Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1056 หนี้ก้อนโต
เหล่าตัวแทนจากค่ายทั้งหลายมีความคิดว่าหลังจากมาค่ายเขี้ยวหมาป่าแล้วพวกเขาจะได้รับการต้อนรับอย่างเต็มที่มีอาหารเลิศหรู เนื้อสัตว์วางเรียง ไวน์ชั้นดีรอเสิร์ฟ และพวกเขาจะได้แลกเปลี่ยนความคิด พูดคุยกับชูฮันเป็นๆ และมันคงจะมีบ้านพักหรูหราและหญิงสาวสวยงามเตรียมไว้เพื่อพวกเขา แต่ความจริงที่ปรากฏมันไปไกลกว่าความคาดหมายพวกเขาอย่างมาก
มันก็มีบางส่วนที่ตรงกับความคาดหวังมีบ้านพักหรูหราและมีหญิงสาวสวยงาม แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีเพื่อต้อนรับคณะตัวแทน กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างแตกต่างไปจากสิ่งที่คิดอย่างสิ้นเชิง
หลังจากคณะตัวแทนมาถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าสิ่งแรกที่ปรากฏสู่สายตาพวกเขาคือฝูงชนที่หนาแน่นจนลานตาราวกับทะเล ชาวบ้านของค่ายออกมายืนออกันอัดแน่นเต็มลานกว้างของค่ายจนไม่มีที่ว่างแม้แต่จะให้นอน ชาวบ้านหลายคนนอนกระจายกันอยู่ตามท้องถนนหลังจากการเฉลิมฉลองอย่างหนักหน่วงตลอดหลายวัน และก็มีกลุ่มคนจำนวนมากที่ยืนต่อเรียงแถวยาวอยู่ตรงประตูทางเข้าด้านนอกค่ายเพื่อจะขออพยพเข้ามาอยู่ในค่ายเขี้ยวหมาป่า
เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของค่ายเขี้ยวหมาป่าแพร่กระจายไปมากขนาดไหนหลังจากสงครามจบลง!
และในตอนที่พวกเขาเดินตามหลังเจียงฮงหยูอยู่จู่ๆก็มีผู้หญิงสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาดึงมือเจียงฮงหยูเอาไว้และแจ้งว่าพื้นที่อาศัยของค่ายเขี้ยวหมาป่านั้นเต็มหมดแล้วและถามว่าควรจะพาคณะตัวแทนไปพักที่เมืองโรแมนติกแทนหรือไม่
เมืองโรแมนติกคืออะไร?
หลายคนยังไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นในกลุ่มตัวแทนที่เคยได้ยินชื่อเมืองโรแมนติกมาก่อนส่วนใหญ่จึงได้แต่สงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน
ว่ากันว่าชูฮันเป็นคนสร้างเมืองโรแมนติกขึ้นมาเองและสร้างมันขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อล้อมรอบเสาหินพิเศษระยะ 2 ไว้โดยเฉพาะ เมืองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยกลุ่มหญิงสาวสวยงามและร้านค้า โครงการ สิ่งบันเทิงต่างๆรายเรียงเต็มถนนทั้งเมือง เป็นที่แห่งแรกในยุคโลกาวินาศและก็เป็นที่เดียวที่รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเอาไว้
ภายใต้การเปิดเผยจากคนในกลุ่มตัวแทนทำให้เหล่าตัวแทนส่วนใหญ่ที่เหลือรีบพยักหน้าตกลงทันทีเมื่อได้ฟังคำอธิบายถึงเมืองโรแมนติก จากนั้นพวกเขาก็รีบมุ่งหน้าไปยังเมืองโรแมนติกทันทีโดยไม่ลังเลแถมยังนึกขอบคุณชูฮันในใจด้วยซ้ำที่สร้างความบันเทิงพวกนี้ขึ้นมา!
มู๋หรงยู่เฉิงเฉินยุนโหลว หลูชูซเวสบตากันและกันไปมาหากก็ไม่ได้คิดอะไรมาก…ในเมื่อเมืองโรแมนติดก็เป็นหนึ่งในสถานที่ของชูฮัน และชูฮันอาจจะอยากให้พวกเขาผ่อนคลายสำหรับการมาเยือน ดังนั้นมันจึงไม่ได้ผิดปกติที่พวกเขาจะถูกเชิญไปที่นั่น
ดังนั้นเหล่าตัวแทนจากค่ายทั้งหลายจึงมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เป็นทางเข้าของเมืองโรแมนติกและสิ่งที่แรกที่ได้เจอซึ่งทำให้พวกเขาแทบจะหน้ามืดอยู่ตรงหน้านั้นเลยก็คือ!
