซินและพูดต่อ “ลุงของผมเป็นผู้นำค่ายซือฉวน และเป็นหนึ่งในพลเอกของจีน ครั้งนี้ผมไม่ได้เป็นแค่ตัวแทนของค่ายซือฉวนเท่านั้นครับ แต่เป็นจงใจมาด้วยตัวเอง คุณฉางกวน คุณสวยงามมากอย่างที่เล่าลือกัน เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ผมเคยพบมา! จะเป็นเกียรติอย่างมากถ้าคุณจะเลือกพิจารณาผมครับ!”.ไอลีนโนเวล.
ต่อมาหลังจากพูดจบ เฉินยุนโหลวก็ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม ไวน์ที่ว่าหวานยังไม่หวานเลี้ยนเท่าคำพูดของเฉินยุนโหลว จนทุกคนในนั้นแทบอยากจะอ้วกออกมากันหมด
แน่นอนว่าหลังจากจบคำพูดของเฉินยุนโหลวมันก็มีรอยยิ้มในแววตาของฉางกวนหลง เห็นได้ชัดว่าฉางกวนหลงพอใจกับตัวเฉินยุนโหลว
ชูฮันที่กำลังใช้ตะเกียบคีบผักกินอยู่ก็นึกถึงรายละเอียดของเฉินยุนโหลวไปในหัว สักพักชูฮันก็ขมวดคิ้ว จะว่าเฉินยุนโหลวเป็นศัตรูตัวฉกาจของชูฮันก็ว่าได้ ไม่ว่าเพราะอีกฝ่ายเหนือกว่าชูฮัน แต่เป็นเพราะความสมดุลของเงื่อนไขในทุกปัจจัย และที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นคนที่ฉางกวนหลงถูกใจที่สุด
ข้อแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเฉินยุนโหลวและจงไคนั้นก็คือเฉินยุนโหลวไม่ได้ทำตัวข่มหรือกดขี่ใครเลยแม้แต่น้อยและพ่อของเฉินยุนโหลวก็ไม่ใช่ผู้นำของค่าย แต่เป็นลุงต่างหาก ซึ่งคนที่ตำแหน่งสูงมักรู้ดีถึงความสำคัญในข้อดี
อย่างไม่ต้องสงสัยว่าจงไคจะต้องรับอำนาจผู้นำค่ายจินหยางต่อจากจงคุยอย่างแน่นอนแต่กับเฉินยุนโหลวนั้นมันต่างกัน ตามที่ชูฮันรู้ พลเอกแห่งค่ายซือฉวนไม่มีลูกสืบสกุลค่อ ดังนั้นส่วนใหญ่การบริการในค่ายจึงเป็นการบริการร่วมกัน อีกคำก็คือมันไม่มีการผูกขาดอำนาจ
และฉางกวนหลงชอบคนประเภทนี้ผู้มีอำนาจเผด็จการจะตื่นตัวต่อการกดขี่ข่มเหงผู้คนรอบข้างและพวกเขาจะไม่สนฉางกวนยวีซินในสายตาเลย แต่กลับกันสำหรับเฉินยุนโหลว เขาจะให้ความเคารพฉางกวนยวีซินอย่างเต็มที่เพราะอำนาจของฉางกวนหลงที่เหนือกว่า
เมื่อคิดได้อย่างนั้นจู่ๆชูฮันก็หมดอารมณ์จะทานอาหารต่อทันที เขาจ้องเฉินยุนโหลวตาเขม็งและเริ่มคิดเกี่ยวข้อเสียที่จะสามารถโจมตีผู้ชายคนนี้ได้
อยากได้ฉางกวนยวีซินเหรอ?
ไม่ยอมเด็ดขาดไม่อนุญาติ
เขาจะจัดการให้หมดไล่ไปทีละคน!
