Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 1111 การจับทีมพิเศษ
ชูฮันยืนจ้องตวนเจียงเหว่ยเหมือนกับเจอสัตว์ประหลาด…เขาไม่รู้ได้ยังไงกันว่าหมอนี่มาที่นี้แถมยังกลายเป็นทีมเดียวกับเขาอีก?
เห็นมั้ยว่าฉันทำแบบไหน? ตวนเจียงเหว่ยสบตากับชูฮัน ตวนเจียงเหว่ยพับเสื้อคลุมยาวให้เป็นระเบียบและวางลงข้างตัว พูดพึมพำกับตัวเองอย่างสงสัย เบื่อจะใส่ชุดดำมืดทั้งตัวแบบนี้ในตอนกลางคืนแล้ว ถ้าถอดออกไว้มันจะไม่หายใช่มั้ย? แล้วถ้าตอนที่เสาหินพาออกไป ชุดนี้จะออกไปด้วยมั้ย?
นายนี่มัน… ชูฮันกัดฟัน จากนั้นก็ก้าวมาข้างหน้าและกดจ่อกริชสั้นเข้าที่คอของตวนเจียงเหว่ย บอกมา! ใครเป็นคนส่งข่าวให้นาย บอกมา! ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่านายซะ!
ผู้ชายที่มากับเจียงหลิงโหลวคือตวนเจียงเหว่ยตัวจริงเสียงจริง!
ขณะนี้ชูฮันกำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างมากแผนเดิมที่วางไว้ทั้งหมดถูกทำลายย่อยยับทันทีที่หมอนี่ปรากฏตัวขึ้น!
ตวนเจียงเหว่ยเป็นผู้นำของค่ายตวนแน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในพลเอกของจีนเช่นเดียวกับชูฮัน มันจึงฟังดูสมเหตุสมผลถ้าจะบอกว่าพวกเขาน่าจะรู้จักกันและเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน
แต่แม้ว่าเขี้ยวหมาป่าและค่ายตวนจะเป็นพันธมิตรกันแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าชูฮันและตวนเจียงเหว่ยจะเป็นมิตรต่อกัน
ชูฮันมีความลับอยู่มากมายและไม่มีใครรอบตัวเขารู้ว่าจริงๆแล้วชูฮันกำลังทำอะไรและคิดวางแผนจะทำอะไรบ้าง เรื่องสำคัญที่สุดคือเขาจะต้องไม่ให้ตวนเจียงเหว่ยรู้เรื่องแผนการที่เขาให้ราชานักล่าไปหลอกตวนเจียงเหว่ยเอาไว้ และอย่างที่สองคือการรับมือกับอู๋เติงเพื่อชิงข้อได้เปรียบจากตระกูลป่าย
เวลานี้ตวนเจียงเหว่ยเปิดประสาทสัมผัสของตัวเองเต็มที่เพราะตอนนี้ชูฮันสามารถทำอะไรกับร่างกายเขาก็ได้ เขาจำเป็นต้องระวังตัวเอาไว้อย่างดีทุกจุด ชูฮันจะไม่โกรธได้อย่างไรกัน?
ตวนเจียงเหว่ยที่ไม่รู้เรื่องราวภายในของชูฮันก็ตกใจอย่างมากไม่แพ้กันเมื่อรู้ว่าตัวเองได้อยู่ทีมเดียวกับชูฮัน เขาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น แถมอีกฝ่ายยังข่มขู่ชีวิตเขาทันทีที่เจอหน้าอีก
ดูเหมือนเราจะต้องเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน? ตวนเจียงเหว่ยมองไปที่ชูฮันซึ่งเหมือนกับชายคลั่งตรงหน้าด้วยสายตาแอบกลัว ฉันได้ยินข่าวลอยมาตามเสียงลมก็เลยเดินทางมาที่นี้เพื่อรวมคนให้ครบแปดคน แต่นายไม่สงสัยเรื่องเกี่ยวกับภายในของเสาหินพิเศษนี่เหรอ?