อันดับแรก…จ่ายค่าเข้าเมือง
คนเฝ้าประตูของเมืองโรแมนติกเป็นทีมทหารที่ไม่ไหวหวั่นต่อสิ่งยั่วยุใดๆก็ตามถ้าใครก็ตามไม่ปฏิบัติตามกฏระเบียบที่ตั้งไว้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือมาจากค่ายไหน คุณจะไม่มีสิทธิได้เข้าไปข้างใน ไม่สำคัญว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไรหรือคุณมีความเกี่ยวข้องกับชูฮันอย่างไร แต่ถ้าคุณอยากจะเข้าไปในเมือง…คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้า
ค่าเข้าเมืองไม่ได้สูงคนที่มีรายได้น้อยก็สามารถจ่ายได้ ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีข้ออ้างที่จะปฏิเสธการจ่าย เหล่าตัวแทนทุกคนแทบเก็บสีหน้ากันไม่อยู่ยิ่งต่างคนต่างมาจากแต่ละค่ายดังนั้นมันจึงมีการเปรียบเทียบบางอย่างระหว่างกันขึ้น ใครที่ไม่ยอมจ่ายเหรียญล่มสลายแค่ไม่กี่เหรียญเพื่อเข้าเมืองโรแมนติกจะถูกตราหน้าว่าเป็นค่ายยากจน
ยิ่งอับอายเข้าไปอีก!
ดังนั้นทุกคนจึงรีบจ่ายเงินของคนค่ายตัวเองทันทีอย่างไม่ลังเล
หลูชูซเวที่พอจะรู้ข้อมูลอยู่บ้างก็แอบมีความกังวลเนื่องจากครั้งก่อนที่ตวนเจียงเหว่ยมาที่นี้ หลูชูซเวยังจำได้ดีถึงเงินที่ต้องเสียในการเข้าไปในเมืองโรแมนติกและสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นทำให้ตวนเจียงเหว่ยเสียหน้าและเงินไปอย่างมาก ดังนั้นครั้งนี้หลูชูซเวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากตัวแทนทุกคนเข้าไปในเมืองแล้วจะเปลี่ยนโลกทัศน์ของทุกคนไปอย่างสิ้นเชิงเลย!
ทันทีที่ทุกคนเข้าไปพวกเขาก็ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนจำนวนมากและบรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป ราวกับทุกคนตกอยู่ภวังค์
เหล่าตัวแทนทั้งหลายตะลึงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะได้เจอกับกลุ่มหญิงสาวสวยงามจำนวนมากเช่นนี้ในยุคโลกาวินาศ ยิ่งโดยเฉพาะในเมืองที่สะอาดสะอ้าน ดูดีและผู้หญิงก็งดงามมากขนาดนี้
อยากได้แบบไหนคะ?ชอบหญิงสาวบริสิทธุ์ผุดผ่อง รู้งาน หรือเย้ายวน?
มู๋หรงยู่เฉิงและเฉินยุนโหลวอดไม่ได้ที่จะเคลิ้มกับสิ่งเย้ายวนตรงหน้าแต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบคำถามกลุ่มหญิงสาวซึ่งนำโดยหลินหยูก็เดินต้อนกลุ่มตัวแทนมาจนถึงหน้าร้านของพวกเธอ
และกว่าทุกคนจะได้สติกลับมาทุกคนก็ได้ตกเข้าไปในบ่วงเสน่ห์ของกลุ่มสาวงามแล้วเรียบร้อย
สำหรับผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวอย่างหลูชูซเวนั้นยังเกือบไม่รอดจากเสน่ห์เย้ายวนจนรู้สึกมึนเมา
สาวๆชอบแบบไหนกันล่ะ? ผู้ชายบางคนก้าวไปข้างหน้า หากพวกเขาไม่ได้รุกเข้าถึงตัวเหมือนกับที่กลุ่มหญิงสาวทำ แต่กลับรักษาระยะห่างไว้อย่างสุภาพและรักษาพิธีการไว้ด้วยคำพูด
หลูชูซเวที่ทำงานอย่างเคร่งครัดให้กับตวนเจียงเหว่ยมาตลอดก็ยังเผลอถูกครอบงำกับสถานการณ์ในตอนนี้
โอ้หรือเธออยากเลือกก่อน? ผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มตัวแทนพยักหน้าเชื้อเชิญ ตบบ่าของหลูชูซเวอย่างเข้าใจ ไม่เป็นไร เชิญคุณเลือกก่อนได้เลยเพื่อความมั่นใจ?