เฉินยุนโหลวที่ถูกชูฮันจ้องเขม็งจู่ๆเขาก็ยกยิ้มมุมปากเพียงแค่เสี้ยววินาที จากนั้นก็ยกแก้วไวน์ขึ้นเป็นการยั่วอารมณ์ชูฮัน
ชูฮันที่ถูกยั่วอารมณ์ทันใดนั้นก็กระชากตราพลเอกออกมาจากกระเป๋า ซึ่งมันถูกเก็บรักษาและขัดเงามาเป็นอย่างดี เขาติดมันเข้าที่หน้าอก มือข้างหนึ่งยกแก้วไวน์ขึ้นสบตากับเฉินยุนโหลว ยิ้มมุมปากกลับไปอย่างยั่วเย้า
เฉินยุนโหลวตาแทบถลนความโกรธพวยพุ่งขึ้นมาทันที เขาจำเป็นต้องลุกขึ้นยืนตัวตรง แสดงความเคารพโดยการโค้งตัวต่อชูฮันอย่างจำใจ “ท่านพลเอกชูฮัน”
”ไม่ถูกระเบียบทางการนะ”ชูฮันโพล่งออกมาทันที
พรึบ!
หน้าของเฉินยุนโหลวแดงก่ำแต่ในเมื่อชูฮันยืนยันที่จะใช้อำนาจของพลเอก เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากแสดงความเคารพต่อชูฮันอย่างเป็นทางการ
ทุกคนในห้องคอยสังเกตสถานการณ์อยู่ด้วยแววตาซ่อนเร้นหลายคนไม่กล้าพูดหรือแสดงความคิดของตัวเองออกมาตรงๆ แต่แอบลอบสังเกตพฤติกรรมและท่าทางของคู่แข่งแต่ละคนไปเงียบๆ ถึงอย่างไรแล้ว ท่าทางของชูฮันก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าชูฮันตั้งใจจะหยุดความคิดในการแต่งงานครั้งนี้
ชูฮันลอบมองเฉินยุนโหลวเงียบๆหลังจากจิบไวน์เสร็จ เขาก็กินอาหารต่อ ไม่มีการไว้หน้าเฉินยุนโหลวเลยสักนิด ชูฮันเพียงแค่ยิ้มเย็นๆและหันมองหน้าฉางกวนหลง แววตาของชูฮันสื่อได้ว่า ‘พ่อจะสยบทุกคนที่เสนอตัวแต่งงานกับฉางกวนยวีซินให้หมด’
”เฮ้อ!”เสียงถอนหายใจเยือกเย็นหลุดโพร่งออกมาจากจมูกของฉางกวนหลง แววตามองชูฮันอย่างไม่ชอบใจ
ทัศนคติของฉางกวนหลงที่แสดงออกต่อชูฮันทำให้ทุกคนในห้องที่กำลังห่อเหี่ยวก็เปลี่ยนเป็นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีทุกคนดีใจจนแทบจะกระโดดลั่น ท่าทางไม่พอใจของพลเอกฉางกวนหลงที่มีต่อชูฮันมันแสดงให้เห็นชัดเจนมาก แม้ว่าพวกเขาจะอยากแต่งงานกับฉางกวนยวีซินแต่มันก็ต้องผ่านการอนุญาติจากฉางกวนหลงไปก่อน ดังนั้นทุกคนจึงรีบเร่งทำคะแนน แต่ละคนผุดลุกขึ้นยืน ยกแก้วไวน์ขึ้นพร้อมส่งสายตาให้ฉางกวนยวีซินและฉางกวนหลง พยายามอย่างสุดตัวเพื่อจะสร้างความประทับใจให้ตัวเอง
บรรยากาศเริ่มครื้นเครงแม้แต่คนที่ระดับไม่ถึงพลตรีและไม่มีโอกาสเลยสักนิด ก็ยังยกแก้วขึ้นเพื่อความหวังจะสร้างโอกาสให้ตัวเอง!
ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังตื่นตัวและมีชีวิตชีวาจงไคที่แทบไม่มีตัวตนในที่นี้ไปแล้วมีความหวังในใจว่าฉางกวนหลงจะลืมเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไปได้ เขาพยายามจะฟื้นความมั่นใจของตัวเองกลับคืนมา ค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ เดินฝ่าฝูงชนที่กำลังว้าวุ่น เดินเข้ามาหาฉางกวนหลงและฉางกวนยวีซิน
การปรากฏตัวของจงไคตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนทันที”ท่านลุงฉางกวน ที่จริงผมชอบยวีซินมานานแล้ว เมื่อตอนที่เราเด็กๆ เราเคยอยู่ที่ค่ายทหารเดียวกันอยู่พักหนึ่ง ผมไม่แน่ใจว่ายวีซินยังจำได้มั้ย?”