ขณะเดียวกันตวนเจียงเหว่ยก็ใช้คำว่าได้ยินข่าวตามเสียงลมเพื่อปิดกั้นข้อสงสัยของชูฮัน แน่นอนว่าตวนเจียงเหว่ยไม่สามารถเปิดเผยแหล่งข่าวของเขาได้…
ชูฮันที่กำลังอารมณ์ไม่ดีสุดจ้องหน้าตวนเจียงเหว่ยเขม็งหากเขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก ฉึบ! ชูฮันเก็บกริชเข้าฝัก
ตึง!
ฝ่าเท้าหนักๆฟาดเข้าใส่หินข้างๆ!
ชูฮันระเบิดอารมณ์ภายในถ้ำเตะอัดฟาดงวงฟาดงาใส่ผนังหิน แสดงให้เห็นถึงนิสัยหัวรุนแรงของเขา
ตวนเจียงเหว่ยมองชูฮันอย่างไม่เชื่อ เอาละ เลิกแสดงกันดีกว่า ในเมื่อตอนนี้เราเป็นทีมเดียวกันแล้ว มาคิดดีกว่าว่าจะชนะยังไง? ฉัยสังเกตชายลึกลับคนที่ปรากฏตัวตั้งแต่แรกมาสักพักแล้ว หมอนี่เหมือนจะมีพลังต่อสู้สูงมาก
การระเบิดอารมณ์ใส่ผนังหินในถ้ำของชูฮันหยุดลงทันทีเขาจ้องตวนเจียงเหว่ยเงียบๆอยู่พักหนึ่งอย่างตะลึง ในเมื่อตวนเจียงเหว่ยฉลาดขนาดนี้ เขาเองก็ขี้เกียจจะเล่นละครต่อไปเหมือนกัน
พูดมาสิฉันจะฟัง หลังจากพูดจบ ชูฮันก็นั่งลงบนหินก้อนใหญ่ทันที ———————–
สถานการณ์ของทีมชูฮันนั้นชัดเจนแล้วตอนนี้ตัวตนจากแปดคนนั้นได้เปิดเผยไปแล้วเจ็ดคน แถมสามคนในนั้นก็ยังรู้จักกันดีและให้ความร่วมมือ
ขณะนี้ตรงหน้าคือภาพทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยหมู่นกและมวลดอกไม้มีต้นไม้ขนาดใหญ่สามต้นตั้งอยู่ ถัดไปมีต้นไม้ผลไม้ใหญ่ยักษ์ที่มีแต่ผลไม้หวานเย้ายวนเต็มต้นไปหมด
ซูเฟิงที่พึ่งปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ก็มองตรงหน้าอย่างนิ่งงันจากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจกับภาพแรกที่ได้เห็น อย่างน้อยมันก็ไม่มีสัตว์ประหลาด ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า ไม่มีอันตราย มันมีผลไม้เล็กๆสีแดงที่ซูเฟิงไม่รู้ว่ามันคือผลไม้ชนิด เขาไม่รู้ว่ามันกินได้มั้ย?
ขณะที่ซูเฟิงกำลังอารมณ์ดีทอดมองภาพสวยงามอยู่แต่ภายในเวลาแค่สองวินาทีต่อมาจู่ๆท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าสดใสก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทอย่างกระทันหัน เพราะจู่ๆภายใต้ต้นไม้ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
ท่ามกลางทั้งแปดคนที่เข้ามาประเมิณในเสาหินร่วมกันและจากทั้งแปดคนมีผู้หญิงเพียงแค่คนเดียวที่เข้ามา…
นั่นคือ…เจียงหลิงโหลว!
นี่เขาได้อยู่ทีมเดียวกับคู่แข่งตัวฉกาจของเขาอย่างเจียงหลิวโหลวจริงๆเหรอ!
เจียงหลิงโหลวทันทีที่เห็นซูเฟิงก็อารมณ์ไม่ดีขึ้นมาเหมือนกันในความคิดของเธอให้ได้อยู่ทีมกับชูฮันยังจะดีกว่าซะกว่าเลย
พูดได้ว่าทั้งสองคนเคยเฉียดเป็นเฉียดตายกันมาแล้วพวกเขาเผชิญหน้ากันมาไม่รู้เท่าไหร่ ต่อสู้กันมาไม่รู้กี่ร้อยครั้ง
หนีลูกปืนฉันให้พ้นเถอะ! ทันทีที่เห็นเจียงหลิงโหลว ซูเฟิงก็หยิบหอกด้ามยาวที่อีกด้านเป็นปืนออกมาทันทีพร้อมกับระเบิดพลังผันผวนมหาศาลออกมาอย่างพร้อมต่อสู้!