ฉะ-ฉัน หลูชูซเวอึกอัก คิดอะไรไม่ออก จากนั้นเธอเริ่มมึนหัวจนเบลอไปหมดก่อนจะเป็นลมไป
แต่ก่อนที่จะหมดสติหลูชูซเวก็ตระหนักได้ว่านี้คือแผนการที่ชูฮันจงใจสร้างขึ้นมาล่อลวงพวกเขา?! เป็นเวลากว่าสามวันที่กลุ่มตัวแทนติดอยู่ในเมืองโรแมนติกพวกเขาทั้งสนุกสนาน ฟุ้มเฟือย รอบตัวรายล้อมไปด้วยหญิงสาวสวยงามจนลืมเลือนภารกิจของการมาเยือนค่ายเขี้ยวหมาป่าครั้งนี้ไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
ในขณะเดียวกันตลอดสามวันที่ผ่านมาไม่ต้องพูดถึงกลุ่มตัวแทนเลยเพราะแม้แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ยังไม่มีใครได้เห็นชูฮันเลยสักคน
เหอฟิงได้สั่งให้ทีมทำการขนย้ายข้าวของทรัพยากรที่แต่ละค่ายส่งมาแสดงความยินดีเก็บเข้าโกดังของเขี้ยวหมาป่าเรียบร้อยตั้งแต่วันแรกแต่สำหรับคณะตัวแทนนั้นไม่มีใครได้เห็นพวกเขาเหล่านั้นเลยตั้งแต่ที่พวกเขาเดินเข้าเมืองโรแมนติกไป!
เขี้ยวหมาป่าได้รับชัยชนะ…ชูฮันอยู่ในโคม่า…มีหลายสิ่งหลายอย่างมากมายในค่ายที่ต้องจัดการทำให้ตอนนี้เหอเฟิงกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่มีใครหาตัวเจอ ทุกอย่างถูกพูดคุยผ่านซางจิ่วตี้ไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกที ดังนั้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาซึ่งชูฮันนอนโคม่าอยู่ทุกอย่างในค่ายก็ยังเป็นไปอย่างปกติดี การเปลี่ยนแปลงต่างๆได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ทุกคน ความตื่นเต้นที่ภายนอกของค่ายเขี้ยวหมาป่ายังคงไม่ผ่านพ้นไป บางคนเริ่มเกิดข้อสงสัยว่าเบื้องหลังจริงๆชูฮันอาจจะไม่ได้อยู่ในค่ายเขี้ยยวหมาป่าด้วยซ้ำ
และตอนนี้ภายในบ้านพักของชูฮันนอกจากอุปกรณ์การแพทย์มากมายที่วางระโยงระยางเต็มไปหมด มันก็มีกระต่ายสีขาวขนปุกปุยนอนอยู่บนหน้าท้องของชูฮันไม่ขยับไปไหน
ตอนนี้หวังไคเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันกำลังพูดกับชูฮันตรงๆหรือพูดคุยผ่านจิตเพื่อปลุกให้ชูฮันตื่นมันพยายามพูดวนเวียนสลับไปมาหลายวันจนเริ่มสับสนกับตัวเอง
เฮ้ตื่นได้แล้ว ซางจิ่วตี้ยุ่งวุ่นวายตลอดหลายวัน นายไม่เป็นห่วงเธอรึไง?
ซางจิ่วตี้อาจจะไม่กล้าบอกนายแต่พวกเจ้าหน้าที่แต่ละแผนกที่เหอเฟิงต้องคอยไปควบคุมเริ่มจะรับมือยากแล้ว พวกเขาเริ่มเกิดข้อสงสัย ตอนนี้มันไม่มีสมดุลในแต่ละแผนกเลย นายต้องรีบตื่นขึ้นมาจัดการทุกอย่างซะไม่อย่างนั้นมันต้องเกิดเรื่องแน่
เออใช่แต่ละค่ายหลักส่งตัวแทนมาที่นี้ตั้งแต่สามวันก่อน เหอเฟิงจัดการล่อลวงพวกเขามึนเมาและหลงอยู่ในเมืองโรแมนติกเพื่อถ่วงเวลา คาดว่าพอตอนที่ออกมาพวกเขาคงจะติดหนี้ก้อนโตและบีบให้ยอมตกลงที่จะจากไปโดยไม่ต้องเจอนายในครั้งนี้ หลูอี๋จากค่ายเจียนอี๋เองก็มาเหมือนกัน เขาอยากจะเจอนายแต่ถูกเหอเฟิงสกัดเอาไว้ ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสงสารผู้นำค่ายขนาดกลางอย่างหลูอี๋จริงๆถูกบีบอยู่ตลอด
วันนี้คือวันสุดท้ายของการฟื้นฟูการบาดเจ็บที่ครบหนึ่งอาทิตย์พอดีและการฟื้นฟูอีก 20% จะเริ่มนับใหม่ในวันพรุ่งนี้ซึ่งนายน่าจะตื่นได้พอดี ถ้านายไม่ตื่นขึ้นมา ฉันคิดว่าเหอเฟิงและซางจิ่วตี้จะต้องหัวเสียมากแน่ แม้แต่เกาช้าวฮุ่ยก็ยังจากไปแล้วแถมนายก็ยังโคม่า ผลกระทบครั้งนี้มันใหญ่เกินไป…