เตรียมตัวตายซะ! เจียงหลิงโหลวเองก็ไม่ยอม เธอชักเคียวเงินยักษ์ออกมา มันเปล่งประกาแสงระยิบระยับแสดงถึงความคมกริบของมัน
ฉึก!
พรึบ!
ทั้งสองคนพุ่งเข้าปะทะกันและภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีที่ทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้ ผลไม้ กิ่งก้าน ใบต่างในบริเวณรอบๆถูกตัดขาดทำลายจนเละเทะไปหมด!
————–
ทางฝั่งต้านฮวงและอู๋เติงกระพริบตาเพื่อปรับกับแสงสว่างพร้อมๆกันและในเวลาเดียวกันทั้งคู่ก็ต้องประหลาดใจกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง ทั้งสองมองหน้ากันไปมาก่อนจะพยักหน้ากันอย่างเข้าใจสถานการณ์พร้อมกับมีร่องรอยความเคอะเขินเล็กน้อย จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มทำการสำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆหุบเขานที่พวกเขาลืมตาขึ้นมาเจอ เอาล่ะฉันว่าเราควรเดินไปคุยไป
นายมีจุดประสงค์อะไรรึเปล่า?
ไม่แล้วนายล่ะ?
ฉันก็ไม่นี่เป็นหนึ่งในแผนของนายรึเปล่า?
เปล่าฉันเองก็มาแค่เพราะให้จำนวนคนครบเท่านั้น
หลังจากพูดคุยกันอย่างชัดเจนทั้งสองก็เดินไปยังทางออกของหุบเขา สำหรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น ทั้งคู่ไม่มีความกังวลเลยสักนิด เพราะอย่างที่พวกเขาพูดไป…พวกเขาไม่ได้สนใจมันตั้งแต่แรกเริ่ม
———————–
สำหรับสถานที่สุดท้ายมันเป็นทะเลสาบที่เงียบสนิท น้ำเป็นสีเขียวและมีระลอกคลื่นเบาๆ แนวต้นหลิวเรียบทะเลสาบส่งเสียงลู่ลมดังตลอดเวลา ยิ่งทำให้ภาพตรงหน้าเป็นทิวทัศน์ที่แสนจะงดงามมากขึ้นไปอีก
ฟานเจี้ยนนอนอยู่บนหญ้าเขาหันหน้าไปทางผู้ชายที่ดูน่าจะยังหนุ่มและไม่คุ้นเคยข้างๆ ในเมื่อพวกเราอยู่ทีมเดียวกัน เราควรจะทำความรู้จักกันว่ามั้ย?
แม้ว่าภายนอกจะดูแข็งแกร่งและไม่เกรงกลัวอะไรแต่ความจริงแล้วในของฟานเจี้ยนก็แอบหวั่นอยู่เหมือนกัน เขาไม่คิดเลยว่าจากทั้งหมดแปดคน เขาจะกลายเป็นคนที่ต้องอยู่ทีมเดียวกับชายลึกลับคนนี้ เขากล้าพนันเลยว่าแม้แต่ชูฮันเองก็ไม่เคยเจอคนที่ลึกลับและปกปิดตัวตนได้เก่งขนาดนี้มาก่อน!
ไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อชื่อของทุกคนก็ปรากฏบนอันดับรายชื่อของเสาหินอยู่แล้ว และฉันคิดว่านามแฝงของฉันก็ดีอยู่แล้ว ชายลึกลับยิ้มมุมปากเบาๆ กษัตริย์…
นัยน์ตาของฟานเจี้ยนหดวูบอย่างแรงทันทีที่ได้ยินนามแฝงของอีกฝ่ายเขาจ้องชายลึกลับตรงหน้าด้วยสายตาประหลาดใจ งั้นนายก็คือกษัตริย์ที่ปัดฉันตกอันดับทันทีที่ปรากฏตัว?
โอ้! แววตาของชายลึกลับเป็นประกายวาว ถ้าอย่างงั้นฉันก็รู้แล้วว่านายคือ…ราชานักล่า